ดูเหมือนว่าน้องคงเครียดเกี่ยวกับการตรวจเลือกทหาร ไม่ต้องกังวลครับ เตรียมใบรับรองแพทย์ไว้ ถ้าเป็นของโรงพยาบาลทหารยิ่งดี  การตรวจเลือก ฯ จะแบ่งบุคคลอยู่ ๔ จำพวก คือ

    ๑.สมบูรณ์ดี

    ๒.ร่างกายเห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ เหมือนคนจำพวกที่ ๑ เช่น กระดูกผิดรูป  แขนโก่ง

    ๓.ผู้ที่เจ็บป่วยรักษาไม่หายภายใน ๓๐ วัน

    ๔.ผู้ที่เข้าข่ายพิการทุพพลภาพไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้

 

ดี1ประเภท2ก็หมายถึงตามที่คุณเด็กบ้านนอกว่านั้นแหละครับ

แถมให้นิดหนึ่งประเภท2นี้ยังรวมถึงพวกที่สูงไม่ถึง160ซ.ม

รอบอกไม่ถึง75ซ.มเคยมีรุ่นที่ผมคัดมีอยู่คนหนึ่งสูง159ซ.ม

แต่ร้องขอสมัครเป็นทหารทางสัสดีเขายังไม่เอาเลยหน้าเสีย

ไปเลยแสดงว่าอยากเป็นทหารมากนึกในใจว่าทำไมไม่เป็นเรา

บ้างหว่าเพราะดันสูง168ซ.มรอบอก96เลยโดนจับใบดำใบแดง

สุดท้ายมือแม่นมากในโถเหลือใบแดงใบสุดท้ายนอกนั้นดำเรียบแต่เหลือ

คนจับอีก10กว่าคนและเราก็ได้ทบ.2จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์คนที่เหลือ

เฮกันลั่นโรงยิมเลยส่วนคนจับได้นะหรือลมจะใส่ครับแต่ทางสัสดีเขาใจดี

บอกว่าน้องไม่ต้องกลัวน้องจบปวสก็ยื่นวุฒิไปเลยเป็นแค่ปีเดียวเองวัน

นั้นผมเลยต้องรีบกลับบ้านไปเอาวุฒิมาให้เขาดีนะบ้านอยู่ใกล้อำเภอ

สมัยสงครามโลก คนญี่ปุ่นเวลาเขาเกณฑ์ทหาร แต่จะว่าเกณฑ์ก็ไม่ถูกนักเพราะมักจะมีผู้สมัครจนเกินจำนวนเสมอ คนที่ถูกเรียกจะแต่งกายด้วยชุดที่เขาคิดว่าดูดีที่สุด และจะมีการอวยพรจากญาติๆให้โชคดีได้รับเลือกเพื่อรับใช้ชาติอันเป็นที่รักของเรา...เอ้อของเขา คนที่พลาดการคัดเลือกจะแสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับร้องไห้...ที่เสียโอกาสนี้ และจะมีการอวยพรให้โชคดีในการรบ เรียกว่าบรรยากาศขณะนั้นเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ภาคภูมิใจ ซึ่งจริงๆแล้วความรู้สึกแบบนี้ ควรเป็นเรื่องธรรมดาในการ
"คัดเลือกทหาร"มิใช่หรือ?
        ปัจจุบันคงไม่ใช่แบบนี้แล้วมั้ง
หวนกลับมาดูบ้านเรา....
อดีตไม่รู้  แต่ปัจจุบัน มองดูแล้ว(บอกความรู้สึกไม่ถูก)
ไม่ทราบเพราะอะไรชายไทยที่ไม่มีพันธะจึงไม่อยากรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร!!?
    จะเอาผมเป็นทหารเหรอ เอ้ากองทัพต้องเสี่ยงดวงกะผม
    กองทัพต้องมอบเกียรติบัตรให้ เพื่อระลึกถึงบุญคุณของผมที่อุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่า เพื่อสมัครเป็นทหาร
    ผู้รู้บางท่านว่า เหอะ...ตอนนี้กองทัพไม่เฮี๊ยบเพราะสถานการณ์ไม่ตึงเครียด ถ้าเมื่อใหร่ตึงเครียดหรือมีสงคราม การเกณฑ์ทหารจะเปลี่ยนไป
    กองทัพคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า...โอ้.. เมื่อถึงเวลานั้นคงจะมีผู้มาสมัครกันล้นหลาม
   แต่หากกลับกลายเป็นตรงข้าม เนื่องด้วยชายไทยผู้รักตัวกลัวตาย กลัวความยากลำบาก มีมากกว่า กองทัพคงต้องบังคับเอา...มากๆด้วย
   และคงจะรู้ความแตกต่างของคนที่สมัครใจ กับคนที่ถูกบังคับ เมื่อต้อง เข้าสู่สนามรบ
   
    มันสะท้อนให้เห็นทรรศนะคติความคิดของชายไทย"บางส่วน"(และคงจะเป็นส่วนใหญ่)ต่อโอกาสที่ควรทำในชีวิตลูกผู้ชาย
 
หากวันนี้บรรยากาศการคัดเลือกทหารยังเป็นเช่นนี้อยู่
 ลูกหลานเราในอนาคต หรือแม้แต่เราเอง จะยังเชื่ออยู่อีกหรือว่าชาติเราเป็นชาตินักรบ บรรพบุรุษเราเอาเลือดเนื้อเข้าปกป้องผืนแผ่นดินที่เราอยู่อาศัยอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้
   
เมื่อถึงเวลานั้น...ถ้าไม่ตายเสียก่อน คงได้รู้กัน