ไปอ่านเจอใน Manager Online ครับ เห็นว่าน่าสนใจอีกแล้วครับท่าน จึงนำมาโพสต่อครับ
ธาตุแท้ของ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข |
โดย ว.ร.ฤทธาคนี |
15 มกราคม 2552 19:44 น. |
|
|
ลักษณะเรียบง่าย EQ สูง ไม่มีนิสัยก้าวร้าว และเป็นสุภาพบุรุษมักจะตกเป็นเหยื่อของศัตรูทางการเมืองที่เสียประโยชน์ เช่น ในกรณี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตรองประธาน คมช.ซึ่งมีคุณสมบัติและอุปนิสัยตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงเป็นเป้านิ่งให้สื่อมือปืนรับจ้างหรือพวกที่เป็นฝ่ายนักการเมืองหรือกลุ่มทหารที่เสียประโยชน์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีขณะที่ฝ่ายถูกโจมตีขาดเครื่องมือตอบโต้โดยตรง ดังนั้น เพื่อให้สาธารณชนที่ขาดข้อมูลที่สมบูรณ์และถูกต้อง ได้วิเคราะห์แสวงหาความจริงเกี่ยวกับสุภาพบุรุษทหารคนนี้ที่เป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ มีความรู้ ความสามารถ กล้าหาญ และมีอุดมคติทหารอากาศดังเช่น พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข เป็นอย่างไร ท่านเกิดในตระกูลทหารอาชีพมีบิดาเป็นนายทหารยศนายพล ที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไต่เต้าสู่ตำแหน่งด้วยลำแข้งของตัวเอง เลี้ยงดูบุตรให้มีอุดมการณ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งเก็บออมสร้างชีวิตแบบทหารแท้ ดังนั้น พฤติกรรมและวิถีชีวิตของท่านจึงเป็นรูปแบบให้กับลูกยึดถือได้เป็นอย่างดี พล.อ.อ.ชลิต จึงเป็นนายทหารที่เรียบง่าย ไม่มีความใฝ่สูง แต่ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยอุดมการณ์ทหารอากาศ และเป็นที่รักของเพื่อน พี่และน้อง สำหรับเพื่อนนั้น พล.อ.อ.ชลิตจะยอมให้เพื่อนก่อนเสมอ ส่วนรุ่นพี่ก็จะศรัทธานับถือในความเป็นอาวุโสและความสามารถไม่คิดเลื่อยขาเก้าอี้ สำหรับรุ่นน้องนั้น พล.อ.อ.ชลิต ก็ให้ความไว้วางใจมอบหมายให้ทำเพราะรู้ว่ารุ่นน้องจะทุ่มเททำงานให้ ด้วยความมี EQ สูงไม่เคยแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าว และจะใช้มธุรสวาจา คุณ-ผม เสมอ เมื่อมีเพื่อนเป็นนายก็สงบอารมณ์นิ่งไม่น้อยใจรับคำสั่งได้อย่างมีวินัย ไม่เคยนินทาใครลับหลัง ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจด้วยสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม และด้วยคุณลักษณะดังนี้ พล.อ.อ.ชลิต จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บังคับการกรมนักเรียนนายเรืออากาศ ซึ่งตำแหน่งนี้ทหารทุกเหล่าทัพจะรู้ดีว่าเป็นต้นแบบของนายทหารและต่อมาได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยทูตทหารอากาศประจำประเทศอินโดนีเซีย ความรู้ความสามารถนั้น พล.อ.อ.ชลิต จบปริญญาตรีสายช่างอากาศหรือ Aeronautical Engineer จากโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นเหล่านักบินทำการบินกับเครื่อง F-5 ซึ่งทันสมัยในยุคนั้น และทำการบินกับ F-5 มีชั่วโมงบินครบ 2,000 ชั่วโมงเป็นคนแรก มีสำนวนไทยที่ว่ามีชั่วโมงบินสูงก็ให้ความหมายอย่างตรงตัวคือ ความสามารถในการบินของอดีต ผบ.ทอ.คนหนึ่งที่เป็น Leader by Example แต่ที่แน่ๆ นั้นคือ ทำการบินรบในกรณีปราบปราบ ผกค.ในยุค 2520 และกรณีพิพาทชายแดนร่มเกล้าที่นำหมู่บินไปร่วมที่ตั้งระเบิดฝ่ายตรงข้ามที่ถูกต่อต้านอย่างหนาแน่น รุนแรง ซึ่งในครั้งนั้นกองทัพอากาศสูญเสีย F-5 หนึ่งเครื่องและ OV-10 หนึ่งเครื่อง เพราะถูกยิงด้วยจรวด SAM-7 โดยส่วนตัวแล้ว พล.อ.อ.ชลิต ไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ และก็ไม่เคยทำตัวฟุ้งเฟ้อ เรียบง่ายยังไงก็ยังงั้นแม้เป็นผบ.ทอ.ก็ตามไม่แสดงตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญไวน์หรือใช้นาฬิกายี่ห้อแพง การที่นายทหารคนหนึ่งจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีคู่ชีวิตเป็นข้าราชการอาจารย์มหาวิทยาลัย และเคยมีรายการโทรทัศน์ภาษาไทยวันละคำ จนเป็นรายการที่มีความนิยมสูงเป็นที่รู้จักของชาวบ้านมากกว่า 10 ปี จึงเป็นคำถามง่ายๆ ว่า สองคนผัวเมียทำงานราชการแต่ประหยัดจะปลูกบ้านในที่ของตัวเองที่บิดามอบให้ไม่ได้เชียวหรือ จึงอยากจะให้สาธารณชนที่มีวิถีชีวิตเช่นเดียวกันนี้ได้ลองพิจารณาเทียบเคียงดูบ้าง วิถีทางสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศของท่าน ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลย แต่เพราะการเมืองแทรกแซงกองทัพอากาศเพื่อหวังผลประโยชน์ และหวังสร้างทหารให้อยู่ในระบอบทักษิณ จะเป็นด้วยเพราะความศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพบุรุษกองทัพอากาศหรืออย่างไรนั้น ไม่มีใครรู้ได้ แต่พล.อ.อ.ชลิต ได้รับเลือกสวนทางกับความต้องการของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา อดีต ผบ.ทอ.ที่ลาออกไปเล่นการเมืองก่อนเกษียณ และสร้างตำนานไว้ในประวัติศาสตร์การเมือง และกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.คงศักดิ์ มุ่งหวังที่จะจัดหา SU 30 จากรัสเซียที่อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการแต่ถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนต้องเลิกล้มโครงการ ส่วน Gripen-JAS 39 นั้น กองทัพอากาศไทยให้ความสนใจมาตั้งแต่ พ.ศ. 2540 แล้ว แต่ขณะนั้นพล.อ.อ.ชลิตอยู่ในสายงานกำลังพลจึงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ เมื่อท่านได้เป็น ผบ.ทอ.จึงนำคุณสมบัติเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบต่างๆ มาเปรียบเทียบกัน และพบว่า Gripen-JAS 39 มีคุณสมบัติและข้อเสนอที่ดีกว่า Gripen-JAS 39 เป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์จริงๆ แม้นสวีเดนเป็นประเทศเป็นกลางก็จริง แต่ความเป็นกลางไม่มีอะไรค้ำประกันได้แน่นอนดังนั้นความสามารถในการป้องกันประเทศโดยเฉพาะกำลังทางอากาศที่มีภัยคุกคามจากการรุกรานของอดีตโซเวียตรัสเซียทำให้ต้องมีเครื่องบินรบที่ต้องสามารถประกันชัยชนะได้ และเพราะสวีเดนเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านเหนือของยุโรปตะวันตก หากเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้ซึ่งสงครามเป็นเรื่องไม่แน่นอน อันเกิดได้จากหลายสาเหตุและสวีเดนอาจถูกรุกราน Gripen-JAS 39 สามารถซ่อนตัวในถ้ำที่กระจายทั่วประเทศ และสามารถวิ่งขึ้นและลงจากทางหลวงได้ เพราะ Gripen-JAS 39 ต้องการเจ้าหน้าที่ดูแลส่งกำลังบำรุงเพียง 4-8 คนเท่านั้น และเป็นไปตามหลักการซ่อนพรางทำให้ข้าศึกไม่สามารถโจมตีทำลายเครื่องบินขณะจอดบนพื้นได้ และความสามารถนี้ทำให้ Gripen-JAS 39 มีโอกาสรอดสูงสามารถตอบโต้การรุรานได้รวดเร็วทั่วถึง ความสามารถพิเศษในเชิงอากาศพลศาสตร์คือ Gripen มีปีกเล็กเรียกว่า Canard อยู่ที่หัวเครื่องบินทำให้มีความว่องไว และคล่องแคล่วในการเลี้ยวซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของเครื่องบินขับไล่ที่สามารถหลบหลีกได้รวดเร็ว และก็โจมตีข้าศึกได้รวดเร็วเช่นกัน ส่วนระบบการป้องกันทางอากาศหรือ RTADS- Royal Thai Air Defense Systems นั้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะระบบนี้จะเป็น ตา และ หู ให้นักบินรบ ถ้าเรดาร์และระบบการติดต่อสื่อสารไร้คุณภาพแล้ว ประสิทธิภาพในการรบทางอากาศก็น้อยลงด้วย แต่สิ่งที่สำคัญคือ RTADS เป็นระบบที่ต้องใช้รวมกับมิตรประเทศ เมื่อมีการปฏิบัติการร่วมผสมทางทหารในภูมิภาคนี้ เช่น กลุ่มป้องกันประเทศร่วมกัน มาตรฐานประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่มิตรประเทศจะไว้ใจเรามากน้อยแค่ไหน ดังนั้น จิตสำนึกเหล่านี้ ผบ.ทอ.ทุกคนจะต้องคำนึงถึงและเพื่อความอยู่รอดของชาติ ของนักบินที่ผลิตยาก และประกันความมั่นคงของภูมิภาคนี้แล้ว ผบ.ทอ.ทุกคนจะต้องเลือกซื้อ เลือกใช้ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพและจะไม่เป็นแรงระเบิดสะท้อนกลับมาหาท่าน หากภารกิจของกองทัพอากาศล้มเหลวหรือนักบินขวัญกำลังใจตกต่ำเพราะเครื่องบินไร้ประสิทธิภาพ ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณและความไว้วางใจของประชาชนได้มอบให้ ที่เขียนนี้ก็เพราะคิดว่า พล.อ.อ.ชลิต ควรจะได้รับความเป็นธรรมจากสังคม เพราะท่านไม่ได้เลือกชีวิตท่านให้เป็นอย่างนี้ แต่เป็นชะตาชีวิตของกองทัพอากาศเองที่เลือกท่านครับ
| | | | | | |
ความคิดเห็นที่ 1
Gripen ไว้ในถ้ำ? .... เป็นมันไปแทบไม่ได้เลยนะครับในความเป็นจริงเมื่อพิจารณาจากลักษณะของถ้ำในเมืองไทย ผมว่าผมเข้าใจเจตนาท่าน แต่คิดว่าท่านควรจะเปรียบเทียบกับอย่างอื่นมากกว่าสิ่งที่มันเป็นไปแทบไม่ได้ในทางปฏิบัติแบบนี้ครับ ..... ถ้าจะบอกว่าท่านเอา Gripen ลงที่ถนนหลวงสายหนึ่งแล้วตั้งสนามบินฉุกเฉินขึ้นแถวๆ คันนาชาวบ้านแบบนั้นจะฟังดูดีกว่าครับ เพราะมันทำแบบนั้นได้จริง ๆ ไม่ใช่แบบว่าหลบเข้าไปในถ้ำ ...... เพราะกว่าจะถึงถ้ำนี่ไม่รูจะลุยภูเขาหรือลำธารเข้าไปยังไงครับ
โดยคุณ
Skyman เมื่อวันที่
16/01/2009 06:03:49
ความคิดเห็นที่ 2
คุณ sepiaครับมีเช่นกันครับสมรภูมิเล่ม 1037
แต่เท่าที่ดูเป็นการส่งนักไปทดสอบครับ ถ้าเป็นการแอบส่ง( ความลับ )ก็คงไม่เอามาลงแบบนี้ครับ เพราะ ก่อนการตัดสินนั้น ทอ. จะส่งนักบินชุดต่างๆไปทดสอบบ.ในตัวเลือกต่างๆครับ
โดยคุณ
poom1.1 เมื่อวันที่
16/01/2009 09:14:45
ความคิดเห็นที่ 3
เรียนตามตรงว่า....สื่อ(สายนี้)มักจะเกาะติดฝังใจกับเรื่อง ซู ๓๐ ไม่เลิก....
ความจริงแล้ว......ในสมัยที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ....ข่าวเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินใหม่มีมาตลอด...ผมจำได้ในงานแถลงข่าวของ ทอ.วันหนึ่ง ผบ.ทอ. ท่านนี้พูดอย่างชัดเจนว่า...การจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ใหม่จะไม่เกิดในสมัยท่านเป็น ผบ.ทอ. แน่นอน..ซึ่งก็เป็นจริง....ท่านคงศักดิ์ ระบุว่า...ทอ. กำลังพิจารณาจัดซื้อ โดยมีตัวเลือก ๕ ตัว อย่างที่เคยกล่าวไปหลายครั้งแล้ว....และหัวกะทิในการพิจารณาจัดซื้อคนหนึ่งที่สำคัญของ ทอ.ก็คือ ผู้บัญชาการยุทธทางอากาศ ขณะนั้น...(พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข) ส่วนประเด็นที่สื่อเขียนโจมตีว่า ท่านนั้นจะซื้ออันนั้น ท่านนี้จะซื้ออันนี้ ความเป็นจริงอย่างลับสุดยอด ภายหลังจากส่งกำลังพลไปทดสอบอากาศยานทุกแบบ (จริง) แล้ว....ความลับคือ....ปล่อยข่าวว่าจะจัดซื้อ เครื่องบินแบบอื่น...(ซู ๓๐) เพื่อหวังให้นายหน้า (สิงคโปร์) ที่รับงาน เอฟ-๑๖ มุ่งโจมตีไปที่เดียวตามที่เป็นข่าว......(คงจำได้..ผมเองยังมาปล่อยข่าวว่าเรารับมอบ F-16 D + แล้ว) แม้วันที่ ครม.อนุมัติให้มีการจัดซื้อ...คงจำได้นะครับว่าหลายท่าน...ยังไม่ทราบบทสรุป..ว่าเป็นแบบไหน....จนกระทั่ง....วันรุ่งขึ้นเวลาประมาณบ่ายโมง...การแถลงข่าว ที่ บก.ทอ.จึงเปิดเผยออกมาว่า..เป็น "กิปเปน"
โดยคุณ
ท้าวทองไหล เมื่อวันที่
21/01/2009 03:21:43
ความคิดเห็นที่ 4
แล้ว....ความลับคือ....ปล่อยข่าวว่าจะจัดซื้อ เครื่องบินแบบอื่น...(ซู ๓๐)
เพื่อหวังให้นายหน้า (สิงคโปร์) ที่รับงาน เอฟ-๑๖
มุ่งโจมตีไปที่เดียวตามที่เป็นข่าว.....>>>>>ผลสุดท้ายก็เสร็จนายหน้าโนเนมของไทยที่รับ
งานของSaabโดยรับไปเหนาะๆ 20,000 ล้าน เรียบร้อยโรงเรียนเสี่ย ^_^
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
21/01/2009 23:43:03
ความคิดเห็นที่ 5
ขอชื่นชม ผบ.ทอ. ทั้งคนที่แล้วและคนปัจจุบัน ที่มีจุดยืนที่ชัดเจน ในการปกป้อง สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการเปิดศักราชแห่งการร่วมมือและการสื่อสารระหว่างกองทัพให้มีการพัฒนาไปมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต
โดยคุณ pramoch เมื่อวันที่
22/01/2009 21:55:22