กองทัพวัดใจ "เทพเทือก" เสนอขอจัด "ซื้ออาวุธ" ล็อตใหญ่ทั้ง 3 เหล่าทัพ หลังเดินทางเยี่ยม ก.กลาโหม
โดยคุณ : BloodRoyal
เมื่อวันที่ :
08/02/2009 17:02:37
----------------------------------------------
วันที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 21:40:58 น. มติชนออนไลน์
กองทัพวัดใจ "เทพเทือก" เสนอขอจัด "ซื้ออาวุธ" ล็อตใหญ่ทั้ง 3 เหล่าทัพ หลังเดินทางเยี่ยม ก.กลาโหม
เหล่าทัพวัดใจรัฐบาล สมนาคุณงบฯปี 2553 "ซื้ออาวุธ" ล็อตใหญ่ให้หรือไม่ หลังรองนายกฯ "สุเทพ" พบปะกับผู้นำเหล่าทัพ ทบ.เตรียมซื้อ"รถลำเลียงพล-ฮ.อเนกประสงค์" ทร.ขอเรือดำน้ำ ทอ.ซื้อกริพเพนเพิ่มอีก 6 ลำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงกลาโหม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ โดยมีการบรรยายสรุปผลงานและการทำงานของกระทรวงกลาโหม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
จากนั้นนายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า มาเยี่ยมกระทรวงกลาโหมตามคำเชิญของ พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งกระทรวงกลาโหมเป็นกำลังหลักดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งอธิปไตยของประเทศ ความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองในการแก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติ จึงจำเป็นต้องมาทำความเข้าใจกับภารกิจของกระทรวงให้ถ่องแท้ โดยภารกิจการดูแลประชาชนเรื่องที่รัฐบาลหวังพึ่งกระทรวงกลาโหมมากที่สุดขณะ นี้คือ การป้องกันบรรเทาสาธารณภัย รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม
"ความจริงเรามีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องนี้อยู่ แต่กำลังหลักที่จำเป็นกองทัพมีกำลังพร้อมผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดี รวมถึงมีเครื่องมือยานพาหนะที่สามารถไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนได้ทันที รัฐบาลหวังให้กองทัพเป็นหน่วยสนับสนุนกระทรวงมหาดไทยหากมีภัยพิบัติ" นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เป็นเรื่องของกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดวาง ซึ่งมีงบประมาณอยู่แล้ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการ และมีงบประมาณสำรองให้จังหวัดละ 50 ล้านบาท ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติผู้ว่าฯจะใช้งบประมาณนี้ช่วยเหลือ หากเกินจากนั้นจะขอรัฐบาลเพิ่มเติม ซึ่งงบประมาณตรงนี้ไม่เกี่ยวกับกองทัพ และไม่จำเป็นต้องจัดซื้อเครื่องมือในการช่วยเหลือ เพราะกองทัพมีอุปกรณ์ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยอยู่แล้ว หากเครื่องมือไม่พอเป็นเรื่องกระทรวงมหาดไทยพิจารณาจัดซื้อเพิ่มเติม
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมกองทัพมีการบรรยาย สรุปผลงานของกองทัพที่ผ่านมา และมีการบรรยายถึงความต้องการด้านยุทโธปกรณ์กองทัพ เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพกองทัพ โดยกองทัพบก เสนอขอจัดซื้อรถสายพานลำเลียงพลเอพีซี เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ เอ็มไอ 17 กองทัพเรือเสนอความต้องการจัดซื้อเรือดำน้ำและเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ขณะที่กองทัพอากาศมีความต้องการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนเฟส 2 อีกจำนวน 6 ลำ ซึ่งกองทัพอากาศมีความต้องการให้เริ่มโครงการในปีงบประมาณ 2553 อย่างไรก็ตาม นายสุเทพได้พูดในที่ประชุมว่างบประมาณประจำปี 2553 รัฐบาลจะจัดงบประมาณให้อยู่ในระดับเดียวกับงบประมาณประจำปี 2552
--------------------------------
แปะไว้เห็นว่าไม่มีคนมาแปะครับ
ผมว่าเรือดำน้ำนี่มันจะเป็นไปได้เหรอครับ เราเงินไม่น่าจะเยอะขนาดนั้น ผมว่า gripen 6ลำ ให้เสี่ยโยกินคอมมิชชั่นก็พอนะครับ ฝากถึงเสี่ยโย อย่าลืมเขย่าคอพวกสวีเดนให้แถมของแถมงวดนี้เยอะๆด้วยละ ถ้าเป็นไปได้ เอา CV90 มาแถมสัก 20 คันก็ได้ (เชียร์แล้วถ้าได้แล้วไม่เลี้ยงจิ้มจุ่มละเลิกคบนะครับ ได้มาหลายล้านน้าาาาา ฮึ่ม)
ว่าแต่งงที่ทำไมพักนี้กองทัพบก จะริเริ่มหารถ apc เยอะขึ้นนะครับ หรือว่าเพื่อประโยชน์ในงานราชการชายแดนใต้ของเรา (เห็นด้วยถ้ากรณีนี้) ผมเองกำลังคิดถึงเรื่องรถถังอยู่เหมือนกันนะ รวมถึงเรื่อง ปลย และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แน่ๆ เบี้ยเลี้ยงของทหารชายแดนใต้อย่าให้ิขาดนะครับ อาหารอร่อยๆจัดให้พวกท่านเหล่านั้นได้มีความสุขเป็นกำลังใจในการรักษาความสงบด้วยครับ
สำหรับเรื่อง Mi17 ผมว่าก็โอเคครับ ลำเลียงส่งทำได้จับฉ่ายดี แต่ซื้อมาขอให้ใช้ให้คุ้มบำรุงดีๆนะครับ
เรื่องเรือดำน้ำ แหม ใจน้า อยากจะได้ของเยอรมันแต่สงสัยได้แค่กอทแลนด์ไม่ก็อะมั่ว(อยากอ่านงี้มานานละ)
กร๊ากวืด เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง แง่บๆ no comment (ปล ถ้าเป็นไปได้ อยากได้พวกอาวุธติดของเก่าๆบางลำมากกว่าหรืออัพเกรดก็ได้ ไม่ก็ต่อเรือต. เพิ่มอีกเยอะๆ)
APC เข้าใจว่าข่าวผิด น่าจะเป็น การจัดหา BTR ให้ครบตามจำนวนมากกว่า ( มีความต้องการประมาณเกื่อบ 300 คัน เท่าที่จำใด้ )
เมื่อวันที่
05/02/2009 01:05:46 ตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็นการสับสนระหว่างรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-3E1ครับแต่มีข้อมูลออกมาว่า โครงการจัดหา BTR-3E1 นั้นผ่าน งป. และมีการเตรียมส่งมอบบางส่วนแล้ว จึงเป็นไปได้ที่จะเป็นการจัดหารถสายพานลำเลียงแบบใหม่ครับ ซึ่งก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร
ในส่วนของความต้องการของกองทัพเรือนั้นมีข่าวออกมาไม่ตรงกันครับ Post Today บอกว่าเป็นเรือฟริเกต ส่วนมติชนบอกเป็นเรือดำน้ำและเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง
นอกนั้นก็เป็นโครงการต่อเนื่องที่มีข่าวออกมานานแล้วครับเช่นการจัดหา ฮ.Mi-17 และ บ.Gripen เพิ่ม 6ลำ เป็นต้น
เมื่อวันที่
05/02/2009 01:37:52 แต่รถลำเลียงที่จะหาควรเลือกแบบเปิดประตูหลังดีกว่าประตูข้าง ตอนจัดหารถจากยูเครนมีประเด็นว่าทำไมจัดหารถประตูข้างซึ่งหลักนิยมสมัยใหม่ไม่นิยมรถประตูข้างแล้วเพราะอันตรายต่อทหาร แต่กองทัพตอบว่า...ไม่เป็นปัญหา เราฝึกได้ อิอิ ได้ครับพี่ดีครับผมเหมาะสมครับท่าน
2 เรือดำน้ำคงรอไปอีกนานเพราะใช้เงินเยอะมากกกกกก เรือตรวจการอีก2 ลำอาจได้
3 กริปเปนเฟรส 2 มาแน่แต่อาจเป็นหลังจากเฟรสแรกได้รับมอบบางส่วนแล้ว
แต่ที่แน่ๆในปีนี้คงจะไม่มีอะไรเพิ่มเติมเพราะงบประมาณของรัฐไม่พอจนเตรียมกู้เงินจากต่างประเทศแล้วรัฐบาลคงไม่กล้าเอางบมาให้กองทัพจัดหาอาวุธในตอนนี้แน่ ต้องรอไปถึงช่วงตุลา ช่วงปีงบประมาณใหม่ออกกองทัพจึงจะคึกคัก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงแนวทางในการจัดสรงบประมาณให้กองทัพเพื่อนำไปจัดซื้ออาวุธและยุทโธปกรณ์ หลังมีการยื่นข้อเสนอในระหว่างการตรวจเยี่ยมกระทรวงกลาโหมว่า เอาข่าวมาจากไหนว่ากองทัพขอจัดซื้ออาวุธ ข่าวผิด ไม่มีเลยๆ อยู่ในที่ประชุมกันตั้งหลาย 10 คน ไม่มีการพูดถึงโครงการซื้ออาวุธจากทุกเหล่าทัพเลย เป็นเพียงการรับฟังบรรยายสรุปภารกิจของกระทรวงกลาโหม และได้ขอให้กองทัพช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดสาธารณภัย และเป็นกำลังสำคัญในการปราบปรามยาเสพติด
ไม่เคยมีคำพูดเลยว่กองทัพอากาศจะเสนอซื้อเครื่องบินกริฟเฟน 6 ลำ กองทัพเรือจะขอซื้อเรือ ไปเอามาจากไหน ไม่มีเลย นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมงบจัดซื้ออาวุธให้กระทรวงกลาโหมในปีงบประมาณ 2553 หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้ดู และไม่รู้ว่ามีการเตรียมขอจัดซื้ออาวุธหรือไม่ รัฐบาลจะไม่เพิ่มงบให้กระทรวงกลาโหมดูแลงานด้านความมั่นคงในปี 2553
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1233748447&grpid=00&catid=01
เป็นโครงการต่อเนื้องขอไปก่อนได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที แต่เรือดำน้ำคงยากกกมากก
ไม่อยากได้ กริปเพ้น แล้ว
หมั่นไส้ เสี่ยโย
อยาก F-16 C/D มากกว่า
ที่ จะ ชื้อ เฟส 2 ขอเปลี่ยน เป็น เอฟ 16 มือ2จาก พี่สิงค์ แทน ได้ตั้งหลายลำ
55+
เกรียนมาแต่ไกล เลย
เมื่อวันที่
05/02/2009 05:15:17 รถสายพานAPC คาดว่าคงตั้งความหวังเพื่อจะเอามาใช้งานแทน คุณปู่ M-41 หรือเปล่า โดยอาจจะนำมาติดอาวุธหนักสนับสนุนทหารราบ
ในส่วนตัวของผมนั้นไม่ว่าเศรษฐกิจจะลดลง แต่ความมั่นคงต้องไม่ลดลงตามครับ
เมื่อวันที่
05/02/2009 06:24:27 กองทัพหลายๆประเทศในปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนหลักนิยมการใช้ รถสายพานลำเลียงมาเป็นรถรบทหารราบหรือ IFV กันเป็นส่วนมากแล้วครับ เช่น Marder ของเยอรมนีซึ่งปัจจุบันจะถูกประจำการแทนด้วย Puma ซึ่งใหม่และทันสมัยกว่า, M2 Bradley ของสหรัฐฯ , Warrior ของอังกฤษ, CV90 ของสวีเดน หรือ BMP-3 ของรัสเซียเป็นต้น แต่ก็ยังมีหลายประเทศทำการผลิตรถ APC ในตลาดครับเช่น ACV-S ของตุรกีซึ่งมาเลเซ๊ยก็ได้จัดหาไปใช้ และ KIFV ของเกาหลีใต้ที่พัฒนาต่อจาก M113 (KIFV เคยมาทดสอบในไทยเมื่อ10ปีที่แล้ว) แต่ปัจจุบันเกาหลีใต้ก็พัฒนา IFV แบบ XK21 อยู่ครับ
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ออกมานั้นยังไม่มีความชัดเจนถึงคุณสมบัติของความต้องการของรถตามข่าวครับ
เมื่อวันที่
05/02/2009 08:24:18
เสี่ยโยเราถอนหายใจเฮ้อ.........นึกว่าเครื่องมือสองของสิงคโปร์จะมาพลิกโผตัดช่องหากินเสี่ยซะแล้ว......
อาจจะโดนทั้งเรื่องความเหมาะสม + เรื่องการตอบแทนบุญคุณ
ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ด้วย เรื่องความเหมาะสมคงมาเป็นอันดับหนึ่ง
น่ากลุ้มจริงๆ
^
^
^
เห็นด้วยครับ ต้องดูจังหวะและความเหมาะสมหลาย ๆ ประการให้ดีครับ
เมื่อวันที่
06/02/2009 00:03:43 ผมว่าผมแปะไว้แต่หัวกระทู้เลยนะครับ
กรุณาอย่าใช้คำพูดเสียดสีหรือนำการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยเถิดครับ ใคร่ขอความกรุณาด้วยความเคารพอย่างสูงสุดต่อคุณ tik ด้วยนะครับ สำหรับในครั้งต่อๆไป
กรุณาวิจารณ์กันอย่างสร้างสรรค์ด้วยเหตุและผลครับ
ปัจจุบันผมเองเอียนทั้งแดงทั้งเหลือง ฉะนั้นหากอยากจะคุยการเืมือง เชิญราชดำเนินหรือไม่ก็ประชาไท ผู้จัดการ มติชน ไทยรัฐ mthai kapook หรืออื่นๆตามสะดวกเถิดครับ
เมื่อวันที่
07/02/2009 07:37:53 เห็นใจ ทุกคนจัง เรื่องอาวุธที่ตั้งความหวังไว้
คุณ สุเทพ ที่พูดถึงกันนี้ ดูแลกระทรวงกลาโหมหรือเปล่าครับ
เห็นสัมภาษณ์ กันใหญ่ ผมว่าเขาดูแลกิจการตำรวจนะครับ ส่วนมหาดไทยก็ มาจากกลุ่ม หักหลังเพื่อนนะครับ
ทุกคนหลงประเด็นหรือเปล่าครับ (หรือว่าผมหลงอยู่คนเดียว)
คือท่าน LORDSRI-VERANDA ได้ใบ้ให้พวกท่านทราบแล้วละครับ
และพูดไป ช่วยวิจารณ์ กันนิดนึง ว่าได้จากภาษีคนหาเช้ากินค่ำ แล้ว
หากเอาอาวุธไปกันคนเขาห้ามประท้วง ด้วยภาษีของเขาเองนี่ น่าอนุมัติไหมครับ หรือ ว่า ผมรู้เรื่อง กานเมียงน้อยกว่าหลายท่านในนี้ก็ไม่รู้
ก็ขอ อภัยทุกท่านครับที่คิดไม่เหมือนคนอื่นๆ ใจจริงอยากได้เรือดำน้ำ
เมื่อวันที่
07/02/2009 06:30:04 ขออภัย มันกินรวบครับ อำนาดเจริน
ขออภัยทุกท่าน คือลืมดูตำแหน่งหลักๆที่เขาได้ครับ
เมื่อวันที่
07/02/2009 06:33:41 ขออภัย บลัดลอแยล เป็นอย่างสูง ผมผิดเอง จำได้ว่าเข้ามาที่นีเกือบ
3 ปี แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้กติกาหรอก แต่กระทู้แบบนี้เป็นกระทุล่อเป้า คนอย่างผม เนื่องจากนิสัยเสียส่วนตัวจริงๆ ต้องขออภัยอีกครั้ง
คือ แค่สงสารคนหาเช้ากินค่ำ ที่เขาไม่มีเวลาไตร่ตรองในข่าวแต่ละข่าว
ครับ อีกนัยหนึ่ง เขาตามพวกเราไม่ทันดอกครับ..................
แต่เวปส์เป็นเวปส์ของผู้มี ความรู้จริงๆ
อย่าลืมสันหลังของชาติบ้างก็แล้วกัน
เมื่อวันที่
08/02/2009 05:14:19 อย่างข่าวนี้ เราเองก็ควรจะ focus เจาะจุดไปยังเรื่องการซื้ออาวุธว่า เออ เราน่าจะได้อันนี้ หรือชิ้นโน้น ชิ้นนี้ดีกว่า หรืออย่างไร หรือไม่ควรซื้อเล้ย เงินไม่มี ซื้อเยอะขนาดนี้ไหวเหรอ เอาไปซ่อมหรือบำรุงอะไรอย่างอื่นก่อนดีกว่ามั้ย
แค่นั้นแหละครับ
ส่วนเรื่องชาวไร่ชาวนา ชาวรากหญ้า ผู้ยากไร้หาเช้ากินค่ำ ผมเองก็เข้าใจครับ ซึ่งผมเองเคยอยู่สังคมดังกล่าวมาก่อนและร่ำรวยขึ้นมาอย่างน่าประหลาด แต่ก็ฮาแตกอีกครั้งเมื่อโชคชะตาทำให้้บ้านผมกลับกลายมาจนสุดๆแทบจะปรับตัวกันไม่ได้เลย และก็ฟื้นขึ้นมาได้ระดับพอมีพอกิน พอเพียงอยู่ทุกวันนี้ครับ ทำให้ผมเองสามารถพูดได้เต็มๆเลยว่า เข้าใจดีว่าความจนเป็นเช่นไรสำหรับชาวไร่ชาวนาทั้งหลาย แต่เราเองก็ไม่มีพลังพอจะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้ ทางบ้านผมเองก็ได้ช่วยเหลือบ้าง ด้วยการอุปการะด้านการเงิน(เท่าที่พอมี) ส่งเสียค่าเล่าเรียนเขาบ้าง (น่าเสียดาย ทำไมไม่เรียนต่อไปคนนึงน้าาาา ยัยหนูเอ๊ย อยากทำงานไปไหน)
แต่ปัจจุบันก็ไม่ส่งแล้วครับ ^^" ผมเองยังต้องเรียนรามเลย เงินไม่มี+เอ็นไม่ติด 555
สักวันชาวไร่ชาวนาสันหลังของชาติ สักวันครับ หากว่าพวกเขาเป็นคนดีมีศีลธรรม ยึดมั่นในคุณธรรม สักวันหนึ่งเขาจะมีความสุขแน่ๆ ไม่ต้องห่วงครับ
ขอบคุณครับ
ปล พูดถึงเรื่องการเมืองสักหน่อย สำหรับการเมืองผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก เนื่องจากพวกเราเองแม้บางคนจะทำงานสายราชการ ทางบ้านเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว เรื่องจริงเป็นเช่นไร มันมีลับลมคมในเช่นไร ผมว่าเราเองก็ไม่รู็จริงสักคนครับ แม้แต่คนในวงในระดับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆตามข่าวก็ตามก็ยังไม่รู้จริงด้วยซ้ำบางคน เราจึงควรติดตามข่าวสารให้รู้ทันสถานการณ์ครับ ส่วนจะเข้าไปร่วมหรืออะไรเช่นไรแล้วแต่ละบุคคลจะพึงปฏิบัติครับ
พูดอะไรเยิ่นเย้อยืดยาวเหลือเกิน เห็นทีต้องเข้าอบรมเรื่องศิลปะการพูดสักแห่งแล้ว (มีที่ไหนฟรีมั่งครับแนะนำกันก็ดีนะ)
ขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ
เมื่อวันที่
08/02/2009 05:45:35 
เมื่อวันที่
08/02/2009 06:02:38