หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สังเกตดูว่าส่วนใหญ่ไทยเน้นตั้งรับ ทำไมไม่รุก

โดยคุณ : easycheese เมื่อวันที่ : 07/01/2009 16:27:17

จากการซื้ออาวุธยุมโธปกรณ์ทั้งหลายส่วนใหญ่เน้นการตั้งรับซะเป็นส่วนมาก  ถ้าการรุกคือการตั้งรับที่ดี ก็น่าจะจัดหาอาวุธในเชิงรุก ถึงแม้ไม่ได้เอาไปรุกใครแต่ก็น่าจะกันไม่ให้ใครมารุกได้โดยง่ายนะครับ

เข้าใจว่า อาจะอยากทำอย่างนั้นแต่จะทำได้อย่างไรถ้าไม่มีงบประมาณ อันนี้ก็น่าเห็นใจครับ




ความคิดเห็นที่ 1


มันเกี่ยวกับหลายๆอย่างละครับ ในการจัดซื้ออาวุธแต่ละที

ส่วนเรื่องอาวุธทางรุกนี่ อะไรบ้างละครับที่เราไม่มี?

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 05/01/2009 03:16:43


ความคิดเห็นที่ 2


ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ ทำไมเค้าจะไม่คิดครับ

เพียงแต่เราเลือกที่จะพึ่งพา ไอ้กัน มากไปมันไม่ขายให้จะทำไม แถมยังไปกดดันประเทศอื่นไม่ให้ขายให้อีก (เรื่อง Popeye ไปหาข้อมูลเองนะครับ)

ดูตัวอย่างง่ายๆ ถ้าครั้งนี้ กองทัพอากาศเลือก F-16 เราได้อะไรมากับตัวเครื่องบ้าง แล้วหันมาดู JAS-39 บ้างเราได้อะไรมากันบ้าง

พึ่ง ไอ้กัน ให้น้อยลงได้แล้ว อะไรที่เรายังทำเองไม่ได้ก็ดูจากยุโรป รัสเซียบ้าง (จีนม่ายอาว...)

ไอ้กัน เอาเปรียบเราอย่างมาก แบ่งเกรดอาวุธขาย F-16 ที่เข้าแข่งกับ JAS-39 ดูสเป็คแล้วเซ็ง

ผมสงสัยนะทำไมเราไม่ซื้ออาวุธจาก เมืองลอดช่อง มาใช้บ้าง อย่าง ปลย. หรือ ปก. เค้าก็ทำได้ไม่เลวนัก อยากให้ลองนำมาทดสอบแข่งกับของ ยิว ที่จัดหามาดูว่าใครดีกว่ากัน

ทั้งที่สายสัมพันธ์ทางทหารของเรากับเมืองลอดช่อง ก็ถือว่าอยู่ในระดับดีทีเดียว ลดข้อกล่าวหาว่าเราสนับสนุนยิวจากพวกอาหรับได้บ้าง (อุ๊บ...พิมพ์อะไรออกไป)


โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 05/01/2009 03:33:08


ความคิดเห็นที่ 3


    เห็นด้วยกับบรรทัดสุดท้ายของท่านน่าคิดครับ 5555 ก็ของเค้าดีนี่ ลูกค้าก็ต้องเข้าหาเป็นธรรมดา ขนาดมิก21บางประเทศยังเอาไปให้อิสราเอลช่วยโมเล้ย (แล้วอาหรับมีอะไรขายให้เราบ้างละ เง้อ!)

ผมเห็นด้วยกับกองทัพไทยในขณะนี้ครับว่าท่านมาถูกทางแล้ว ใครจะว่าทำไมไม่ใช้เอฟ16ต่อก็ช่างเค้า

(น่าจะให้พวกนี้ไปดูอาวุธเพื่อนบ้านเค้าซะบ้าง จะได้เข้าใจว่าใช้เอฟ16ที่ไม่อัฟเกรดต่อไปมันจะเป็นยังไง แล้วก็พวกชอบค้านนี่ก็ค้านอะไรให้มันถูกเรื่องซะบ้างนะ อาวุธป้องกันประเทศถ้าค้านว่าไม่ดี ก็ขอให้เอาเหตุผลด้านประสิทธิภาพมาค้านด้วย ไม่ใช่เอะอะก็เอาแต่เรื่องไม่โปร่ง"แสง"มาพูด)

การเลิกพึ่งพาอาวุธจากค่ายเดียวเป็นสิ่งที่ดีครับ

(ในเมื่อประเทศเรายังไม่พร้อมจะสร้างหรือพัฒนาอาวุธเอง ก็ควรที่จะเลือกอาวุธที่เหมาะสมกับประเทศของเราให้ได้ซะก่อน)

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 05/01/2009 03:47:22


ความคิดเห็นที่ 4


ในส่วนของอาวุธสำหรับทหารราบนั้นกองทัพบกก็มีการจัดหามาใช้หลายแบบครับเช่นเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ 40mm แบบ CIS 40 AGL เป็นต้น (คล้ายกับ Mk 19 แต่หน้าตัดเครื่องยิงจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู เคยเห็นในภาพที่คุณ FW190 เคยPost ครับ)

ส่วน SAR-21 ก็มีการจัดหามาทดสอบใช้ในบางหน่วยครับซึ่งก็เคยเห็นมีการนำมาลงใช้ในพื้นที่จริงบ้างครับ

แต่ SAR-21 นั้นมีรายงานปัญหาออกมาพอสมควรครับเช่น การออกแบบปืนนั้นถ้าติดอุปกรณ์เสริมมากๆจะทำให้น้ำหนักปืนไม่สมดุล เปลี่ยนซองกระสุนยาก ด้ามจับและไกปืนใช้งานไม่สะดวก ศูนย์เล็งสำรองชำรุดง่ายเกินไป จนถึงปืนทำงานติดขัดบ่อยๆเป็นต้นครับ ซึ่งปืน SAR-21 ก็เคยนำมาคัดเลือกทดสอบกับ Tavor แล้วครับ พร้อมกับ HK G36(ทราบว่าG36 ไม่ผ่านตรงที่ราคาแพงกว่าถ้าเทียบกับ Tavor)

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 05/01/2009 04:54:59


ความคิดเห็นที่ 5


อืมๆขอบคุณท่านเอกมากครับสำหรับคำตอบ สรุปแล้วคุณภาพกับราคาก็เป็นเครื่องตัดสินใจเลือกที่ไม่แพ้กันเลย ถึงจะดียังไงแต่ถ้าแพงไป สู้ใช้ของที่ดีน้อยลงมาแต่ราคาถูกกว่า ซื้อได้หลายกระบอกกว่าจะดีกว่า 555

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 05/01/2009 06:02:31


ความคิดเห็นที่ 6


......ในเรื่องรายละเอียดการจัดซื้ออาวุธ นั้นมีหลายองค์ประกอบครับ งบประมาณ ความเข้ากันได้ของระบบ และความจำเป็น

.....เพียงแต่เราต้องไม่ยึดติดกับยี่ห้อมากจนเกินเหตุ  หากเงินไม่ค่อยมีก็สามารถหาเข้าประจำการได้  เพราะมีชาติอื่นที่ผลิตและระบบคล้ายๆกัน แต่ไม่ดังเท่านั้นเอง  ส่วน คุณภาพนั้น อันนี้สิ่งที่จะวัดได้คือการทดสอบ ครับเช่น รถถัง รถหุ้มเกราะ  ปืนใหญ่  จรวดหลายลำกล้อง เพราะคุณภาพอาวุธบางอย่างเดียวนี้ไล่ๆกันหมดยกเว้นรุ่นที่เทคโนโลยีสูงจริงๆ เช่นเครื่องบินรบ เรือดำน้ำ เป็นต้น

.....สังเกตุบางกองทัพต่างชาติเขามีเงินแต่ไม่ยึดติดกับอเมริกาหรือยุโรปด้วยซ้ำไป แล้วเราไม่ค่อยจะมี จะไปยึดติดทำไม  

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 05/01/2009 06:15:12


ความคิดเห็นที่ 7


ต้องเข้าใจครับ ว่าเมื่อก่อนไทยกับอเมริกาเคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี และ อเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือไทยเรามาตลอด แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการฝึกร่วมขนาดใหญ่กันหลายรายการ ทำให้หลายอย่างเรายึดแบบแผนจากอเมริกา แม้แต่ยุทธวิธีหรือกระทั่งเครื่องแบบเราก็ประยุกต์มาจากของอเมริกา ทำให้อาวุธหลายอย่างเราจึงใช้แบบเดียวกับอเมริกา แต่ในปัจจุบันอเมริกามองว่าไทยเรานั้นจัดว่ามีฐานะและกำลังซื้อที่พอสมควร จึงเน้นไปที่ธุรกิจและขายอาวุธให้ แต่ก็ยังมีการจำกัดขอบเขตเพราะเกรงว่า หากขายอาวุธร้ายแรงให้กับไทยไปจะเป็นการเร่งให้ประเทศในแถบนี้พากันสะสมอาวุธกันเข้าไปใหญ่ แต่ความเป็นจริงตอนนี้ดูแล้วถ้าเรามีเงินมากพอเขาก็คงจะขายให้อยู่เพราะบางประเทศเขาจัดหาอาวุธที่ทันสมัยมาใช้กันอย่างคึกคัก แต่ว่าอาวุธของอเมริกานั้นรู้ๆกันอยู่ว่าทันสมัยมากแต่ก็ค่อนข้างแพง ทำให้กองทัพต้องหันมามองอาวุธประเทศอื่นบ้าง แต่จะให้เปลี่ยนขั้วเลยมันทำได้ยากเพราะเราถูกวางรากฐานให้ใช้อาวุธของอเมริกามา จึงต้องริเริ่มเน้นที่ของมาตรฐานนาโต้เป็นหลัก เว้นเสียแต่อาวุธที่ไม่ต้องการซ่อมบำรุงมากหรือการติดต่อข้อมูลมากมายนัก แต่ก็เห็นด้วยกับการไม่ยึดติดอาวุธที่ประเทศใดประเทศหนึ่งครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 05/01/2009 06:47:14


ความคิดเห็นที่ 8


อ้าว ! ตอบไม่ตรงคำถามของเจ้าของกระทู้เสียแล้ว ตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยแล้วกันครับ อยู่ที่งบประมาณจริงๆ กองทัพก็อยากได้แบบนั้นแหละครับ แต่งบประมาณที่จำกัด(แถมอาจถูกดึงเข้าการเมือง)ทำให้การใช้จ่ายต้องเหมาะสมโดยมองสถานการณ์ในปัจจุบันเข้ามามีส่วนในการคัดเลือกด้วยครับ  เพื่อให้งบประมาณที่ใช้ไปคุ้มค่าที่สุดครับ
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 05/01/2009 06:53:31


ความคิดเห็นที่ 9


ยังสงสัยนะ อย่างปืนนี่ทำไมเราสั่งมาทั้งกระบอก
เราเอามาประกอบในบ้านเราไม่ได้เหรอ แบบสั่งมาเป็นชิ้นๆ
แล้วเราก็มาให้ช่างสรรพวุธของเราประกอบเอง น่าจะถูกลงอีกนะ


เคยได้อ่านคำสัมภาษของรัฐมนตรีไม่แน่ว่าเป็นของมาเลเซียหรือปล่าว
ว่าของถ้าดีจริงราคาแพง ก็สั่งซื้อทีละนิด จนได้ของครบตามความต้องการ

เห็นด้วยกับความคิดนี้นะ มีเงินพอซื้อปืนเยอรมัน 1000 กระบอก ก็สั่งมาแค่นี้ก่อน ไม่ใช่เงินแค่นี้ไปซื้อของประเทศอื่นที่ด้อยกว่ามากได้ 5000 กระบอก
ก็สั่งมาใช้ เห็นใจคนใช้บ้างเถิดครับท่านนายพลทั้งหลาย
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่ 06/01/2009 00:56:49


ความคิดเห็นที่ 10


 

แล้วคนที่ใช้ปืนเก่าๆที่ไม่ใช่ 1000 กระบอกแรกละครับ รออีกกี่ปีกี่ชาติกว่าจะใด้ครบตามจำนวน จะให้เขาใช้เก่าๆไปก่อนนี้ไม่เห็นใจทหารหรือครับ...

 

ท่านเขาตัดสินใจถูกแล้วละครับ TAR-21 ไม่ขี้เหล่กว่า G-36 หรอก

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 06/01/2009 01:26:32


ความคิดเห็นที่ 11


อาวุธเป็นเหรียญสองด้านครับ ถ้าใช้เพื่อป้องปรามก็เป็นตามหลักการรบเชิงรับ แต่ถ้าจุดประสงค์เพื่อการโจมตีก็เป็นตามหลักการรบเชิงรุกครับ
ถ้ายุทธปัจจัยต่างๆเอื้ออำนวย เราก็พิจารณาถึงความมั่นคงและผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ รวมถึงภัยคุกคามอันใกล้ครับ เท่าที่ผมเข้าใจ เมืองไทยเราเน้นนโยบายป้องปรามเป็นหลักครับ

โดยคุณ yaiterday เมื่อวันที่ 06/01/2009 08:00:46


ความคิดเห็นที่ 12


ผมไม่ได้เป็นกรรมการจัดหาปืนใหม่ซะด้วยสิ หุหุ

แต่เขาเลือกแบบอย่างใดก็คงต้องใช้อย่างนั้น    แต่จะแปลกมากๆ ถ้า ทาเวอร์มาแค่ สิบห้าพันกระบอก      และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ   สายการส่งกำลังบำรุง     เพราะมันเป็นครั้งแรก ที่กำลังทหารหลักปกติ จะใช้งานปืนที่ใช้เครื่องช่วยเล็ง แบบศูนย์กล้อง   

การพัฒนาต้องพัฒนาทั้ง เครื่องมือ และก็ บุคคลที่เป็นผู้ใช้ด้วย    ต้องควบคู่กัน  ไปด้านเดียวไม่ได้

ผลการตรวจสอบทหารใหม่ในสถานีที่สี่ การยิงปืนด้วยกระสุนจริงนั้น  ตัวเลขสวยหรู  แข่งขันกันเป็นที่เชิดหน้าชูตาของหน่วยฝึก    แต่  ทำไม   ผลการปะทะจริงๆ  ผลการใช้อาวุธประจำกายและประจำหน่วย มันถึงออกมาอีกรูปหนึ่งเลย   มันเป็นที่อะไร หุหุ    เอาง่ายๆ เลยนะ พื้นฐานสุดๆ เลย   จับทหารมาสัก สิบคน แล้วลองให้ปฏิบัติฉับพลันเกี่ยวกับอาวุธประจำกายตัวเองดูสิ    การทำให้ปืนพร้อมยิงตลอด  ทั้งการเปลี่ยนซองกระสุน การแก้ไขปืน ในสภาวะต่างๆนั้น   จะทำได้ในระดับไหน      ผู้ที่มีผลในการให้ความรู้กำลังพลตัวเอง อย่าได้นิ่งนอนใจไปเลย   

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 07/01/2009 05:27:18