หาก...SKYMAN ยังไม่เลิกวิจารณ์นโยบายของพวกเรา...เราจึงขอเสนอมาตรการขั้นเด็ดขาดกับเสี่ยโย...พ่อค้าอาวุธหลายใหญ่ของไทยที่คว้าโครงการ ๔๐๐๐ ล้านบาทไป ...

ด้วยโครงการนี้.............................ฮึๆๆๆๆๆ บึ๊ม.สสสสสสส

ท่านท้าว ครับ

เล่นยังงี้ทำเอาลุงโยนั่งไม่ได้แน่ เพราะร้อนเนื้อร้อนตัวว่าจะเสียตลาดไป

อิอิอิ

   พี่นกหน้าไหนหาไม่เจอ

   อ้าวท่านท้าวมาบอกใบ้รอบสองแล้ว...........เอ๋....ขาดอีกแค่ 6 เครื่องทอ.จะมีเครื่องไว้แทนฝูงนี้ครบพอดี     งานนี้มีพลิกล็อคไหมนี่   แต่สำหรับทอ.ลอดช่องก็ยังไม่ถึงเวลาปลดนี่นาสำหรับรุ่นนี้    แต่ถ้าเป็นฝูง 211 ก็น่าจะนะ......????????

ฝูงบิน F-16 C/D ของ ทอ.สิงคโปร์ ฝูงบินฝึก...ที่ประจำการอยู่ใน สหรัฐ....

ขอ จินตนาการ ว่า...ฝูงที่ 2 ของ JAS-39 C/D อีก จำนวน 6 ลำ...ของเสี่ยโย...

อาจจะถูก เขมือบ ด้วย...F-16 C/D มือสอง ของ สิงค์โปร์ ในมูลค่า 4,000 ล้านบาท เหรอครับ...

เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ....ถ้า จินตนาการ เป็นอย่างนั้น...ผมคงขำ...ตามท่านท้าวฯ ครับ... เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ....ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...ซะใจ จริง ๆ....แบร่ ๆ....

โอ้ แม่เจ้า....// มาปีนี้เหรอครับ จ๊ากๆๆๆๆ ต๊กกะใจ แล้ว F-5T จะย้ายไปไว้ไหนครับ เพราะยังคงใช้ได้อีกหลายปี

ท่านโยทำอะไรสักอย่างซิครับ แบบว่าลดแลกแจกให้มันมากกว่านี้อีกครับ

แค่ขำๆ นะครับ....เพียงแต่ว่า...(อาจจะเป็นจริงก็ได้นะ..เสี่ยโย)

...จารกรณี ที่ ทอ.สิงคโปร์ รับมอบ F-15 SG จำนวน ๑ เครื่องจากทั้งหมด ๒๔ เครื่องตามโครงการ Peace Carvin V เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา เพื่อบรรจุเข้าประจำการทดแทน A-4 SU ของฝูงบินขับไล่ที่ 142 “Gryphon” ในปี ๒๐๑๐ ...อย่างไรก็ตามก่อนจะมีการบรรจุ F-15 SG ทั้งหมดเต็มฝูงทดแทนซูเปอร์สกายฮอว์ค ในประเทศสิงคโปร์ ในปีหน้า...ปีนี้ส่วนหนึ่งของ F-15 SG จะบรรจุประจำการทดแทน F-16 C/D Block 52 ในฝูงบิน 428 “Buccaneers” ที่ประจำการอยู่ในฐานทัพอากาศ CANNON ในรัฐนิวแม็กซิโก ประเทศสหรัฐฯ  (สิงคโปร์ ยังมี F-16 D ในอเมริกาอีกฝูงคือ ฝูงบิน 425 “BLACK WINDOWS” )  ให้สังเกตให้ดีๆ นะครับว่า ....เมื่อเครื่องบินเหล่านี้มีเยอะเกินความจำเป็นของสิงคโปร์...แน่นอนว่า..ทัพฟ้าสิงคโปร์ย่อมต้องการที่จะระบายออกบ้างมิให้มีเยอะเกินการใช้งานและงบประมาณในการดูแลรักษาสูงเกินไป  ซึ่งมีข้อมูลภายใน ทอ.สิงคโปร์ยืนยันมาว่า เป็นเรื่องจริง....เขาก็จะต้องหาประเทศที่เหมาะสมและไว้ใจที่สุดที่จะขายหรือมอบให้...ซึ่งประเทศที่คงความเป็นมิตรแท้ให้สิงคโปร์...อยู่ในลำดับต้นๆ ก็คือ สหรัฐฯ และประเทศไทยของเรา...ไม่แน่นะครับ...งานนี้..ใครจะไปคาดเดาได้ว่า...F-16 C/D เหล่านี้ อาจจะเปลี่ยนธงชาติรูปหัวสิงโต มาเป็นธงวงกลมสามสี..ของกองทัพอากาศไทย...พร้อมกับเครื่องหมายที่แพนหางเป็นรูปอีแรวห้าว...(อินทรีย์ผยอง) ....อาจจะขายให้เราทั้ง ๑๘ เครื่องในราคามิตรภาพในปีนี้ก็ได้นะ..ฮึๆๆๆ จับตามองกันต่อไป..ครับ

F-16C/D Block 52 ที่ประจำการในฝูง 428 ของสิงคโปร์นั้นจัดหามาในโครงการ Peace Cavin III ช่วงปี 2000-2002 ซึ่งส่วนตัวคิดว่าดูจากอายุเครื่อง และนโยบายการวางกำลังที่ฐานทัพอากาศ Cannon AFB แล้ว ถ้าสิงคโปร์คิดจะยุบฝูงนี้ซึ่งเป็นฝูงฝึกจริง

ส่วนตัวคิดว่าเครื่องน่าจะถูกเก็บสำรองที่สหรัฐฯไว้เผื่อกลับมาใช้ใหม่ในอนาคต มากกว่าที่จะออกขายให้ประเทศอื่นเช่นไทยครับ

แล้วความเห็นส่วนตัวของท่าน AAG มีความเห็นว่า...F-16 C/D ฝูงนี้สภาพเป็นอย่างไร...เราควรจะซื้อไหม...ซื้อแล้วมีดีอะไรบ้าง....แล้วควรจะได้อะไรบ้าง...มีกี่เครื่อง ฯลฯ

(บอกใบ้แล้วนะท่านทั้งหลาย)

.....ปล.ช่วงนี้ เสี่ยโย...ไปขับ ฮ.คอบบ้า ที่นั่งหน้าอยู่ครับ...ไม่ว่างมาล็อบบี้..โครงการนี้...ฮ่าๆๆๆ

หวัดดีครับทุกท่าน ผมยุ่งวุ่นวายปั่นป่วนชวนงงมากเลยครับช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เข้ามาเลย ตอนแรกกระทู้เพิ่งตั้งว่าจะตัดต่อรูปมาเล่นมุขกับท่านท้าวสักหน่อยแต่ตอนนี้สงสัยไม่ทันซธแล้วมุกแป๊กไปแระ ^ ^"

พี่นก เรื่องเดลินิวส์เขาคงฟังผิดละครับ อันนี้คงเป็นความผิดของทั้งผมและเขาเองที่สื่อสารกันไม่เข้าใจเพราะโทรคุยกันแล้วครับ

..... หวัดดีครับท่านท้าว ผมมาไม่ทันแฮะลดเล่นมุขเลย ยังไงเข้าเรื่องแล้วก็ขอเข้าเรื่องไปด้วยเลยแล้วกันนะครับ ^ ^

ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ

ผมว่าแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับ F-16C/D ในปีนี้ครับ

คือส่วนตัวจากที่สอบถามพูดคุยกับชาวสิงคโปร์มา ผมคิดว่าผมกล้าพูดว่า ..... ไม่ว่าช้าหรือเร็ว F-16C/D มือสองจากสิงคโปร์จะได้ติดธงไทยแน่นอนครับ ซึ่งถ้าให้เดาเล่น ๆ ก็คือเครื่องจาก Peace Carvin II ซึ่งนับถึงปีนี้จะมีอายุการใช้งานราว ๆ 10 ปีหย่อน ๆ ..... ต่อไป F-16C/D จกาสิงคโปร์จะเป็นเครื่องมือทางการฑูต (Deplomatic Tool) เพื่อประกาศความเป็นมิตรที่ใกล้ชิดต่อประเทศที่เขาเลือก ไม่ต้องสงสัยว่านอกจากสหรัฐแล้วประเทศพันธมิตรอันดับหนึ่งของสิงคโปร์คือประเทศไทยครับ ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทยกับสิงคโปร์ เกื้อหนุนและเกื้อกูลกันได้อย่างลงตัวพอดี ดังนั้นไม่แปลกแน่นอนที่จะยิ่งเห็นทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่มากขึ้น ๆ มากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

แต่ปัญหาสำคัญที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นปีนี้ค่อนข้างแน่ก็คือการตัดสินใจทุกอย่างจะมีตัวแปรสำคัญคือโครงการ F-35 ครับ

สิงคโปร์ระบุความต้องการในการจัดหา F-35 ที่ราว ๆ  100 ลำ มองจากระยะเวลาแล้ว น่าจะอีกสัก 10 ปีสิงคโปร์ถึงจะได้รับ F-35 เครื่องแรกเข้าประจำการ

ส่วน F-15SG ซึ่งสั่งไป 24 ลำนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะมีการสั่งเพิ่มเติมถึง 40 ลำถ้าโครงการ JSF ล่าช้าไปอีก

ทำไมต้องสนใจ F-35? ....... เพราะว่ามันเกี่ยวกับการปลดประจำการ F-5S/T ของสิงคโปร์ครับ

ต่อไป F-15SG จะมารับบทบาทนำในกองทัพอากาศสิงคโปร์ซึ่ง F-16 ทำอยู่, F-35 จะมารับบทบาทที่ F-16 ควบอยู่ด้วยในตอนนี้, และ F-16 จาก Peace Carvin III และ IV ต้องรับบทบาทของ F-5S/T ในตอนนี้

ณ ปัจจุบัน กำหนดการปลดประจำการของ F-5S/T จะเป็นช่วงราว ๆ การปลดประจำการของ F-5T Tigres ของไทยครับ

ดังนั้นผมคิดว่า ถ้าจะมีการมอบ F-16C/D จาก Peace Carvin II จะต้องไม่ใช่ช่วงเวลาที่เร็วไปกว่าการลงนามสั่งซื้อ F-35 ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ราว ๆ 3 - 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย

นี่คือกรณีให้ฟรีนะครับ

แต่ถ้ากรณีเสียตังค์ ...... หมายถึงเขาขายให้เราเป็นมือสอง ..... อาจจะเป็นไปได้ในปีนี้ครับ เพราะสิงคโปร์อยู่ในภาวะ Recession ก่อนเราแล้ว เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง เขาขายของเขาเพื่อมีเงินไป support ของใหม่น่าจะเป็น option นี่เขาสนใจ และมันก็น่าจะมีมูลอยู่พอสมควรทีเดียว เพียงแต่ผมไม่คิดว่ากองทัพไทยจะซื้อภายในปีนี้ครับ .... ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ เงินคงคลังเหลือน้อย งบประมาณทั้งหมดต้องถูกอัดฉีดลงไปในระบบเศรษฐกิจเพื่อทำให้ประเทศพ้นจากภาวะ Recession ที่ไทยกำลังจะอยู่ในภาวะนี้อย่างเป็นทางการออกไป .... และยิ่งในภาวะของการเมืองแบบนี้ ...... ผมว่ารัฐบาลไม่กล้าซื้อหรอกครับ ..... เพราะไม่ใช่อะไร ถ้า ถ้าทอ.ชงเรื่องไปหารัฐ แล้วรัฐตอบสนอง แล้วถ้ามันต้องใช้งบประมาณเป็นพันล้าน ..... ผมนี่แหละจะออกมาด่าเอง .... Gripen Batch 2 ที่ว่าเป็นงบอนาคตไม่เกี่ยวกับงบปัจจุบันยังจะเอาไม่รอดเลยครับ ยังจะไปทะลึงซื้อ F-16 อีกซึ่งต้องตั้งงบใหม่ แทนที่จะเอาเงินไปทำอย่างอื่น  ..... ในภาวะแบบนี้ผมคิดว่า 99% เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับในปีนี้

ถ้าอีกสัก 2 ปียังพอลุ้นนะครับ แต่ในปีนี้ผมมองว่าโอกาสน้อยมาก ๆ ครับ

ท่าน Skyman แล้ว สมมติว่า F-16 C/D มือสอง ฝูงนี้ มาแทน ฝูง บข.21 ฝูง ที่ 2...เสี่ยโย จะว่าอย่างไร...

เพราะเศรษฐกิจ ก็ไม่ดี...เงินคงคลัง ก็ไม่ค่อยมี...กองทัพอากาศ เลยต้องตัดสินใจ ด้วยผลประโยชน์สูงสูง คือ...ซึ่ง ฝูง มือสอง นี้ แทน ฝูง ใหม่...และขยาย การจัดหา บ.ฝูงใหม่ ออกไป ไม่มีกำหนด...

เสี่ยโย...จะถึงกับต้องไปอาบน้ำ แก้เครียด รึเปล่า ? เนี่ยละน๊า...เป็นนายหน้า เมืองไทย ต้องอย่านิ่งนอนใจ...ล้อไม่แตะพื้น...อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ตามคอนเซ็ป ท่านท้าวฯ

เข้ามาเฉยๆ ไม่ออกความเห็น หมดมุข (แล้วจะเข้ามาทำไมฟะ)

เดี๋ยวนึกมุขออกจะเข้ามาใหม่...

ความจริงผมเห็นด้วยนะครับเรื่อง C/D มือสองจากสิงคโปร์ ..... แต่เนื่องจากหลากหลายปัจจัย ......มันต้องไม่ใช่ปีนี้ และแม้แต่ไม่ใช่ปีหน้าครับ ..... รอเศรษฐกิจฟื้นก่อนค่อยว่ากันครับผม ของอย่างงี้มันรอกันได้ครับ ไม่จำเป็นต้องรีบ เพราะเศรษฐกิจไทย Recession แน่นอนอย่างน้อย 3 ไตรมาส ..... อีกอย่างนึงผมเห็นว่า ผลประโยชน์สูงสุดของกองทัพอากาศตอนนี้ไม่ใช่ F-16C/D ฝูงใหม่ครับ แต่เป็นการเอา Gripen Batch 2 ให้รอดก่อนครับ (ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกันถ้าจะเซ็น Batch 2 ในครึ่งปีแรกนี้ครับ)

Gripen 1 ฝูง, C/D 1 ฝูง, MLU 1 ฝูง, ADF 1 ฝูง , A/B 1 ฝูง แจ่มจะตายครับ หรือถ้าอู๊ฟู๊ ก็ Gripen อีกฝูงแทน F-5T Trigres เหมือนเดิม และเอา C/D มือสองมาแทน 103 หรือมาตั้งอัตราอีกฝูงนึงไปเลยก็ได้

แต่ย้ำครับ เนื่องจากของมันรอกันได้ ไม่ควรจะเป็นในปีนี้ครับ

ประเด็น F-16C/D มือสองจากสิงคโปร์นั้นคุณ Skyman ได้อธิบายไปแล้วครับ F-16C/D Block 52 ที่จัดหามาในในโครงการ Peace Carvin II และ III ในช่วงปี 1998-2002 นั้นจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 10กว่าปีจริง แต่ส่วนตัวมองว่าฝูงบินF-16 ที่กองทัพอากาศสิงคโปร์ใช้ในการฝึกที่สหรัฐฯนั้นมักจะเป็นเครื่องที่จัดหาในลักษณะ "เช่า-ซื้อ"จากสหรัฐฯ ซึ่งฝูงบินฝึกที่ Luke AFB และ Cannon AFB ก็จะเป็นฝูงผสมระหว่างเครื่องของสิงคโปร์และสหรัฐฯ

ฉนั้นส่วนตัวจึงมองว่าการที่สิงคโปร์จะขายต่อ F-16C/D Block 52 ให้ประเทศอื่นให้ไทยจริง นอกจากจะต้องให้สหรัฐฯยินยอมก่อนแล้ว ประเด็นเรื่องราคาก็ต้องนำมาพิจารณาด้วยครับว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไร คุ้มหรือไม่ 

อย่างก็ตามในช่วง4-5ปี โครงการหลักของกองทัพอากาศคือการจัดหา บ.Gripen ให้ครบ 12ลำ สำหรับประจำที่กองบิน7 ครับ เพราะฉนั้นส่วนตัวจึงมีความเห็นเช่นเดียวกับคุณ Skyman ว่า กองทัพอากาศต้องจัดการ งป.หลักในการจัดหา Gripen ให้เสร็จเรียบร้อยเป็นอันดับแรกครับ จึงค่อยมาพิจารณาเรื่อง F-16C/D Block 52 ของสิงคโปร์ทีหลัง

แต่ส่วนตัวก็อย่างที่ในข้างต้นครับว่า สิงคโปร์น่าจะเก็บ F-16C/D ไว้สำรองมากกว่าจะขายต่อ

เสริม: ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีการปลด F-5T ในอนาคต กองทัพอากาศน่าจะนำ F-16A/B จากฝูง.103 ไปประจำการแทนที่ฝูง.211 ครับ ตอนนั้นจึงพิจารณาหา บ.ขับไล่ใหม่สำหรับฝูง.103ครับ(ถ้ามี งป.เพียงพอ) 

เหมื่อนท่านท้าวจะ เชียร์ F16C/D ออกนอกหน้า แล้ว นะครับ

หรือว่าท่านหมั่นไส้เสี่ยโย(ข้อหา/ข้อกล่าวหา) ไม่เอาเครื่องมาโชว์วันเด็ก

ฝูงที่จะขายให้ น่าจะเป็น ฝูงนี้นะครับ...ไม่น่าจะใช้ ในโครงการ Peace Carvin I, II, III หรือ IV

Lease & Buy

At the end of the F-16A training at Luke, a dozen USAF Block 52s were leased to be based at the same location for training. However, the USAF could not honor the lease as they needed the machines elsewhere. Instead, a deal was struck with Lockheed Martin to lease a dozen new-built F-16C/D Block 52s (4 Charlie-models and 8 Delta-models) with options to buy them later. The aircraft were leased for a 2.5 year period, for an estimated cost of USD $12.3m. In 1997, under Peace Carvin III, the RSAFs training capabilities in the US have expanded, including an extension of the training contract for Luke till 2018. Since it is very unlikely that LMTAS will lease aircraft for such an extended period, the RSAF has probably exercised its right to buy the 12 aircraft. The fact that LMTAS officially lists the Block 52 inventory of Singapore as 42 aircraft (12+18+12) seems to point in the same direction. Due to the fact that these aircraft were purchased directly from LMTAS, they do not fall under the normal FMS procedures and therefore do not have a Peace Carvin program number assigned to them.

และในส่วนที่ สิงค์โปร์ ขายให้...คงไม่น่าจะหมายถึงว่า สิงค์โปร์ ขายเครื่อง สิงค์โปร์ ให้...

แต่น่าจะเป็นราคา ที่ สิงค์โปร์ ต้อง ซื้อ จาก สหรัฐอเมริกา...เพราะเป็น สัญญา Lease and Buy...

หลังจาก เช่าซื้อเสร็จ ผู้ซื้อ ก็จะตัดสินใจว่า จะซื้อ หรือ ไม่ซื้อ...

และสิงค์โปร์ ก็กำลังติดต่อให้ ประเทศไทย ซื้อต่อจาก สิงค์โปร์...รึเปล่า ?

ถ้ามูลค่าโครงการ  4,000 ล้านบาท...ก็น่าจะประมาณ 120 ล้านเหรียญ ในจำนวน 12 ลำ....ตกลำละประมาณ 10 ล้านเหรียญ...

ก็เป็นราคาที่น่าสนใจ ครับ...

และน่าจะเป็น เหตุ ผล ทางการเมือง ประกอบด้วย...คือ เสมือน ไทย ซื้อ บ.จาก สหรัฐ (ถ้าข้อมูลว่า สิงค์โปร์ ยังไม่ได้มีการจ่ายซื้อ ในงวดสุดท้าย...และสิงคโปร์ ไม่มีความต้องการซื้อ ฝูงบิน นี้...) เพื่อ ไทย จะสร้างความเชื่อมั่น และขอความร่วมมือ จาก สหรัฐ...โดย ผ่าน Deal สิงค์โปร์...

555+ เสี่ยต้องขยายธุรกิจหน่อยครับท่านท้าวตอนนี้เลยคาดว่าจะทำธุรกิจฮ.Cobra ด้วย ^ ^

ส่วนตัวผมก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีครับว่าความสัมพันธ์แบบไหนที่ทำให้ไทยต้องรีบจัดซื้อ F-16C/D จากสิงคโปร์ .... ซึ่งถ้ามันเป็นแนว ๆ ว่า เราซื้อ F-16C/D เขา เขาซื้อสินค้าบางอย่างของเรา อันนี้ยังน่าสนับสนุน แต่เท่าที่มอง ไม่เห็นเลยครับว่ามันจะเป็นในรูปแบบใด

ฟื้นความเชื่อมั่น .... ผมเห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาลเรื่องฟื้นความเชื่อมั่นครับ แต่ผมก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าการซื้อ F-16C/D จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นได้ยังไง

อันนี้ด้วยความเคารพนะครับผม ....... ผมว่ามันยากมากจนถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ครับถ้าจะเกิด deal ในปีนี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยทั้งทางฝั่งเขาและฝั่งเราที่มากพอที่จะทำให้ต้องรีบจัดหามา ...... อีกทั้งกองทัพอากาศยังมีภาระหนักหลายอย่าง ..... และลำพังแค่ทอ.อยากให้ Gripen Batch 2 เซ็นได้เร็วกว่ากำหนดรัฐบาลยังไม่เล่นด้วยเลยครับเพราะสถานการณ์ตอนนี้มันแย่จริง ๆ ..... ที่พูดนี้ไม่ใช่เพราะเชียร์ Gripen แล้วต้องมาปลั๊ฟเครื่องแบบอื่นหรืออะไรนะครับ แต่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้จริง ๆ

skyman   ชัดเจนมากครับ

เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ถึง f-5 จะใกล้ถูกปลด ก็ไม่รู้จะเอาตังค์ไหนไปซื้อ

แต่อาจเป็นได้เรื่องนึงครับ เอามาก่อนจ่ายทีหลัง ภายในระยะ10 ปี อันนี้เป็นไปได้ ก็ขึ้นอยู่กับ DEPLOMATIC อย่างที่ว่านะครับ( ท่านท้าว )

เห็น SKYMAN ฟันธงแบบนี้ น่าจะอยู่ทีม วิเคราะห์เศรษฐกิจ อีกหนึ่งตำแหน่งนะครับ นอกจากอาชีพที่เพื่อนๆในนี้มอบให้ ดูมีสีสันจริงๆ

จริงๆอยากได้ เรือดำน้ำอะ ผิดกระทู้หรือเปล่าเนี่ย..........

ผมว่า สาเหตุที่ ทอ. จะรับ เอฟ-16 ซี/ดี มือสอง จาก สิงคโปร์ ก็มาจากเหตุ-ผล ภาวะเศรษฐกิจ นี่แหล่ะครับ...

และการลงนามในสัญญาว่าจะซื้อ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องรับมอบภายในปีนี้ หรือ ปีหน้า...ซึ่ง สิงค์โปร์ ผมว่า ก็คงยังไม่พร้อมจะมอบให้ในเร็ว ๆ นี้...อาจจะหลังจาก ไทย รับมอบ บข.21 ไปก่อน แล้ว ฝูงนี้ จึงจะตามมา....

และถ้า ทอ. เลือกที่จะรับ เอฟ-16 ซี/ดี มือสอง...ผมว่า กระทบ บข.21 ล็อต 2 แน่นอน...ดีไม่ดี...อาจจะรอรุ่น NG ไปเลยก็ได้...เพราะแค่ ล็อตที่ 1...ผมว่า รัฐก็ หืด ขึ้นคอ แล้วแหล่ะครับ...(เชื่อแน่ว่า...ยังจ่ายไปไม่ได้มากเท่าไหร่...)

ในแง่ การเมือง ระหว่าง 4,000 ล้าน กับ 10,000 ล้านบาท...โดย รัฐบาล ชุดนี้...คงจะเลือก 4,000 ล้าน (ตัวเลขสมมติ)...และถ้าเลือกจะซื้อ บ.มือสอง แต่เป็นฝูงใหม่ของไทยแล้ว...ในแง่การเมือง...เป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า...บข.21 ล็อต 2...รอ ย๊าวววววว..ยาวววว...แน่...ไม่งั้น โดนโจมตีแหง๋ ๆ (และคาดว่า ผมจะช่วยซ้ำด้วย)

เพราะงบประมาณโครงการ เป้าหมาย หลัก...ที่น้ำลายไหล อยู่ตอนนี้ คือ โครงการ ท่อส่งน้ำ กับ รถไฟฟ้า สายสีต่าง ๆ...(เพราะ รอมาหลายรัฐบาลแล้ว...ลงทุนเป็นแม่สายบัวรอเก้อ...แบบว่า คงไม่อยากรออีกแล้ว...)

ด้วยเงื่อนไข กลาโหม งบประมาณขนาดใหญ่ ออกมาหลายโครงการแล้ว ของทั้ง 3 เหล่าทัพ...

แต่งบประมาณโครงการพัฒนา ในส่วนของภาคการเมือง ยังไม่มีออกมาเลยสักโครงการ...ดังนั้น ภาคการเมือง คงต้องกันงบประมาณขนาดใหญ่ไว้เพื่อตนเองด้วย....

ดังนั้น ข่าวลือของท่านท้าวฯ...น่าจะสมประโยชน์ในด้านงบประมาณสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน...

คือมันไม่ใช่อะไรนะครับตรงนี้ อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าผมเห็นด้วยเรื่อง F-16C/D มือสองจากสิงคโปร์นะครับ ถ้าเขาให้มา หรือขายต่อราคาถูก น่าซื้อใช้มากครับเพราะมันใช้ไปได้อีก 20 กว่าปีถึง 30 ปี แต่ต้องไม่ใช่ในปีนี้ครับ ให้ฟรีถึงเอา (ซึ่งผมคิดว่าเขายังไม่ให้ฟรีในปีนี้) แต่ถ้าเสียตังค์อย่างเร็วที่สุดต้องเป็นปีหน้าครับ

ถ้าจะเป็น Deplomatic tool .... อย่างที่ผมบอกครับ มันเป็น Deplomatic tool ของมันอยู่แล้ว แต่ไม่ว่ายังไง ผมยังไม่เห็นเหตุการณ์หรือกรณีใด ๆ ที่ทำให้สิงคโปร์ต้องเร่งมอบ/ขาย F-16 ให้กับไทยเลยครับ ทั้ง ๆ ที่ถ้าเขาขายในปีนี้ กำลังรบของเขาจะยวบลงไปราวสองปีด้วยซ้ำครับ คือ F-16 จาก Peace Carvin II จะต้องหายไป 18 ตัว ทำให้เหลือ F-16 ที่เกาะของเขาแค่ 2 ฝูง และ F-15SG กว่าจะประกาศความพร้อมรบได้ก็ราว ๆ สองปีเนื่องจากเพิ่งได้รับมอบเครื่องแรกเอง ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำแบบนั้นครับ รอ F-15SG ประกาศความพร้อมรบก่อนค่อยให้ก็ยังไม่สายครับ

หรือถ้าจะขายต่อ? .... ผมฟันธงไปตรงนี้เลยครับว่า ถ้าขายต่อปีนี้ เราไม่มีปัญญาครับ ไม่มีแน่นอน และถึงมี Timing ก็ไม่เหมาะสมที่สุดไม่ว่าจะมองด้วยเหตุผลอะไรครับ เพราะขืนได้ บ.ข. ใหม่แล้วเศรษฐกิจไทยต้อง Recession เพิ่มอีกไตรมาส ผมไม่เอาด้วยครับ

คือเท่าที่คุย ๆ มาและฟัง ๆ มาจากบอร์ดต่างประเทศนะครับ ..... ยังยืนยันคำเดิมครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันมาแน่ .... ผมว่าคำถามที่ว่ามันมาหรือไม่อาจจะไม่ต้องถามแล้วก็ได้ครับ น่าจะถามว่ามันจะมาเมื่อไหร่มากกว่าเพราะ ....

- F-15SG จำนวน 24 ลำ มันอาจจะมาแทน A-4U แต่ในด้านภารกิจ มันมาทำภารกิจใหม่เลยครับคือขับไล่ครองอากาศและโจมตีทางลึก
- F-35 ซึ่งเขาวางจำนวนไว้แล้วว่า 100 ลำครับ งานนี้มาแทน F-16 ที่มีอยู่ราว 70 กว่าลำ มาเกินจำนวนของ F-16 ที่มีด้วยครับ
- F-5S/T กำลังจะต้องปลด เมื่อปลด F-16 ก็จะรับหน้าที่แทนไป

และที่ผมพูดไปว่ามันน่าจะเป็น Peace Carvin II ค่อนข้างแน่เนื่องจากว่าถ้าเขาไปเอา F-16 ที่ทำ Lease & Buy ที่สหรัฐมาให้เรา ... ถ้ายังไม่หมดสัญญา สิงคโปร์ต้องเสียค่าปรับนะครับ ดังนั้นไม่มีความจำเป็น ...... ส่วน Peace Carvin III และ IV ก็จะเป็นกระดูกสันหลังของทอ.เขาไปอีกนานเนื่องจากมันเป็น Block 52+ ติดตั้งอุปกรณ์อิสราเอลจำนวนมาก ...... เหลือแต่ Peace Carvin II นี่แหละครับที่มันยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก คล้ายกับของออกจากโรงงานมากที่สุด

ซึ่ง ..... ดูระยะเวลานะครับ .... Peace Carvin II รับมอบกันราว ๆ ปี 2000 (+ - รวมทุกเครื่อง) อีกไม่นานมันต้องเข้ารับการปรับปรุง Falcon Star แล้วครับ .... สิงคโปร์ไม่ทำหรอกครับเพราะเขามีเครื่องดีกว่า โอนมาใช้กองทัพไทยดีกว่าเยอะครับ เขาได้โละเครื่องด้วย ST Aero ได้งานเป็นที่ปรึกษาทำ Falcon Star ด้วย (ให้ฟรีก็เหมือนได้ขายเครื่อง) กองทัพไทยได้ใช้เครื่องดี ๆ ในราคาสุดถูกด้วย แถมยิ่งทำยิ่งซี้ .... Happy กันทุกฝ่าย .... ดังนั้นมันมาแน่ครับ

แต่ผมว่ามันไม่สามารถมาในปีนี้ได้แน่นอนครับ เพราะถ้าสิงคโปร์ใจป้ำให้ฟรีลำบากอย่างที่บอกไป ส่วนถ้าขายเราก็ไม่มีเงินอย่างที่บอกไป และที่สำคัญที่สุด มันผิด Timing ครับคือ F-35 ยังไม่โผล่มาเลยและ F-15Sg ยังไม่พร้อมรบเลยครับผม ดังนั้นยังมาไม่ได้ครับ

สักไม่เกิน 3 -5 ปีนี่แหละครับผมว่ามันน่าจะมา .... เผลอ ๆ เขาให้ F-16C/D เรามา 18 ลำเป็นเครื่องมือทางการฑูต แล้วถ้าเราเล่นเกมส์เป็นหน่อย โอน F-5T Tigres ให้ฟิลิปปินส์ไปเป็นเครื่องมือทางการฑูตเหมือนกัน .... โอ้โห สุด perfect ครับ ฟิลิปปินส์เอาอยู่แล้ว แถมเราได้หน้าได้เพื่อนด้วย กลายเป็นอาเซียนมีอะไรก็แบ่งกันใช้ ดีออก ...... แล้วเอา A/B มาลงอุบลเสีย ส่วน C/D ไปโคราช ไปตั้งฝูง Wild Weasel ยังได้เลยครับถ้าฟิตจริง ๆ

ดังนั้นย้ำอีกรอบนะครับ! ...... ไม่ใช่ว่าผมเชียร์ Gripen จนไม่ลืมหูลืมตา! .... ผมสนับสนุน F-16C/D มือสองจากสิงคโปร์ครับ! .... เพียงแต่พิจารณาจากเหตุผลทั้งหมดความเป็นไปได้มันต่ำมากถ้าจะได้ในปีนี้ครับ! ..... แต่ถ้า 3 - 5 ปีข้างหน้า! ...... เผลอ ๆ เราอาจจะเก็บเงินซื้อกล้องรอ บ.ข.19ข/ค ตั้งแต่วันนี้แล้วล่ะครับ!

ปล. ที่พูดนี่ตั้งอยู่บนข้อมูลของวันนี้นะครับ ถ้ามีข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มก็ต้องมาพูดกันใหม่ครับ
 
 

โครงการ F-16 C/D จะเข้ามาอยู่ฝูง ๑๐๓ ครับ...ตอนนี้ช่างฝูงนี้ก็เริ่มๆ เรียนๆ รู้ๆ กันบ้างแล้ว...ส่วนนักบินไม่ต้องห่วง...นักบิน F-16 เตรียมสอบไปบิน GRIPEN 39 มีนักบิน F-5 คนเดียวที่จะกระโดดข้ามไปบินกิปเปนครับ...ตอนนี้เรียนอยู่โรงเรียน เสธ.ทอ. (อาจจะเป็นผู้ฝูงกิปเปน คนแรก)

.....ส่วน F-16 A/B ฝูงบิน 103 ขณะนี้ ในวันพฤหัสบดีนี้ จะส่งมอบตามโครงการ ฟอลคอนอัพ ๒ เครื่องสุดท้าย จาก ๑๗ เครื่อง ที่เข้าทำการ อัพ ครับ...และอนาคต..คงจะย้ายไปอยู่ฝูง ๒๑๑ 

....ภารกิจด้านตะวันออก...จะเปลี่ยนกลับไปเป็นการโจมตีทิ้งระเบิดเป็นหลัก...(ชายแดนมันเป็นแบบนั้น)....ซึ่งวันนั้น F-5 T อาจจะย้ายไปบรรจุฝูง ๗๐๓ เสริมกิปเปน..ครับ...หรือไม่ก็อาจจะขึ้นอุดร...ไปแทน..อัลฟ่าเจ็ต...ส่วนอัลฟ่าเจ็ต อาจจะต้องไปพิษณุโลก...เพราะขณะนี้ NOMAD เตรียมปลดแล้ว..(จะเหลือไว้แค่ ๔ เครื่อง)

คาดถูกในหลายๆส่วนครับว่าเป็นไปได้ที่ F-16A/B Block 15 OCU ฝูง.๑๐๓ จะไปประจำการแทน F-5T ที่ฝูง.๒๑๑ หลังจากการปลดในอนาคต ทั้งนี้ส่วนตัวก็วิเคราะห์จากที่ผ่านมาฝูง.๒๑๑ จะได้รับมอบเครื่องที่โอนจากฝูงอื่นมาก่อนครับเช่นการโอน F-5E จากฝูง.๔๐๓ เป็น

สำหรับ F-16A/B ฝูง.๑๐๓ ที่ผ่านการ Falcon Up แล้วนั้น มีบางท่านตั้งข้อสังเกตุว่าทำไมไม่ทำ MLU เช่นฝูง.๔๐๓ ส่วนตัวให้ข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นเรื่องการคำนวนอายุการใช้งานจากโครงสร้างตาม งป.ที่จำกัดซึ่งเลือกทำฝูงเดียวที่ใหม่กว่าจะคุ้มกว่าเช่นเดียวกับการปรับปรุง F-5E/F ที่ผ่นมาซึ่งจะทำเฉพาะเครื่องที่จัดหามาใหม่สุดเป็นหลัก

แต่ที่คุณท้าวทองไหลกล่าวถึงการที่ช่างเครื่องของฝูง.๑๐๓เตรียมตัวสำหรับ F-16C/D นั้นส่วนตัวแปลกใจมากครับ (เหมือนกับว่าเครื่องจะได้รับมอบแน่ๆในอนาคต?)

ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีการย้าย AlphaJet ฝูง.๒๓๑ ไป ฝูง.๔๖๑ครับ เพราะฝูง๔๖๑นี้เป็น ฝูงบินลำเลียงปฏิบัติการพิเศษ ซึ่ง บ.NOMAD ถ้าจะปลดไป น่าจะมีการจัดหา บ.ลำเลียงแบบใหม่มาใช้แทนมากว่าโอน บ.โจมตีมาประจำการแทนครับ เพราะยังมี บ.BT-67 อยู่ในฝูงด้วย(หรือว่า AlphaJet จะมาเสริมในภารกิจฝนหลวง?)

แหมมม...กะจะลุ้น ว่า F-5T จะมีโอกาส เป็น ยุงพิฆาต แทน เหยี่ยวเวหา รึเปล่า ?

ผมว่าน่าจะประจำอยู่ อู่ตะเภา สักครึ่งฝูง ช่วยสนับสนุนป้องกันภัยทางอากาศ กับฐานทัพเรือสัตหีบ...และฝั่งอ่าวไทย...แบ่งภาระกิจกับ JAS-39...  

ผมไม่ยืนยันว่าปีนี้ครับ...แต่เวลา ปีๆ หนึ่งผ่านไปรวดเร็วมาก...ปีนี้ F-15 SG จะบรรจุก่อนที่ฝูง 428 โดยฝูง 425 จะยังคงปฏิบัติการด้วย F-16 C/D ต่อไป...ฉนั้น..สิงคโปร์ต้องรีบเอา F-16C/D ฝูงดังกล่าวไปหาที่ใหม่อยู่..

เรื่องของฝูงบิน 461 นั้น...คงเป็นการเข้าใจผิดมานานครับ...ว่าฝูงบิน 461 เป็นฝูงบินลำเลียง....ไม่ใช่ครับ...

ฝูงบิน 461 เป็นฝูงบินโจมตี...ตั้งขึ้นครั้งแรก..โดยบรรจุประจำการเครื่องบินโจมตี AC-47 จำนวน 5 เครื่อง (จาก ๖ เครื่อง)  จากนั้นบรรจุประจำการด้วยเครื่องบินโจมตีแบบ NOMAD  โดยการส่งไปประจำการในพื้นที่การรบ...

ระหว่างกรณีพิพาทบ้านร่มเกล้า...และการรบที่บ้านหินแตก   เขาค้อ  กองบิน 46 เป็นที่ตั้งสนามของฝูงบิน 411 ซึ่งปฏิบัติด้วย OV-10 C   มาตลอดครับ...จนสถานการณ์สงบ..OV-10 ถึงกลับบ้านที่เชียงใหม่ 

ชื่อจริงๆ เขาคือ ฝูงบินปฏิบัติการพิเศษ 461  ไม่มีคำว่าลำเลียงครับ...แฮ่ๆๆๆ นั่นแสดงถึงความพร้อมในการรองรับ

....ความเป็นจริง เมื่อราวปี 2534 เมื่อมีการจัดหา L-39 ครั้งแรก...มีแผนบรรจุ L-39 จำนวน 3 ฝูง ที่ ฝูงบิน 561 หาดใหญ่  ฝูงบิน 461 พิษณุโลก  และฝูงบิน 411 เชียงใหม่  แต่งบประมาณเรื่องการดัดแปลง L-39 ให้เป็น บ.ขับไล่ทิ้งระเบิด  มีจำกัด  เครื่องจึงบรรจุเป็นเครื่องบินฝึกขับไล่ของฝูง 101 และ 102 แทน โดยมีเพียงฝูงบิน 401 ขณะนั้นเป็นฝูงรบโจมตีสนับสนุนเพียงฝูงเดียว ครับ 

หากจะพิจารณาเรื่องขนาดสนามบิน...สิ่งแวดล้อมรอบสนามบิน  สิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน  และความปลอดภัย..รวมถึงมลพิษทางเสียง...  การย้าย F-5 T จาก 211 ไปบรรจุ ฝูงบิน 703 สุราษฎร์ หรือ ฝูงบิน 231 อุดร  จึงมีเปอร์เซ็นสูงกว่า...

เพิ่งจะโผล่หัวมาอีกแล้วเรา -*- ..... คุณ charchar ครับถ้าตัดสาระสำคัญของคำว่าปีนี้หรือไม่ใช่ปีนี้ออกไป ..... ผมกับท่านท้าวจะพูดเหมือนกันนะครับ ..... เพราะผมก็พูดเสมอ ๆ ล่ะว่ามาน่ะมันมาอยู่แล้วครับไม่ต้องห่วง หึหึหึ เพียงแต่มันไม่น่าใช่ปีนี้เท่านั้นเองครับ

ส่วนตัวเห็นด้วยเรื่อง F-16A/B ที่อุบลนะครับ ผมว่ามันน่าจะทำอะไรได้มากกว่า F-5T เยอะ ...... สำคัญก็คืออย่างน้อยได้ C/D และในอนาคต F-5T ปลดก็จะช่วยให้พวก Logistic ดีขึ้นครับเพราะจะลดแบบลง แม้ว่า F-16C/D กับ A/B จะมีชิ้นส่วนแตกต่างกันจำนวนมากก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ผู้ผลิตเดียวกัน ต่างรุ่นยังไม่น่าปวดหัวนักครับ

คิดอัตราฝูงที่มีความสามารถ BVR ก็จะเป็น 701, 102, 103, และ 403 (ถ้าทำ) ถือว่าเพิ่มอำนาจการรบได้มากทีเดียวครับ และเมื่อไหร่ Datalink ระหว่าง F-16, Gripen, กับ Erieye เสร็จล่ะก็ ....... แจ่มครับ เราเป็นที่สองของอาเซียนได้เลยนะครับเนี๊ย ^ ^

ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับฝูง๔๖๑ จากคุณท้าวทองไหลเพิ่มเติมทำให้เข้าใจข้อมูลใหม่มากขึ้นครับ

แต่ส่วนตัวยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมายของ "ฝูงบินปฏิบัติการพิเศษ" กับ "ฝูงบินโจมตี" สำหรับกองทัพอากาศไทยอยู่ครับ ซึ่งที่ผ่านมาฝูง๔๖๑นั้จะได้รับมอบ บ.ลำเลียงที่ดัดแปลงเป็น บ.โจมตี เช่น บ.จล.๒ AC-47 กับ บ.จล.๙ NOMAD ซึ่ง บ.แบบหลังนั้นนอกจากจะติดปืนแล้วยังถูกนำมาใช้ในภารกิจอื่นเช่น การติดเครื่องกระจายเสียง โปรยใบปลิว และ ทำฝนหลวงเป็นต้น

ถึงถ้ามีการย้าย AlphaJet มาประจำการที่ ฝูง๔๖๑ จริงก็หมายความ บ.จ.๗ จะเป็น บ.โจมตีที่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษได้ เช่นเดียวกับ บ.Nomad ใช่หรือไม่ครับ(คือทำฝนหลวงได้?)

แล้วf-16abที่สิงคโปร์ให้มา7ลำไปอยู่ฝูงไหนแล้วละ

^
^
^
ก็อยู่ที่เดิมครับ 103

ขอบคุณคุณ charchar ครับ ^ ^

อืม ถ้า ทอ. รับ F-16C/D block52 มาจริงๆ โดยยังไม่ปลดฯ F-5E/F mod จะทำให้ ทอ. มีจำนวน บ.ขับไล่ เพิ่มขึ้นอีก 1 ฝูง จากอัตราเดิม รวมเป็น 6 ฝูงบิน

ว่าแต่การเอา AlphaJet ไปที่ฝูง 461 แล้ว BT-67 จะไปไหนล่ะครับ ถึงแม้ว่าจะปลดฯ Nomad ออกไปก็ตาม ย้ายไป 703 เลยดีกว่าไหมครับ

หรือว่าที่ ทอ. ไม่เลือกทำ MLU ของ 103 เพราะ มีแผนเกี่ยวกับ F-16C/D ฝูงนี้อยู่ในใจอยู่แล้วเอ่ย ประมาณว่าเก็บเงินไว้ก่อน เหอๆๆๆ

เรื่องนี้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ มีการให้ข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อเฟส 2 ของ กริพเพน โดยมติชน ตามลิ้งค์นี้ครับ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1233748447&grpid=00&catid=01

หรือว่า เราจะได้ทั้ง F16 และ Gripen

ไม่ย้าย F-5T หรือ Alphajet ไปลงที่กองบิน 56 เสือดำมั่งเหรอครับ ตอนนี้เหงาเหมือนกันนะท่าน

อย่าลืมว่าการมาของ SU - 30 MKM

ทำให้ F.15SG ต้องเร่งไปด้วย

ส่งผลให้มี Case F.16 C/D Second Hand...

Welcom to Thailand......ขำๆๆๆๆ

 อยากมีชื่อในกระทู้ เพราะเห็นทะเลมาแล้ว....