หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เครื่อง บ.ชอ.2 (ช่วยคิดหน่อย)

โดยคุณ : e.than เมื่อวันที่ : 11/03/2009 17:30:59

เหมือนได้ข่าวว่า ทอ.ฟิลิปปิน สนใจเครื่องบิน บ.ชอ.2 ของไทยเป็นจริงรึเปล่า....และถ้าจะเข้าประจำการเป็นเครื่องฝึกและโจมตีแทน AU-23ของ ทอ.ไทยได้หรือไม่....

ผู้รู้ทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยคับ...





ความคิดเห็นที่ 1


จริงๆแล้ว เครื่องบินที่ ทอ.วิจัยพัฒนา และรวมถึงการซื้สิทธิบัติมาทำเอง(เอาแบบยุคหลังกึ่งพุทธกาลนะ)  มีอยู่หลายแบบ ได้แก่ บ.ทอ. หนึ่งสี่ ห้า แฟนเทรนเน่อร์ และล่าสุด บ.ชอ.สอง (กำลังพัฒนาเป็น บ.ทอ.ติดเครื่อง เทอร์โบพร็อพ)...................

รุ่นที่ประสบผลสำเร็จงดงามคือ บ.ทอ.สี่ ซึ่งถูกพัฒนาเป็น บ.ฝ.สิบเจ็ด จันทรา (มิใช่จันคารานะจ๊ะ) มีการสร้างเข้าประจำการถึง สิบสองลำ และใช้ในราชการถึงสิบห้าปี รุ่นที่ท่าทางน่าจะเวอร์สุดแต่พลิกล็อค คือ บฝ.สิบแปด แฟนเทรนเน่อร์  แม้จะเป็นการสร้างตามแบบที่ได้วิจัยของต่างประเทศในรูปสิทธิบัติการสร้าง และมีจำนวนสั่งทำเข้าประจำการในกองทัพมากกว่าสามสิบลำ แต่การใช้งานจริงมีความปลอดภัยต่ำ จึงต้องปลดประจำการเร็วกว่าที่ควรเป็น แม้ขณะที่เปิดสายผลิต จะได้รับสัญญาจากบ.แม่(ชื่อ อะไรน้า ฟลุคๆ ซอยยาว อะไรเทือกนี้แหล่ะ แหม่ แต่ชื่อดั๊นไปคล้ายกะรถดับเพลิงที่เล่นเอาหล่อเล็กตกเก้าอี้ด้วยสิ) ให้สร้างส่วนปีกเพื่อส่งมอบในรูปซับคอนแทร้คฯ  แต่อย่างว่าอ่ะ ในแง่การตลาดของต้นสังกัดคงไม่ดีนัก สังเกตจาก ไม่เห็นมีชาติไหนเค้าสั่งสร้างเข้าประจำการเป็นล่ำเป็นสันซักคน ไทยเป็นชาติเดียว (อีกแล้วคับถั้น......)  ดังนี้ ในเรื่อง ค้าๆขายๆ ก็มีอันต้องพับไป ของที่ทำเองก็ดันใช้ไม่ได้ ส่วนไอ้ที่จะส่งออก ต้นสังกัดก็ดั๊น บ่อมีไก๊ ....................เรียบร้อยโรงเรียน ฟลุ๊ค ซอยยาว........................... มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 08/03/2009 11:55:21


ความคิดเห็นที่ 2


ทีนี้มาเรื่อง บ.ชอ.สอง ..................................... โดยวิถีทางอันเป็นรูปแบบการพัฒนา โครงการนี้ใช้หลักการ รีเอ็นยิเนียริ่ง ซึ่งฟังดูมันก็เข้าท่านะ เป็นวิชาการทางวิศวกรรมดีอยู่หรอก  แต่ถ้าแปลไทยเป็นไทย (แบบไทยบ้าน ตาสีตาสา) ก็ต้องบอกว่า เป็นการใช้ความรู้ทางวิศวกรรม เพื่อลอกผลงานเค้านั่นแหล่ะ................นี่เกิดสร้างมาแล้วเวิร์ค ดังเปรี้ยงปร้าง ลูกค้าสั่งออร์เดอร์ทำกันระวิง มาเช็ตติ  เค้าจะมาขอทวงค่าลิขสิทธิ์รึเปล่ามิทราบ.............................เอ้าคิดไปทำไมไกลตัว เอาใกล้ๆก่อนดีฝ่า เน๊อะ.......................

ว่าด้วย เอสเอฟ-สองหกศูนย์ ของมาเชตตี อิตาลี่ นี่ เคยประจำการในฝูงฝึกของทอ. ในนาม บ.ฝ.สิบห้ามาแล้ว  ซึ่งปลดประจำการลงตรงปี สี่สอง นี่เอง โดยรับบทเป็นเครื่องบินฝึกศิษย์การบินระดับมัธยม (จริงๆน่าจะเป็นสาย ปวช มากกว่า เพราะมัธยมสายตรงสามัญ เค้าจะไปบิน ที-สามเจ็ด ทวินนี่กัน).......................

ทุกวันนี้ ทอ.ไทยเรา มีเครื่องฝึกมัธยมปีกตรึงแบบเดียว คือ พีซี-เก้า เห็นเค้าว่าเทียบได้กะเครื่องไอพ่นเลยนะนั่น   ทีนี้ถ้าจะว่าไป เรามีเครื่องฝึกที่แรงน้อยกว่าซักหน่อย เน้นประหยัด เอาไว้ฝึกนักบินที่จะไปบินตรวจการณ์ หรือ ลำเลียง เครื่องแบบนี้ถือว่าน่าสน ทีสำคัญคือจะได้ช่วยยืดอายุ พีซี-เก้าให้ใช้ได้อีกนานโข....................

งานนี้ถือว่าไอเดียเจ๋ง.......................... คือเป็นที่รู้กันแล้วว่าเครื่องรุ่นนี้ป้อปปูล่าร์   งานนี้ถ้าทำใช้แล้วเว้อร์ค จำนวนสั่งสร้างมากพอที่จะการันตีเรื่องอะไหล่ได้  เชื่อว่าหลายๆกองทัพที่เคยใช้เอสเอฟ-สองหกศูนย์ น่าจะให้ความสนใจ........................... นี่มีข่าวขนาดว่าแค่วิจัย (ว้าวหรูจัง วิจัย???)  พี่ปินส์ยังให้ความสนใจซะแล้ว.......................

ก็ขออวยพรให้ประสบผลสำเร็จ ทั้งในแง่เทคนิคส์ และ ในเรื่องการค้าควบคู่ไปด้วยกันนะครับ.........................ถ้าดัง โปรเจคหน้า วิจัยและสร้างเองเลย  รีเอ็นยิเนียริ่ง ในชิวิตจริงมันหมิ่นเหม่ ครับ...................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 08/03/2009 12:29:41


ความคิดเห็นที่ 3


เงอะ จริงเหรอครับ ผมวิ่งในบอร์ดฟิลิปปินส์ทุกวัน ยังไม่เห็นเขาพูดกันเลยครับ ^ ^"

ผมว่างานแรก ก่อนที่คิดจะไปขายให้ใคร ........ เอามันเข้าประจำการให้ก่อนครับผม ..... วิจัยให้ได้ผล เอามาแทน CT-4A/E รวมถึง T-41D ให้ได้ก่อนครับ น้อยคนที่จะซื้อของที่ไม่เคยประจำการในประเทศผู้ผลิต (และนั่นก็คือประเทศไทย - -a)

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 08/03/2009 14:04:20


ความคิดเห็นที่ 4


ส่วนเรื่องเข้าประจำการแทน Peacemaker ก็ต้องถามอีกนั่นแหละครับว่าทอ.ยังมีคงภารกิจแบบ Peacemaker ไว้หรือไม่ .... ความจริงส่วนตัวผมนะครับ จะมีภารกิจหรือไม่ ทอ.ก็ควรที่จะจัดหามาครับ อย่างน้อยลง 604 (6 ลำ), ลงโรงเรียนการบิน (สัก 24 ลำ), ลง บน.5 (สัก 20 ลำ) แค่นี้ก็คุ้มค่าที่จะเปิดสายการผลิตแล้วครับ แล้วก็ให้รัฐบาลถามกันไปว่าหน่วยงานไหนต้องการเครื่องบินบ้าง ทบ. ทร. เกษตร ป่าไม้ กระทรวงทรัพฯ .... รวมความต้องการ เผลอ ๆ ได้สักร้อยลำครับ

ทำเถอะครับ เลิกเสียทีคำว่า "สร้างเพื่อหาประสบการณ์" .... เพราะผมก็ไม่เข้าใจว่าหาไม่คิดจะใช้ประสบการณ์นั้นแล้วจะหาประสบการณ์ไปทำอะไร .... ผมฟังคนสวีเดนพูดแล้วจี๊ด เพราะเขาบอกว่าบ้านเขาจะได้ใช้หรือไม่ไม่รู้ แต่เขาก็จะซื้ออาวุธที่เขาผลิตเอง ซื้อเกินความตอ้งการด้วย ซื้อมาเก็บก็ไม่สนใจ แค่ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมการทหารในประเทศ .... เทคโนโลยีจาก Gripen ก็ควรจะต้องเอามาใช้ เอามาถ่ายทอดให้หน่อวยงานอื่น ถ้าทอ.จะยังกั๊กไว้คนเดียว ยังจะหาประสบการณ์โดยไม่คิดจะใช้อยู่แบบนี้ .... ยกเลิก deal ของ Gripen แล้วไปซื้อ F-16 มาเถอะครับ!

ผมยังรอฟังจากทอ.และท่านผบ.ทอ.อยู่นะครับว่าทอ.จะทำอย่างไรกับบ.ชอ.2 (ซึ่งจะต้องกลายมาเป็น บ.ชอ.6) และเทคโนโลยีที่ได้รับถ่ายทอดมาครับ ยังไงผมยังมั่นใจว่าท่านเป็นคนเก่ง อย่าทำให้ทุกคนที่มองดูท่านอยู่ผิดหวังเลยนะครับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 08/03/2009 14:15:15


ความคิดเห็นที่ 5


อ้อ ลืมบอกไป ฟิลิปปินส์จัดหา SF260 จำนวน 18 ลำกับ T-41D มือสองจากเกาหลีใต้จำนวน 36 ลำไปแล้ว เขาใช้ SF260 มาเป็นเวลานานมากแล้ว เรามาช้าไปนิดแต่ผมว่าถ้าเราเอาเข้าประจำการได้จริง ฟิลิปปินส์เป็นลูกค้าที่น่าสนใจครับ นอกนั้นก็ลาว เขมร เวียดนาม บังคลาเทศ หรือประเทศอะไรราว ๆ นี้ก็มีโอกาสที่จะซื้อเครื่องเราได้ครับ ถ้าเราผลิตเข้าประจำการได้จริง
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 08/03/2009 14:22:10


ความคิดเห็นที่ 6


เอาเป็นว่า บ.ชอ.๒ คงจะสร้างได้แค่เครื่องเดียว...และไม่สามารถสร้างขายใครได้..เพราะจะผิดกฎหมาย..ง่ายๆ เพราะ บ.ชอ.๒ คือกอปปี้ SF-260 มาทั้งดุ้น...

แต่โครงการ พัฒนา บ.ทอ.๖ หละก็ไม่แน่ครับ

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 08/03/2009 20:47:27


ความคิดเห็นที่ 7


รูปแบบการพัฒนา บ.ฝึกใบพัดเพื่อใช้ประจำการเป็นจำนวนมากและส่งออกน่าจะดูแบบแผนการพัฒนาจาก KT-1 ของเกาหลีใต้ด้วยส่วนหนึ่งครับ เพราะ บ.KT-1 นี้จริงๆต้นแบบก็มาจาก PC-9 และ T-6 Texan II ซึ่งที่เคยทราบมาในช่วงการพัฒนาแรกๆมีการเชิญผู้ชำนาญการจาก Pilatus สวิสเซอร์แลนด์มาทำการอบรมการออกแบบเครื่องบินครับ

อย่างไรก็ตามถ้า บ.ฝึกใบพัดแบบใหม่ของไทยสร้างออกมาสำเร็จและสามารถผลิตใช้งานได้เป็นจำนวนมากๆจริง โอกาสในการแข่งขันในภูมิภาคนี้ก็คงมีไม่มากนักอยู่ดีครนับ ถ้าเทียบกับ บ.แบบอื่น เช่น KT-1 ของเกาหลีใต้เองก็ได้รับการจัดหาจากอินโดนีเซียเป็นจำนวนมาก และตุรกีก็จัดหาไปเพราะพร้อมกับสิทธิบัตรในการผลิตประกอบเองในประเทศครับ เพราะ KT-1 นี้ถ้านับจริงๆโครงการเริ่มพัฒนาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า20ปีครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 08/03/2009 22:23:51


ความคิดเห็นที่ 8


เอาใจช่วยครับ ขอให้ บ.ทอ.๖ ได้แจ้งเกิดแล้ว Go inter ซะทีครับ

โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 08/03/2009 23:56:24


ความคิดเห็นที่ 9


ขอให้ ทอ.ทำสำเร็จนะครับ เอามันเข้าประจำการใ้ห้ได้

ที่จริงไม่ต้องหวังถึงขนาดขายต่างชาติ เอาแค่สร้างแล้วใช้ในกองทัพไทยเองทุกเหล่าทัพได้ ผมก็ดีใจจะแย่อยู่แล้วครับ
โดยคุณ krubannok เมื่อวันที่ 09/03/2009 03:39:36


ความคิดเห็นที่ 10


เอาเถอะ ผมจะรอดูว่า บ.ทอ.๖ จะแจ้งเกิดในกองทัพหรือเป็นแค่เครื่องต้นแบบเพื่อหาประสปการณ์

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 09/03/2009 05:57:25


ความคิดเห็นที่ 11


ขออนุญาต Share ความเห็นครับ

“ตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ ถึงพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว ”

ปล. เคยได้ยิ่งในโฆษณาครับ  

โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 09/03/2009 06:02:47


ความคิดเห็นที่ 12


เป็นการพิสูจน์อะไรบางอย่างของ ทอ เพราะเป็นเหมือนข้อสอบเลยครับ

เพราะพูดถึง  ทร เอง ก็พิสูจน์หน่วยงานของ ทร ให้เราเห็นเสมอ จนตัวผมเข้าใจว่า สิ่งที่ ทร ทำ ต้องการนำมาใช้งาน เพื่อลดการพึ่งพาจริงๆ

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 09/03/2009 06:18:32


ความคิดเห็นที่ 13


แหะๆๆ คมครับคม....................แต่ชีวิตจริง เอาแค่ตีให้อยู่ในแฟเวย์ ถ้าพลาดก็ โอบี ไม่ก็ตกน้ำ ครับ................................. เอาหล่ะ เอาหล่ะ แพ้ต
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 08:04:39


ความคิดเห็นที่ 14


จริงๆ ผมว่า ทั้ง บ.ชอ๒ บ.ทอ.๖ และถ้าเวอร์คจริง กลายเป็น บ.ฝ.๒๐ เราน่าจะต้องขออนุญาติผลิตจากเจ้าของทั้งหมดครับ........................

เรื่องมีอยู่ว่า ทอ.ต้องการเครื่องบินฝึกเข้าประจำการอีก ๑ ฝูง เพื่อใช้งานควบคู่กับ บ.ฝ.๑๙ (เหมือนกรณี แฟนเทรนเน่อร์ คู่กับ ที-๓๗ ทวินนี่)   แต่เพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการสร้างเครื่องบินของไทย   เครื่องฝูงนี้ ทอ.จะสร้างขึ้นด้วยตัวเอง...................

 

และเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการวิจัยพัฒนา (และ/หรือ ทอ. เองอาจตระหนัก และเข้าใจในการประเมินขีดความสามารถของตัวเอง อย่างเช่นกรณีความล้มเหลวของ บ.ทอ.๕)     เครื่องที่จะสร้างจึงต้องใช้แผนแบบจากแหล่งอื่น ........................... และเพื่อเป็นการไม่ก้าวผิดเป็นครั้งที่สอง(เช่นกรณี เครื่องฝึกแฟนเทรนเน่อร์)   แผนแบบที่เลือกมานั้น ควรเป็นเครื่องบินที่ใช้งาน หรือเคยใช้งานในกองทัพ และผ่านการยอมรับจากนักบินแล้วว่า ใช้งานได้อย่างดีและปลอดภัย..........................มีต่อ

ภาพ เอสเอฟ-๒๖๐  เมื่อครั้งประจำอยู่ที่ฝูงฝึกการบิน โรงเรียนการบินกำแพงแสน

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 09:20:37


ความคิดเห็นที่ 15


ผมขอสนับสนุนด้วยคนครับให้ ทอ.จัดหา บ.ทอ.๖ เข้าประจำการ รวมถึงหน่วยงานของรัฐอื่นๆด้วยครับที่ต้องการเครื่องบินประเภทนี้ ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ครับ
โดยคุณ khanchai เมื่อวันที่ 09/03/2009 09:31:05


ความคิดเห็นที่ 16


เอสเอฟ-๒๖๐ คือคำตอบ............................ ตลอดระยะเวลาเกือบ ๓๐ ปี ที่เครื่องบินรุ่นนี้รับใช้กองทัพอากาศ  ได้รับการการันตีแล้วว่า น่าจะเป็นเครื่องบินที่ดีหากได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย และนำกลับเข้ามาใช้ประจำการอีกครั้งหนึ่ง..............................

ปัญหาหลักติดอยู่ที่ว่า  สายการผลิตได้ปิดตัวลงนานแล้ว และเชื่อว่าพาร์ทหลายตัว บริษัทเจ้าของการผลิต น่าจะเลิกทำไปแล้ว   ................ซึ่งนั่นก็จะได้เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาเพื่อนำเอาสิ่งที่สามารถจัดหามาได้ตามแก่ความเหมาะสมของกาลเวลา เพื่อนำมาพัฒนาให้เครื่องชนิดนี้กลับมาเปิดสายการผลิตได้อีกครั้ง ในเวอร์ชั่นเมดอินไทยแลนด์   .................... การแก้ปัญหา ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าอยู่ในขั้นวิจัยจะทำอย่างไรนั้นจะได้กล่าวในลำดับต่อไป................... มีต่อ

 

ภาพ....เอสเอฟ-๒๖๐ พีที เปิดตัวโดยเจ้าของผู้ผลิตในปี ๒๕๒๖ ในเวอร์ชั่น เครื่องเทอร์โบพร้อพ ของโรนสรอย แรงขับ ๓๕๐ แรงม้า ใช้งานในหลายกองทัพ ปัจจุบันได้ทะยอยปลดประจำการ และหลายลำตกอยู่ในเมือนักเล่นเครื่องบินผู้มากทรัพย์..............................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 09:37:02


ความคิดเห็นที่ 17


ลำดับขั้นการวิจัยและพัฒนา

ขั้นแรก เป็นการร่ายมนต์เรียกวิชาของเหล่ายอดฝีมือ  ................. ขั้นนี้เป็นการสร้างเครื่องบินในเวอร์ชั่นเดิม โดยพาร์ทต่างน่าจะเป็นของเท่าที่มีอยู่และจัดหาได้   วัตถุประสงค์ขั้นตอนนี้คือ การเสริมสร้าง และทบทวนทักษะงานสร้างและประกอบเครื่องบินเป็นหลัก   .... ................ผมเชื่อว่าพาร์หลายตัว น่าจะเป็นของที่ยังพอมีในท้องตลาด ในส่วนที่จัดหาไม่ได้ อาจพึ่งพาพาร์ทเก่าเท่าที่มีอยู่หลังปลดประจำการเอสเอฟ-๒๖๐ เมื่อหลายปีก่อน    สำหรับ โครงสร้างและลำตัว เชื่อว่าคงไม่พ้นมือระดับอ๋อง ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างและประกอบ แฟนเทรนเน่อร์มาแล้วหลายสิบลำ................................. ผลงานที่ออกมา ได้รับการตั้งชื่อเป็น บ.ชอ.๒ ..........................

ขั้นที่สอง เมื่อกระบวนการลับฝีไม้ลายมือผ่านเป็นผลงานออกสู่สาธารณชนเป็นรูปร่างใช้ได้แล้ว  ขั้นต่อไปคือการวิจัยและพัฒนาเครื่องต้นแบบ.................เอาหล่ะ ทีนี้เอาจริงหล่ะนะ....................อย่างที่กล่าว การนำเครื่องบินรุ่นเก่ากลับเข้าประจำการอีกครั้งหนึ่งนั้น ก็ควรต้องได้รับการพัฒนาให้เหมาะสม ทันยุคทันสมัย................. การเลือกเอาโครงงานซึ่งเป็นผลของการต่อยอดจากบริษัทผู้ผลิตในอดีต มาสานต่อให้สมบูรณ์อีกครั้ง จะเป็นการลดภาระการค้นคว้าวิจัยลงไปได้อีกเยอะ................ เอสเอฟข๒๖๐ พีที คือหัวข้อที่จะได้กล่าวต่อไป............มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 09:53:48


ความคิดเห็นที่ 18


การปิดสายการผลิตลงเป็นเวลานาน ทำให้การจัดหาพาร์เพื่อสนับสนุนการประกอบสร้าง จากแหล่งเดิมมีโอกาสเป็นไปได้น้อย.......................

ในขั้นตอนต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องของการประยุกต์ เพื่อจัดหาพาร์ทจากแหล่งใหม่  .....................

ดังที่ทราบ ถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้างและลำตัวนั้น เราพึ่งพาตัวเองได้ แต่ถ้าเป็นชิ้นงานที่ซับซ้อน  งานนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตภายนอกซึ่งเขามีความชำนาญ และเป็นผู้ผลิตพาร์ทป้อนแก่บริษัทผลิตเครื่องบินทั่วโลก  และที่สำคัญคือ ชิ้นส่วนนั้นๆไถ้เกิดเค้าเลิกทำการผลิตไปนานแล้ว  การจัดหาการทดแทนจากแหล่งอื่น ซึ่งก็อาจมีคุณสมบัติทางกายภาพแตกต่างจากชิ้นส่วนเดิมที่เคยใช้ นั่นเป็นการแก้ปัญหาระดับน้องๆงานวิจัย.................... ยกตัวอย่างเช่น แลนดิ้งเกียร์ ในกรณีรุ่นที่ใช้เลิกผลิต การจัดหารุ่นที่มีคุณสมบัติและขนาดใกล้เคียงเพื่อนำมาติดตั้งใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย .............. เพราะอากาศยานจะเน้นความสำคัญเรื่องจุดศนย์ถ่วง การเปลี่ยนพาร์ท ซึ่งอาจมีขนาด น้ำหนัก หรือจุดยึดติดที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมทำให้ซีจีเปลี่ยนแปลง และนั่นย่อมส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์............................... ไม่แน่ เปลี่ยนแลนดิ้งเกียร์ใหม่ อาจส่งผลให้ต้องขยายพื้นที่ปีก หรือเพิ่มความยาวของดุมใบพัด  ........................ฟังแล้วมันหมูใหมหล่ะท่าน.................................มีต่อ...............

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 10:11:20


ความคิดเห็นที่ 19


รู้สึกว่า เนตจะมีปัญหานะครับ  ยิ่งเขียนยิ่งตาลาย   อีกทั้งยังต้องรีบ กลัวตกน้ำป๋อมแป๋ม  อ่านแล้วงงตัวเอง คำฟุ่มเฟีอยเพียบ วกไปวนมา  เพื่อนๆอ่านแล้วช่วยเกา(เกลา)ด้วยนะครับ   เอาว่าวันนี้พอก่อน ต่อเมื่ออื่นละกัน................ขอบพระคุณครับ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/03/2009 10:36:24


ความคิดเห็นที่ 20


เข้าไป update ข้อมูลของ บ.ทอ.๖ กันหน่อยครับ

http://www.dae.mi.th/PrototypeDesign_6_Aircraft.htm

หวังว่าวันเด็กปี 54 คงจะได้ชมเป็นขวัญตานะครับ

โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 09/03/2009 15:17:08


ความคิดเห็นที่ 21


คู่แข่งรายสำคัญของ บ.ทอ.๖

เป็นทางแยกที่สำคัญโดยจะเลือกระหว่าง CT-4F หรือ บ.ทอ.๖ ดีนะ

ข้อมูลของ CT-4F ครับ

http://www.thaic-130.com/content_954_16395_TH.html3 

http://www.aerospace.co.nz/cms_resources/Australian%20Aviation%20CT-4F.pdf

ปล. จาก User จะกลายเป็น Developer ได้ไหมนะ


โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 09/03/2009 15:36:40


ความคิดเห็นที่ 22


บ.ทอ.๖ ก็คือ บ.ชอ.๒ ที่เปลี่ยนเครื่องยนต์จาก ลูกสูบนอน เป็นเทอร์โบ ครับ...จากนั้นก็พัฒนาปีกให้แข็งแรงเพื่อติดอาวุธได้ด้วย...

...การวิจัยและพัฒนาอากาศยานแบบต่างๆ ของกองทัพอากาศ สามารถดำเนินการได้ เป็นรูปธรรม  แต่การพัฒนาเพื่อสร้างเข้าประจำการยังติดระบบราชการ และระเบียบการบินต่างๆ อยู่มาก...หากจะสร้างเพื่อขายได้นอกเหนือจากการประจำการใน ทอ. อาจจะต้องโอนงานสร้างไปให้ TAI เพราะมีศักยภาพ และมีการขออนุญาตหรือสามารถพัฒนาไปสู่การขอใบอนุญาตของ FAA ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลได้..เมื่อนั้น บ.ทอ.๖ จะเป็นเพียงต้นแบบที่พัฒนาไปสู่การเปิดสายการผลิต  ในรูปของชื่อ มาตราฐาน เช่น  T-1A  "กินรี"   เป็นต้น.......

 

สุดท้ายอยู่ที่รัฐบาล.....รัฐบาลต้องซื้อเองครับ...สั่งซื้อ ๕๐ เครื่องแรก แบบที่มาเลเซีย  อินโดนีเซีย  เกาหลีใต้  ญี่ปุ่น จีน ฯลฯ เขาทำ...ซื้อเพื่อเปิดสายการผลิต...แล้วก็มอบให้ โรงเรียนการบิน ทอ. ประเดิม ๒๐ เครื่อง  สถาบันการบินพลเรือน  ๒๐ เครื่อง อีก ๑๐ เครื่องให้โรงเรียนการบิน ทบ.  .....จากนั้นราคาจะถูกมีมาตรฐาน..ก็จะมีการจัดสร้างเพิ่ม...อาจจะเป็น T-1 B รุ่นใช้งานพลเรือน....T-1 C รุ่นส่งออกทางทหาร...T-1 D รุ่นติดอาวุธ ....ฯลฯ


โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 10/03/2009 21:34:36


ความคิดเห็นที่ 23


ถ้าเอกชนอยากเข้ามาแจมนี่ ทอ จะว่าไงบ้างครับท่านท้าว เตรียมการรองรับหรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นไปไม่ได้

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 11/03/2009 00:44:21


ความคิดเห็นที่ 24


^
^
^
ควรจะให้เอกชนมาแจมด้วยซ้ำครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 11/03/2009 06:31:01