เรือ Corvette ความยาว77เมตรของพม่านั้นมีอยู่ด้วยกัน 3ลำครับคือ หมายเลข 771 USM Anawrahta และหมายเลข 772 และ 773 (ซึ่งถ้าให้เดาน่าจะชื่อ UMS Bayin Naung? กับอลองพญา?)
ซึ่งในภาพนั้นจะเห็นการติดอาวุธในส่วนท้ายเรือที่ชัดเจนขึ้นครับว่าติด C-802 4นัดตามข้อมูลที่มีออกมา แต่ภาพตามยาวเรือเต็มๆนั้นยังไม่มีในขณะนี้ครับจึงยังบอกไม่ได้ว่าตามข้อมูลที่ว่าเรือชั้นนี้ติดปืนใหญ่ 76mm อีกกระบอกที่ท้ายเรือหรือไม่ แต่ค่อนข้างแน่ใจครับว่าเรือชั้นนี้ไม่น่าจะมีพื้นที่ว่างพอสำหรับลานจอด ฮ.ท้ายเรือครับ
ส่วนอาวุธรองอื่นๆน่าสนใจครับอย่างในภาพที่2นั้นเห็นที่กราบเรือติด ปืนกลหนักแฝดน่าจะเป็น ปก.จีนครับ (ไม่แน่ใจว่า12.7mm หรือ 14.5mm หรือ23-25mm) และมีเรือเร็วเล็กประจำเรือด้วย
แหม 3 ลำ นี่ ตั้งตาม 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพม่าเลยนะครับ
ลำแรก มาจากพระนามของ พระเจ้าอโนรธา Anawrahta
ลำที่สอง ก็มาจาก พระเจ้าบุเรงนอง Bayin Naung
ที่เนปิดอ ก็มี พระราชานุสาวรีย์ ของ ทั้ง 3 พระองค์อยู่
เข้ามาดูเฉยๆ วิเคราะห์ต้องใช้เสียงใช่ไหม?
เสียงไม่มี งด ออกเสียง
ปืนที่กราบเรือทั้ง 2 ข้างน่าจะเป็นปืนกลต่อสู้อากาศยาน Type 58 ขนาด 14.5 มม. ซึ่ง copy มาจากปืน ZPU-2 ของรัสเซีย
เพราะปืน Type 58 นี้ติดตั้งบนเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถี ชั้น Myanmar Houxin ด้วย
ดูขอเพื่อนบ้านแล้ว เมื่อไรจะมีโอกาสเห็นติดกับเรือชุดเจ้าพระยา วันเด็กปี 2553 จะมีสิทธิ์ไหมครับ
ในความเห็นผม หากทร.ไทย จะติดตั้ง C-802 ผมว่าติด C-802 ลำละ 4 นัด น่าจะเพียงพอแล้ว และพื้นที่ที่เหลือ ติดตั้งพวกระบบ CIWS ลงไป หรือเพิ่มพื้นที่ดาดฟ้า ฮ. หรือโรงเก็บฮ. สำหรับเรือกระบุรี และสายบุรี
หรือเป็นพื้นที่ติดตั้ง ตอร์ปิโด
ส่วนตัวก็เคยให้ความเห็นมาบ้างแล้วครับว่า เรือชุด ร.ล.เจ้าพระยา และ ร.ล.กระบุรีนั้นเป็นเรือชั้น Type 053H1 และ Type 053HT Jianghu ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการออกแบบปรับปรุงแบบเรือให้ทันสมัยขึ้นในช่วงปลายปี1980s ก็ตามแต่เรือชั้นนี้ก็เป็นเรือที่ออกแบบมานานและมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างอยู่ครับทำให้ปรับปรุงอะไรไม่ได้มากนัก
และโดยทั่วไปที่เห็นเรือชุดนี้เวลาออกฝึกก็มักจะติด อวป.C-801 เพียง4นัดอยู่แล้วครับ ซึ่งในกรณีติดตั้งอาวุธเต็มอัตราก็คงต้องติด C-802 ได้เท่าๆกันคือ 8นัดครับ
อันนี้เพิ่งไปอ่านจากที่ Blog ของคุณ Skyman เพิ่มเติมในส่วนของปืนใหญ่เรือ 76มม.ที่ตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะเป็นปืนที่จีนลอกแบบจาก OTO Melera 76mm นั้น ทั้งนี้ถ้าดูจากแบบเรือต่างๆที่จีนพัฒนาและออกแบบมาตั้งแต่ช่วงปี 1970s-1990s นั้น ปืนใหญ่หลักที่จีนพัฒนาเพื่อติดบนเรือจะเป็นปืนขนาด 130mm, 100mm ครับ ปืนขนาด 76mm นั้นเพิ่งจะมีการนำมาติดตั้งบนเรือรบของจีนในช่วงหลังปี 2000 นี้เองครับ เช่น การปรับปรุงเรือตรวจการณ์ชั้น Type 037-II Houjian ที่ติดปืน AK-176 ของรัสเซีย
http://www.sinodefence.com/navy/littoral/showimage.asp?imagename=type037ii_houjian_01large
หรือปืนใหญ่หลักของเรือฟริเกตชั้น Type 054A Jiangkai หรือเรือ LPD ชั้น Type 071 ซึ่งดูแล้วน่าจะลอกแบบ AK-176 เป็นต้น ซึ่งเท่าที่สืบค้นข้อมูลนั้นดูเหมือนจีนจะไม่คยทำการลอกแบบระบบปืน OTO Melera 76mm ครับ
เคยมีการวิเคราะห์ปืน 76มม. ที่ติดบนเรือพม่านั้นน่าจะได้รับมอบแบบผิดกฏหมายจากประเทศอื่นครับเช่น อิสราเอล เป็นต้นเพราะรูปแบบป้อมปืนคล้ายกับปืนOTO 76mm เช่นที่ติดบนเรือชั้น Saar 4.5 ครับ
ปืนรองที่ติดที่ข้างกราบเรือถ้าเป็นปืนขนาดใหญ่กว่า 14.5มม.ก็อาจจะเป็น 25มม. เช่น Type 61 ครับ
^
^
^
อืมมม น่าสนใจมากครับ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลครับ ^ ^
ข้อมูลที่ท่าน Skyman เห็นนั้น คิดว่าเป็นอันเดียวกันกับที่ผมได้ผ่านตา ซึ่งถ้าเป็นอันเดียวจริงคือในข้อมูลนั้นจะมีรายละเอียดแค่เรือ 771 ส่วน 772-773 ทำเครื่องหมาย ? ไว้ ดังนั้นจึงอนุมานว่าปืน AK-230 ที่ติดอยู่ 2 ระบบนั้นน่าจะติดตั้งบนเรือ 771
แต่จากภาพของเรือ 771 ดูจากเสากระโดงเรือแล้ว เหมือนยังติดตั้งระบบไม่สมบูรณ์
อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ครับ เพราะผมก็มองหาอยู่ก็ไม่เจอเลย ^ ^
แต่อย่างที่คุณ monsoon บอกล่ะครับ เสากะรโดงเรือดูโล่งจังเลย เขาตั้งใจติดแค่นี้หรือยังติดไม่เสร็จหว่า???
ไปห้องสมุดเห็นมี DVD เรื่อง The Iraq War เลยยืมมาดู เปิดไปเจอปืน ZPU-2 อยู่ด้วย เลยเอามาให้ดูกันชัดๆ เพราะภาพในเน็ทหาดูยาก