ขอความคิดเห็น เรื่อง F-18F กับ SU-30 MKI
โดยคุณ : TOP SECRET
เมื่อวันที่ :
27/01/2009 16:54:53
คือ อย่าเพิ่ง ซีเรียส น่ะครับ ( ลองคิดดูเล่นๆ ) อย่าคิดมาก
ถ้า กบร. ได้จัดหา F/A-18F มาจำนวน 8 เครื่อง เหมือนที่กล่าวไว้ ในกระทู้ของท่าน AAG_th งบประมาณ ปี พศ.2553 - 2555
อันนั้นตัดออกไป.................
ไอ้เครื่องที่ได้ชื่อว่า SUPER SLOW HORNET อย่าง F/A-18 E/F........................
มันจะมีขีดความสามารถ ทางการรบ ทางอากาศ กับพวกเครื่อง ที่มีการบิน แบบ Super Maneuverability สูงๆ อย่าง SU-30 MKI ได้หรือเปล่าครับ
แต่ F/A-18E ของ ทร.สหรัฐ ก็เคยยิง F-22 ที่มี ท่อไอพ่น ปรับเปลี่ยนทิศทางได้ ตกมาแล้ว ( ในการซ้อมรบ ทางอากาศ )
เรื่อง RADAR AESA พิสัยการกวาดจับ ก็ไกลสู้กับของ MKI ไม่ได้..........มี สิทธิ์ ที่จะถูกตรวจพบได้ก่อน และโดนยิงก่อน จาก BVR MISSILE ของ SU-30 MKI ( M )
แต่ เรดาร์ ของ F/A-18E/F มีดีที่ สามารถ ทำ ELECTRONIC ATTACK ได้
อยากทราบ ข้อดี-ข้อเสีย ของ F/A-18F และขีดความสามารถทางอากาศ อย่าง SU-30 MKI(M)
*เมื่ออยู่ใน อากาศ โอกาส 50 - 50 เสมอ...............แต่อยากรู้ว่า ความเป็นจริงแล้ว ใครเหนือกว่ากัน ครับ
ขอบคุณครับ
F/A-18 F ผมมองเป็น บ.โจมตีทางทะเล มากกว่า บ.ขับไล่ ด๊อกไฟว์ น่ะครับ...
กรณี F/A-18 F จะคุ้มครองกองเรือ หรือ ปฏิบัติการแทน เรือรบ กรณี ที่ เรือรบ เราป่วย ติดหวัดอยู่ที่ อู่ แต่ มีภัยคุกคาม ทางเรือ ที่อาจจะมาปิดอ่าว หรือ ยกกองกำลังขึ้นฝั่งในประเทศไทย...F/A-18 F จะปฏิบัติหน้าที่ แทน ในการ จม เรือที่เป็นภัยคุกคาม
ซึ่ง F/A-18 F สามารถที่จะรับข้อมูล และน่าจะพิสูจน์ทราบฝ่าย ได้รวดเร็วกว่า Fokker F-27
และในขณะเดียวกัน F/A-18 F ก็ มีความสามารถที่จะคุ้มครองตัวเอง ให้พ้นจากภัย อาวุธนำวิถีนอกสายตา ได้ในระดับหนึ่ง ที่น่าจะมากกว่า F-27 และ P-3 T
เดี๋ยวต่อครับ...กลัวหลุด
เมื่อวันที่
19/01/2009 06:10:07 และในอีกภาระกิจ ในเรื่อง การป้องกันภัยทางอากาศ ให้กับ กองเรือ...
ในการป้องกันตนเอง ของ เรือรบไทย ในขณะนี้ สามารถต่อต้าน บ. ที่ติดอาวุธโจมตีเรือ ระยะไกลสุด ที่ 15 ก.ม. (เอสปิเด้ และ ปืน ขนาด 76 ม.ม. หรือ 127 ม.ม.)
ในขณะที่ บ.ที่เป็นภัยคุกคาม ทางอากาศ อาจจะยิง อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ จาก บ. ที่ระยะไกล มาประมาณ 30 - 100 ก.ม. ถ้า บังเอิ๊น บังเอิญ มี F/A-18 F ที่ จอนส์ แมคเคลน ขับอยู่ และสามารถจับเป้าความร้อนของ อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ ได้ที่ระยะก่อนถึงเรือ ที่ 20 - 60 ก.ม. F/A-18 F ที่พระเอก ขับอยู่ ก็อาจจะบิน มาอยู่ในระยะสามารถที่ยิง อาวุธนำวิถี สะกัดกั้น และทำลาย อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ เป็น ด่านแรก ก่อนที่ เรือรบ จะทำการต่อต้านเป็น ด่านที่ 2 หรือ ที่ 3 หรือ ด่านสุดท้ายได้...
หรือ อาจจะบินจน บ.ที่เป็นภัยคุกคาม จับเป้าหมาย F/A-18 F ได้ และลังเล ที่จะปล่อยอาวุธโจมตีเรือ ได้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง...ได้เหมือนกันครับ...
เมื่อวันที่
19/01/2009 06:20:22 หมายความว่าจะจัดหาบ.ภายในปี 2553-2555 หรือครับ??
อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติสำคัญที่ตั้งไว้ว่า "มีอายุการใช้งานและสายการผลิตที่สามารถสนับสนุนอะไหล่ในการซ่อมบำรุงได้ไม่ต่ำกว่า 20 ปี" นั้น บ.ที่มีสายการผลิตในปัจจุบันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงแทบทั้งหมดจะเป็น บ.ขับไล่อเนกประสงค์ครับ แถมเป็น บ.ขนาดกลางขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ด้วย(ถ้าไม่นับพวก บ.ฝึก ย.Jet ที่ส่วนใหญ่พิสัยการบินจะสั้นเกินไปและมักจะติด อวป.ต่อต้าเรือผิวน้ำไม่ได้) โดยในกลุ่ม บ.ที่ออกแบบมามาสำหรับกองบินทหารเรืิอโดยตรงนั้น F/A-18F ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะตัวหนึ่งครับในแง่ประสิทธิภาพ
แต่ในประเด็นเรื่องงบประมาณในการจัดหานั้น F/A-18F Block II ที่ทำการผลิตให้กัีบกองทัพเรือสหรัฐฯในปัจจุบันตามข้อมูลในปี 2008 ตัวเครื่องอย่างเดียวน่าจะอยู่ที่ราวๆลำละ $55-60 Million แต่ทั้งนี้การจัดหาจะต้องมีค่าใช้จ่ายร่วมอีกหลายๆอย่างครับ ทั้งเครื่องยนตร์อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน อาวุธ การฝึกนัีกบินและช่าง ราคาเครื่องอาจจะไปเฉลี่ยที่ $70 Million ต่อลำขึ้นไปก็ได้ถ้ากองทัพเรือตัดลดคุณสมบัติให้ไม่แพงมากไป ถ้าจัดหามา8ลำนี้ก็อย่างน้อยต้องใช้ งบประมาณถึง $480-560 Million หรือราวๆ 17-20 พันล้านบาท
ส่วนตัวคิดว่าในช่วงปี ๒๕๕๓-๒๕๕๕ กองทัพเรืิอคงไม่น่าจะมี งป.ขนาดนั้นหรอกครับ ทั้งนี้เองตัวโครงการจัดหา บ.โจมตีทางทะเลก็ไม่ใช่โครงการเร่งด่วนของกองทัพเรือครับ
เมื่อวันที่
19/01/2009 07:05:48 ยังไง Su 30 เห็นก่อนและมีจรวดอากาศสู่อากาศ ยิงไกลกว่าแน่นอน
Su 30 ติดจรวดอากาศสู่ อากาศ (ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเราได้ รุ่นไหน)
R-77 (AA-12) 100 KM.
R-77M1: 175 km
หากเราได้ แอมราม มาด้วย
AIM-120C-5: 105 km (65 miles)
จะเห็นว่า Su-30 MKI ได้เปรียบเรา เห็นก่อนเรา อาวุธ ยาวกว่า
แต่ผมเชื่อว่า ไม่มีนักบินคนไหนยิงเครื่องบินศัตรู ระยะไกล เนื่องจาก
ต้องมีการพิสูจน์เป้าหมายให้ชัดเจนก่อน จึงจะยิงได้
ดังนั้นก็มาวัดกันที่ระยะ ใกล้ ดูๆ ไป ผมให้คะแนน Su 30 MKI มากกว่า
แต่การที่จะเผชิญหน้ากันในอนาคตอันใกล้ ผมคิดว่าน่าจะไม่ได้เป็นสงครามที่ประกาศเป็นทางการ ผมจึงคิดว่า ฝ่ายไหน พิสูจน์ฝ่าย ได้ก่อน แล้วยิงอาวุธยาวก่อน จะได้เปรียบครับ
สาเหตุ นี้ กองทัพอากาศ จึงพยายามจัดหา เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ เพื่อตรวจจับและพิสูจน์ ฝ่ายให้ได้ก่อน และใช้กำลังเพื่อปกป้องประเทศชาติ
เมื่อวันที่
19/01/2009 07:18:10 ในภารกิจ air to air Su-30 ได้เปรียบครับ แต่ภารกิจ air to ground ผมให้คะแนนสูสีกัน
F/A-18F RCS = 1 m2 vs Su-30MKM RCS = 10 m2
Super Hornet จะเห็น MKM ก่อนครับ แต่ไม่เยอะมาก อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่า MKM จะเห็น Super Hornet ทีหลัง แต่ระยะที่ MKM เห็น Super Hornet นั้นก็ยังไกลกว่าระยะยิงของ AIM-120C-5/7 อยู่ดี ยกเว้นจะมี AIM-120D จะทำให้สูสีบ้าง ถ้าไม่มีก็ต้องพึ่ง ECM และ passive measure อื่นๆ
เมื่อวันที่
19/01/2009 07:43:20 ...ในเรื่องประสิทธิภาพทางการรบและต่อตีเป้าหมายทางทะเลนั้น ทั้ง2แบบ ดีเท่ากันน่ะครับ แต่ในการใช้อาวุธต่อตีเป้าหมายทางอากาศ เอฟ-18 ยังดูเป็นรองในการต่อตีเพราะยิงได้ใกล้แต่ก็มีลูกเล่นที่ใช้แจม อาจจะทำให้ เรดาห์และการนำทางให้อาวุธจากรัสเซียเกาะติดเป้าไม่ได้น่ะครับ
...เราอาจจะใช้ตรงนี้คือมี เครื่องเอแวคให้เพียงพอซะก่อนเพื่อแจ้งเตือน พิสูจน์ฝ่าย และค่อยเข้าต่อตี อย่างน้อยๆก็ชิงความได้เปรียบ มากกว่าใช้เครื่องเพียวๆเข้าทำการรบ ปิดเรดาห์เอฟ-18 โดยใช้เรดาห์เอแวคนำทาง หรือ ใช้เข้ายิงอาวุธโดยใช้เรดาห์เอแวคก็น่าจะช่วยป้องกัน เอฟ-18 ได้ อื่นๆ ก็ระบบสงครามอิเล็คทรอนิคน่ะล่ะครับ รบกวนเข้าไปอีก หรือ ใช้ทำอีซีเอ็ม ป้องกันจรวดต่อต้านเรือจำพวก แอคทีพ-เรดาห์ ก็ได้
....อื่นๆก็ระบบอาวุธน่ะครับ ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมาแต่งตัวได้มากเท่าใด ซึ่งแต่ล่ะอย่างก็แพงเอาเรื่องน่ะครับ
...ส่วนเครื่องจากรัสเซีย ก็เรารู้ๆกันดี เอแวค+โจมตีพิสัยไกล+ป้องกันทางอากาศ พูดง่ายๆคือช่วงชกไกล เหวี่ยงถูก เผ่นได้หรือเจอแต่ไกลๆก็มีสิทธิเหวี่ยงโดนน่ะครับ เพราะอาวุธแต่ล่ะอย่าง ทั้ง อ-ส-พ หรือ อ-อ-อ ก็ล้วนแต่ยิงได้ไกลมาก
เมื่อวันที่
19/01/2009 07:59:59 ตามข้อมูลของเว็ปต่างประเทศ
F-18E/F Block1(เรดาร์ APG-73) จะสามารถตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 10+ m2 (SU-30MKM) ได้ที่ระยะ 100+ km
F-18E/F Block2-3(เรดาร์ APG-79 AESA) จะสามารถตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 10+ m2 (SU-30MKM) ได้ที่ระยะ 220+ km
โดยที่เรดาร์ของ SU-30MKM จะสามารถตรวจจับเป้าหมายที่มี RCS 0.1 m2 (F-18E/F) ได้ที่ระยะไม่เกิน 80-90 km
เครื่อง SU-30 MKM มีระบบ IRST ที่สามารถตรวจจับเป้าหมายได้ไกลร่วม 100 กม. ด้วยครับ ส่วนเรด้าร์ก็น่าจะสามารถตรวจจับ F-18 E/F ได้ไกลถึง 200 กมได้แน่ๆ และก็ไกลมากเกินพอที่จะยิง R-77 มาก่อนได้ แต่ถ้าต้องดอดเข้ามาใกล้เพื่อพิสูจน์ว่าเครื่องที่พบนี่ข้าศึกแน่นอน SU อาจจะใช้ระบบ IRST เพื่อตรวจจับแทนโดยปิดระบบเรด้าร์ซะหรือเปิดระบบเรด้าร์เพื่อช่วงสั้นๆแล้วปิดเรด้าร์ แค่นี้ F-18 E/F ก็แย่แล้วครับ ดังนั้นถ้าฝ่ายเราไม่มี AWAC รับรองว่าเน่าแน่ ยิงถ้าต้องมาสู้ในระยะประชิดกันแล้ว เป็นรองฝ่ายโน้นเยอะเลยครับ
อย่างว่า F-18 E/F ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อภาระกิจแบบนี้ ดังนั้นถ้าจะมาต้องมี Jas-39 และ AWAC มาช่วยกันเป็นทีมครับ
มาเลย์ถึงดิ้นเร่าๆพยายามจัดหาเครื่อง AWAC มาให้ได้อย่างน้อยก็ต้อง 4 ลำเพราะการนี้แหล่ะครับ (งงว่าจะซื้อAWAC มาทำไมถ้าเล็งว่าสัตรูคือ สิงคโปร์ เพราะเกาะมันห่างกันกะติ๊ดเดียว ที่ซื้อมาแสดงว่ามองเราเป็นคู่ปรับซะมากกว่านะ) ถ้าเขาสามารถจัดหาเครื่อง AWAC มาได้ คราวนี้ทางโน้นจะได้เปรียบเต็มประตู เพราะแม้ไม่มีเครื่อง AWAC มาช่วยเราก็แย่แล้ว ถ้าได้เครื่อง AWAC เจ๋งๆมาด้วยรับรอง......เฮ้อๆๆๆๆ ผมถึงไม่สนับสนุนให้ซื้อเครื่องขับไล่เล็กๆมาใช้
ถ้าเป็นอย่างท่าน อาจารย์ rinsc seaver บอกมา...............เราจะสามารถ ตรวจจับ SU-30 MKM ได้ก่อน
แต่ก็ไม่สามารถ ที่จะยิง AMRAAM ได้ เพราะยังไม่ถึง ระยะยิง
F-18F Block 2 ( ออสเตรเลีย ) ก็ติด ระบบ Infrared Search & Track เหมือนกันครับ
ผมว่า หลังจาก เราตรวจพบ Su-30 MKM ด้วย เรดาร์ แล้ว เราก็ปิด เรดาร์..........แล้วเปลี่ยนมาใช้ ระบบ IRST
พอให้เข้าถึง ระยะยิง..................แต่ผมว่า ระบบ IRST ของ SU-30MKM ก็ สามารถ TRACKING เราได้ พร้อมๆกัน
อย่างนี้ก็ต่างคน ต่างโดน.................
อีกอย่าง ถ้า เสือเหลือง ซื้อ AWACS 4 เครื่อง อย่างท่าน neosiamese ว่ากันจริงๆ.................
เน่าจริงๆครับ
เมื่อวันที่
20/01/2009 03:57:29 แค่ความสุขเล็ก ๆ แค่นี้เอง...
เมื่อวันที่
20/01/2009 10:36:32 
เมื่อวันที่
20/01/2009 10:44:14 เมื่อวันที่
21/01/2009 06:05:44 ....ผมคิดเอาว่า การเปรียบเทียบสมรรถนะของอาวุธ ระหว่างการเปรียบเทียบข้อมูล กับการรบจริงนั้น มันน่าจะต่างกันคับ...
...ในสงครามอ่าว ปี 2534 เอฟ.16 ที่สำนักไหน ๆ ก็บอกว่าเป็นรองมิก 29.จมหู พอเอาเข้าจริง มิก.29 ของอิรักก็กลับเป็นฝ่ายโกยหนี เอฟ.16 จนเมฆกระจาย ไปตั้งหลักเอานู๊น อิหร่านโน่น....
...แต่ในการปะลองยุทธด้วยข้อมูลและคอมพิวเตอร์ของกลุ่มยูโรไฟท์ เอฟ.16 โดนมิก.29 อัดร่วงตั้งแต่ยังมองไม่เห็นมิกน่ะคับ....
...การกระแทกหน้ากันระหว่าง บ.ข.SU 30 กับ บ.ข.สายยุโรปและอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น เอฟ.14 เอฟ.15 หรือ มิราจ ท่านใดมีข้อมูลช่วยแฉเอาแบบมัน ๆ หน่อยคับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงคับ....
เมื่อวันที่
27/01/2009 05:54:54