ว่าด้วยเรื่ง air to air missile
โดยคุณ : logon เมื่อวันที่ : 23/12/2008 08:26:39AIM-120A/B: 50-80 km (30-50 miles)
AIM-120C-5: 105 km (65 miles)
หรือ
AIM-120D: 165 km (102 miles)
เพราะเท่าที่อ่านจาก สมรภูมิเล่มล่าสุดเห็นว่า กองทัพอากาศไม่มีแผนการที่จะจัดหา Meteor: 100+ km (60+ miles) มาเข้าประจำการเลย ก็เลยสงสัยว่า หรือ AIM-120 ที่เรามีอยู่ ก็เพียงพอแล้ว (ถ้าเป็นรุ่น AIM-120D) และนอกจากสองตระกูลนี้แล้วยังมี air to air ระยะไกล ตระกูลไหนอีกบ้างครับที่ใช้กับ บ.รบ ของเราได้
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น AIM-120C ครับ ส่วนเรื่องจำนวนนั้นไม่ทราบครับ
รู้สึกจะมีเเต่เจ้า AIM-120 ครับที่ใช้กับบ.เราได้ F-16ADF/A MLU/B MLU JAS-39 ครับ ( เเละเจ้า เมเทเออร์ เเต่ไม่มีแผนที่จะประจำการครับ )
สำหรับตัวที่ไกลสุดๆก็ R-33S ครับ ประมาณ 228 km. ครับ
เมื่อวันที่
14/12/2008 01:32:54 เป็น AIM-120C-5 ครับ ซึ่งคาดว่าคงเป็น AMRAAM ล่ะครับที่จะเป็นอาวุธ BVR หลักในอนาคตของทอ.ต่อไป คงยากที่จะจัดหา Meteor มาครับเนื่องจากในกองทัพอากาศไทยนั้น Meteor มันยังใช้ได้แต่กับ Gripen ใช้กับ F-16 ไม่ได้ ซึ่งถ้าจะเอามาติดกับ F-16 ก็คงต้องปรับปรุง Software กันมากพอสมควร เสียค่าใช้จ่ายมากอยู่ (ต้องขออนุญาตและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้สหรัฐด้วย) ดังนั้นเพื่อประหยัดงบประมาณและเพื่อลดจำนวนของแบบอาวุธที่ประจำการทอ.ก็ใช้ AMRAAM นี่ล่ะครับ ^ ^
เมื่อวันที่
14/12/2008 01:43:39 น่าจะเป็นรุ่น AIM-120C-4 หรือ AIM-120C-5 ครับ ซึ่งเป็นรุ่นที่มีสายการผลิตในช่วงที่กองทัพอากาศได้รับมอบ F-16A/B ADF ในช่วงนั้น
สำหรับ Meteor นั้นตัวจรวดยังอยู่ในขั้นพัฒนาและทดสอบ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตเพื่อเข้าประจำการอย่างเต็มรูปแบบครับ ซึ่งต้องรอดูต่อไปอีกว่าจรวดแบบนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาว่าจะจัดหาหรือไม่ครับ(อย่างเร็วราวปี 2013-2014ครับ)
เมื่อวันที่
14/12/2008 02:21:06 ไกลสุดๆสำหรับผมตอนนี้คือ Novator KS-172 AAM-L
ระยะยิงสุดเหยียด 400 กิโลเมตร
เมื่อวันที่
14/12/2008 03:12:50 แต่ใช้กับ บ เราไม่ได้นะครับ ขอโทษอ่านไม่ครบ
ขืนใช้ไป แบกกันหลังแอ่น
เมื่อวันที่
14/12/2008 03:16:46 เมื่อวันที่
14/12/2008 05:39:25 แต่ก่อนว่าเป็น amraam-120A แต่ฝากไว้ที่เมกาก่อนเพราะไทยไม่มีที่จัดเก็บที่รักษาอุณภูมิ แต่อีกข่าวว่าเมกาไม่ได้ขายให้เพราะเซาท์อีสเอเชียไม่มีกำลังทางอากาศชาติใดยิงอาวุธนอกสายตาได้
จนข่าวลือพม่าได้ R-73 กับมิค-29 และมาเลย์อัพเกรด มิค-29 ยิง R-77 ได้อาวุธเลยย้ายมาที่ไทยเห็นว่ามีไม่เยอะ ที่เยอะน่าจะเป็น ไพธอน 4 กับหมวกนักบินเล็งได้แบบใหม่
ระยะยิงก็เลยออกมาสุดโต่งขนาดนั้น ไกลกว่าเรดาร์ของเอแวกซ์ซะอีก
ตัวจรวดดัดแปลงมากจากแซม SA-11 หรือ Buk-M1 ครับ (ลูก 9K37M1)
พี่แกช่างสรรหามายิงจริงๆ
คิดได้ไง เอาแซมมาติด บ. ไว้ยิงเอแวกซ์ *o*
แต่...มีกรณียกเว้นคือในสงครามอิรัก-อิหร่าน อิหร่านใช้ F-14A เป็นเอแวคส์ อันนี้ KS-172 อาจมีวืดได้เพราะอาศัยแรงเฉื่อย ไม่มีลมหายใจเฮือกสุดท้ายสำหรับไล่ตามครับ
เมื่อวันที่
14/12/2008 09:50:38 
เมื่อวันที่
14/12/2008 23:35:15 อยากทราบว่า aim-120 ที่เราหามาพร้อม F-16ADF เนี่ยซื้อมากี่ลูกครับ แล้วเอาไปเก็บไว้ที่ไหน และเป็นรุ่นอะไร AIM-120 A/B/C-5,7
ที่เเน่ๆคือ AIM-120C ครับ C ไหนค่อยว่ากัน เเล้วก็เก็บไว้ที่เมืองไทยเเล้วครับ ( รึป่าว )
เมื่อวันที่
16/12/2008 10:14:19 ตามข้อมูล คือ AIM-120C-5 ครับ จำนวนขั้นต้น คือ 8 ลูก เข้าใจว่าหลังจากนั้นคงมีการซื้ออีกครับ เพียงแต่ไม่มีข้อมูลออกมา อย่างเช่นการซื้อ CATM-120C-5 ซึ่งเป็นลูก captive เป็นต้น ส่วนเก็บไว้ที่ไหนนั้น เอาง่ายๆ คือ ก็ต้องเก็บไว้ใกล้ๆ กับเครื่องที่จะติดล่ะครับ
เมื่อวันที่
17/12/2008 05:49:47 ^
^
พี่ๆ แขนแดงครับ งานนี้ผมไม่เกี่ยว อ.นัทคนเดียวครับเรื่องนี้
หลายๆคนคงสงสัยว่าถ้ามี 8 แปดลูกแล้วพอหรือ และถ้าเกิดซื้อเพิ่มแล้วทำไม อเมริกาถึงไม่ยอมปล่อยมาให้เก็บไว้ที่ประเทศไทย เรื่องนี้เคยมีคนตอบหลายครั้งแล้วนะครับ ว่าอาวุธพวกนี้อ่อนไหวง่ายเกี่ยวกับอุณหภูมิในการเก็บรักษา ถ้าร้อนไปหรือเย็นไป อาจมีผลกระทบต่อระบบของอาวุธได้ครับ(ต้อง 25 องศา C เท่านั้นเพราะเป็นการประหยัดไฟและต้องแอร์เบอร์ 5ด้วย) และมีอายุการใช้งานถ้าเก็บไว้ที่เหมาะสมก็เท่ากับเป็นการยืดอายุการใช้งานเข้าไปอีก ครับ
และถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาคงมีคำถามต่อไปอีกว่าแล้วที่อเมริกาเก็บไว้ให้ละ จะส่งมาทันหรือ ผมในฐานะที่เป็น gu(ไม่)ru ในเรื่องแบบนี้ ขอตอบให้เคลียร์แล้วกันนะครับ ว่าจำนวนที่เรามีอยู่พร้อมอาวุธแบบอื่นสามารถป้องกันได้ครับ แต่ถ้าต้องการใช้จริงๆแล้วทางอเมริกาสามารถนำมาส่งได้ทันทีครับ และการนำมาส่งแบบเร่งด่วนนั้นไม่จำเป็นต้องให้เครื่องลำเลียง เช่น C-141,C-5,C17 ขนมาให้ครับ สามารถใช้เครื่องบินขับไล่นำมาส่งได้เพราะอาวุธพวกนี้สามารถถอดประกอบใช้ได้ทันทีครับ
แต่ถ้าเกิดมีความจำเป็นที่ต้องใช้แบบเร่งด่วนจริงๆนั้น ก็สามารถที่จะทำได้ครับ แต่ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการและมีความเชี่ยวชาญอย่างสูง วิธีการนะหรือครับ ตั้งใจกันอ่านกันนิดนึงนะครับ เพราะเราจะให้ช่างผู้ชำนาญการคนนั้น นั่งไปบนเครื่อง F-16 ADF ครับ และเมื่อถึงจุดนัดพบให้นำเครื่องมาซ้อนกันโดยให้เครื่องที่มาส่งบินอยู่ข้างบนและเครื่อง F-16 ADF บินอยู่ข้างล่างครับ และให้ช่างนำไขควงที่ติดตัวไปด้วย(ต้องนำไป 2อันนะครับเพราะต้องสำรองไว้เพื่อ ล่วงตกลงไป จนปัญญาในการกู้เก็บครับ) ไขน็อตจรวด เพื่อนำมาประกอบติดตั้งกับเครื่อง F-16 ADF ครับ เมื่อติดตั้งเรียบร้อยสามารถนำไปใช้ได้ทันทีครับ ส่วนช่างนั้นไม่สามารถเข้าไปร่วมรบได้ ก็อาจจะให้เกาะปีกเครื่องที่นำจรวดมาส่งกลับฐานหรือไม่ก็โดดร่มสู่พื้นดิน และโบกมอเตอร์ไซด์รับจ้างกลับฐานได้ครับ ส่วนถ้าเป็นเครื่อง JAS-39 ณ.เสี่ยโย ยิ่งง่ายครับ เพราะนักบินจะนำเครื่องลงถนนข้างล่างไปส่งช่างที่พื้นดิน เพื่อโบกมอเตอร์ไซด์รับจ้างกลับฐานครับ( นี่เป็นเหตุผลหลักที่ เราเลือก JAS-39 มาเป็น บข.20 ครับ พี่ๆสื่อมวลชนทั้งหลาย)
นี่คือข้อมูลในฐานะที่ผมเป็น gu(ไม่)ru มาให้ข้อมูลครับ ถ้าพี่ๆสื่อมวลชนต้องการนำไปลงในสื่อก็ตามสบายครับ ไม่ต้องให้เครดิตผมนะครับ ^_^
หุหุ ออกอ่าวไทยไปถึงทะเลจีนใต้แล้ว
ส่วนถ้าใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าคลังที่เก็บอยู่ที่ไหนเชิญที่กระทู้นี้ครับ ผมให้ข้อมูลไว้แล้วครับ
เมื่อวันที่
17/12/2008 22:02:50 เมื่อวันที่
17/12/2008 22:21:36 โอว์ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบ ไม่ได้เข้ามาหลายวันมีคนให้ความสนใจกันค่อนข้างเยอะเลยนะนี้แต่คุณ nok (gu(ไม่) ru) ตอบมันส์มาก ฮาตรึม ไอ้พวก spy แฝงกายมาต้องเจอแบบนี้
ตอนแรกเกริ่นมาอย่างสวยงามเลย
ปล แอร์บัสมันบินสูงนะพี่กบ คิดสอย คงยาก ก๊ากๆๆๆ
เมื่อวันที่
18/12/2008 02:17:32 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาครับ เหอๆๆๆ
เมื่อวันที่
18/12/2008 06:08:32 เอารูปมาฝากแล้วเน้อ อันนี้นอง เม
น้องแอม ครับแก้ผ้าดูกันเลย
ในชีวิตจริง เครื่องบินบรรทุกไปได้ 8 ลูก ซัดไปหมดยังไม่โดนซักลูกเลย