เอ็มเทค ปตท.และม.มหิดล ร่วมเปิดตัวเสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูง ทดสอบแล้วรับมือกระสุนปืนระดับเอ็ม-16 และปืนไรเฟลได้สบายๆ ราคายังถูกสุดๆ
29 มกราคม - อาคารสำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร รศ.ศิริลักษณ์ นิวิฐจรรยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศ.ศกรณ์ มงคลสุข คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ไพลินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการบริษัท พีทีที โพลิเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
ร่วมกันแถลงผลสำเร็จในการผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูงต้นแบบ ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถป้องกันกระสุนปืนระดับเอ็ม-16 และปืนไรเฟล มีน้ำหนักเบากว่าเสื้อเกราะที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าที่ผลิตด้วยวัตถุดิบนำเข้าเกือบเท่าตัวและมีประสิทธิภาพทัดเทียมต่างประเทศ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การนำวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศมาใช้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกและเส้นใยสังเคราะห์ของประเทศ
รศ.ศิริลักษณ์ กล่าวว่า เสื้อเกราะกันกระสุนที่ผลิตขึ้นนี้เป็นเสื้อเกราะชนิดแข็ง ใช้แผ่นกันกระสุนที่ทำจากแผ่นเซรามิกและแผ่นโพลิเมอร์ HDPE ที่มีความแข็งแรงสูงมาประกบกัน ในลักษณะเป็นแผ่นโค้งที่ออกแบบให้รับกับสรีระของคนไทย ซึ่งแผ่นเซรามิกที่อยู่ด้านนอกจะทำหน้าที่ทำลายหัวกระสุน ส่วนแผ่นโพลิเมอร์คอมพอสิทที่อยู่ด้านใน ทำหน้าที่กระจายแรงและลดแรงกระแทก
ทั้งนี้ เสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูงดังกล่าว มีน้ำหนักเพียง 10 ก.ก. และผ่านการทดสอบคุณภาพจากกรมพลาธิการตำรวจแล้วว่า มีประสิทธิภาพการป้องกันภัยของเกราะบุคคลในระดับ 3 ตามมาตรฐาน NIJ (National Institute of Justice) ของสหรัฐอเมริกา คือสามารถป้องกันกระสุนปืน 7.62 ม.ม. ปืนเอ็ม-16 และปืนไรเฟล
ขณะที่ต้นทุนการผลิตเสื้อเกราะครั้งนี้ อยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อชุด ซึ่งต่ำกว่าราคาเสื้อเกราะกันกระสุนระดับเดียวกันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเกือบเท่าตัว รวมทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เพราะสามารถทนต่อความชื้นและแสงแดดได้ดีกว่า
เนื่องจากวัสดุเซรามิก มีจุดเด่นคือเป็นวัสดุที่เบาและแข็ง สามารถทำลายหัวกระสุนที่มีความเร็วสูงให้แตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และความแข็งเกร็งจะสามารถกระจายแรงได้ดี จึงเป็นวัสดุที่นักวิจัยเอ็มเทค โดย ดร.กลุจิรา สุจิโรจน์ หัวหน้าโครงการนำมาวิจัยเพื่อเสริมให้เสื้อเกราะนี้สามารถป้องกันภัยคุกคามได้
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. โดยบริษัท พีทีที โพลิเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (พีทีทีพีเอ็ม) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลการจำหน่ายเม็ดพลาสติก InnoPlus HDPE ทั้งหมดของกลุ่ม ปตท. ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ 5.5 ล้านบาท พร้อมวัตถุดิบเม็ดพลาสติกให้ทีมวิจัย เพื่อนำมาผลิตเป็นเสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูงต้นแบบจำนวน 100 ตัว สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารใช้ป้องกันตัวขณะปฏิบัติในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนเสื้อเกราะกันกระสุนอย่างมาก
เสื้อเกราะกันกระสุนต้นแบบทั้ง 100 ตัวจะผลิตแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคมนี้ และจะส่งมอบให้กับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้งานต่อไป และยังมีแผนที่จะให้การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อพัฒนาเสื้อเกราะกันกระสุนให้มีคุณสมบัติดียิ่งขึ้นอีกในอนาคต
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/it/innovation/2009/01/30/news_11859.php
อย่างที่มีคนเคยพูดไว้ คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว ไม่แพ้ชาติใดในโลก ถ้ามีการต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาต่อไปจะดีมากเลยครับ
น้ำหนัก เสื้อเกราะ PASGT ขนาด Medium 4 กก. ถ้าใส่เกราะเสริมแบบที่ใช้ปฎิบัติการในโซมาเลีย น้ำหนักรวม 11 กก.
น้ำหนักเสื้อเกราะ Interceptor body armor รวม 7.4 กก. ( Vest 3.8 กก. + SAPI 2 แผ่น 3.6 กก. )
น้ำหนักเสื้อเกราะ Tactical NIJ Level IIIA ของ VestGuard UK ( บ.อ้างอิงว่า มีใช้ในกองทัพสหรัฐ กองทัพอังกฤษ และหน่วยรักษาสันติภาพ UN ) Vest Level IIIA หนัก 2 กก. ราคาคิดเป็นเงินไทย 25,000 บาท
เกราะ Dyneema ( Level III ) 2 แผ่น หนัก 2.76 กก. ราคารวม 21,000 บาท น้ำหนัก Vest + เกราะ 2 แผ่น 4.76 กก. ราคารวม 46,000 บาท
เกราะ Dyneema&Ceramic (ชนิดของเกราะเทียบกับของข่าวข้างต้น คือเป็น Ceramic + HDPE ) ( Level III + SS109 Steel core round ) 2 แผ่นหนัก 3.6 กก. ราคารวม 21,000 บาท น้ำหนัก Vest+เกราะ 2 แผ่น 5.6 กก. ราคารวม 46,000 บาท
เกราะ Ceramic dual purpose HAPs ( Level III/IV ) 2 แผ่น หนัก 5.6 กก. ราคารวม 15,000 บาท น้ำหนัก Vest + เกราะ 2 แผ่น 7.6 กก. ราคารวม 40,000 บาท