ตามที่มีการระบุไว้ในโครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพเรือ 2552-54 ของทร.ไทยเรานั้น โดยมีโครงการจัดหาเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าจำนวน 2 ลำ ในวงเงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆลองไปค้นหาข้อมูลจากเว็บฯgoogle.comอ่าน จะเห็นข้อมูลหลายกระแสข่าวจากเว็บไซด์ต่างประเทศต่างๆ ซึ่งจะพบข้อมูลกล่าวไว้มากมายทั้งเก่าละใหม่ บ้างก็ว่า ทร.ไทยจะมีการเช่าซื้อเรือดำน้ำเก่าของเนเธอร์แลนด์ต่อจากที่มาเลเซียได้ยกเลิกโครงการไว้, บ้างก็ว่าทร.ไทยได้ติดต่อขอซื้อเรือดำน้ำเก่าของอิสราเอลภายหลังจากที่อิสราเอลจัดหาเรือดำน้ำดอร์ฟินใหม่เข้าประจำการ, บ้างก็ว่า ทร.ไทยให้ความสนใจจะจัดหาเรือดำน้ำ ชั้นอาเมอร์ของสำนักรูบิน รัสเซีย, บางก็ว่าทร.ไทยให้ความสนใจเป็นอย่างสูงต่อเรือดำน้ำของเยอรมัน ถึงขั้นจัดส่งนายทหารไปศึกษาทางด้านเรือดำน้ำจากเยอรมันไว้แล้ว บ้างก็ว่าจากที่มีการดีลในเรื่อง บ. กริเป้นกับสวีเดนไว้แล้ว จากความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศนี้ เป็นไปได้สูงที่ทร.ไทยจะเลือกจัดหาเรือดำน้ำจากสวีเดน เหมือนกันกับเดิมที่เคยมีการจัดหาจาก บริษัทค็อกคูมของสวีเดนมาก่อน แต่โครงการได้ล้มเลิกไปด้วยข้อกล่าวหาว่ามีการให้สินบนในการจัดหาระหว่างกันในอดีต และบ้างก็ว่า ด้วยปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์อันดีกับจีนแล้ว ทร.ทยคงต้องจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศจีน และจีนได้เสนอเรือดำน้ำแบบ 039 ชั้นซ่ง ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนของเยอรมัน และระบบตรวจจับค้นหาจากทอมสันฝรังเศส .................ดังนั้น วันนี้เพื่อนๆในเว็บไซด์นี้มีข้อมูลหรือความคิดเห็นว่าตัวเลือกใด เหมาะสมกับทร.ไทยมากที่สุด และหวยเรือดำน้ำงวดนี้จะมีผลออกมาเป็นอย่างไร เชิญแสดงความคิดเห็นเข้ามาคุยกันได้ เพราะห้วงเวลาในขณะนี้ ความฝันเรื่องการจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาประจำการ จากที่เคยว่างเว้นมานานใกล้จะเป็นจริงแล้ว ......ครับ/สกายนาย
ป.ล.ไม่ได้ลงเครดิตที่มาของกระแสข่าวเพราะเอามาจากหลายเว็บ และจากหลายฟอร์ลั่มของต่างประเทศ ผมได้แต่อ่านแตลืมบันทึกไว้
วงเงินงบประมาณในการจัดหาเรือดำน้ำชุดนี้2อยู่ที่ 40,000ล้านบทหรือประมาณ $1.11 Billion หรือประมาณ $555-560 Million ต่อลำ ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการจัดหาเรือดำน้ำแบบ Scropene ของมาเลเซีย2ลำซึ่งอยู่ที่ 900 Million Euro หรือราวๆ $1.15billion ถือว่าใกล้เคียงมาก
โดยส่วนตัววิคราะห์ว่าเรือที่จะจัดหามาน่าจะเป็นเรือของยุโรปตะวันตกครับ เป็นไปได้ทั้งเรือของ สวีเดน สเปน-ฝรั่งเศส และ เยอรมนี รวมถึงเรือของรัสเซียครับ (แต่จีนคงต้องตัดออก)
2.โครงการจัดหาเรือดำน้ำ รายละเอีดตามแผนของกลาโหมมีดังนี้
บันทึก 9 รายละเอียดความต้องการเรือดำน้ำของ ทร.
9.1ประเภท : เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังธรรมดา
9.2 โครงการ : 2 ลำ, ระยะเวลาโครงการ : 2555 - 2560
9.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ
9.3.1 โจมตีเรือผิวน้ำ
9.3.2 ปราบเรือดำน้ำ
9.3.3 วางทุ่นระเบิด
9.3.4 ลำเลียงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
9.4 คุณลักษณะทั่วไปที่สำคัญ
9.4.1 ระวางขับน้ำใต้น้ำ 1,000 - 2,500 ตัน
9.4.2 รัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 2,500 ไมล์
9.4.3 ปฏิบัติการในทะเลได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15 วัน
9.4.4 ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบดีเซลไฟฟ้า พร้อมระบบ AIP (Air Independance Propulsion)
9.4.5 มีเครื่องมือเดินเรือทั้งผิวน้ำและใต้น้ำที่สมบูรณ์
9.4.6 ระบบสื่อสารเป็นแบบรวมการ ประกอบด้วย ระบบสื่อสารภายใน สื่อสารภายนอก ทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำและระบบ GMDSS
9.4.7 อุปกรณ์ตรวจจับ ประกอบด้วย ระบบโซนาร์แบบ PASSIVE และ/หรือ ACTIVE SONAR , ระบบ ELECTRONIC WARFARE , กล้อง Periscope 2 กล้อง ได้แก่ Attack และ Search โดยมีอุปกรณ์กล้อง IR/TV/กล้องถ่ายภาพนิ่ง/เรดาร์ติดตั้งร่วมด้วย
9.4.8 ระบบอาวุธ ประกอบด้วย ตอร์ปิโด จำนวน 6 - 8 ท่อ พร้อมคลังและขีดความสามารถบรรจุ ระบบ countermeasure และระบบลวงตอร์ปิโด/โซนาร์
9.4.9 มีสายการผลิตอะไหล่สนับสนุนการซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้อย่างน้อย 30 ปี
ความเห็น:
สำหรับในส่วนงบประมาณในการจัดหาที่เป็นไปได้นั้น ถ้าดูจากที่มาเลเซียใช้งบประมาณในการจัดหาเรือดำน้ำแบบ Scorpene จำนวนสองลำจากบริษัท DCNS ฝรั่งเศษราว 900 Million Euro หรือราวๆ $1.15billion กว่าครับ
ซึ่งถ้ากองทัพเรือไทยจะจัดหาเรือดำน้ำใหม่อย่างน้อยสองลำที่มี Technology และคุณสมบัติในระดับเดียวกันก็คงต้องมีงบไม่ต่ำว่า $1-1.2 Billion หรือ 35,000-42,000ล้านบาทครับ ถ้าเทียบกับค่าเงินบาทในปัจจุบันที่ราว 35บาท ต่อ $1
ในส่วนของเรือฟริเกตสมรรถนะสูงนั้นก็มีความใกล้เคียงกันครับ เรือรบผิวน้ำหลักในระดับเรือคอร์เวตหรือเรือฟริเกตเบาสมรรถนะสูงที่ระวางขับน้ำราว 2,000-3,000ตันนั้น ส่วนตัวคิดว่าจะมีราคาเรือต่อลำที่ราวๆ $400-600 Million(14,000-21,000ล้านบาท) หรือมากกว่านั้นแล้วแต่บริษัทผู้ต่อเรือและอาวุธ-อุปกรณ์ที่ติดตั้งครับ ถ้าจัดหาให้ครบ2ลำต้องใช้ งป.ราว $800 Million-1.2 Billion 28,000-42,000ล้านบาท ขึ้นไปเช่นกันครับ(ถ้าเป็นแบบติดตั้งอุปกรณ์และอาวุธสมรรถนะสูงครบ)
ถ้าดูจากลำดับช่วงปีการจัดหาในบันทึกโครงการจัดหาแล้วส่วนตัวคาดว่ากองทัพเรือมีความต้องการจัดหา "เรือฟริเกตสมรรถนะสูง" ก่อนจัดหา "เรือดำน้ำ" ครับ
แต่ประเด็นคือในช่วงเวลาดังกล่าวกองทัพเรือจะได้รับงบประมาณขนาดนั้นหรือไม่ครับ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่ากองทัพเรือน่าจะได้งบประมาณในการจัดหาเรืออย่างมากเพียง 15,000-16,000ล้านบาทหรือราว $430-460 Million ต่อ1ลำ
จาก AAG_th
..............แม้ท่าน AAG-th1 จะมีความคิดเห็นว่า ทร.ไทยคงตัดตัวเลือก เรือดำน้ำของจีนไปนั้น ...ความเห็นส่วนตัวผมก็มีความคิดเห็นอย่างนั้นเช่นกํน แต่ของจีนดีตรงที่ว่า ระบบต่างๆของเขาใช้ของตะวันตก ยกเว้นระบบอาวุธเท่านั้นที่เป็นของ จีน บวก รัสเซีย ....ครับ/สกายนาย
ภาพเรือดำน้ำจีน Type 039A Song-class
นำมาจาก http://www.newprophecy.net/Type_039A_Song-class_submarine.jpg
สวัสดีครับท่านสกายนาย หายไปนานเลยนะครับ สบายดีไหมฮะ ^ ^
เอาเข้าจริงคือผมสงสัยในความเป็นไปได้ของเงื่อนเวลาตามโครงการครับ เพราะผมไม่ค่อยเชื่อว่าโครงการจะเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้คือเริ่มเซ็นสัญญาจัดหาในปี 2552 - 2554 ครับ เนื่องจากปัจจุบันโครงการจัดหาของเหล่าทัพแทบทุกโครงการที่เราเห็น เป็นอัตราหารสอง คือคิดกันง่าย ๆ ลวก ๆ ว่าถ้าอยากรู้จำนวนที่แท้จริงที่กองทัพต้องการ เอาสองคุณเข้าไปครับ .... บางโครงการหารสี่ด้วยซ้ำ .... ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่งบประมาณกลาโหมจะไม่เหมือนเดิมเพราะเศรษฐกิจไม่น่าจะฟื้นจนถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ...... ผมว่าความต้องการเร่งด่วนที่สุดของกองทัพเรือน่าจะเป็นการจัดหาอาวุธในโครงการที่ทำค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นครับคือ ..... MH-60S เพิ่มเติมอีก 4 ลำ, Super Lynx อีก 2 - 4 ลำ, เรือ OPV เพิ่มอีก 3 ลำ, การปรับปรุงเรือฟริเกตชั้นต่าง ๆ, รวมไปถึงโปรเจ็คในความฝันอันสองรองจากเรือดำน้ำคือ Air defense frigate ทั้งสองลำ ..... ทำให้ผมคิดว่าความเป็นไปได้ที่เงื่อนเวลาจะเลื่อนออกไปอีก 2 - 3 ปีน่าจะมีสูงครับ
เรือดำน้ำจำเป็น แต่ยังไม่ใช่ที่สุดครับ
ตายล่ะ เราพาออกทะเล เหอ ๆ ....... ตรงนี้พูดถึงเงื่อนเวลาเท่านั้นนะครับ ไม่ได้คัดค้านการจัดหาเพราะผมก็อยู่ฝ่ายที่ไม่เชื่อว่าอ่าวไทยมันตื้นจนเรือดำน้ำดำไม่ลง 555+
ถ้าจะให้เดารุ่น ..... ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นเรือจากทางฝั่งเยอรมัน สวีเดน หรือไม่ก็รัสเซียล่ะครับ ที่ผมคิดว่ากล้าฟันธงลงไปก็คือว่างานนี้ Scorpene ไม่น่าจะได้เกิดแหงม ๆ เพราะมาเลเซียใช้อยู่ครับ ส่วนเรือจีนก็มีโอกาสน้อย .......... ดูเหมือนช่วงหลังทร.จะเปลี่ยนหลักนิยมในการจัดหาจากของถูกมือสองจัดหาได้เต็มจำนวนมาเป็นของดีมือหนึ่งจัดหามาก่อนแล้วมาลุ้นเพิ่มทีหลัง เพราะมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีในยุคที่ใช้ของจีน แน่นอนทุกวันนี้จีนพัฒนาเทคโนโลยีไปมากมาย แต่สำหรับเรือดำน้ำ ผมว่าทร.ไม่น่าจะให้ความไว้วางใจถึงขั้นนั้นครับ ..... เช่นในกรณี LPD ที่แม้เรือจีนจะถูกกว่า แต่ทร.ก็หันไปหาเรือจากสิงคโปร์แทน
ผมคงจำกัดตัวเลือกอยู่แค่นี้ล่ะครับ สวีเดน เยอรมัน หรือรัสเซีย ^ ^
สวัสดีครับ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันหายหน้าหายตาไปนานนะครับ ดีใจที่เห็นเข้ามาอีกครั้ง
ส่วนตัวเชื่อว่ากองทัพเรือมีความสนใจเรือดำน้ำของ เยอรมัน มากที่สุดครับ ที่เหลือที่ให้ความสนใจคือ ของรัชเซีย และ สวีเดน แต่หากว่าจะมีการจัดหาจริง ก็คงจะมีข้อเสนอที่ดีๆในลักษณะเดียวกันกับตอนที่เราจัดหาเครื่องบินรบใหม่ของกองทัพอากาศครับ อีกทั้งราคาเทียบกับคุณภาพและสมรรถนะคงมีส่วนในการพิจารณามากกว่าจะเป็นของระบบไหน เพราะเรือดำน้ำถ้าจะพูดกันแบบตรงๆก็เหมือนกับเรามาเริ่มต้นใหม่ ดังนั้นผมว่าจุดพลิกผลันมันเกิดขึ้นได้เสมอครับ จึงไม่ขอฟันธงว่าจะได้จากประเทศไหน แต่ในส่วนตัว ผมชอบของเยอรมันครับ
ดูแล้วถ้าได้งบมาเต็มๆกว่า 40,000 ล้าน รับรองครับว่าเรือU212 มาแน่ๆ แต่สถานะการณ์จริงอาจถูกตัดงบไปกว่าครึ่ง ดังนั้นด้วยเงินแค่ครึ่งก็คงได้เรือสวีเดน แต่ถ้าน้อยกว่านั้นอีก ก็ต้องจบที่AMUR ล่ะครับ แต่ไงซะจะของชาติไหนแบบอะไรก็ขอให้มาก่อนล่ะกัน ยังไงซะตอนนี้ทร.ไทยก็ปรับปรุงระบบปราบเรือดำน้ำกันยกใหญ่ต้อนรับเรือดำน้ำมาเลย์ไปแล้ว ในขณะที่ฝั่งโน้นยังไม่ได้เตรียมตัวกับการที่เราจะจัดหาเรือดำน้ำเลย ยิ่งการเมืองเขาดุพอๆกับเรา(แทบจะมีรัฐประหารกันเมื่อเดือนที่แล้ว)ดังนั้นโครงการทางทหารของเขาก็คงโดนเลื่อนไปไม่มีกำหนดเช่นกัน เพราะเห็นโครงการต่างๆของมาเลย์เริ่มสะดุดหัวทิ่มแทบทุกโครงการแล้ว ดังนั้นจังหวะนี้ถ้าเราจัดหาเรือดำน้ำได้ ทางเขาจะหัวหมุนเลยทีเดียวครับ
.............สวัสดีครับเพื่อนๆ ในเว็บนี้ทุกท่าน ขอบพระคุณมากที่ยังไม่ลืมกัน ส่วนผมยังคิดถึงทุกท่านเสมอ โดยเฉพาะท่านผีทะเล เอ้ย...พูดผิดท่านเด็กทะเล ท่านนก ท่านนายหน้าสกายแมนและท่านอื่นๆ......แต่เนื่องจากการงานรัดตัวและสุขภาพไม่ค่อยดีจึงไม่ได้เข้ามาทักทายในเว็บนี้...
..............ตอนที่ผมค้นข้อมูลจะตั้งกระทู้ ทราบมาว่ามีอีกกระแสข่าวหนึ่ง ทร.อิตาลี จะขายเรือดำน้ำมือสองให้ไทยเรา พร้อมกับเสนอเรือดำน้ำมือหนึ่งอีก 1 ลำ....แต่ตามฟอร์ลั่มต่างประเทศ เขาเม้าท์ว่าหวยเรือดำน้ำของไทยเราน่าจะออกมาเป็นเรือดำน้ำจีนไทป์ 039 ชั้นซ่ง แต่ตามความคิดเห็นผมแล้ว ผมว่าตัวเลือกอันดับ 1 ของไทยน่าจะเป็นเรือดำน้ำมือหนึ่งของสวีเดนเพราะตามสเปคมีระบบ AIP ที่ทร.ไทยเชื่อถือ และเคยจัดหามาแล้วครั้งหนึ่งจากบริษัท ค็อกคุม สวีเดน แต่โครงการล้มไปเพราะปัญหาอื้อฉาวเรื่องสินบน....แต่ถ้ามีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกโดยไทยถูกบอยคอต หวยน่าจะออกเป็นเรือดำน้ำชั้นอาเมอรืจากรัสเซียเพราะ เคยมีข่าวในหนังสือพิมพ์รัสเซียว่าไทยสนใจจะจัดหาจาก รูบินส์ รัสเซีย ซึ่งเรือดำน้ำชั้นนี้มีข้อดีตรงที่สามารถโจมตีคุมคามได้ทั้ง เรือ, เรือดำน้ำ และจุดยุทธศาสตร์บนฝั่ง แถมรัสเซียยอมขายระบบอาวุธให้มากับเรือแบบไม่อั้น รัสเซียคุยว่าเรือดำน้ำชั้นนี้เป็นเรือดำน้ำที่ ดำได้ลึกและมีเสียงเงียบกว่าชาติตะวันตก และยังสามารซ่อมบำรุงได้ในไทยและยังสามารใช้แบตเตอรี่ในเชิงพาณิชย์ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมาใช้เป็นอะไหล่ได้ไม่ยาก...ทำให้ผมลังเลเชียร์ทั้งของสวีเดนและรัสเซีย....ถ้าเลือกระบบ AIP ก็เอาของสวีเดน....ถ้าเลือกเอาหมัดหนักและทำให้ศัตรูของไทยหัวหดก็เอาของรัสเซีย...ครับ/สกายนาย
ผมยังมองว่าตัวเลือกอันดับแรก(ถ้ามีตังค์) ทร.คงเลือกของสวีเดน ซึ่งเข้าตามสเปกอย่างที่หลายๆท่านกล่าวมา
และอีกมุมที่ผมมองคือ ด้วยความที่เราเป็นพันธมิตรที่ดีกับทาง ทร.สิงค์ฯซึ่งใช้ของทางสวีเดนเหมือนกัน ยิ่งทำให้ผมโน้มเอียงไปที่ สวีเดนครับ
ผมขอตัวเลือกรัสเซียไม่ก็เยอรมันครับ
เพราะดูแล้วเรือดำน้ำสวีเดนไม่สามารถเทียบกับเรือดำน้ำฝรั่งเศลได้เลยสกอร์ปิเน่ดำได้ลึกเกิน 300 M ก็ต้องมาดูโครงการพัฒนาเรือดำน้ำของสวีเดนที่สิงคโปร์สนใจอยู่ครับ
เยอรมัน= จุดเด่นอยู่ที่ความเร็วของเรือดำน้ำครับ แต่ก็แพง
รัสเซีย= จุดเด่นอยู่ที่ระบบ VLS ครับ ถูก อย่างน้อยได้ซะ 4 ลำ วางกำลังทั้งอันดามันและอ่าวไทย
ปัจจุบันกองทัพเรือสวีเดนมีเรือดำน้ำประจำการอยู่2ชั้นครับคือ ชั้น Sodermanland 2ลำซึ่งปรับปรุงจากเรือชั้น Vastergotland ในปี 2004 ซึ่งเรือชั้นVastergotland นั้นได้ถูกขายให้สิงคโปร์ไปแล้ว และชั้น Gotland อีก3ลำ
ซึ่งจากจำนวนเรือทั้งหมด 5ลำและอายุการใช้งานเรือแล้ว ส่วนตัวไม่คิดว่าสวีเดนขายเรือลำใดให้ไทยครับถ้ามีการสั่งต่อเรือจากสวีเดนจริงในขณะนี้ แต่ถ้าให้เช่ายืมชั่วคราวสัก1ลำอาจจะเป็นไปได้ (น่าจะเป็นชั้น Gotland 1ลำ)
โดยสวีเดนเองก็มีโครงการจัดหาเรือดำน้ำยุคใหม่คือ แบบ A26 ครับ ซึ่งสิงคโปร์สนใจที่เข้าร่วมโครงการด้วย โดยคาดว่าเรือดำน้ำแบบ A26 นั้นจะเริ่มต่อลำแรกและปล่อยลงน้ำได้ในปี 2015-2017 ครับ ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวถ้ากองทัพเรือเริ่มต้นโดยการโครงการจัดหาเรือแบบ A26 ก็จะได้รับเรือในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่สวีเดนได้รับครับ (และอาจจะซื้อเรือดำน้ำมือสองต่อ1ลำสำหรับใช้ฝึกได้ด้วย) ข้อเสียคือโครงการนี้ใช้ระยะเวลานานหลายๆอย่างยังไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนครับ แต่กองทัพเรือจะได้เรือที่มีขีดความสามารถทันสมัยสูงสุด
http://www.kockums.se/products/newgenerationsub.html
ถ้ากองทัพเรือไทยมีการจัดหาเรือจากรัสเซียจริง ก็น่าจะเป็นการส่งกำลังพลไปทำการฝึกกับเรือดำน้ำจริงที่รัสเซียโดยตรงมากกว่าที่รัสเซียให้ยืมเรือมาฝึกที่ไทยมากกว่าครับ
ผมคิด ทร. ควรทบทวนเรื่องการจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่ง เพราะในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้โอกาสที่ ทร.จะได้รับงบประมาณน้อยมาก
ขอพูดตรงๆ หลังจากกบฎแมนฮัตตัน ผมคิดว่า ทร. กลายเป็นกองทัพลำดับสาม เพราะงบประมาณมักไปอยู่ที่กองทัพบกหรือกองทัพอากาศ อีกทั้งเรือที่ทร. มีอยู่ควรได้รับการปรับปรุงให้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ เช่น 911 ก็ควรมีอากาศยานเต็มทุกฝูงบิน เรือนเรศวร ตากสิน ควรรบได้สามมิติ ส่วนเรือชุดเจ้าพระยา ผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงถือไม่ได้เป็นเรือรบหลักแล้ว
หากทร.ต้องการสร้างกองเรือดำน้ำให้มีเรือประจำการจริงๆ ควรเริ่มด้วยการเช่า หรือซื้อเรือดำน้ำเก่ามาเพื่อศึกษาก่อน อาจเป็น ชั้น Song ของจีน หรือ A19 ของสวีเดน หรือ เรือดำน้ำ Agosta 90B ของ ทร.สเปน ซึ่งถ้าจำไม่ผิดใกล้จะปลดระวางแล้ว
ผมว่าของรัสเซียอย่างอาร์เมอร์950กับ1650เท่าที่รู้ทางรัสเซียพัฒนา
มาจากชั้นกิโลอีกทีซึ่งเรือชั้นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความเงียบขนาด
เรือของเยอรมันหรือกองเรือบรรทุกเครื่องบินของเมกาที่ว่ากันว่า
ทันสมัยที่สุดในโลกยังเรือดำน้ำชั้นกิโลของจีนไม่เจอเลยทั้งที
ระยะห่างแค่5ไมล์เท่านั้น
กองทัพเรือสเปนมีโครงการจัดหาเรือดำน้ำแบบ S-80 เพื่อเข้าประจำการแทนเรือชั้น Galerna S-70 ซึ่งต่อในช่วงปี 1980s ครับ โดยโครงการ S-80 นั้นเริ่มต้นภายในปี 2011-2014 ซึ่งเรือชั้น Galerna คงจะอยู่ในช่วงปลดพอดี โดยโครงการ S-80 นั้นจะมีความร่วมมือในการพัฒนากับฝรั่งเศสครับ
ส่วนตัวคิดว่าในระยะยาวการจัดหาเรือใหม่มีความจำเป็นครับเพราะคุ้มค่าในการใช้งานกว่าเรือมือสองซึ่งกองทัพเรือมีประสบการณ์ในปัญหาดังกล่าวมาแล้ว ยิ่งเป็นเรือที่ใช้ Technology ระดับสูงเช่นเรือดำน้ำด้วยแล้ว ซึ่งถ้ามีงบประมาณไม่เพียงพอก็คงจะไม่มีการจัดหาเรือดำน้ำใดๆในช่วง 5-10ปีนี้ครับ (ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้มากที่กองทัพเรืออาจจะไม่ได้รับงบประมาณในส่วนการจัดหาเรือดำน้ำครับ)
เรือดำน้ำของเราคงอีกหลายปี ผมสนับสนุนที่เราจะขอยืมหรือเช่าเรือดำน้ำที่เหมาะสมมาหาความชำนาญก่อน หลายประเทศที่หลายๆท่านได้เอยมาน่าจะให้โอกาศเราเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายเรือใหม่
ขอทักทายท่าน สกายนาย เช่นเดียวกันครับ...ไม่ได้อ่านความเห็นท่านนานแล้วครับ...
เรื่อง อ่าวไทย กับ เรือดำน้ำ...ถ้า ทร. ตั้งใจจะให้ เรือดำน้ำ เป็นกำลังหลัก ในอ่าวไทย...ผมว่า AMUR 950 น่าจะเหมาะสมที่สุด...เป็นเรือขนาด 1,000 ตัน...
เรื่อง เรือดำน้ำ กับ ความตื้นของอ่าวไทย...ความเห็นผมว่า...เรือดำน้ำ ปฏิบัติการในอ่าวไทย ได้...แต่ ประสิทธิภาพ จะเหมาะสมหรือไม่...
ด้วยระดับความลึก 70-80 เมตร...แต่ไปเลือกเรือดำน้ำ ที่มีประสิทธิภาพสร้างมาสำหรับยุทธวิธี น้ำลึก...ผมว่า มันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่...
เรือรบของ ทร. ไทย โดยเฉลี่ยจะอยู่ระดับ 2,000 - 3,000 ตัน เพราะสภาพของ อ่าวไทย เหมาะสมกับเรือขนาดนี้....
ถามว่า เรือดำน้ำ เคยมีปฏิบัติในอ่าวไทย...ก็ต้องว่า เคยมี แต่น้อยครั้ง...สหรัฐ ใช้ เครื่องบิน โปรยทุ่นระเบิด กลับมีประสิทธิภาพมากกว่า ใช้เรือดำน้ำ...
และเรือดำน้ำ ของ สหรัฐ ก็เคย จม ในอ่าวไทย...โดยไม่ทราบว่า เพราะอะไร...
ส่วนมาเลเซีย ฐานเรือดำน้ำ อยู่แถบทะเลน้ำลึก ระดับความลึกทะเล 200 เมตร ในน่านน้ำ หมู่เกาะสแปรชลี่ย์...
และ สิงคโปร์ ก็เตรียมรับ เรือดำน้ำ ลำใหม่...ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าของเก่า แต่ระวางขับน้ำ ต่ำกว่าของเดิม คือ Vestergotland ที่ระวางขับน้ำ ประมาณ 1 พันกว่า ๆ ตัน...
ก็เลยอยู่ที่ว่า ทร. จะใช้ เรือดำน้ำ เป็นกำลังหลักในทะเลฟากไหน...
ถ้า อ่าวไทย ผมก็เชียร์ AMUR 950 ถ้าฝั่งอันดามัน ตัวเลือก ก็หลากหลาย และคาดว่า ทร. น่าจะเอา U-212 ถ้าได้รับงบประมาณ 40,000 ล้านบาท...ตัว งบประมาณ น่าจะเป็นตัวตัดสินแบบของเรือดำน้ำ มากกว่า ประสิทธิภาพ ของเรือดำน้ำ...ในแง่การตัดสินใจสำหรับ กองทัพเรือไทย...
แผ่นภาพ แสดงการวางทุ่นระเบิด จากข้อมูลของ หนังสือ กองทัพเรือ...
จะแสดงให้เห็นถึง ภาระกิจจาก เรือดำน้ำ ในการวางทุ่นระเบิด จะมีบทบาท มากในทะเลฝั่ง อันดามัน...
ฝั่งอ่าวไทย จะปรากฎการวางทุ่นระเบิดจาก เรือดำน้ำ ไม่กี่ครั้ง...นอกนั้น เป็นการใช้ เครื่องบิน ทิ้งทุ่นระเบิด โดยส่วนใหญ่...
อ่าวไทย เรือดำน้ำ ปฏิบัติการได้...แต่จะ ดี และมีประสิทธิภาพ เพียงไหน...ก็คงต้องรอบทความของ กองทัพเรือ ได้เผยแพร่และนำมาวิจารณ์ กันอีกที ครับ...
.....................ผมขออนุญสต ลงข้อมูลเรือดำน้ำ ชั้นซ่ง ของจีน ซึ่งนำมาจากเว็บฯ http://en.wikipedia.org/wiki/Type_039_submarine ....ครับ/สกายนาย
The Peoples Republic of Chinas first submarine design was the locally-produced derivative of the Romeo class submarines provided to China by the Soviet Union. Large numbers of these were built, but their obsolete design, derived from World War II submarine technology, led China to develop a wholly new class on its own, resulting in the Type 039.
Designed for attacking both other submarines and surface ships with torpedoes, the submarine uses a modern teardrop-shape hull for underwater performance. The hull incorporates four rudders and is propelled by a single propeller. For quieter operation, the engine was mounted with shock absorbers and the hull is plated in rubber tiles for sound deadening. Development was not without problems, as a lengthy testing period for the first vessel (320) attests. Problems with noise levels and underwater performance led to revisions in the design and only a single boat was ever built to the original specification.
Improvements led to the specification for the Type 039G, which became the bulk of production, with seven of the type entering service. Elimination of the stepped design for the conning tower is the primary visual cue for identification of the G variant.
As of 2006, there are a total of three types of this class: the original Type 039, Type 039G and Type 039A. The most obvious visual difference between the three types is the conning tower: Type 039 has a stepped conning tower, while there is not such a feature for Type 039G. Type 039A has the same conning tower like that of Type 039G, but the diving planes that are present on the sails of both Type 039 and Type 039G are absent on Type 039A.
Primary weapon for the Type 039 is the 533 mm Yu-4 torpedo, a locally produced passive homing 40-knot (74 km/h) torpedo based on the SAET-50 and roughly comparable to the SAET-60. Surface targets may be attacked at up to 15 km. Yu-6 wire-guided torpedoes may also be used for targeting submarines. It is also likely that the Type 039 is capable of carrying the YJ-8 anti-ship missile, a cruise missile which can be launched from the same tube as the boats torpedoes, and can target surface vessels at up to 80 km. The missile is subsonic and carries a 165 kg warhead. For mining operations, in place of torpedoes, the submarine can carry 24 to 36 naval mines, deliverable through the torpedo tubes.
Although Type 039 has successfully test fired the CY-1 ASW Missile under water like the Yuan class submarine, the status of the missile is in question because nothing is heard about it entering mass production. The CY-1 ASW missile has a maximum range of 18 km (10 nm), and when using A244 or Mark 46 torpedo as a payload.
The main sensor is the medium-frequency sonar mounted in the bow of the submarine, with passive and active modes, which is used for both search and attack. In addition, the system offers a method of underwater communications, and also functions as a torpedo approach warning system. This sonar is the Chinese development of French Thomson-CSF TSM-2233 sonar, and is capable of simultaneously tracking 4 to 12 targets depending on the function it is used for. To enhance passive search capabilities, a low frequency sonar of French Thomson-CSF TSM-2255 design is mounted on the flanks of the hull, with a maximum range in excess of 30 km and capable of simultaneously tracking four targets. The system is further enhanced with the integration of a domestic Chinese passive ranging sonar on board, designated as H/SQG-04 sonar. For surface search, a small I-band radar is fitted.
This class is the first Chinese submarine to be fitted with an integrated electronic support measures / radio direction finder / radar warning receiver system designated as SRW209 Submarine Radar Reconnaissance Equipment, which works at S - Ku bands with 100% detection rate. The SRW209 is fully automatic and can be either operated by a single operator with a console with a color CRT (which can be replaced by LCD) display console, or linked to the combat data system, which is capable of tracking multiple targets.
On October 26, 2006, a Chinese Song class submarine reportedly "popped up" and "surfaced within firing range of its torpedoes and missiles before being detected." The submarine was allegedly seen on the surface within 5 nautical miles (9 km) of the carrier USS Kitty Hawk (CV-63) while she was operating about the Pacific.[1][2]
China offered the 039 submarine for sale to Thailand in 2007. However the Royal Thai Navy lacks the infrastructure to support submarines, and no sales are pending at this time. [1]
China offered the 039 submarine for sale to Thailand in 2007. However the Royal Thai Navy lacks the infrastructure to support submarines, and no sales are pending at this time.
..........นอกจากเนื้อความข้อมูลเล็กๆ กล่าวอ้างไว้ข้างบน......... ผมขอนุญาต ลงเรื่องเก่าที่ เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นซ่ง ของจีน ที่อาศัยมีความเงียบสูง ดำไปโผล่ใกล้กองเรือบรรทุกเครื่องบินคิตี้ฮอก ทำเอาฝรั่งตกใจกัน.....นำมาจาก http://www.appletreeblog.com/?p=3498 .....ครับสกายนาย
A Chinese Song-class submarine popped up near the aircraft carrier USS Kitty Hawk during a training exercise, greatly embarrassing the Navy. The Kitty Hawk carries 85 aircraft and 4,500 sailors, and ships of that size are supposed to be protected by a phalanx of cruisers, destroyers, and submarines. If enemy subs can sneak up on our aircraft carriers, then none of our ships is safe.
Unmentioned in any of todays coverage of the episode is the fact that this isnt the first time this has happened. About this time last year, another Song-class submarine came within five miles of the Kitty Hawk before being detected. From that distance, it could have sunk the Kitty Hawk with its cruise missiles and wake-homing torpedoes. More about that incident and the submarine itself here.
So weve known for a year that our fleet is vulnerable to this model of submarine, but we havent yet figured out a way to reliably detect it.
พอดีมีรูป Song อยู่คับ แต่ผมอยากให้เช่า / ซื้อ Agosta 90B ของสเปนมากกว่า (อย่างน้อยก็ใช้อีก 10 ปีข้างหน้า ที่คิดยังไงก็คงยังไม่มีงบประมาณ 40000 ล้านมาซื้อของใหม่)
ปากีสถานเพิ่งจะซื้อต่อจากฝรั่งเศษในรุ่นเดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าร่วมมือกันได้อะไหล่น่าจะไม่มีปัญหาในช่วง 10 ปีข่างหน้า
แผ่นภาพ เทียบกับระดับความลึก ของ อ่าวไทย...
ในลักษณะการปราบเรือดำน้ำ...ผมว่า ระเบิดน้ำลึก ที่ปล่อยจาก บ. P-3C หรือ Fokker F-27 หรือ S-70 B น่าจะยังมีคุณค่า กับสภาพทะเลในอ่าวไทยอยู่...ด้วยความลึกระดับ 50-70 เมตร...อานุภาพของระเบิดน้ำลึก ก็ยังเป็นระบบอาวุธที่น่าจะสร้างความน่ากลัวให้กับ เรือดำน้ำ ที่จะเข้ามาปฏิบัติการในอ่าวไทย ได้เหมือนกัน....
ระบบต่างๆๆๆที่สามารถเข้ากับนาโต้ในเรือดำน้ำเรายังไม่มีมิใช่หรือ
เรื่องเรือดำน้ำเป็นเรื่องใหม่สำหรับเราการที่เราจะซื้อของยุโรบหรือรัสเซีย
ก็เท่ากับเราเริ่มนับ1ใหม่หมดดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นจะต้องกลัวจะเข้ากับ
ระบบของนาโต้ไม่ได้เรือดำน้ำของเรายังไม่เคยซื้อมาใช้สักลำเว้น
ก็แต่ว่าเราเคยซื้อของญี่ปุ่นมา4ลำซึ่งนั้นก็นานมากแล้วตั่งแต่เกือบ
70ปีที่แล้วนูนดังนั้นเราจะซื้อของใครก็ได้จะรัสเซียหรือยุโรบได้ทั้งนั้น
ระบบต่างๆๆเราเริ่มนับ1ใหม่หมดซึ่งมันต่างจากเรือรบทางผิวน้ำเยอะ
เพราะว่าเรือเหล่านี้ส่วนมากใช้ระบบทางตะวันตกเกือบหมดเว้นแต่
เรือรบหลวงชุดเจ้าพระยาซึ่งยังใช้ของจีนอยู่ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา
อาวุธปืนต่างๆๆอย่างปืน100มม.และ37มม.เราก็สามารถผลิตได้เองแล้ว
ของรัสเซียน่าจะโอเค.กว่านะคับ ผมมีเซนท์ยังไงก้อไม่รู้
ของยุโรปก้อดี แต่ราคามันแพง กลัวจะได้ตัว DEMO มาอีก ได้แค่ดำไปดำมา เวลารบจริงระบบอาวุธ และอิเลคทรอนิกส์จะสู้เขาไม่ได้
ยิ่งของจีน โครงสร้างเค้าแข็งแรงพอใช้ได้ นอกนั้น ผมว่าไม่น่าเสี่ยงคับ กลัวจะดำได้ปีเดียวจอดเหมือนรถถัง
ยิ่งของอเมริกาไม่ต้องพูดถึง เจ้านั้นลำเล็ก ๆ ไม่มีดอกคับ มีขนาดดำไม่โผล่เป็นปี ๆ นั่นอ่ะ
ซื้ออาวุธปราบเรือดำน้ำดีกว่ามั้ยครับ ประหยัดกว่าเยอะเลย
4หมื่นล้าน ไปซื้อ เทคโนโลยีปราบเรือดำน้ำเนี่ยผมว่า
ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณนะครับ......
ความเห็นส่วนตัวนะครับผมเชียร์เรือดำน้ำแบบ 039 ชั้นซ่ง ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนของเยอรมัน และระบบตรวจจับค้นหาจากทอมสันฝรังเศส ผลงานเป็นที่ปรากฏมาแล้วในการดำไปโผล่ข้างเรือ Kitty Hawk และด้วยเหตุผลอื่นอีกหลายประการ เช่น เรื่องของเศรษฐกิจที่ไม่ดี รัฐบาลต้องกู้เงินมาบริหารเยอะมาก รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับจีนซึ่งเป็นไปในทางบวกมากๆ ผมเห็นว่าเราต้องพึ่งพาจีนให้มากๆ ยิ่งในเรื่องทางทหารต้องสร้างสัมพันธ์ให้ลึกซึ่งกว่าปัจจุบัน เพราะการมีพี่เบิ้มอย่างจึนคอยหนุนหลังเรา ชาติมหาอำนาจอื่นๆ คงจะหวั่นเกรงพอสมควรครับ
เรือดำน้ำแบบไหนก็ได้ที่ดีและล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
รีบๆจัดหามาประจำการได้แล้ว
^
???
เกิดอะไรขึ้น...ผมไปโพสต์ตั้งแต่เมื่อไหร???
bug หรือครับ...???
รอเธออยู่เสมอครับผม
ที่จริงคนไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติใดหรอกครับ คนไทยที่มีฝีมือตั้งมากมายสามารถทำขึ้นได้เองในประเทศหากทางทหารทำเองดีก่า หลายอย่างที่คนไทยทำได้เองแต่ก็ไม่ทำใช้ อย่างที่ในหลวงสั่งต่อเรือตรวจการยังทำได้เลย
มือ 2 ก็ยังดี
แค่เรือดำน้ำ 4 ลำในอดีตยังรักษาไว้ไม่ได้ขายเศษเหล็กหมด เหลือแต่เสากระโดงเรือ ที่พิพิธพันธ์กองทัพเรืออันเดียว ไม่เหลือไว้ให้ลูกหลายได้ระลึกถึงเลย แล้วจะเอาเรือดำน้ำอีกเหรอครับ เครื่องบินแฮริเออร์ก็บินไม่ได้ รัฐบาลเลยไม่ค่อยอยากจะอนุมัติให้ สู้ซื้อรถเกาะยูเครนดีกว่าอิๆๆ
คนไทยเก่งแต่เห็นแก่ตัว ไอ้วกเก่งๆ ออกไปหาตามหน่วยงานต่างประเทศ ที่ฆ่าตอบแทนสูงๆ กลับมาเมืองไทยที มี่หน้ามาโทศประเทศและรัฐบาลว่าไม่มีใครสนับสนุน ถ้าอยากทำจริงก็เสนอโครงการไปว่าผมทำได้ผมจะทำเอง แล้วถ้าใครไม่ยอมให้ทำก็ไปประท้วงออกสื่อ ก็เท่านั้น
ผิดรูปครับ
เรือดำน้ำลำใหม่ของฝรั่งเศส The Terrible จะเข้าประจำการปี 2010 ติดขีปนาวุธข้ามทวีปหัวรบนิวเคลียร์ M-51 16 ลูก พิสัย 8,000 กม. ดีไหมล่ะ
ชอบ212/214 ของเยอรมันครับ แต่ดูความเหมาะสมด้านการเงิน การเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ของสวีเดนน่าจะเหมาะสมที่สุด และแพ็คเกจแบบสวีเดนน่าจะคุ้มค่ากว่า ภาวนาให้มาแบบคุ้มค่าเช่นแพ็คเกจเช่น
ด.ใหม่พร้อมอาวุธประจำเรือมารตฐานเดียวกับทร.สวีเดน2ลำ + ด.เก่าของทร.สวีเดนเอาใว้ฝึกทหารเรือ หรือฝึกสงครามต่อต้านเรือดำน้ำสัก1ลำ มีโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเรือดำน้ำลำที่สองต่อในไทย มีแถมออปชั่นต่อเรือชั้นวิสบี้ได้ในราคาถูกกว่าปกติ ฯลฯ
เรื่องจ่ายเงิน ให้แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ครึ่งนึงของมูลค่าโครงการ อีกครึ่งเป็นสินค้าเกษตร(คุณภาพดีด้วยนะ ไม่ใช่ลำไยเน่าๆ)
การดำเนินการเป็นแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อความโปรงใส
อา....ผมไม่ได้คาดหวังมากไปใช่มั๊ยเนี่ยะ
ปล. ไม่เอาของฝรั่งเศษ ยกเว้นว่าเขาจะคืนพื้นที่ที่เขาเอาไปให้กับเราเหมือนอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน