.50 browning
โดยคุณ : snake เมื่อวันที่ : 23/03/2009 18:36:15รู้สึกว่าเจ้าปืนตัวนี้อายุก้อมากโขแล้ว..ตั้งแต่สมัยสงครามโลก...ใน wiki บอกว่า ออกแบบไว้ในปี 1921 จนถึงตอนนี้ก้อ 88 ปีเข้าไปแล้ว ส่วนในกองทัพไทยเข้าประจำการในปี 2493 ถึงตอนนี้ก้อ 59 ปี ถือว่าอายุมากเลยทีเดียว..ทราบมาว่าเป็นปืนรุ่นเดียวที่ยังหลงเหลือใช้ในปัจจุบัน จากสงครามโลก
** คือ มีปืนกลหนักรุ่นใหม่หรือป่าวครับที่ใช้กระสุนขนาด .50 ที่ไม่ใช่ไรเฟิล ทำไมถึงไม่มีการผลิตรุ่นใหม่ออกมา ทั้งๆที่ความจำเป็นก้อยังมีใช้อยู่
จะว่าไปอเมริกันก็ทำปืนกลขึ้นมาเปลี่ยนแทนเหมือนกันอย่าง XM312 และที่ล่าสุดมานี่ก็ LW50 ที่หั่นน้ำหนักลงถึงครึ่งหนึ่งเหลือแค่ 28 กิโล (รวมขาตั้งสามขาแล้ว) อย่างหลังนี่กะจะเริ่มส่งประจำการปี 2011 ครับ
เมื่อวันที่
20/03/2009 07:58:11 เอ..คุณ Champ Thai Army ครับ ปืนกล .50 นิ้วเนี้ยมันไม่ใช่อาวุธระดับหมู่ปืนเล็ก นี่ครับ....อาวุธยิงกลระดับหมู่ปืนเล็กถ้าจำไม่ผิดนะ จะใช้ขนาดกระสุน 5.56 มม. (มาตรฐานพี่กัน) เพราะทหารสามารถใช้ทดแทนกันได้ในหมวดของตน เดิมใช้ M16 ติดขาทรายแต่ก็ติดปัญหาที่ซองกระสุนบรรจุได้น้อย แค่ 30 นัด ไม่พอสำหรับการยิงสนับสนุน ก็เลยมีเจ้า FN Minimi/M243 SAW (Squard Automatic Weapon) มาทดแทน ซึ่งสามารถใช้ซองกระสุนของ M16 ได้หรือป้อนด้วยสาย ยิงอัตโนมัติล้วน ๆ
สเกลใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ระดับกองร้อย (มั้ง) ก็ใช้อาวุธปืนกลยิงสนับสนุนใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เป็นขนาด 7.62มม. เดิม (พี่กันอีกแล้ว) ใช้ ปก. ตระกูล M60 มาเรื่อย ๆ จนบางส่วนเปลี่ยนมาใช้ FN MAG ที่คงใช้ M60 เหนียวแน่นน่าจะเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ส่วนของไทยเรา ก็ใช้ทั้ง M60, FN MAG น่าจะมีตระกูล MG อยู่บ้าง ปืนคลาสนี้ยังพอแบกกระเตงกันไปได้ คนหนึ่งถือปืน อีกคนก็ช่วยแบกขาทรายกับกระสุนสำรอง (เหนื่อยพอกัน คู่นี้แยกกันไม่ได้ดอก นึกถึงตอนตั้งปืนยิงต่อสู่อากาศยาน คนถือขาทราบต้องยกลอยสุดแขนให้เพื่อนคอยส่อง...)
ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ระดับกองพัน (มั้ง) ก็มี ปก.หนัก ขนาด .50 เอาไว้กระำำำหน่ำคนที่บังอาจมาวัดดวง กระสุนขนาดใหญ่กว่านิ้วโป้ง (ของผม) ดูถูกไม่ได้นะครับ รถลำเลียงพลหุ้มเกราะบาง ๆ ถึงกับฉีก วิ่งท้ายบานกลับบ้านไปได้เหมือนกัน
จากที่โม้มาข้างต้น ปก.ขนาดต่าง ๆ แยกการใช้งานตามสเกลของหมู่รบครับ ในภาคใต้ การ ลว. ด้วย รยบ.1 1/4 ตัน ติด 7.62 พร้อมฝูงแมงหวี่ (ศัพท์หมวดบอร์ม) อีกจำนวนหนึ่ง พร้อม 5.56 คนละชุดใหญ่ เพียงพอสำหรับการโต้ตอบ (หากไม่โดนถังดับเพลิงซะก่อน) .50 นิ้ว อำนาจการทำลายมันรุนแรงเกินไป ถ้าพลาดไปโดนคนที่ไม่เกี่ยวข้องมันจะเรื่องยาว
ขอบคุณที่อ่านความคิดเห็น (มั่ว) ของผมครับ
เมื่อวันที่
20/03/2009 12:54:18 อำนาจการยิงถือว่าแรงมากยังไม่รวมถึงอำนาจแรงสะท้อนถอยหลัง ถ้าใครเคยอ่านหนังสือผ่าปืนหรือจักรวาลปืน(ผมจำไม่ค่อยได้) ของคุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ (พนมเทียน) เคยมีการทดลองนำปืนขนาด .50 มาติดบนรถกะบะ ในตอนนั้น (ผมเรียนอยู่ ป.5 ครับ)
คุณพนมเทียนได้เขียนไว้ว่า อำนาจแรงสะท้อนของปืนขนาดนี้อาจทำให้รถกะบะพังได้ง่ายๆ เพราะอำนาจการยิงค่อนข้างแรง ไม่เหมาะที่จะติดตั้งบนรถกะบะ แต่ถ้าเป็นรถจิ๊ปหรือ รถจีเอ็มซี จะดีกว่าครับ
ส่วนที่เหลือก็ตามพี่(เขย)เอกบอกไว้ครับ
ป.ล.ตาเอก วันนั้นมีคนรู้จักนั่ง FD ไป CNX มีน้องน้อดเป็นนักบินด้วย เสียดายคอดๆเลยเพราะไม่ได้ไปด้วย ไม่งั้นได้ขอความรักกลางเวหาแน่ๆ กรั่กๆๆๆๆๆ
เมื่อวันที่
20/03/2009 13:22:31 จะว่าไปก็มีหลายเจ้านะครับ แต่ยังไม่เป้นที่นิยมเท่าไร ตัวนี้ของเจ้าเดิมที่มาแรงครับ FN M3M 1000 นัดต่อนาที
เมื่อวันที่
20/03/2009 14:56:12 ....ปืนที่ใช้กระสุนขนาด .50 (12.7ม.ม.) นี่ปัจจุบันยังมีความจำเป็นทางยุทธวิธีอยู่ครับ แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเข้าไปใช้ ในอิรักอเมริกายังเน้น M-2 ติดฮัมวี่ยิงหนุนเวลารบในเมืองบ้านช่องนี่พรุนไปหมดแสดงถึงอำนาจที่รุนแรงกว่า 7.62 น่ะครับ (ยิงช้าแต่ชัวร์) แล้วให้พวกปืนรอง 7.62 ม.ม. 5.56 ม.ม. ตามเก็บเอา น่ะครับ แล้วอีกอย่าง ยังมีข้อดีในการสอยเป้าทางอากาศ จำพวกฮ. และยานเกราะ หากนับถึงปืนกลหนักในคลาสนี้ของรัสเซียจำพวก NSV DShk พวกนี้อำนาจการทำลายสูงกว่า M-2 มากครับ และยังมีใช้อยู่เต็มไปหมด ถึงจะหนักมากด้วยก็ตาม
...พูดง่ายๆคือ M-2 กระสุน 12.7 ม.ม. ยังมีความจำเป็นในการรบต่อไปล่ะครับ ติดรถยิงหนุนได้แรงน้องๆ 14.5-20 ม.ม. ในการยิงอุดช่องว่างของพวกนี้ได้เพราะ ปืน 7.62 ม.ม. ก็เบาไป 20 ม.ม. ก็หนักไป เหมือนที่เราเคยนำ 12.7 ม.ม.ไปติดกันชิพแทน มินิกันที่ยิงได้ปริมาณแต่ทำลายได้น้อยน่ะครับ
....ข้อมูล(กึ่งมั่วแฮะ)
เมื่อวันที่
21/03/2009 00:16:59 ผมว่าปืนกลหนักM-2นี้น่าประจำการได้อีกไม่ต่ำกว่า20ปีถึงยังงัยมัน
ก็คงคุณค่าอยู่แม้มันจะผ่านสงครามโลกครั้งที่2แล้วก็ตามขนาด
กองทัพเรายังใช้อยู่เลยและไม่คิดที่จะเลิกใช้ด้วยเท่าที่ดูปืนกล
12.7มม.มีอยู่ไม่กี่แบบในโลกที่ใช้กันแต่ถ้าระดับหมู่ใช้นี้ต้องคิดหนัก
เพราะมันหนักจะให้หิ้วไปคนเดียวคงไม่ไหวแน่ๆๆต้องระดับกองพันขึ้น
ไปคือเอาติดไปกับรถฮัมวี่ส่วนระดับหมู่แค่M-60หรือMG-58น่าจะใช้ได้ดี
อยู่เพราะสามารถแบกไปคนเดียวได้ผมเคยยิงปืนกลM-60มาแล้วเสียง
ดังไม่เบาเลยหูแทบแตกแนะคนเดียวล่อไปเกือบ20นัด(ติดมือ)ทั้งทีครู
ฝึกให้ทหารใหม่ยิงแค่คนละ5นัดเท่านั้น
อย.พัน 2 ทหารใหม่จะได้ยิง .22 LR คนละ 50 นัด
M 16 คนละ 90 นัด M 60 คนละ 50 นัด
ระเบิดขว้าง M 67 หมวดละ 20 ลูก
ใครขว้างแล้วไม่ระเบิดต้องเดินไปเก็บมาเอง รุ่นนี้มีนิรภัย 2 ชั้น
XM 148 ขนาด 40 มม. คนละ 5 ลูกได้ยิงหมวดละ 20 คน
ฝึกยิง M 16 ในเวลากลางคืนโดยใช้ลูกส่องสว่าง อีกคนละ 20 นัด
ส่วนปตอ.ทหารใหม่จะได้ยิงปตอ. 12.7 มม.คนละ 50 นัด ทุกคน
ปตอ. 20 มม. 40 นัดเฉพาะผู้ที่ฝึกมาเท่านั้น
ปตอ. 40 มม ทั้งแบบ 40 M1 และ 40 L60 20นัด เฉพาะผู้ที่ฝึกเท่านั้น
แต่รุ่นผมปตอ. 40 ทั้ง 2 แบบโดนจ่ากับนายร้อยจบใหม่แย่งไปยิงซะเกินครึ่ง
ยิงเสร็จกลับถึงที่ตั้ง ล้างปืนกับอ่วมเลย
ม.พัน7ครับอยู่ที่ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์รุ่นที่ปี42ผมฝึก
ยิงนั้นงบมีจำกัดครับขนาดปืนM-16ยังให้ฝึกแค่คนละ3นัดต่อ
อาทิตย์ฝึกเฉพาะวันเสาร์น่าอิจฉาจังที่ได้ยิงปินกลM-60
ตั้ง50นัดส่วนผมได้ยิงแค่ครั้งเดียวตอนฝึกภาคสนามนอกค่าย
วันนั้นรู้สึกว่าเขาเอากระสุนปืนM-60ไปเพียงแค่200นัดแต่ทหารใหม่มี
ตั้ง70กว่าคนก็เลยได้ยิงแค่คนละ5นัดขนาด5นัดยังไม่พอต้องยิง
ลูกแบงค์แทนระเบิดจริงยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่ได้ฝึกฝึกแค่ขว้าง
ก้อนหินเท่านั้น
( ไปนอนเฝ้าหลุมปืนปตอ.ทั่วประเทศที่มีสนามบิน )
จะได้ยิง M16 เพื่อปรับศูนย์ปืน + ฝึกยิงทางยุทธวิธีเพิ่มอีก
ยิงเพื่อปรับศูนย์ปืน 25 นัด ฝึกยิงทางยุทธวิธีอีก 60 นัด
เรียบร้อยแล้วอีกไม่เกิน 7 วันก็ไปนอนเฝ้าหลุมปืน
รับเงินเดือน + เบี้ยเลี้ยงเต็ม สบายไป
ถามเพิ่มเติมครับ การดูแลรักษาปืนกลขนาดต่างๆ นอกจากฝึกยิงตามยุทธวิธีแล้ว การดูแลรักษาปืนเช่น ล้างหรือทำความสะอาด มีการฝึกสอนหรือไม่ครับ เนื่องจากมีคนพูดถึงการดูแลรักษาปืนจำพวกนี้น้อยมาก
เลยนึกไปถึง มีแผนกดูแลแยกออกมาอีกต่างหากหรือเปล่า ช่วยสงเคราะห์ด้วยครับ
เมื่อวันที่
22/03/2009 23:57:31 แล้วปกติ.. กระสุนขนาดใหญ่ๆ แบบนี้ ซื้อจากประเทผสไหนหรอครับ.
.ผลิตเองรึป่าว..เฉลี่ยแล้วตกนัดล่ะเท่าไหร่หรอครับทำไมไม่พอเพียงต่อการฝึก..
........เห็นในหนังบางเรื่องนำกระสุนมาบรรจุในสายกระสุนเอง..กระสุนของเราซื้อมายกสายเลยหรือป่าว
อาวุธประจำหน่วย เช่น ปตอ.50นิ้ว,เเมนเสน 20 มม.40 M1 , 40 L60
M 60, XM 148 ต้องทำความสะอาดเองหลังการฝึก
เพราะมีเจ้าหน้าที่คลังอาวุธร้อยฝึก มีคนเดียว ยศ พันจ่าอากาศเอก( พ.อ.อ.)
ถ้าไปฝึกยิงภาคสนามมาละก็ จะต้องมาถอดทำความสะอาด
โดยมี จ่าคลังอาวุธ กับจ่าครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึก
มาช่วยกันพร้อมทหารที่ฝึกปืนแบบนั้นๆ
ถือว่าเป็นการสอนถอดประกอบปืนประเภทนั้นไปในตัว
ส่วนกระสุนที่มาเป็นสายเช่น กระสุน M 60 และกระสุน .50 นิ้ว
จะถูกแพคมาในกล่องโลหะ กระสุนขนาด.50 นิ้วกล่องละ 100 นัด
กระสุน M 60 ไม่แน่ใจว่ามากล่องละเท่าไหร่
แต่ก็ไม่น่าต่ำกว่า กล่องละ 100 นัด
ส่วนกระสุนปตอ.20มม.แบบแมนเสน มากล่องละ 100 นัด
เอามาโหลดใส่ดรัมกระสุนเอง ( แม๊กเป็นแบบกล่องกลม )
มี 2 แบบ 20 นัดกับ 60 นัด
กระสุนปตอ. 40 มม.มาเป็นกล่องเหล็กบรรจุกล่อง 16 นัด 4 คลิป
กระสุน M16.มาในกล่องกระดาษมี 2 คลิปๆละ 10 นัดบรรจุลงซองกระสุนเอง
กระสุนทุกอย่างยิงเสร็จต้องเก็บปลอกคืน ห้ามหายห้ามเก็บเป็นที่ระลึก