นักข่าวอิรักปารองเท้าใส่บุช พร้อมตะโกนด่าว่าเป็น "สุนัข" ระหว่างเยือนอิรักก่อนอำลาตำแหน่ง ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ ถูกนักข่าวอิรักปารองเท้าใส่ พร้อมกับตะโกนด่าว่า "สุนัข" ระหว่างเดินทางเยือนอิรักแบบไม่คาดฝันเมื่อคืนวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนอำลาตำแหน่ง �ผู้ที่ก่อเหตุอุกอาจกับผู้นำประเทศที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลที่สุดของโลกคือ นายมันตาเซอร์ อัลไซดี ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ "อัล-แบกดาดิยา" ของอิรัก โดยนายอัลไซดี ซึ่งนั่งอยู่ในแถวที่ 3 ของกลุ่มผู้สื่อข่าว ห่างจากผู้นำสหรัฐประมาณ 20 ฟุต ได้ผุดลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนเป็นภาษาอาหรับว่า "นี่คือจูบลาเพื่อประชาชนชาวอิรัก, สุนัข" ก่อนจะขว้างรองเท้าเข้าใส่ประธานาธิบดีบุชทีละข้าง ภายหลังจากขว้างรองเท้าข้างที่สองเสร็จ นายอัลไซดีได้กล่าวว่า "นี่สำหรับแม่ม่าย เด็กกำพร้า และทุกคนที่ตายในอิรัก "�อย่างไรก็ตาม รองเท้าทั้งสองข้างพลาดเป้าเพราะประธานาธิบดีบุชก้มหลบรองเท้าได้อย่างว่องไว แม้ว่าข้างที่สองจะเฉียดหน้าไปหวุดหวิด หลังเกิดเหตุนายอัลไซดีถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรวบตัวลงไปกองกับพื้น แล้วนำออกจากห้อง โดยหลังจากความวุ่นวายสงบลง ผู้สื่อข่าวอิรักคนอื่นๆในห้องประชุมได้กล่าวขออภัยบุชในนามชาวอิรัก ซึ่งผู้นำสหรัฐได้ใช้อารมณ์ขันลดความตึงเครียด โดยกล่าวขอบคุณผู้ที่ขอโทษตัวเอง พร้อมกับกล่าวติดตลกว่า "สำหรับผู้ที่อยากทราบข้อเท็จจริง รองเท้าที่ขว้างใส่ตัวเองเป็นรองเท้าเบอร์สิบ" ก่อนจะเสริมว่าไม่ทราบว่าผู้ปามีเจตนาเช่นใด แต่ไม่ได้รู้สึกว่าถูกคุกคามจากการกระทำดังกล่าว �ทั้งนี้ ในวัฒนธรรมอาหรับ การขว้างด้วยรองเท้า และการถูกนำไปเปรียบว่าเป็นสุนัขถือเป็นการดูหมิ่นที่รุนแรงมาก โดยตอนที่นาวิกโยธินสหรัฐโค่นรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัสเฟอร์ดอสลงเมื่อปี 2546 ก็มีชาวอิรักหลายคนพากันใช้ส้นรองเท้ากระทืบรูปปั้นเพื่อแสดงการหยามหมิ่นซัดดัม �อย่างไรก็ตาม บุชได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ว่า การปารองเท้าเข้าใส่ตัวเองไม่ได้เป็นความเห็นของชาวอิรักที่ตัวเองออกคำสั่งให้บุกเมื่อปี 2546 โดยบุชกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่าคุณจะนำเรื่องที่ชายคนหนึ่งปารองเท้าใส่ผมมาบอกว่า นี่เป็นตัวแทนเสียงส่วนใหญ่ในอิรัก" �ด้านสถานีโทรทัศน์อัล แบกดาดิยา ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายอัลไซดี ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักข่าวผู้อุกอาจนี้โดยอ้างว่าเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย และการแสดงออกอย่างเสรีของชาวอิรักที่ทางการสหรัฐได้รับปากเอาไว้ �ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบุชเยือนอิรักครั้งนี้แบบเงียบๆ โดยทางทำเนียบขาวแจ้งให้คณะผู้สื่อข่าว 13 คน ที่จะร่วมเดินทางไปกับประธานาธิบดีบุชด้วยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ทราบเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนออกเดินทางเพื่อให้แพ็กกระเป๋า และขอให้เก็บเป็นความลับ ขณะเดียวกันก็ได้ปล่อยกำหนดการลวงว่า ในคืนดังกล่าวผู้นำสหรัฐจะไปร่วมชมการบันทึกเทปรายการคอนเสิร์ตการกุศลประจำปี ชื่อ "คริสต์มาส อิน วอชิงตัน" ของเครือข่ายโทรทัศน์ "เทอร์เนอร์" ที่พิพิธภัณฑ์สิ่งก่อสร้างแห่งชาติ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี แหมท่านบุชไปเรียนวิชา �matrix �ตอนไ หน?เนี่ย -_-a" |
สายตาดีอย่างนี้มาต่อยมวยไทยได้สบายเลย บุช กระทิงแดงยิม 5555
แบบนี้ เรียกว่า Secrect service มือตก
เพราะปล่อยให้ขว้าง อีกข้างได้
ท่านบุชเหมือนคนดวงแตกนะครับช่วงนี้....คะแนนนิยมตกต่ำสุดๆ มาพร้อมกับคำว่าจะกลายเป็นอดีตชายที่มีอำนาจที่สุดในโลกในไม่ช้า....เห็นใจชาวอิรัคเช่นกัน คงจะมีทั้งคนเห็นด้วยพอๆ กับที่ไม่เห็นด้วยในการตัดสินใจของท่าน