แล้วตกลงภาคนี้จะฉายเมื่อไหร่ครับเห็นได้ข่าวมาว่าจะฉาย

30เมษายนปีนี้ครับไม่รู้ว่าจะโดนโรคเลื่อนอีกเปล่าหว่าเห็น

เลื่อนมาหลายรอบแล้วที่แรกเลยบอกว่าจะฉาย5ธันวา50

และก็เลือนมาเป็น5พฤกษภา51จนมาล่าสุดบอกว่าจะฉาย

30เมษายน52หนังเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ผมลงทุนลาพักร้อน

2วันเพื่อไปดูตอนไปดูภาค2คนเยอะมากผมได้ซื้อตั่วเอาเกือบ

เที่ยงแต่ได้ดูเอาตอนบ่าย2โมงแต่ไปถึงหน้าโรงประมาณ10โมง

หนังเรื่องนี้อีกเหมือนกันทีดูทั้งในโรงและตามซื้อVCDทั้ง2ภาค

และของจริงด้วยไม่ใช่เทปผีและตอนนี้ดู2ภาคไปจะเกือบ10รอบ

ได้แล้วมั่ง

ตามกำหนดการเข้าฉายสิงหาคม ปีนี้นี่ครับ ( ๒๕๕๒) ดูจากเวปพันทิพย์เหมือนกันครับ กำหนดการฉายภาพยนต์ปี พ.ศ. ๒๕๕๒

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/release/release-2009.html

รอง ผบ.ม.พัน.๒๘ ท่านแข็งแรงครับ จบ เสธ.ทบ. มาด้วยคะแนน อันดับ ต้นๆๆๆๆ ของ ทหารม้า... ลง คุมกำลัง เลยเชียว... อนาคต ไกล... โข..

พบท่านครั้งเดียว ที่ พล.ม.๑ ตอนรายงานตัวเข้า พล.ม.๑... ครับ ผม..

ส่วน ผม ม้าบิน อยู่บ้านใหญ่ ยังไกลเกินไปที่ จะคิด....

ถ้าเป็นอย่างที่คุณ nok บอกมาว่าจะมี 4 ภาคจริง ภาค 3 คงได้เห็นแต่ตอนพระเจ้านันทบุเรงเกือบโดนจับ  และก็ในส่วนของ ลักไวทำมู , พระแสงดาบคาบค่าย (ถ่ายไปนานแล้ว) ประมาณนี้หละมั้งครับ

รู้สึกว่าหลัง ๆ มานี่ หนังของค่ายเสี่ยจะเน้นขยายภาคต่อเรื่อย ๆ นะครับ องค์บาก ก็มีข่าวว่าจะปาเข้าไป 6 ภาค อะไรมันจะขนาดนั้น ยิ่งมากภาค ยิ่งเนื้อหาไม่ดี จะขาดทุนเอาหนะครับ

ส่วนตัวผม ก็ไม่ขอชมสักภาคครับ เพราะเฉย ๆ ไม่ได้ตื่นไปตามกระแส อีกอย่าง รู้สึกโดยส่วนตัวว่า มันยังไม่ได้อารมย์ร่วมแบบอยากดูอะไรมากขนาดนั้นหนะครับ

ผมชอบนะครับ ทำได้ดีกว่าสุริโยทัย แต่ว่าหนังท่านมุ้ยยังดูเป็นบันทึกประวัติศาสตร์มากกว่าหนังครับ คือมันไม่ค่อย art นั้นแหละ คนดูหลาย ๆ ครั้งดูแล้วจะเบื่อเอา น่าหนังใส่ความมีชีวิตแบบหนังจอเงินเข้าไปได้ล่ะก็ ผมว่ามันจะสุดยอดกว่านี้เยอะครับ

สำหรับผมหนังเรื่องนี้ผ่านนะครับ แต่ยังไม่ดีที่สุด

ภาคนี้จะเป็น การล้อมกรุงของหงสาวดี ซึ่งก่อล้อมกรุงจะเป็น

 ศึกทัพ พระยาพสิมกับ พระเจ้าเชียงใหม่ พอล้อมกรุง

 คงเน้น ที่ การปล้นค่ายหงสาวดีของสมเด็จพระเนรศวรมหาราช

การดวลทวนบนหลังม้าระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

กับ ลักไวทำมู ที่ทุ่งถูเขาทองป่าว นะ  ซึ่งผมว่า ฉากนี้ควรจะโฟกัสเวยนะ

 เพราะ แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของมหาราชของไทยเราที่ ชำนาญวิชา

ทวนบนหลังม้า เอาชนะ มือทวนเอกแห่งหงสาวดี ซึ่งตามประวัติศาตร์

เพลงทวนบนหลังม้า ในภูมิภาคนี้ เห็นจะมี แต่พม่ากะมอญที่เด่นดังวิชานี้

 ใครเคยอ่าน เรื่องราชาธิราช พอจะทราบบ้าง  ซึ่งประวัติศาตร์หลายๆเล่มก้อยกย่อง สมเด็จพระนเรศวร ที่ทรงแตกฉาน สรรพวิชาด้านต่างๆ

ที่ได้เล่าเรียนจากหงสาวดี วิชาทวนบนหลังม้าก็คือหนึ่งในนั้น ที่ทรงได้เรียนรู้จาก พระเจ้าบุเรงนองโดยตรง

เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่แน่นะครับว่า ทหารม้าในยุคนันทะบุเรงนั่น อาจจะมีเชื้อสายสยามอยู่ก็ได้

เพราะนักประวัติศาสตร์พม่า เขาไปวิจัยพบว่า มีการบรรจุหน่วยทหารม้าชนชาติสยามไว้ในหน่วยรบของ พระเจ้าบุเรงนอง ด้วยครับ หน่วยทหารม้าชาวสยามนี้ โดนกวาดต้อนไปยุคของ พระเจ้าบุเรงนอง ตีกรุงศรีฯ แตกครั้งแรก

ผมเองอยากให้หนังเรื่องนี้จบลงที่ภาค3ขืนมากภาคไปกว่านี้

หนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็จะพลอยน่าเบื่อไปด้วยและ

อีกอย่างหนึ่งไม่อยากให้เรื่องตำนาน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลายเป็นหนังเรื่องแบบบ้านผีปอบ

ซึ่งเท่าที่จำได้มี15ภาคได้แล้วมั่งทีแรกๆๆก็น่าสนุกดีอยู่หรอก

แต่พอมากภาคเข้ามุกก็ออกมาแบบเดิมๆๆซ้ำซากจำเจเอาแค่

ว่ายังไม่ดูก็นึกตอนจบของหนังจะออกมาแบบไหนได้แล้วส่วน

องค์บากขอภาวนาให้มีแค่ภาค3ภาคเดียวก็พอไม่ต้องถึงขนาด

4 5 6 หรอก เพราะเท่าที่ดูเนื้อเรื่องไม่น่าจะยาวถึงขนาดนั้น

ภาค3นี้น่าจะจบแบบสมบรูณ์ได้แล้วเหตุผลก็คงคลายๆกับ

หนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 ผมว่า หลังจาก ประกาศอิสรภาพแล้ว มี ศึก ต่อจากนี้ไม่นาน เช่น

 ขับไล่ นันทสูกับราชสงครามที่ หงสาวดีส่งมาทำนาที่กำแพงเพชร

 ปรากบฎเมืองเหนือ ที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ แล้วก็จะเป็นศึก

 2ด้าน พสิมยกพลบุกจากทิศตะวันตก พระเจ้าเชียงใหม่บุกเข้าทางทิศเหนือ หวังจะให้อยุธยา  พะว้าพะวง  ซึ่งผมว่า ก่อนจะมีศึกล้อมกรุง

 ศึกกับพระเจ้าเชียงใหม่ ผมว่าก็เป็นเนื้อหาที่สนุกนะครับ  

จะได้ เห็นบทบาทของพระราชมนูที่เด่นขึ้นมาอีก  ในความห้าวหาญ

ที่จะรับศึก แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเนรศวรในเรื่อง

การศึก ซึ่งพระองค์ ได้ซุ่มมทหารไว้ แล้วทรงมีคำ สั่งให้ พระราชมนูถอย

ทัพลงมายังพื้นที่สังหาร พระราชมนู ยืนกรานว่าถอยไม่ได้ จนพระองค์มีคำสั่ง ไปยังพระราชมนู ถ้าไม่ถอย ให้ตัดหัวพระราชมนูมาถวาย

แสดงถึงความเด็ดขาดในการบัญชาการรบ แล้ว 

ศึก.....ล้อมกรุงอีกละที่เนื้อหาน่าสนใจเหมือนกัน  เช่นเสด็จยกพล ออกปล้นค่าย ของพม่า  จนพระเจ้านันทบุเรง ทุ่มกำลังจำนวนมากในการจับตัวพระองค์ จนพระเจ้านันทบุเรงเองต้องมาเสียขุนพลทวนมือหนึ่งไป

ผมว่า เนื้อหา มันต้องละเอียด ด้วยนะครับ มี4ภาคแต่ออกไม่ห่างกันมาก

ผมว่าจะทำให้ หนังเป็น สิ่งที่ใช้เรียนรู้ประวัติศาตร์ ได้อย่างดี

ส่วนเรื่องเพชรพระอุมาคุณ seekman คงรอหน่อยนะครับ เพราะตัวผมยังไม่มีเวลาให้สำหรับบทเเงซายครับ ^_^ เลยขอผัดมาตลอด  และที่สำคัญตัวผู้แสดงเป็นเมยานีที่จะมาคู่กับผมนั้น หายากครับ  แอฟกับจั๊กจั่นก็ตัวเล็กไป น้องเฟริ์น(ที่เคยเล่นเป็นคุณ ในบ้านนี้มีรัก) ก็ไม่มีคิวให้ครับ ซึ่งตรงนี้ผมค่อนข้างจะเลือกครับ  สำหรับนา่งเอกที่จะมาเล่นกับผม 55555555555

รับไม่ได้

ถ้าภาค3และ4ออกฉายเวลาไล่เลี่ยกันแบบภาค1และ2ก็ดีคนดูก็ได้ดู

อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องรอนานแบบภาค3ที่รอกันข้ามปีหนังเรื่อง

นี้ถ้าออกฉายคงจะมีคนไปดูเยอะเพราะคนเขาก็อยากรู้ว่าลักไวทำมู

จะโดนพระนเรศฆ่ายังงัยหรืออยากดูฉากปล้นค่ายของพระนเรศ

จะอลังการแค่ไหนเพราะว่าตามประวัติแล้วค่ายของพระเจ้าหงสาวดี

กำแพงค่ายสูงถึง10เมตรซึ่งเท่ากับตึก3-4ชั้นในสมัยนี้บันไดที่จะใช้ใน

การปล้นค่ายคงใช้คนหามไม่น้อยกว่า10คนกำแพงค่ายคงจะต้องใช้

ต้นตาลทำแล้วทำปลายแหลมใว้ที่พื้นคงทำขวากหนามมิให้ปล้นค่าย

ได้ง่ายนักแต่ว่าคนไทยเรามีนิสัยเสียอยู่อย่างคือลืมง่ายผมกลัวอยู่

เดียวถ้าภาค4ออกมานานเหมือนภาค3คนจะไม่ไปดูเอาน่า

ฉากตีเมืองพิชัยนี่รู้สึกว่าจะถ่ายทำเสร็จแล้ว เคยเห็นตัวอย่างตั้งแต่ก่อนฉายภาคแรกแล้วนะครับ เห็นแล้วอาจจะแปลกใจเพราะถ้าจำไม่ผิด จะมี บันไดเมฆ (Tower : จัดเป็น Siege War Machine แบบหนึ่ง ถ้าใครเคยเล่นเกม Total War ในยุคโรมันคงจะรู้จักดี) มาใช้ทำศึกด้วย

ซึ่งผมเคยไปถกกับ ท่าน ผกก.เรื่องนี้แล้วถึงความเป็นไปได้ในการใช้ Tower มาทำศึกเมืองพิชัย สมัยสมเด็จพระนเรศวรฯ เพราะผมมองว่า ถ้าเข็นกันเข้าไปอย่างนั้น ขี้คร้านคนเข็นจะตายกันเป็นเบือ เพราะว่าสมัยนั้น อาวุธวิถีไกลกว่าธนูในยุคโรมันเยอะ ทั้งปืนใหญ่แบบตะวันตก หรือจะเป็น ปืนคาบชุด ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงกว่า ธนู หรือ Ballista สมัยโรมันเยอะ

อีกอย่าง ท่าน ผกก. ท่านอ้างว่า เป็นหอรบแบบเคลื่อนที่ แต่เท่าที่ผมได้ไปลองอ่านในตำราพิไชยสงครามไทยโบราณ พบว่า หอรบจะปลูกอยู่กับที่ ไม่ได้เคลื่อนไหวเหมือนอย่างกับ Tower ที่ท่าน ผกก. จินตนาการแต่อย่างใด 

ผมก็เลยรู้สึกว่า มันจะทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนไปเยอะ คนที่ดูภาพยนต์ถ้าไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์มาก่อน ก็จะหลงเข้าใจและเชื่อในสิ่งผิด ๆ ไปได้ ซึ่งเมื่อเข้าใจผิดแล้วก็จะยากในการแก้ไขให้กลับมาถูกได้

ส่วนฉาก รบกับ ลักไวทำมู ผมก็อยากจะชมว่า ท่าน ผกก. จะกำกับฉากนี้ได้สมจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะการใช้ทวนบนหลังม้า นี่ก็เป็นตำราหนึ่งที่ปัจจุบันหาอ่านยากมากที่สุด เพราะต้องประกอบไปด้วย การควบคุมจังหวะม้า และ การใช้อาวุธทวน (Lance)  ก็ต้องรอชมว่าจะเป็นอย่างไร

ถ้าจำไม่ผิด ท่านผู้พันที่แสดงเป็น พระศรีถมอรัตน์ ก็เคยตกม้าจนเอ็นขาดไปแล้วหนหนึ่งเหมือนกัน ตอนถ่ายทำภาคก่อน ๆ ต้องรอคิวถ่ายเป็นเดือน ๆ