เริ่มจาก SUPER ETENDARD - ซูแปร์ เอต็องดาร์ด

    สมรรถนะ ทางการบิน

 - ความเร็วสูงสุด : 1,180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ( 637 น๊อต หรือ 733 ไมล์/ชั่วโมง )

-พิสัยบินไกลสุด : 3,400 กิโลเมตร ( 2,200 ไมล์ )

-เพดานบิน : 13,700 เมตร ( 44,900 ฟุต ) หรือ 13.7 กิโลเมตร จากพื้นดิน

-อัตราไต่ : 100 เมตร ต่อ 1 วินาที ( 19,700 ฟุต/นาที )

-แรงขับต่อน้ำหนัก : 0.43

        อาวุธ

• Guns: 2× 30 mm (1.18 in) DEFA 552 cannons with 150 rounds per gun
• Rockets: 2× Matra rocket pods with 18× SNEB 68 mm rockets each
• Missiles: 2× AM-39 Exocets; 2× AS-30L
• Bombs: 2,100 kg (4,600 lb) of payload on four external hardpoints, including a variety of bombs or Drop tanks

         AV-8B+ Harrier II Plus

    สมรรถนะ ทางการบิน

- ความเร็วสูงสุด : 0.89 มัค  ( 662 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 1,070 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ ระดับน้ำทะเล

-พิสัยบิน (RANGE)   : 1,200 ไมล์ทะเล ( 1,400 ไมล์บก หรือ 2,200 กิโลเมตร

- พิสัย(ระยะ) ปฏิบัติการ : 556 กิโลเมตร ( 300 ไมล์ทะเล )

- พิสัยบินไกลสุด ( Ferry Range ) : 3,300 กิโลเมตร ( 1,800 ไมล์ทะเล )

- อัตราการไต่ :  14,700 ฟุต ต่อนาที ( 4,485 เมตร/นาที )

          อาวุธ

         BAE SEA HARRIER FA2 ( ของ อังกฤษ )

   สมรรถนะ ทางการบิน

-ความเร็วสูงสุด  : 1,182 กิโลเมตร/ชั่วโมง ( 735 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 635 น๊อต )

- พิสัย(ระยะ) ปฏิบัติการ :  1,000 กิโลเมตร ( 620 ไมล์บก หรือ 540 ไมล์ทะเล )

-พิสัยบินไกลสุด (Ferry Range) : 3,600 กิโลเมตร ( 2,000 ไมล์บก หรือ 1,740 ไมล์ทะเล )

-เพดานบิน  :  16,000 เมตร หรือ 16 กิโลเมตรจากพื้นดิน ( 51,000 ฟุต )

-อัตราการไต่ : 250 เมตร ต่อ 1 วินาที หรือ 50,000 ฟุต ต่อ 1 นาที

         อาวุธ

     เพิ่มเติม เกี่ยวกับ SUPER ETENDARD

 Super Étendard Modernisé (SEM) participated in NATOs "Allied Force" operations over Kosovo in 1999, flying over 400 combat missions with 73% of the assigned objectives destroyed : the best performance of all the air forces involved in the missions over Kosovo.

    เป็นเครื่องบิน ที่มี ประสิทธิผล ทางการรบสูง : มีประสิทธิภาพ ดีที่สุด จากทุกกองทัพอากาศ ที่ส่งเข้าร่วม ทำสงครามใน โคโซโว

    **อันนี้น่าจะวัดจาก อัตราการโจมตีเป้าหมาย ได้อย่างแม่นยำ  73% ในการบิน 400 เที่ยว.........เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเครื่องบิน อื่นๆ

       อ้างอิง ข้อมูลทั้งหมดที่เอามาลง จาก Wikipedia

 ผลงานเด่นไปคนล่ะด้านครับ 

SUPER ETENDARD   มีผลงานเด่นและโด่งดังมาจากสงครามหมู่เกาะฟอคแลนด์   เป็นเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับภาระกิจโจมตี   สามารถส่งเรืออังกฤษไปเป็นปะการังเทียมได้ง่ายๆ   

SEA HARRIER  FA-1 ของอังกฤษมีผลงานโด่งดังจากสงครามหมู่เกาะฟอร์คแลนด์เช่นกันครับ   เป็นเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับป้องกันภัยทางอากาศให้แก่กองเรือบรรทุกบ.ของอังกฤษ   ว่าง่ายๆคือ ขับไล่   แต่เป็นเครื่องขึ้นลงแนวดิ่งซึ่งต่างจากเครื่องขับไล่แบบอื่นๆ  แถมมีความเร็วต่ำกว่าเสียงอีก    ซึ่งตอนนั้นอาร์เจนติน่าใช้เครื่องมิราจ 3 อันโด่งดังจากสงครามระหว่างยิวกับอาหรับ    ดังนั้นในสงครามหมู่เกาะฟอร์คแลนด์แล้วในตอนแรกประเมินว่าเครื่องแฮริเออร์นั้นประสิทธิภาพต่ำกว่าเครื่องมิราจ 3 พอสมควร   เพราะความเร็วก็ต่ำกว่าและคิดว่าความคล่องตัวทางการบินด้อยกว่ากันมากครับ     

    แต่พอรบจริงปรากฎว่าแฮริเออร์มิได้ด้อยกว่ามิราจ 3 เลย   แถมมีผลงานน่าประทับใจด้วยซ้ำในการสอยเครื่องหลายๆแบบของอาร์เจนติน่าได้อย่างน่าเหลือเชื่อ     เหตุเพราะมีเครื่องยนต์ปรับทิศทางแรงขับได้      และจากประสบการณ์ในการรบคราวนั้นทำให้เครื่องยนต์ปรับทิศทางแรงขับได้ถูกนำมาพัฒนาอย่างมากในเครื่องยุคต่อๆมาครับ

   น้องเอาเครื่องคนละภาระกิจมาเปรียบเทียบกันครับ    เปรียบกันไม่ได้ครับ     เครื่องทั้งสองแบบนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านของมันทั้งคู่ครับ   เด่นพอๆกัน

....แล้วในสงครามชิงเกาะฟอร์คแลนด์ครั้งนั้น เออร์ตองดาร์ดเคยดวล(ด็อกไฟท์)กับแฮริเออร์มั๊ยครับ?   รู้แค่ว่าเอ็กโซเซ่ต์แจ้งเกิดเพราะเจ้าเออร์ตองดาร์ดส่งไปจมเรืออังกฤษหลายลำ... และแฮริเออร์ก็จัดการ มิราจและสกายฮอร์คของอาเจนติน่าไปเยอะเชียว...

รูปเรือพิฆาต"เชฟฟิลด์" หนึ่งในเรือที่ถูกยิงโดย เอ็กโซเซ่ต์

ขอบคุณภาพจาก www.tarad.com

....ซุปเปอร์ อิเทนดาร์ท (ขอเรียกตามหนังสือในไทยและอังกฤษ)

...จัดเป็นเครื่องบินโจมตีทางยุทธวิธีแบบหนึ่งที่ดีมากเลยล่ะครับ  และความคล่องตัวในการเข้าโจมตีในย่านความเร็ว ก็ดีมาก แต่ถ้ารบทางอากาศกับบ.ข.ลำอื่นค่อนข้างจะลำบาก ด้วยรูปทรงน่ะครับ  ส่วนแฮริเออร์แบบพี่สมาชิคท่านอื่น บอกไว้คือใช้ การปรับทิศทางในการเลี้ยว ทำการรบ น่ะครับ

....ส่วนตอนรบที่ ฟอร์คแลนด์  แฮริเออร์ นั้นลอยตัวต่ำรอให้มิราจ-3 เอ-4 พวกเนี้ยเข้ามาแล้วจึงยิงใส่น่ะครับ หรือ ค่อยทำการรบด็อกไฟต์ แต่ว่า เครื่องมิราจ-3 นั้นบินมาไกลและไม่เหลือเชื้อเพลิงให้ลุย เลยต้องรีบกลับน่ะครับ  ในด้านการโจมตี เอ-4 และ ซุปเปอร์ อิเทนอาร์ท นั้น ก็ช่วยกันโจมตีเรืออังกฤษไปหลายลำล่ะครับ หนึ่งในนั้นมีโดน เอ-4 บินมาทิ้งระเบิดใส่เอาดื้อเลย

....แถมรูปตอนเชฟฟิลด์ กำลังจะจม

     นี่ถ้าตอนนั้น อาร์เจนติน่า มี เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

   สงครามอาจเปลี่ยนหน้าก็ได้ครับ...............ไม่ใช่ว่า A-4 หรือ MIRAGE 3  จะสู้ HARRIER ไม่ได้ครับ

  ผู้เชี่ยวชาญทาง ทหาร ยังกล่าวว่า ถ้า A-4 SKYHAWK  ไม่ติดตั้งถังเชื้อเพลิงใต้ลำตัว............A-4 จะเป็นเครื่องบิน ที่ทำการรบ แบบ DOGFIGHT ได้ดีมากเลยทีเดียว อาจจะสู้เครื่องบินขับไล่ ยุคที่ 4 - 5 เลยด้วยซ้ำ

     แต่มันเป็นไปไม่ได้ ที่ A-4 จะไม่ติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรอง.........เพราะถ้าไม่ติด คงบินไปไม่ถึง หมู่เกาะ ฟอล์คแลนด์ แน่

     ส่วน MIRAGE 3................ทอ.อิสราเอล ก็แสดงให้เห็นว่า มันดีกว่า เครื่องบินขับไล่ ของประเทศ อาหรับ เกือบทุกแบบ ใน สงคราม 6 วัน...............ส่วนหนึ่งมาจากความ เก่งกาจ ของนักบินด้วย

  *สงครามครั้งนี้ อังกฤษ ชนะด้วย ยุทธวิธี ครับ.............คือส่งเจ้า HARRIER ไปบิน รอการมาของ เครื่องบิน ของ อาร์เจนติน่า และก็เข้าไปรบพันตูกันกลางอากาศ

  นักบิน อาร์เจนติน่า ก็คงไม่มีเวลามาพันตูด้วย ก็เพราะถ้า DOGFIGHT เกิน 5 นาที น้ำมันเชื้อเพลิง คงมีไม่พอ กลับฐานทัพ

  เพราะ ภารกิจหลัก ก็คือ จม เรือบรรทุกเครื่องบิน INVINCIBLE

 อันที่จริงเนี่ยน่ะ ไอ้พวก มหาอำนาจ ล่า อนานิคม ก็น่ามึน ซ่ะเหลือเกิน เกาะฟอล์คแลนด์ อยู่ใกล้ประเทศใด ประเทศนั้นก็ถือ กรรมสิทธิ์ เหนือพื้นที่

   อาร์เจนติน่า แพ้เพราะจนกว่า ก็ว่าได้.............คิดดูสิ ถ้า อาร์เจนติน่า มี เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ล่ะก็............อาจพลิกประวัติศาสตร์ ก็เป็นได้

 หรือถ้าแพ้..........อังกฤษ ก็คงจะ สูญเสีย อย่างหนักกว่าที่เป็น

   แต่ ยังไงๆซ่ะ อาร์เจนติน่า ก็ตบหน้า อังกฤษ ดังเปรี้ยง...................เมื่อ ดีเอโก้ มารโดน่า กระโดด เอามือ ( หัตถ์พระเจ้า - The Hand Of God ) เข้าประตู ทีมชาติ อังกฤษ ไป เป็นประตูชัย ให้ อาร์เจนติน่า ชนะ อังกฤษ ไป 2 - 1  ในปี 1986

   ซึ่ง อาร์เจนติน่า ผ่านเข้ารอบไป ชิงชนะเลิศกับ เยอรมัน ตะวันออก ( WEST GERMANY )................โดย อาร์เจนติน่า ชนะไป 3 - 2 ได้เป็น แชมป์โลก

   555555555555........เดี๋ยวอีกหน่อย เจอ ลิโอเนล เมสซี่ หรือ นิว มาราโดน่า อีกแน่