คือผมอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดยุทธนาวีหน่อยครับ
1.การเกิดยุทธนาวีในสมัยนี้จะเกิดในระยะที่ไกลกันมากใช่ไหมครับ
2.การใช้อาวุธปืนหลักยิงโจมตีกันมีมากน้อยเพียงใดครับ
3.การใช้อากาศยานเข้าโจมตีเรือรบ ( เพิ่มระยะยิงของอาวุธนำวิธี ) จะเปลี่ยนโฉมหน้าของการรบทางน้ำไปมากน้อยเพียงใดครับ
4.การต่อต้านอาวุธนำวิธีด้วยการใช้ ระบบป้องกันตัวระยะประชิด จะทำได้ทีละกี่เป้าหมายหรือครับและแม่นยำประมาณกี่เปอร์เซ็นต์
ปล.ขอบคุณมากครับ ( อยากได้เอาไว้เขียนรายงานครับเห็นรุ่นพี่บอกว่าจะมีให้ทำรายงานวิเคราะห์ )
1. ครับน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะการรบทางทะเลโดยญี่ปุ่นและอเมริกาสมัยสงครามโลกก็อยู่ในสภาพที่ทั้งสองกองเรือไม่เห็นตัวกัน ได้แต่ส่งเครื่องบินรบไปลุยกัน ยิ่งสมัยนี้มีอาวุธครูสย์ที่มีระยะยิง500 -กว่าพันกิโลแล้ว ยิ่งเป็นการยืนยันว่าสอยด้วยอาวุธยาวกันมากกว่าแน่ๆครับ
2. อาวุธปืนหลักน่าจะเป็นการยิงเรือสลัดขนาดเล็กมากกว่าครับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้เรือเร็วโจมตี เรือคอร์เวต ก็ติดอาวุธนำวิถีระยะยิงไกลนับร้อยกิโล ไม่มีเรือรบไหนจะกล้าเสี่ยงเข้าไประยะใกล้แล้วเอาปืนใหญ่เรือยิงเรือเล็กพวกนี้หรอกครับ สู้ส่งฮ.ติดอาวุธไปจะปลอดภัยกว่ามาก
3. สงครามชิงหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ได้ให้คำตอบน้องไปแล้วครับ อาวุธนำวิถีระยะยิงไกลที่ยิงจากเครื่องบินรบ จะช่วยให้เครื่องบินรบที่ยิงสามารถยิงที่นอกระยะป้องกันภัยทางอากาศของเรือรบได้มากขึ้น เช่นบรามอส ที่มีระยะยิงราวๆเกือบ 300 กม. ทำให้เครื่องบินรบปลอดภัยจากเรือรบที่มีระบบจรวดต่อสู้อากาศระยะยิงสั้นกว่า 300 กม. หมดสิทธิตอบโต้เครื่องบินที่บินเข้ามายิง
4. เดียวนี้ระบบระยะประชิดได้ขยายระยะยิงออกไปมากแล้วครับ จนเรียกได้ว่าแทบจะไม่ใช่ระยะประชิดแล้ว ผมดูวีดีโอการยิง ESSM ที่สามารถสอยลูกอาวุธนำวิถีที่พุ่งเข้าหาเรือรบได้ที่ระยะกว่า 10 กม. อย่างแม่นยำ และดูวีดีโอจรวด RAM สอยลูกอาวุธนำวิถีที่ระยะ 4-5 กม. แม่นมากครับเห็นเขาว่าเกินกว่า 80% เลยทีเดียว แต่ถ้าลูกจรวดต่อสู้เรือรบสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้จนถึงระยะต่ำกว่า 2 กม. ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของระบบปืนระยะประชิดจะต้องรับช่วงไป
ดังนั้นการป้องกันจรวดต่อตีเรือของเรือรบผิวน้ำหลักนั้นดีมากๆเลยครับ ผมว่าสามารถต่อตีจรวดที่พุ่งเข้ามาได้มากกว่า 4-5 ลูกแน่ๆ ดังนั้นวันข้างหน้าถ้าเครื่องบินรบจะจวกเรือรบแล้ว คงต้องขนลูกอาวุธนำวิถีกันมาลำละ 2- 4 ลูกแล้วยิงหมดแม็กนั่นล่ะถึงจะพอ ไอ้ที่เราเห็นกันสมัยสงครามฟอร์คแลนด์ที่ส่งไปลูกเดียว โป้ง....เดียวจม คงไม่ได้เห็นกันอีก เคี้ยวยากส์แล้วเพ่
ระบบ อวป.โจมตีเรือรบ ยิงจาก บ.จ./บ.ข. นั้นเรียกว่ามีความอ่อนตัว มากกว่าเนื่องจากเป้ามีขนาดเล็กและบินต่ำหลบเรดาห์เข้าหาเป้าหมาย แถมอาวุธโจมตีก็มีพิสัยยิงไกล(อันนี้แล้วแต่ การตอบโต้ด้วยแซมของข้าศึก ถ้านับตามภูมิภาค อย่าง รอบๆบ้านเรา ระยะยิง100+กิโลเมตร ก็จมเรือได้สบายๆ เพราะไม่มีแซมระยะไกลเกิน100กิโลเมตรใช้กัน)ถึงยิงไปเรือเป้าหมายมีระบบป้องกันระยะประชิดใช้แต่ก็สามารถบินวนกลับมาซ้ำได้อีก ยิ่งเป็น อวป.รัสเซียด้วยแล้วยิ่งน่ากลัวใหญ่เพราะยิงไกล ความเร็วเหนือเสียง บินเรี่ยพื้นน้ำ ซึ่งมีผลต่อเรดาห์ของเรือในการตรวจจับให้ทันเพื่อส่งข้อมูลในการยิงสกัด และมีแนวคลื่นทะเลเป็นอุปสรรค์ด้วยเช่นกัน ไหนจะเรื่องตัวอาวุธที่ออกแบบให้มีหน้าตัดสะท้อนเรดาห์ต่ำเช่น RBS-15 ottomat Hapoon Block-II+ ในขณะเดียวกัน JAS-39 ถือว่าเป็นบ.ข.เป้าที่เล็ก มีสิทธิรอดจากเรดาห์ด้วย ประสิทธิภาพออกไปทางสเตล์ท ใช้ RBS-15 ถือว่าเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับบ้านเราในการต่อตีเรือข้าศึกเป็นฉากแรกน่ะครับ
ผมจำได้ว่าบอร์ดเก่าเคยลงเรื่องการฟาดปากในระยะใกล้ของเรือสองเกาหลีนี้มาแล้วนะครับ มีรูปให้ดูด้วย รู้สึกว่าทางเกาหลีใต้จะจมนะครับทั้งที่ใช้อาวุธทางตะวันตก ไม่แน่ใจนะครับ