หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาร์ค"สั่งศึกษาลงทุนเหล็ก หาทางดิ้นไม่ให้ศก.ติดลบถึง9% คลังหวั่นเช็ค2พันซื้อของมีปัญหา

โดยคุณ : lordsri เมื่อวันที่ : 14/03/2009 08:30:41

"มาร์ค"สั่งศึกษาลงทุนเหล็ก


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปศึกษารายละเอียดโครงการเหล็กที่รัฐบาลในอดีตได้ส่งสัญญาณให้เปิดส่งเสริมการลงทุน และมีการศึกษามาแล้ว นอกจากนี้ ยังมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการสำรวจพื้นที่ โดยให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อจะได้รับทราบถึงผลกระทบและแนวทางการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น


โดย นายอภิสิทิธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต่างประเทศมีความสนใจลงทุนในโครงการเหล็ก แต่การลงทุนของต่างประเทศจะต้องลงทุนในพื้นที่ที่มีเงื่อนไขชัดเจนคือ ต้องมีความต้องการเรื่องน้ำ ท่าเรือ และปัจจัยอีก 2-3 ปัจจัย ขณะเดียวกัน ก็จะเป็นอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และจะต้องให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม เพราะว่าที่สุดแล้ว โครงการนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องอยู่บนความยอมรับของพื้นที่ และจะต้องประสานกับผู้ที่สนใจที่จะลงทุนจากต่างประเทศด้วย

เผย4บ.ต่างชาติจ้องลงทุนเหล็ก


รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้พิจารณานโยบายส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเหล็กขั้นต้น เพื่อผลิตเหล็กคุณภาพสูง ทั้งที่มีเสียงคัดค้านต่อต้านจากองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) หลายแห่งกรณีการตั้งโรงงานเหล็กของบริษัท สหวิริยาสตีล จำกัด (มหาชน) โดย สศช.แจ้งที่ประชุมว่า มีบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก 4 ราย แสดงความสนใจมาลงทุน ซึ่งหากมีการลงทุนเกิดขึ้น จะลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศในการนำเข้าเหล็กคุณภาพสูงเฉลี่ยประมาณปีละ 180,000-200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ผลิตเหล็ก 4 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท ARCELOR MITTAl จากเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก 2.บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุน 3.บริษัท JFE จากญี่ปุ่น และ 4. BAOSTEEL จากจีน ทั้งหมดสนใจลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กขนาดใหญ่ วงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดย สศช.ศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างโรงงานไว้แล้ว ได้แก่ บริเวณแหลมช่องพระ อ.ประทิว จ.ชุมพร บริเวณบ้านแหลมทวด อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านบางปอ อ.สีชล จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงพื้นใน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงทุนผลิตเหล็กต้นน้ำครั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างนั้นนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้หารือกับบริษัทนิปปอน สตีล และบริษัทเจเอฟอี สตีล ที่สนใจมาลงทุนในไทย แต่ทั้งสองบริษัทต้องการให้รัฐบาลยืนยันถึงนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

 

ที่มาข่าว :http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1236778254&grpid=01&catid=05

 

สรุปแล้ว เราก็จะต้องรับจ้างเขาผลิตเหล็กอีกแล้วใช่ไหมครับเนี่ย ?

 

 

 





ความคิดเห็นที่ 1


อ่านแล้วรู้สึกดี แต่ยัง งงๆ กะวรรคท้าย ที่ท่าน จขกท หยอดไว้................... คือ ต้องทำความเข้าใจกับการเปิดโอกาสให้ต่างชาติลงทุนก่อนครับ......................

 

คือเรื่องของเรื่อง ถ้าเป็นผู้ประกอบการชาวไทยทำเอง อันนั้นเป็นเลิศ  แต่ความเป็นจริงคือ เรา บ่มีไก๊......................... ถามว่า การลงทุนระดับแสนล้านนี่ นักลงทุนไทยพอมีปัญญามั๊ย  ผมเชื่อว่าพอมี  แต่ปัญหามีอยู่ว่า สร้างโพรดัคมาแล้ว มันทำตลาดไม่ได้ คือขายของไม่ได้ การลงทุนระดับ แสนล้านนี่ มันเป็นลักษณะการสร้างฐานการผลิต ซึ่งทำออกขายทั่วโลก ไม่ใช่แค่ขายในประเทศที่เข้าไปตั้งโรงงานนั้นๆ....................

 

ผมยกตัวอย่างเช่น การตั้งโรงงานโตโยต้าในไทย ยุ่นเข้ามาตั้งโรงงานทำรถแล้วก็ส่งรถขายออกนอก บางส่วนขายในไทย ........................ ถามว่านักลงทุนไทยมีปัญญาทำอย่างนี้มั๊ย ตอบ  มี   แต่การสร้างผลิตพันธ์ภายใต้ชื่อสินค้าหนึ่งแล้วนำออกขายเป็นเทน้ำเทท่านั้นเป็นเรื่องยาก..................................... สร้างโพรดัค สร้างง่าย แต่สร้างแบรนมันยาก พี่น้อง...................สยามวีเอ็มซี ใครเคยได้ยินชื่อรถยี่ห้อนี้มั่ง ................. นี่แหล่ะตัวอย่าง..........................

 

กลับมาที่การลงทุน..................... ผมว่าการให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนบ้านเรานี่ ดีกว่านักลงทุนเราเองตั้งเยอะ.......................

อยู่ดีๆ มีคนขนเงินเข้ามาบ้านเราแสนล้าน เอามาตั้งโรงงาน จ้างคน จ้างงาน ถามว่า แสนล้านนี่ เราต้องส่งออก ขายทัวร์กี่ปีกี่ชาติ........................

ส่งออก ต้องใช้วัตถุดิบจากการนำเข้า สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเก่งก็สิบเปอรเซนต์ ส่งออกมูลค่า แสนล้าน กำไรอย่างเก่งก็หมื่นล้าน............................ นำเที่ยว กว่าจะได้แสนล้าน   น้องหนูพัทยาสงสัยต้องทำงานกันจน ..... ปลิ้น.................................... ใครก็สนับสนุนการเข้ามาลงทุน  ที่ผ่านมามีไอ้และอีบ้าบางคนมันเผาทุ่งไล่หนู ไล่นักลงสิงคโปร์ออกบ้าน ตั้งกฏหมายบ้าบอคอแตก เวียตนามส้มหล่น รับไปหลายหมื่นล้านดอลล่าร์..........................

เอาเป็นเลาๆ  พอเห็นทางสว่างหรือยัง

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 12/03/2009 01:04:54


ความคิดเห็นที่ 2


เห็นด้วยกับ เฮียกบ ทุกประการเลยครับ

อันดับแรกเราต้องทำความเข้าใจกับเหล็กซะก่อนครับ ตอนนี้เลยที่ไทยนำเข้ามาจากหลายแหล่ง หลายประเภท ส่วนใหญ่นำเข้าเป็นเหล็กรูปพรรณทุกชนิด เช่น เศษเหล็ก เหล็กปิ๊ก เหล็กเกรด เหล็กเพลา เป็นต้น ทำให้สูญเสียส่วนต่างของมูลค่าเหล็กไปเป็น แสนล้าน แน่นอนหรืออาจจะกว่าด้วยซ้ำ สหวิริยาสตีล เอง ก็พยายามลงทุนที่จะเป็นโรงงานถลุงเหล็ก เอง ซื้อ เป็นธุรกิจต้นน้ำของเหล็กเลยครับ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะอะไร.............. เงินทุนเหรอ ..... ไม่ใช่ แต่เป็นองค์ความรู้ตะหาก คนหนึ่งคนไม่สามารถสร้างโรงงานได้ท้้งโรง......... ประเทศไทย มีวิศวกรรมด้านโลหะ กี่แห่ง บัณฑิต กี่คน แล้วมีใครเลยอยู่โรงงานถลุึงแร่เหล็กบ้าง ตอบได้เลย ทั้งประเทศ มีไม่ถึง 3 คนด้วยซ้ำ แค่ ดร.ด้านโลหะวิทยาตรง ๆ ตอนนี้ ก็มีไม่ถึง 10 คน

   ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจำเป็นต้องให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน อย่างน้อยก็ได้องค์ความรู้ประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้หาซื้อไม่ได้ ครับ...........

  ส่วนเหตุผล อื่น ๆ เฮียกบอธิบายได้ถูกต้องหมดแล้วครับ อิอิ


โดยคุณ tantongs เมื่อวันที่ 12/03/2009 01:34:13


ความคิดเห็นที่ 3


เกิดเสียทีเถิด ขอร้องงงงง
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 12/03/2009 02:25:38


ความคิดเห็นที่ 4


สวัสดีครับพี่กบ ชอบคำว่าไอ้กับอีบ้าบางคน โดนมากๆ เวียดนามได้ทั้งอินเทลและไมรโคซอร์พเลยอิจฉามากๆ

อุตสาหกรรมที่ผมเสียดายอีกอย่างคืออุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ที่ คุณ ชาญ �อ้ศวโชค �พยายามให้สยามประเทศมีอุตสาหกรรมต้นน้ำทางอิเลกทรอนิกส์ปัจจุบันหายไปกับกาลเวลา�

โดยคุณ u209 เมื่อวันที่ 12/03/2009 04:51:59


ความคิดเห็นที่ 5


โครงการเหล็กต้นน้ำ ของกระทรวงอุตสาหกรรม และ บริษัท สหวิริยา และในเครือ เป็นข้อบาดหมางกันระหว่าง ชาวบ้านในพื้นที่ เอาว่าทั้งอำเภอและ ตัวบริษัทเอง ขนาดว่า ทำการสำรวจ EIA ผ่านโดยนักวิชาการระดับแนวหน้า
ชาวบ้านยังไม่ยอมรับเพราะเขาไม่เชื่อ ในประสิทธิภาพของการรักษาสิ่งแวดล้อม ของบริษัท สหวิริยา ครับ อีกทั้งตัวหัวหน้าผู้รณรงค์ไม่เอาโรงเหล็กที่ว่านี้ ก็โดนยิงไปเีรียบร้อย สร้างความบาดหมางให้มันรุนแรงขึ้นไปอีก
   โดยส่วนตัวเป็นผมก็ไม่ชอบให้โรงถลุงเหล็กมาตั้งหน้าบ้านผมเหมือนกันเพราะ
1. มันไม่ได้สร้างงานให้ชาวบ้านอย่างที่ิคิด ซ้ำร้ายยังฉุดความเจริญของชาวบ้านแถบนั้นเพราะ ปู ปลาเขาจะหาไม่ได้
ต้นมะพร้าวที่ปลูกก็อาจจะเน่าตาย ถ้าโดนฝุ่นผง รุมซะเละ
2.สภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบจะัเสียหายจริงๆ ไม่เชื่อลองไปดูแถวพระสมุทรเจดีย์ก็ได้ โรงเหล็กที่ผลิตเหล็กก่อสร้่าง
เหล็กข้ออ้อย เหล็กเส้นต่างๆ รวมทั้งท่อเหล็กก็ทำให้สภาพแวดล้อมในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ไม่ค่อยดีเท่าไร
  ด้วยฤทธิ์พ่อค้าต้องการลดต้นทุนการขนส่งเลยไปให้โรงงานอยู่ใกล้ทะเล
จะได้ขนส่งได้สะดวก ประหยัดไม่เสียค่า สต๊อก ผลิตเสร็จส่งเลยทำนองนี้
แต่ ด้วยตัวโรงงานต้องใหญ่ขนาดเท่าตำบลนึงได้
     โดยส่วนตัวอยากให้ตัวโรงงานย้ายไปอยู่ในที่ไม่โดนชาวบ้านเลยจะดีกว่า
แบบไปอยู่ในที่ไม่ค่อยเจริญ ห่างจากอำเภอเยอะๆหน่อย แล้วทำระบบขนส่งทางราง เองซะ ขนด้วยรถไฟน่ะครับ เขาว่าถูกมากเมื่อเทียบกับรถยนต์แล้วค่อยส่งมาทางท่าเรือ ส่งเข้า นำออก ก็ว่าไปครับ ไม่ใช่มาตั้งจุดเดียวกันแล้วก็มาทะเลาะกันจนเลยเถิด ไปไกล
  หมายเหตุ ความเห็นส่วนตัวนะครับ
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 13/03/2009 08:38:34


ความคิดเห็นที่ 6


กรณีโรงงานเหล็ก เครื่อสหวิริยา นี่ต้องลงไปหาข้อมูลในพื้นที่และทำตัวเป็นชาวบ้าน อย่าไปในแบบนักวิชาการครับ ถึงจะรู้ตื้นลึกหนาบาง เอาเข้าจริงนั้นมันมีชาวบ้านทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ ไม่ใช่ กลุ่มบริษัทกับชาวบ้าน ถ้าดูพื้นที่ที่ก่อสร้างโรงงานนั้น แรกตรงนั้นจะเป็นบริเวณที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่มากและห่างชุมชนร่วมสิบกว่ากิโลเมตรเพราะเป็นพื้นที่เสื่อมโทรม มามีการสร้างห้องพัก ร้านอาหารตามในเวลาต่อมาครับ และคนที่ค้านและเห็นด้วยนี่จะว่าเป็นชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ถูกทั้งหมดครับ เพราะชาวบ้านตำบลแม่รำพึงไม่ค่อยจะมีปัญหามากนักเพราะทางบรษัทค่อนข้างจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาและช่วยเหลือชาวบ้านอยู่เนืองๆ แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้วมันแรงทั้งคู่ครับ ไม่ได้โดนเฉพาะฝ่ายที่คัดค้าน ฝ่ายสนับสนุนนั้นก็โดนกระทำไม่แพ้กัน แต่ข่าวมันออกมาด้านเดียวครับ ถ้าลองได้ลงพื้นที่จริงๆจะเห็นว่า ส่วนที่สมบูรณ์อยู่นั้นก็ยังสมบูรณ์อยู่ครับ แต่ความรุนแรงนั้นมันไม่น่าจะเกิดหากหันหน้าเข้าหากัน การคัดค้านมันมีมาตั้งแต่เริ่มตั้งโรงงานรีดร้อนแล้วครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 13/03/2009 21:30:44