ความคิดเห็นที่ 1
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
04/02/2009 23:22:09
ความคิดเห็นที่ 2
ผมเคยฟังกระแสรับสั่งของพ่อหลวงที่พระราชทานแก่กองทัพเรือเรื่องเรือดำน้ำ ( ฟังมานานแล้วนะครับจำไม่ได้ว่าในโอกาสอะไร)
มีใจความว่า...
เรือดำน้ำถ้าจะเอามาใช้ทางอ่าวไทยเห็นว่าจะลำบากเพราะอ่าวตื้น 30เมตร
เวลาเครื่องบินบินผ่านมองลงมาก็เห็นเวลาทำมุมเอียงจะเชิดหัวขึ้นท้ายก็อาจจะติดพื้น จะใช้ก็ต้องออกไปไกลๆที่ลึกๆ ออกไปไกลก็ไม่ดี ( พระองค์รับสั่งใช้คำว่า เหงา หรือโดดเดี่ยว อันนี้ผมจำไม่ได้ครับ)
ส่วนทางอันดามันผมจำไม่ได้ครับ...ว่ามีรับสั่งอย่างไร
เนื้อความอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นนะครับแต่ใจความได้ความว่าอย่างนี้
ความเห็นส่วนตัว ถ้าจะจัดหามาใช้เพื่อป้องกันประเทศผมชอบของเยอรมันเพราะได้รับยกย่องว่าเป็นเรือที่เงียบที่สุด อิอิ จำรุ่นไม่ได้
โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่
05/02/2009 00:48:50
ความคิดเห็นที่ 3
อยากได้ u214 แต่ถ้าแพงไป อะไรก็ได้ครับ ใจอยากให้ไทยไปร่วมหุ้นพัฒนากับสวีเดนในการพัฒนาเรือดำน้ำใหม่ของเขา ระหว่างนี้ก็นะ ขอถูกๆมาก่อนละกัน
โดยคุณ
BloodRoyal เมื่อวันที่
05/02/2009 00:58:40
ความคิดเห็นที่ 4
แนวโน้มของโครงการจัดหาเรือรบใหม่ของกองทัพเรือนั้น ตัวโครงการหลักใหญ่ๆน่าจะเป็นการจัดหา "เรือฟริเกตสมรรถนะสูง" จำนวน๒ลำก่อนครับ โดยส่วนตัวก็เคยแสดงความเห็นไปแล้วว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้นเป็นโครงการระยะยาวที่น่าจะเริ่มในช่วงปี ๒๕๕๕-๒๕๖๐ เป็นอย่างเร็วครับ และใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 35,000-42,000ล้านบาท สำหรับเรือใหม่สองลำ
ส่วนตัวคิดว่าในช่วงเวลาการจัดหานั้นมีก็หลายประเทศที่เริ่มโครงการจัดหาเรือดำน้ำใหม่ของตนครับเช่น สเปนเริ่มโครงการเรือดำน้ำ S-80 ส่วนสวีเดนก็เริ่มโครงการเรือดำน้ำแบบ A26 เป็นต้น
ซึ่งการที่ให้ความสนใจกับโครงการเรือแบบใหม่ทั้งสองประเทศนั้นก็น่าจะดีครับ เพราะความสัมพันธ์ของไทยกับ สเปนและสวีเดนนั้นก็อยู่ในขั้นที่ดีและน่าจะเข้าร่วมการจัดหาเรือร่วมกันได้ครับ (ซึ่งมีข้อมูลว่าสิงคโปร์สนใจการเข้าร่วมโครงการเรือดำน้ำ A26 ของสวีเดนเช่นกันครับ)
โดยคุณ
AAG_th1 เมื่อวันที่
05/02/2009 01:29:23
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าเรือดำน้ำอยากได้ Amur 950 เล็กแต่แจ๋ว
Torpedo 4 ท่อ แถม VLS 10 ท่อ
งานนี้เน้นเล็กแต่เยอะ ถ้าได้มา 3-4 ลำล่ะก็ หึหึ
โดยคุณ Ben_BEnz เมื่อวันที่
05/02/2009 02:06:55
ความคิดเห็นที่ 6
แต่ใจจริงแล้วตอนนี้อยากได้ฟริเกตไฮโซสัก 2-3 ลำก่อน เอาแบบ Absalon Class ย่อส่วนก็ได้ สัก 4000 ตัน อาวุธครบชุดทั้ง SSM [Harpoon], SAM [ESSM], 127mm MK45 mod4, Millennium 35mm และอื่นๆ บวกโรงเก็บกับฮ.สักลำ
แค่นี้ศักยภาพทางการทหารของน่านน้ำไทยก็คงแกร่งขึ้นอีกมาก
โดยคุณ Ben_BEnz เมื่อวันที่
05/02/2009 02:14:28
ความคิดเห็นที่ 7
ทำไมเราไม่ซื้อ เรือดำน้ำของจีนล่ะครับ น่าจะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ (ราคาน่าจะถูกกว่าประเทศอื่น ถ้าเป็นของใหม่)
ประเทศไทยเพิ่มจามีใช้ครั้งแรกในรอบ 50 ปี คงไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง ประกอบกับบทบาทเรือดำน้ำของเราคงเป็นไปในทางตั้งรับ มากกว่าทางรุก จึงไม่ต้องมีศักยภาพสูงขนาดที่จะบุกเข้าฐานทัพประเทศอื่นได้ น่าจะนำมาใช้เพื่อให้การตรวจการในทะเลครบสามมิติมากกว่า
เรือดำน้ำจีน ก็มีทั้ง ชั้น Yuan และ Song ยิงตอร์ปิโดกับขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำได้ก็น่าจาพอแล้ว
เห็นใน wiki เขียนไว้ว่า จีนเคยเสนอขายให้เราเมื่อปี 2007 เพิ่งผ่านมาสามปีเองครับ
Export
China offered the 039 submarine for sale to Thailand in 2007. However the Royal Thai Navy lacks the infrastructure to support submarines, and no sales are pending at this time
โดยคุณ panzerlied เมื่อวันที่
05/02/2009 02:17:41
ความคิดเห็นที่ 8
โดยคุณ sun เมื่อวันที่
05/02/2009 02:56:18
ความคิดเห็นที่ 9
ขอ Oscar SSGN 4 ลำ
Akula II Improved 8 ลำ
อิอิอิ
โดยคุณ
helldiver เมื่อวันที่
05/02/2009 03:09:17
ความคิดเห็นที่ 10
อยากรู้การนำวิถีของอาวุธที่ยิงออกจากเรือดำน้ำนะครับ..
ถ้าอย่างเครื่องบิน ก็พอรู้ว่าใช้เรดาร์หาตำแหน่ง
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่
05/02/2009 03:20:05
ความคิดเห็นที่ 11
ใช้โซน่า อะเปล่าครับแบบในหนังเรื่อง.....อิอิจำชื่อไม่ได้ เกี่ยวกับการรบกันของเรือดำน้ำ ฝ่ายโจมตีบอกว่าจับเป้าได้แล้ว อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองโดนจับเป้าได้สั่งหยุดเดินเครื่องแล้วทุกคนก็อยู่นิ่งๆกันสุดท้ายคนในห้องเครื่องทำปะแจตก ฝ่ายโจมตีจับเสียงได้ก็เลยเริ่มยิงกัน มันสุดๆเลยเรื่องนี่
ปล.ในเรื่องมีการยิงเป้าลวง การกระดกเรือหลบตอปิโดที่กำลังวิ่งเข้ามา มีตอนตอปิโดระเบิดข้างๆเรือด้วย
โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่
05/02/2009 05:05:51
ความคิดเห็นที่ 12
SCORPENE รุ่นใช้ เชื้อเพลิง MESMA ขนาด ระวางขับน้ำ 2,000 ตัน
มีท่อยิง VLS EXOCET SM-39
ถ้าซื้อเยอะ เกิน 5 ลำ ขอการถ่ายทอด เทคโนโลยี การสร้าง เรือดำน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ อาจจะได้
ก็เป็นเพราะ กรณี ลามอตต์ ปิเก้......อีกนั่นแหล่ะ เห็ตุผลที่คนไทย ไม่ชอบเขา
ทุกวันนี้ ญี่ปุ่น ก็ดีกับ อเมริกา ที่เคยทำสงครามกันมา
เวียดนาม ก็ดี กับ อเมริกา แล้ว
ผมว่า ยุคสมัย มันเปลี่ยนไปแล้ว...................
ไม่งั้น ทุกวันนี้ คนไทย ก็ยังเกลียด พม่า เข้ากระดูกดำล่ะสิ
เหมือนดังเช่น ชาวกัมพูชา ส่วนหนึ่ง หรือส่วนมาก เกลียดประเทศ ไทย
โดยคุณ
TOP SECRET เมื่อวันที่
05/02/2009 05:45:07
ความคิดเห็นที่ 13
ในความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ กองทัพเรือนั้นอยากได้เรือดำน้ำมากๆ แต่ไม่ได้เอามาเพื่อวัดศักยภาพอะไร แต่ต้องการเอามาฝึกและเป็นจิตวิทยาในด้านยุทธศาสตร์ ซึ่งถ้าเริ่มต้นมีแค่ 2 ลำก็น่าจะใช้ได้ ส่วนว่าอยากให้เป็นอะไรนั้น คาดว่าที่อยู่ในใจของกองทัพเรือน่าจะเป็นแบบของ เยอรมัน สวีเดน และ รัชเซีย แต่ถ้าพูดถึงปร ส่ะสปการณ์และการฝึก เราเคยมีเรือดำน้ำและเว้นช่วงมานานแล้ว ซึ่งทำให้ประสปการณ์ที่เคยมีน่าจะไม่เพียงพอกับการเรียนรู้เพราะเทคโนโลยีและหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องเรือดำน้ำนั้นเปลี่ยนไปมาก แต่เราได้มีการฝึกับอเมริกาและมีการไปเรียนรู้กับทางเยอรมัน ดังนั้นถ้าดูด้านนี้เหมือนของเยอรมันจะน่าสนใจ แต่ว่าราคาเรือของเยอรมันนั้นค่อนข้างจะสูงมากและมักจะมีเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้างแต่ก็เป็นเรือที่มีความนิยมกันค่อนข้างสูง ส่วนของสวีเดนนั้นราคาน่าจะย่อมลงมา แต่ก็คงไม่ถูกมากเท่าไหร่แต่ก็อาจจะมีเงื่อนไขดีๆออกมาได้ ส่วนของรัชเซียนั้นราคาน่าจะถูกกว่าเพือนแต่ก็เป็นของดีมีคุณภาพไม่แพ้ของตะวันตก ซึ่งถ้าเป็น ชั้นอาเมอร์ นั้นจะลูกค้าสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่ต้องการได้ เรียกว่า นวัตกรรมเปิด ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยแต่ยังไม่ค่อยมีใครสั่งซื้อกันเท่าไหร่ถ้าเทียบกับชั้น กิโล ที่ฮิตกันมากๆ ซึ่งผมว่าหากมีการไปดูศึกษาของ รัชเซีย ดูบ้างก็ไม่น่าเสีบหายอะไร ถ้าดีจริงและราคาถูกเราก็สามารถจัดหามาใช้งานได้โดยประยุกต์การใช้งานด้วยยุทธวิธีตะวันตกที่เราเรียนรู้มาจากอเมริกาและเยอรมันก็น่าจะเจ๋ง แต่ว่าสถานะทางการเงินที่จะได้รับบวกกับโครงการต่างๆของกองทัพเรือนั้นงบประมาณแต่ละอย่างค่อนข้างสูงจึงน่าจะเป็นไปได้ยากในช่วงนี้ครับ เว้นเสียแต่รัฐบาลจะใจป้ำจริงๆ
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
05/02/2009 06:12:24
ความคิดเห็นที่ 14
สวีเดนหรือไม่ก็เยอรมันครับ น่าจะเหมาะสมที่สุดกับกองทัพไทย เพราะระบบต่างๆคงไม่ต้องปรับตัวมากนัก
ส่วนฝรั่งเศสนั้นคงขอผ่านครับ ลามอตปิเกต์มันเป็นประเด็นรองแต่ประเด็นหลักคงตั้งแต่สมัย ร.5 ที่แล้วครับ
โดยคุณ
ขำขำวุ้ย เมื่อวันที่
05/02/2009 06:47:41
ความคิดเห็นที่ 15
จริงๆแล้วตอนนี้เราก็ซื้ออาวุธฟรั่งเศสใช้ครับ...มิททรัสไง
ผมว่าถ้าเราไม่ซื้อเรือของฟรั่งเศสน่าจะเป็นที่ราคาครับ อาวุธของฟรั่งเศสค่อนค่างที่จะแพงครับ...
ปล.เราไม่ควรเอาเรื่องสมัยอดีตมาทำให้คนเราเกลียดกันเลยครับเรื่องมันแล้วไปแล้ว....สมัยนั้นมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ...ใครใหญ่ใครอยู่...เราคงไม่อยากให้ชาติต่างๆรอบเกลียดเราที่เราเคยไปยึดบ้านเมืองเขาเหมือนกันใช่ไหมครับ...^ ^
โดยคุณ
tow เมื่อวันที่
05/02/2009 06:59:00
ความคิดเห็นที่ 16
....เรือดำน้ำ นี่ต้องเรียกว่าเป็นของใหม่ของบ้านเราน่ะครับ ความคิดเก่านะ
...ซึ่งหากต้องจัดหาจริงๆ เรือในหลายๆรุ่นย่อมมีโอกาสเท่ากันครับ อาจจะมีตัวตัดคือเรื่องงบประมาณและอื่นๆเช่น อาวุธ เป็นต้น ส่วนตัวก็เชียร์เรือดำน้ำจากรัสเซียครับ ซึ่งหาก ท.ร.ต้องการเรือดำน้ำที่มีขีดความสามารถสูงและราคาไม่แพงเกินไป เรือดำน้ำรัสเซีย คงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก อันนี้อย่างน้อยๆคุณภาพ มาตรฐานก็ดีพอทัดเทียมตะวันตกและมีผู้ใช้หลายชาติ ที่เราเห็นๆก็ กิโล ส่วนเรือดำน้ำจากประเทศจีนนั้น ควรเช่าไว้ฝึกดีกว่า เพราะจีนเองก็กำลังพัฒนาเรือดำน้ำอยู่เนืองๆน่ะครับ
....หากเป็นเรือ รัสเซียจำพวก คลาส อาร์เมอร์ 1650 และ 950 ใช้ยิง วีแอลเอส นั้น คงทำให้ยุทธวิถีในการรบบ้านเราเปลี่ยนไปมากในเชิงรุกและรับ นอกจากนั้นยังเพิ่มขีดความสามารถทางทะเลให้บ้านเราดูน่ากลัวมากขึ้น ครับ หากจะมองไปถึงเรือดำน้ำจากชาติยุโรปอย่าง ฝรั่งเศสและเยอรมัน ต้องดูอย่างเดียวว่า เรามีงบประมาณจัดหาได้เพียงใด และได้อะไรมาบ้าง ในกรณีเรือดำน้ำรัสเซีย หากมองเรื่องความเข้ากันได้ ส่วนตัวว่ามีแต่ระบบสื่อสารเท่านั้นเอง เพราะบ้านเราห่างจากเทคโนโลยีเรือดำน้ำไม่ว่าจะยุโรป รัสเซียมานานมาก ในกรณีเรือความเข้ากันได้ของระบบนั้น คงไม่ใช่ปัญหาหลักแต่อย่างใดครับ นอกนั้นต้องจัดหาใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องช่างและการฝึก ซ้อมรบน่ะครับ
...ส่วนกรณีฝรั่งเศส บ้านเราเองก็จัดหาอาวุธจากฝรั่งเศสมาใช้อยู่ครับ คงไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะ
โดยคุณ
MIG31 เมื่อวันที่
05/02/2009 07:09:42
ความคิดเห็นที่ 17
โดยคุณ
PREANG เมื่อวันที่
05/02/2009 07:33:19
ความคิดเห็นที่ 18
โดยคุณ อู๊ด เมื่อวันที่
05/02/2009 08:24:23
ความคิดเห็นที่ 19
ใช้ของรัสเซียก็ดี ว่ากันว่า เรือดำน้ำดีเซล - ไฟฟ้าของรัสเซียนี่เงียบที่สุด
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่
05/02/2009 09:31:22
ความคิดเห็นที่ 20
โดยคุณ panzerlied เมื่อวันที่
05/02/2009 09:51:06
ความคิดเห็นที่ 21
ความคิดของผมอาจจะไม่ตรงกับหลาย ๆ ท่านนะครับ
แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผมรัก ทร. มาก ๆ เป็นสาวก ทร.มาตลอดชีวิต
ผมมองว่า ในสภาพงบประมาณแผ่นดินแบบนี้ จะให้อีกกี่สิบปี เรามีนักการเมืองแบบนี้ ไม่มีวันที่ ทร.จะได้เรือดำน้ำแบบที่เราใฝ่ฝันกันแน่ ๆ ครับ เพราะพอจะซื้อ พอจะเซ็นสัญญา พอเห็นตัวเลข งป. กัน ก็ประโคมข่าวกันเข้าไปอีกว่า มีคอมมิสชั่น ทะเลตื้น ใช้ไม่ได้หรอก โกง ไม่โปร่งใส อะไรทำนองนี้
ผมพอใจมาก ๆ ที่ ทร.พยายามทำอะไรแบบพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด จะผิดบ้าง ถูกบ้าง มันก็เดินมาเรื่อย ๆ แบบมั่นคงขึ้น ตั้งแต่เมื่อก่อนโน่น จะต้องซื้อเรือจากเมืองนอกตลอด พอเริ่มมีเทคโนโลยี ทร.ก็เลือกที่จะเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อหาประสบการณ์ สมัยก่อน ต่อเรือยกพลฯ ร.ล.สุรินทร์ ร.ล.สีชัง ก็ต่อกันเอง ต่อเรือตรวจการณ์ปืนเอง อันที่จริง เรือ ต. เนี๊ยะ น่าจะเป็นสิ่งที่ ทร.ชำนาญเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะขนาดเรือใหญ่กว่านี้ ยังต่อได้เลย เช่น เรือ ต.ปราบเรือดำน้ำอย่าง ร.ล.ล่องลม เป็นต้น ออกแบบเรือฟริเกต ก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับเขา อาจจะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่เราก็เก่งขึ้น ยิ่งหลังสุด เรือ OPV ของเราเราออกแบบเองทั้งหมด นี่สุดยอดแล้ว ถึงจะต่อเองไม่ได้ก็ตาม
ผมคิดว่า หากเรารออยู่อย่างนี้ รอว่าเมื่อไรเราจะมีเรือดำน้ำดี ๆ งานนี้คงต้องรอต่อไป ผมเชียร์ให้ ทร.ซื้อ ด.ชั้นซ่ง ของจีนนี่ล่ะครับ ราคามิตรภาพ ขอแค่สองลำก็พอ ถึงมันจะมีประสิทธิภาพสู้ฝรั่งไม่ได้ แต่มันก็มี และมันก็ดำน้ำได้ มันใช้งานป้องกันประเทศได้ระดับหนึ่ง ที่ผมมอง ผมมองถึงประสบการณ์ของการใช้เรือดำน้ำ มันไม่ได้ใช้เก่งกันได้แค่ระยะเวลาปีหรือสองปีนะครับ มันต้องใช้กันเป็นสิบ ๆ ปี
จะว่ากันไปจริง ๆ สงครามในภูมิภาคนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ด้วยซ้ำ แต่มีไว้เพื่อผลทางจิตวิทยา น่าจะดีกว่าไม่มีครับ พอมีประสบการณ์สูงขึ้น มีความขำนาญขึ้น ในอนาคตข้างหน้าจะหาเรือ ด.ที่ดีกว่า แล้วลดชั้นซ่ง ลงไปเป็นเรือฝึก ก็ไม่เสียหายนี่ครับ
นี่คือความคิดของผมนะครับ
ปล.งบประมาณ 5 พันล้านบาท สำหรับชั้น ซ่ง 2 ลำ พอไหมครับ เพราะผมไม่ทราบราคาเลย
โดยคุณ
krubannok เมื่อวันที่
05/02/2009 19:48:10
ความคิดเห็นที่ 22
$72 Million ต่อลำสำหรับเรือดำน้ำใหม่ 1ลำดูจะราคาถูกเกินไปครับ
ถ้าดูจากที่มาเลเซียใช้งบประมาณในการจัดหาเรือดำน้ำแบบ Scorpene จำนวนสองลำจากบริษัท DCNS ฝรั่งเศษราว 900 Million Euro หรือราวๆ $1.15billion กว่าครับ ตกลำละ $575 Million
ซึ่งถ้ากองทัพเรือไทยจะจัดหาเรือดำน้ำใหม่อย่างน้อยสองลำที่มี Technology และคุณสมบัติในระดับเดียวกันก็คงต้องมีงบไม่ต่ำว่า $1-1.2 Billion หรือ 35,000-42,000ล้านบาทครับ
ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าเรือดำน้ำใหม่จากจีนไม่ใช่ตัวเลือกที่กองทัพเรือมองครับถ้าดูจากประสบการณ์การจัดหาเรือจากจีนที่ผ่านมา แต่การเช่า-ซื้อเรือดำน้ำมือสองจากจีนเพื่อการฝึกนั้นมีความเป็นไปได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ภัยคุกคามของจีนเองในอนาคตด้วยครับว่าจะสามารถให้เช่าเรือได้หรือไม่(เช่นกรณีต้องคงกำลังรบเผื่อเกิดสงครามกับไต้หวัน เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น)
โดยคุณ
AAG_th1 เมื่อวันที่
05/02/2009 21:28:35
ความคิดเห็นที่ 23
คห.แรกของคุณAAG_th1 โดนใจครับ เพราะผมเชียร์ A-19 Gotland เหตุผลคือสามารถปฏิบัติการร่วมกับทอ.(jas-39) ได้สมบูรณ์ที่สุด เพราะมาจากสวีเดนเหมือนกัน... และไม่แน่.... ลูกค้าชั้นดีอย่างไทยแลนด์อาจได้ CV-90 ซัก 1 กองพันสำหรับ นย. และ/หรือ รจอ.ล่องหนชั้นสต็อกโฮม 2-3 ลำ เป็นของแถมก็ได้นา..... อันนี้อยู่ที่ฝีมือท่านskyman(รึเปล่า) ฮะ ฮ่า...
โดยคุณ
nui-714 เมื่อวันที่
06/02/2009 02:16:09
ความคิดเห็นที่ 24
โดยคุณ
nui-714 เมื่อวันที่
07/02/2009 02:20:25
ความคิดเห็นที่ 25
โดยคุณ panzerlied เมื่อวันที่
07/02/2009 04:17:03
ความคิดเห็นที่ 26
....เยอรมัน รัสเซีย และ อเมริกัน จัดเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ทางเรือดำน้ำสูงมาก....
.....ด.ชั้นกิโลของรัสเซีย มีชื่อเสียงเรื่องความเงียบ ที่เงียบจนอเมริกันและอังกฤษยังหนาว แต่ว่ามันชราภาพมาก ถึงต่อขึ้นมาใหม่เทคโนโลยีก้อคงจะล้าหลังคนอื่นอยู่หลายสิบปี อีกอย่างชื่อชั้นกิโล ไม่ค่อยเป็นมงคลคับ ถ้าหมายถึงกิโลกรัม....
.....เยอรมัน มีชื่อเสียงเรื่องทำเรือดำน้ำที่มีความแข็งแรง แล่นได้เร็ว แต่เสียงไม่ค่อยจะเงียบเท่าใด....
.....อเมริกันก็ชอบทำแต่ของใหญ่ ๆ ลำเล็ก ๆ เหมาะกับอ่าวไทยคงหายาก....
.....จีน ลอกแบบลูกเดียว เอาแค่รถแมงกะไซค์ยังไปไม่รอด รถถัง 200 คันซ่อมเสร็จยัง ไม่รู้ ถ้าพูดถึงเรือดำน้ำ โปรโมชันดีขนาดไหนก้อไว้ใจยาก....
....ผมมองไปที่ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน อังกฤษ หรืออิตาลี น่าจะมีคำตอบที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าคับ.....
โดยคุณ
X-1 เมื่อวันที่
17/02/2009 00:56:44
ความคิดเห็นที่ 27
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับ ทร.ไทยยังไม่พร้อมจะมีเรือดำน้ำ(ควรมีหรือไม่กระผมไม่ขอออกความคิดเห็น) การที่เราจะมีเรือดำน้ำ เราต้องถามตัวเองว่า
- เรามีความพร้อมใรการสนับสนุนการฝึกความพร้อมขององค์บุคคล(คนขับเรือดำน้ำก็เหมือนนักบิน แถมยังอันตรายกว่าด้วย) ของประจำเรือดำน้ำหรือไม่
-เรามีบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานกับเรือดำน้ำเท่าไหร่
-เราเคยคิดถึง งบประมาณสำหรับบำรุงรักษาเรือดำน้ำในอนาคตหรือไม่
- เรามีขีดความสามารถในการซ่อมทำเรือดำน้ำหรือไม่(เรือผิวน้ำยังไม่มีขีดความสามารถซ่อมทำไ้ด้เท่าที่ควร)
-ฯลฯ
ในส่วนตัวผมไม่อยากเห็นการดำเนินการของประเทศไทยแบบเดิมๆ เช่น สร้างสนามบิน(ที่ไหนสักแห่ง) เมื่อสนามบินเปิดแล้ว ค่อยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก(เช่น รถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันยังสร้างไม่เสร็จ) ไปลองรับ(เราถึงสู้ต่างประเทศเค้ายากน่ะ)
ทำไมเราไม่สร้างสิ่งรองรับเสียก่อน เช่น จะสร้างบ้าน สร้างตึกเราต้องสร้างรากฐานก่อน ไม่ใช้เราจัดหาตึกแล้วค่อยจัดทำรากฐาน
ประเทศเพื่อนบ้าน เค้าวางโครงการ 20 ปีในการส่งคนไปฝึกที่ต่างประเทศ อุตสหกรรมต่อเรือภายในประเทศ ได้รับการถ่ายทอดการสร้างเรือดำน้ำ(ลำที่ 3 ) ซึ่งเป็นการสร้างภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้เค้ามีความรู้ ความสามารถ ในศาสตร์การสร้างเรือดำน้ำ (เห็นไหมประเทศใกล้เราเค้ากว้าวล้ำหน้าเราไปอย่างน้อยก็ 20 ปีล่ะ) ซึ่ง ณ ปัจจุบันเรายังมาถามตัวเองว่าเราควรมีเรือดำน้ำหรือไม่อยู่เลย(ถามตัวเองมานานขนาดไหนแล้วจำไม่ได้)แล้วคิดดูว่าเราควร หรือ เราพร้อม จะมีเรือดำน้ำมากน้อยขนาดไหน
มีมีดดาบ มีปืนไว้ประดับฝาบ้าน เอาไว้โชว์ ไม่ได้คิดจะเอามาใช้งาน
โดยคุณ weera เมื่อวันที่
11/03/2009 13:48:49
ความคิดเห็นที่ 28
ถ้าทำคำถามย้อนกลับไป
แล้วทำไมเราไม่ทำ ระบบตรวจจับเรือดำน้ำเป็นแบบเครือข่ายไปเลยละครับ
ผมว่าในงบประมาณซื้อเรือดำน้ำข้างต้นที่กล่าวมา ถ้าลองย้อนมา
ปรับปรุงระบบตรวจจับเรือดำน้ำ ที่มีประัสิทธิภาพ ถึงขั้นว่า
ทำเป็นเครือข่ายทั่วอ่าวไทย และทะเลอันดามันไปเลยมันจะดีไหมเอ่ย
เช่น จัดทำเครื่องบินตรวจเรือดำน้ำก็คือ P-3T Orient เพิ่มเติม
ซึ่งในงบประมาณเดิมก็มีการปรับปรุงระบบ ของ P-3T ไปด้วยตั้ง เก้าร้อยล้านบาท และก็ปรับปรุงระบบ ระบบทำลาย และตรวจจับเรือดำน้ำ
อย่างเดียว ในเมื่อหนู (เรือดำน้ำ ) มันมีอยู่ทั่วไปในอาเซียน เราก็ทำตัวเป็น (สุนัข หรือ แมว เพราะเดี๋ยวนี้สุนัขก็จับหนูเก่งกว่าแมวเยอะครับ) ในเมื่อมันเป็นภัยคุกคามแบบใหม่ที่น่ากลัว ก็ตั้งระบบป้องกันไปเสียเลย
ผมว่างบประมาณมันพอๆกับ การซื้อเรือดำน้ำสองลำด้วยซ้ำไป อีกทั้งการจัดทำงบประมาณป้องกันประเทศยังจะผ่าน ง่ายกว่างบประมาณซื้อเรือดำน้ำอีกต่างหาก เพราะัมันเป็นการซื้อแยกส่วนการระกหว่างองค์กร ทั่วไป เหมือนใช้งบประมาณพิเศษน่ะพครับ มีประโยชน์กว่าด้วย
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่
15/03/2009 01:01:16
ความคิดเห็นที่ 29
แล้วทำไมเราไม่ทำ ระบบตรวจจับเรือดำน้ำเป็นแบบเครือข่ายไปเลยละครับในเมื่อหนู (เรือดำน้ำ ) มันมีอยู่ทั่วไปในอาเซียน เราก็ทำตัวเป็น
(สุนัข หรือ แมว เพราะเดี๋ยวนี้สุนัขก็จับหนูเก่งกว่าแมวเยอะครับ)
^
^
- เครือข่ายตรวจจับเรือดำน้ำลงทุนแพงมากนะครับ ในการสร้างสถานีดักฟัง หรือการวางไฮโดรโฟน ทั่วพื้นที่
- ฝูงบินต่อต้านเรือดำน้ำ มีค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการสูงมาก และเป็นเป้ามายที่โดดเด่น ง่ายต่อการต่อต้าน
- ไม่ว่าจะวางหนาแน่นแค่ไหนก้ไม่สามารถยืนยันได้ 100% นอกจากจะเอา ฮ มาโปรยโซโนบุยตลอด 24ht
- ใช้เป็นอาวุธเชิงรุกได้ยาก (ไม่ค่อยมีคนกลัว ว่าง่ายๆ)
- เรือดำน้ำไม่ใช่หนูมั้งครับแต่เป็น "งู" ที่ซุ่มอยู่มากกว่า เราจะเอาเรือฟรีเกต (หมาหรือแมว) ไปปราบ ยังไงก็เหนื่อยอยู่ดีครับ
โดยคุณ Kross เมื่อวันที่
02/07/2009 17:45:52
ความคิดเห็นที่ 30
โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่
28/02/2010 15:06:57
ความคิดเห็นที่ 31
ในอ่าวไทยเรือดำน้ำติดอวนม้วนเต็มใบพัด
จอดครับ
โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่
28/02/2010 15:08:26
ความคิดเห็นที่ 32
เหตุผลไม่ใช่อะไร เอาใว้ใช้ขู่เพื่อนบ้านที่มีปัญหากับเรามากๆ เพราะมันคือ อาวุธเชิงยุธทศาสตร์นั่นเอง เป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถมองเห็นใด้ประเทศเราควรมีอย่างยิ่งเพราะสามารถเกิดศึกได้รอบด้าน ยิ่งมีใว้ใช้เร็วแค่ไหน ก็สามารถฝึกบุคลากรที่มีความสามารถ เร็วมากขึ้นเท่านั้น หรืออยากให้ประเทศไทยต้องเสียเปรียบประเศเพื่อนบ้านกันล่ะ อิอิ
โดยคุณ smoke2joice เมื่อวันที่
21/08/2010 07:04:06
ความคิดเห็นที่ 33
โดยคุณ
arcobaleno เมื่อวันที่
04/12/2010 02:31:37