ปืนM16 ถือว่าเป็นสัญญาลักษณ์อย่างหนึ่งของสหรัฐและสงครามเวียตนาม
เมื่อปี ๒๕๐๖ / 1963 กองทัพบกสหรัฐซื้อปืน AR-15 เพื่อทดลองใช้งาน จำนวน 85,000 กระบอก
โดยตั้งชื่อปืนใหม่ที่ยังอยู่ในขั้นการทดลองใช้ว่า XM16E1
มีนาคม ๒๕๐๘ / 1965 แจกจ่ายปืน XM16E1ให้ทหารสหรัฐที่ส่งไปเวียตนามใต้ ถือเป็นการออกงานครั้งแรก
กุมพาพันธ์ ๒๕๑๐ / 1967 กระทรวงกลาโหมสหรัฐจึงได้ประกาศ
๑ เปลี่ยนชื่อ XM16E1 โดยกำหนดชื่อใหม่เป็น M16A1
๒ กำหนดให้M16A1 เป็นอาวุธประจำตัวมาตรฐานของกองทัพสหรัฐ
๓ (กระทราวงกลาโหมถูกบีบจากรัฐสภา) ให้มีการจัดอุปกรณ์อย่างหนึ่ง ที่ใช้กับปืน M16 แจกให้ทหาร ด้วย (จึงได้มีการแจกจ่าย อุปกรณ์ดังกล่าว และบังคับให้ใช้)
อุปกรณ์ ของปืน M16 ที่ว่านี้คืออะไร (อะไรที่กองทัพสหรัฐ พึ่งซื้อมาใช้หลังซื้อปืน M16 สี่ปี และหลังแจกปืนให้ทหารถือเข้าแนวรบ สองปี) ครับ
ทบ.สหรัฐ แจกจ่ายอุปกรณ์ทำความสะอาดปืน และหนังสือคู่มือการบำรุงรักษาในรูปแบบการ์ตูน ให้กับทหาร เนื่องจากเกิดปัญหาการติดขัดของปนเป็นอย่างมากในช่วงแรกๆทำให้เกิดการสูญเสียในการรบเป็นจำนวนมาก
นอนรอคำตอบครับ
ถ้าให้เดานะ เป็นปลอกลดแสงแบบ Bird Cage Flash Hider และระบบคันส่งลูกเลื่อน รึป่าว คริๆ
ถ้าจำไม่ผิด ได้มีการนำ ar-15(m-16) ไปปรับปรุงก่อนนะครับ เลยเปลี่ยนชื่อเป็นXM16E1 เปลี่ยนปลอก (ลดแสง) กับเพิ่มคันช่วยส่งลูกเลื่อน และต่อมาได้เปลี่ยนต่อเป็น m16a1 นะครับ
ขอเดาว่า ชุดทำความสะอาดกับ PM magazin
เออาร์-15, เอ็กซ์เอ็ม.16 อี 1 และเอ็ม.16 เอ.1 เป็นปืนคนละรุ่นกับคับ
เออาร์.15 ถือว่าเป็นต้นแบบปืนเล็กยาวอัตโนมัติของบริษัทอาร์มาไลท์ ที่แผนแบบจากปืนเล็กยาวขนาด 7.62 มม.แบบเออาร์-10 และถูกส่งเข้าไปใช้ในสงครามเวียดนามตอนช่วงกลาง ๆ สงครามที่ฝ่ายโซเวียตรัสเซีย ส่งปืนเล็กยาวแบบเอเค.47 ไปให้กองทัพปลดแอกประชาชนเวียดนาม ใช้ลุยอเมริกันจนเละเทะ
ปืน เออาร์.-15 ในยุคนั้น ก้อคล้ายกับเอ็ม.468 เวลานี้อ่ะคับ ปืนใหม่ กระสุนใหม่ ชาวบ้านเค้าใช้ 7.62 กันค่อนโลก อเมริกันเพิ่งจะออกแบบกระสุน 5.56 มม.ขึ้นมา เอาเข้าไปรบเลยมันก้อเลยมีข้อติดขัดอยู่มากมายจนรบต่อไปไม่ไหว สหรัฐจึงต้องพยายามปรับปรุงปืนเออาร์-15 ให้มันใช้รบได้ เพราะนอกจากการติดขัดของปืนแล้ว เรื่องอื่นไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่เบาโหวง ศูนย์เล็งที่เล็งง่าย ขนาดกระสุนที่พอเหมาะกับการฆ่าคนใน 1 นัด
ในการปรับปรุงใหม่นี้ อาร์มาไลท์ได้จ้างโคลท์เข้ามาร่วมทำการปรับปรุงด้วย โดยโคลท์ใช้ชื่อปืนที่ปรับปรุงใหม่ว่า เอ็ม.16 เอ.1 ส่วนอาร์มาไลท์ คงยึดถือแนวทางของเออาร์ 15 และนำแนวความคิดของโคลท์ไปปรับปรุงเพียงบางส่วน แล้วเรียกปืนว่า XM.16-E1
ในที่สุด ปืนทั้งสองแบบก็ถูกนำไปใช้ในสงครามเวียดนาม และลาว ปืนจำนวนมากทะลักล้นจากทหารรับจ้างหนีทัพในสงครามลาว ไปอยู่ในมือของผู้มีอิทธิพล และเหล่ามือปืนรับจ้าง
กองทัพไทยรับปืนเล็กยาวแบบ เอ็ม.16 เอ.1 และเอ็กซ์เอ็ม.16 อี 1 เข้าประจำการแทนปืนเล็กยาวแบบเอ็ม.1 กาแรนท์ (ปลยบ.88) เมื่อปี 2516 พร้อมกับการประจำการของเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.79
อเมริกันผมไม่รู้น่ะคับ ว่าเค้าเอาอะไรเพิ่มมากับปืนแล้วต้องบังคับให้ใช้ แต่ในคู่มือของปืนเอ็ม.16 นั้น จะระบุถึงอุปกรณ์อยู่ ก้อคือ
1. ขาทรายแบบ เอ็ม.7 ลักษณะเหมือนไม้หนีบอ่ะคับ เอาหนีบเข้าใต้ศูนย์หน้า เพื่อเปลี่ยนเป็นปืนกลเบาได้ แต่ผมก้อยังไม่เคยเห็นขาทรายที่ว่านี้แบบตัวเป็น ๆ นะคับ
2. ดาบปลายปืนแบบ เอ็ม.3 ที่มีลักษณะเป็นมีดพก 2 คม ของแท้คมกริบ เนื้อเหล็กเขียวปัด นาน ๆ จะได้เห็นสักที ส่วนใหญ่เจอแต่มีดอรัญญิกสนิมจับแดงเถือก
นอกจากอุปกรณ์ที่ว่ามาแล้ว ก้อมีอุปกรณ์ทำความสะอาดปืน คือแส้ 7 ท่อน กับเศษผ้าเล็ก ๆ ห่อหนึ่ง และน้ำมันสองกระป๋อง เป็นน้ำมันกัดสนิมกระป๋องหนึ่ง อีกกระป๋องหนึ่งเป็นไขหล่อลื่นคับ
การทำความสะอาดปืน เดี๋ยวนี้ไม่รู้ทำแบบไหน สมัยผมต้องถอดปืนออกเป็นชิ้น ๆ การทำความสะอาดลำกล้อง เขาจะเอาแส้แยงจากด้านรังเพลิงออกไปปากลำกล้องกัน เพื่อป้องกันเศษสิ่งสกปรกตกลงไปในช่องรังเพลิงและโครงลูกเลื่อนคับ ทุลักทุเลพอดู ถ้าแยงมือเปล่าบางทีก้อได้เลือด เพราะมือกระแทกกับแง่โครงปื่นอ่ะคับ
หลังจากหยอดน้ำมันแล้วก้อต้องเช็ดให้แห้งทุกจุดคับ เพื่อให้น้ำมันซึมลงไปในเนื้อเหล็ก แต่เดี๋ยวนี้เห็นหยอดกันเยิ้มไปหมด โดยเฉพาะปืนเอช.เค.33
ปืนเอ็ม.16 เอ.1 ถือว่าเป็นความสำเร็จ เป็นการแจ้งเกิดของปืนเล็กยาวตระกูลเออาร์15 และยืนอยู่คู่ขวัญกับปืนตระกูล เอ.เค. มาจนทุกวันนี้
ปืนเล็กยาวเอ็ม.16 ถูกออกแบบมาเพื่อทำสงครามเชิงรุกแบบเปิดเผย มันจึงไม่คำนึงเรื่องความทนทานมากนัก แต่เน้นในเรื่องความรวดเร็ว คล่องตัว มีความแม่นยำและอำนาจการสังหารที่เชื่อถือได้ว่า เหยื่อที่โดนกระสุน เอ็ม.16 เข้าไปแล้ว จะไม่มีโอกาสหยิบปืนมายิงสวนได้อีกตลอดชีวิต
นอกจากปืนเล็กยาวแล้ว ตระกูล เอ็ม.16 ยังมีปืนคาไบน์ ที่เรียกว่า เอ็ม.931 และเป็น คาไบน์ เอ็ม.4 ในยุคปัจจุบัน
นอกจากปืนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องนำติดตัวไปด้วยและห้ามลืม นั่นก้อคือกระสุนขนาด 5.56 X 45 มม.แบบ เอ็ม.198 ของปืนเอ็ม.16 เอ.1 ซึ่งจะบรรจุในแหนบ ๆ ละ 10 นัด เพื่อความรวดเร็วในการบรรจุลงซองกระสุนคับ ใหม่ ๆ ผมก้อโง่ นั่งแกะออกจากแหนบแล้วยัดทีละนัดจนเพื่อนตบกะบาล แล้วแย่งไปทำให้ดู ถึงบางอ้อคับ หลังจากนั่งบ่นตั้งนานว่ามันจะยัดแหนบมาทำหาห่านอะไรฟระ แกะก้อยาก
กระสุน 1 สำรับ หรือเบสิคโหลด เท่ากับ 14 แหนบ หรือ 140 นัด ยัดลงแม็กสั้น 20 นัดได้ 7 แม็กอ่ะคับ ใส่แถบผ้าคาดสไบเฉียงเป็นที่เท่มาก ๆ ในตอนนั้น เป็นเกราะกันกระสุนไปในตัวเลย
เรามาดูความแตกต่างของปืนตระกูล AR. กันนะคับ กระบอกแรกคือ AR.10
ขออีกที และขอโทษคับ ลืม Resitte ภาพสำหรับ AR.10
จากต้นตระกูล AR10 จึงมาเป็น เออาร์ 15 ที่มีจุดแตกต่างกับ เอ็ม.16 เอ.1 ด้วยกันหลายอย่าง เช่น โครงปืนด้านขวา เออาร์.15 ไม่มีเหล็กคันส่งลูกเลื่อน ที่ใช้ส้นมือกระแทกให้หน้าลูกเลื่อนขัดกลอนให้สนิท ถ้าขัดกลอนไม่สนิท นกมันจะสับเข็มแทงชนวนไม่ได้คับ
เอ็ม.16 เอ.1 มีคันส่งลูกเลื่อนที่ท้ายโครงปืนด้านขวา และเจ้าคันส่งนี้ยังคงมีอยู่จนถึงเอ็ม.16 เอ.4 รุ่นปัจจุบันคับ
ดูชัด ๆ สำหรับคันส่งลูกเลื่อนของ เอ็ม.16 เอ.1
ซึ่งเอ็กซ์ เอ็ม.16 อี.1 ก้อมีคันส่งนี้แล้วคับ แต่ปลอกลดแสงปลายกระบอกยังเป็นง่ามเหมือนเออาร์.15 แถมยังถอดเปลี่ยนกันได้ ระหว่างปืนสามรุ่นนี้
ปลอกลดแสงปลายกระบอก AR.15 กับ เอ็กซ์เอ็ม.16 เอ.1 ใช้ตัวเดียวกัน แต่บางทีเราก้อเห็นเอ็ม.16 เอ.1 บางกระบอกใช้ปลอกลดแสงแบบง่ามด้วย นั่นเพราะว่า ปืนทั้งสามรุ่นใช้ปลอกลดแสงอันเดียวกันได้คับ
เรื่องมีดปลายปืน รุ่น M7 ครับไม่ใช่ 3 บ้านผมมีอยู่เล่ม 1 ของแท้ครับ ทรงมีดเป็นแบบ สเปียพอยต์ หรือปลายหอกเหมาะสำหรับแทงครับ
http://www.specwargear.com/knife-1.html
ปลอกลดแสงของ เอ็ม.16 เอ.1 เป็นแบบกลม เซาะร่องกระจายแสง 6 ร่อง ปลอกลดแสงแบบนี้ทำให้ไม่ไปขัด หรือเกี่ยวพุ่มไม้รั้งให้ปืนหลุดจากมือเวลาวิ่งไล่ข้าศึกคับ บางที เราก้อเห็นว่า มีเออาร์15 และเอ็กซ์เอ็ม.16 อี.1 ใช้ปลอกลดแสงของเอ็ม.16 เอ.1 ได้เหมือนกันคับ
ลูกเลื่อนปืน เออาร์15 คับ เอ็กซ์เอ็ม.16 อี.1 และเอ็ม.16 เอ.1 ใช้ลูกเลื่อนตัวเดียวกันได้ แต่เออาร์.15 ใช้ด้วยไม่ได้คับ เพราะว่าสองรุ่นหลังมีคันส่งลูกเลื่อน ด้านข้างลูกเลื่อนจึงมีร่องบากไว้ให้ลิ้นของคันส่งดันลูกเลื่อนได้ แต่ของเออาร์.15 ไม่มีร่องบากข้างลูกเลื่อนคับ มันเลยใช้กับอีกสองรุ่นหลังไม่ได้
นอกนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะแยะ เช่น ลำกล้อง ปืนเออาร์.15 ลำกล้องยาว 22 นิ้ว เอ็ม.16 เอ.1 ยาว 20 นิ้ว รวมทั้งระบบศูนย์หน้า ที่เออาร์.15 เป็นแท่งเหล็กตายตัวเหมือนเอชเค.33 และเอเค.47 ส่วนเอ็กซ์เอ็ม.16 อี.1 และเอ็ม.16 เอ.1 ศูนย์หน้ามีกริ๊กปรับสูง-ต่ำได้ รวมทั้งความเร็วในการยิงอัตโนมัติ(ทฤษฎี) เออาร์.15 ได้ 500-550 นัด/นาที ส่วนเอ็ม.16 และเอ็กซ์เอ็ม.16 อี.1 ได้ 700-800 นัด/นาที นำหนักที่ต่างกัน เออาร์.15 จะหนักกว่าตระกูลปืนเอ็ม.16 นิดหน่อยคับ เพราะใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ ในขณะที่ตระกูลเอ็ม.16 ใช้เหล็กผสมอาลูมิเนียม มีก้อเลยเบากว่านิดหน่อย
ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า เออาร์.15-เอ็กซ์เอ็ม.16 เอ.1 และ เอ็ม.16 เอ.1 เป็นปืนคนละกระบอกกันคับ
ส่วนรูปต่อไป คือเออาร์ 18 ขนาด 7.62 มม.ที่สหรัฐเคยให้ทหารพลร่มบางหน่วยใช้ประจำการ แล้วก้อค่อย ๆ สาบสูญไป
เรื่องการยิงแล้วปืนสะอาดนี่เป็นเรื่องจริงคับ พ่อค้าไม่ได้โกหก ไม่ว่าปืนอะไรถ้ายิงมันทุกวัน ๆ ก้อไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดดอกคับ เอ็ม.16 ก้อเหมือนกัน ถ้ายิงทุกวัน ๆ ละ 3 เวลาหลังอาหาร และก่อนนอน ไม่ต้องทำความสะอาดตลอดชีวิตสนิมก้อไม่ขึ้นคับ
แต่ถ้าไม่ได้ยิงซัก 3 วันนี่สิคับ สนิมเริ่มจับแล้ว ครบ 7 วันถอดลำกล้องมาส่องดู ไอ๋หยา เกือบตันอ่ะคับ
ปืนที่เก็บไว้ในคลังเฉย ๆ จึงต้องการวงรอบในการทำความสะอาดรอบละไม่เกิน 7 วันคับ ส่วนปืนที่ใช้ในเวลาสงคราม ในสนามรบนั้น ล้างมั่งไม่ล้างมั่งก้อบ่เป็นหยังคับ
มีอยู่อย่างเดียวที่ยิงแล้วปืนสกปรก ก้อคือการยิงด้วยลูกฝึก หรือลูก Blank นี่แหล่ะคับ เพราะเค้าใช้ครั่งอุดลูกปืน โดนความร้อนครั่งก้อละลายไปจับลำกล้องมั่ง อุดตันท่อแก๊สมั่ง ในรุ่นผม ทางกองพันสั่งห้ามใช้ลูก Blank ไปเลยคับ เพราะปืนจะพังเอา
ส่วนที่ว่า เอ็ม.16 ลงน้ำไม่ได้ ก้อไม่จริงคับ ทั้งหน่วยซีลเอย นาวิกเอยของสหรัฐ ก้อใช้เอ็ม.16 คับไม่ได้ใช้อาก้า ลงน้ำดำผุดดำว่าย โผล่ขึ้นมาพร้อม เอ็ม.16 น้ำไหลโจ๊ก กด ปังๆๆๆๆๆ น้ำกระจายฟุ้ง ไม่เห็นว่าปืนจะแตกหรือร้าวแบบนิยายสยุมภู ทศพลนี่คับ ไม่งั้นสหรัฐเป็นมหาอำนาจไม่ได้หรอก
เรื่อง Condom กับปืนเป็นเรื่องจริง ก่อนจะกลายเป็นเรื่องโจ๊กตอนหลัง
สมัยสงครามอ่าว ปี 2534 นั้น พลพรรคกองทัพสหรัฐพบว่า ทรายในทะเลสายนั้น มันเป็นเม็ดที่เล็กละเอียด ปลิวมาตามลม เข้าไปอยู่ในปืน ซึ่งปืนที่มีปัญหากับพายุทรายมากที่สุดก้อคือพวกปืนใหญ่ที่มีขนาด 20 มม.ขึ้นไปอ่ะคับ ส่วนปืนไรเฟิลไม่ค่อยเป็นปัญหาเรื่องนี้มากนัก
ลำพังปืนใหญ่รถถัง หรือปืนใหญ่เรือ เค้ามีฝาปิดปากกระบอกอยู่แล้วก้อไม่เป็นปัญหา ที่มีปัญหาก้อคือปืนใหญ่ขนาดเล็ก พวก 20 -40 มม.นี่แหล่ะคับ ถุงสวมปากกระบอกก้อขาดหายไปนานแล้ว คนหัวใสก้อเลยควักเอาคอนดอมที่เตรียมไว้ลุยข้าศึกสตรี สวมฉับเข้าให้ปรากฎว่าใช้การได้ดีคับ
เรื่องการยิงแล้วปืนสะอาดนี่เป็นเรื่องจริงคับ พ่อค้าไม่ได้โกหก ไม่ว่าปืนอะไรถ้ายิงมันทุกวัน ๆ ก้อไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดดอกคับ เอ็ม.16 ก้อเหมือนกัน ถ้ายิงทุกวัน ๆ ละ 3 เวลาหลังอาหาร และก่อนนอน ไม่ต้องทำความสะอาดตลอดชีวิตสนิมก้อไม่ขึ้นคับ
ไม่เชื่อ และไม่จริงครับ