หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาดูอาวุธแปลกๆของสหรัฐกัน

โดยคุณ : Samurai เมื่อวันที่ : 13/12/2008 23:39:17

อันแรก LRAD Weapon long lange acoustic device  อาวุธนี้จะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังศัตรูทำให้ศัตรูแก้วหูแตก แล้วเห็นเค้าว่ากันว่ารุ่นใหม่ๆนั้น สามารถปล่อยคลื่นไปกระแทกหัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้

According to the manufacturers specifications, the equipment weighs 45 pounds (20 kg) and can emit sound in a 30° beam (only at high frequency, 2.5 kHz) from a device 33 inches (83 cm) in diameter. At maximum volume, it can emit a warning tone that is 146 dBSPL (1,000 W/m²) at 1 metre, a level that is capable of permanently damaging hearing, and higher than the normal human threshold of pain (120 – 140 dB). The maximum usable design range extends to 300 metres. At 300 metres, the warning tone (measured) is less than 90 dB. The warning tone is a high-pitched shrill tone similar to that of a smoke detector.

There appears to be some disagreement over these specifications, as some have reported measurements that differ from the manufacturers specifications, and show reduced output with a less directive beam.

Its instructive to note that any loudspeaker of equal size will generate a beam of the same directivity as LRAD. The parameter "ka", which is the wave number multiplied by the speaker radius, is often used to characterize sound source directivity. For this source, ka=19 at 2.5kHz, and according to the LRAD data sheet, the beam angle of about 30 degrees total - precisely what is predicted for a regular loudspeaker [1]. Contrary to some beliefs, the device does not use ultrasound, nor is it a phased array; it uses an array of conventional acoustic tweeters, the same as those used in many professional audio applications, all driven together in parallel.[citation needed]

Carl Gruenler, (former) vice president of military and government operations for American Technology Corp. (and who now runs a company making a competing device), says that being within 100 yards (90 m) of the device is extremely painful, but its use should be limited to 300 yards (270 m) to be effectively used. He concedes that the device is powerful enough to cause permanent auditory damage, but that it is only meant to be used for a few seconds at a time.

Countermeasures may include the use of passive hearing protection (earplugs, headsets), which may bring the sound down to ineffective levels. In addition, sound could be reflected from a solid surface, and redirected back to the originator.

Small spherical "point-source" acoustic devices follow the known inverse square law, which predicts the loss of 6db per doubling of distance from the source. Large speakers (or large arrays), such as these mentioned above or those commonly used in concert halls, etc., produce less loss with distance in the nearfield, typically 3-4db per doubling of distance from the source. The larger the speaker, and the higher the frequency, the longer the effective nearfield is (see Beranek). Devices like this generally have nearfields of only a few meters.





ความคิดเห็นที่ 1


ภาวนาอย่าให้มันได้ออกมาใช้งานดีกว่าครับ แต่ละอย่างนี่ทั้งโหดร้ายทารุณทั้งนั้น เอาปืนยิงกันให้ตายยังดีกว่า......(มันคิดได้ใงทำให้แก้วหูแตก ทำให้ตาให้หนังละลาย)ไม่ใช่แมลงซักหน่อย
โดยคุณ pc1 เมื่อวันที่ 12/12/2008 02:40:26


ความคิดเห็นที่ 2


อันดับสอง Metal Strom เป็นปืนอัตโนมัติอนุภาพทำลายล้างสูงนอกจากอัตรายิงที่สูงมากๆแล้ว กระสุนยังมีผงเหล็กที่กระเด็นหลุดออกมาเหมือนเม็ดทรายเข้าใส่ศัตรูเวลายิง สร้างความรุนแรงเป็นวงกว้าง


โดยคุณ Samurai เมื่อวันที่ 12/12/2008 01:23:15


ความคิดเห็นที่ 3


อันดับสาม Thermobalic bomb  เป็นระเบิดที่บรรจุเชื้อเพลิงที่สามารถระเบิดลุกเป็นกลุ่มไฟสุดร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นถ้ำในหลืบถ้ำ หรือแม้แต่ซอกซอยที่ซุ่มของสัตรู โดยมันทำงานอย่างเป็นระบบคือระบบแรกเป็นระเบิดทำลายที่กำบังและระบบที่สองคือเพลิงเผาซ้ำมีความร้อนสูงถึง 3000 องศาเซลเซียส ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไปกับเปลวเพลิง


โดยคุณ Samurai เมื่อวันที่ 12/12/2008 01:25:54


ความคิดเห็นที่ 4


อันดับสี่ Moab bomb มารดาแห่งระเบิด ซึ่งใช้ดาวเทียมในการติดตามเป้าหมายแรงระเบิดของดินระเบิดขนาด 9,000 กิโลกรัมทำลายล้างทุกสิ่งในพริบตา


โดยคุณ Samurai เมื่อวันที่ 12/12/2008 01:29:52


ความคิดเห็นที่ 5


อันดับห้า microwace gun ปืนยิงคลื่นไมโครเวฟของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เลนส์ตาของศัตรูละลายไปทันที ตลอดจนผิวหนังไหม้เกรียมเป็นไก่ย่างห้าดาวเลย หุหุ


โดยคุณ Samurai เมื่อวันที่ 12/12/2008 01:34:32


ความคิดเห็นที่ 6


มันเอามาใช้ยังเนี่ย
โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 12/12/2008 03:14:22


ความคิดเห็นที่ 7


ทำกันแบบนี้เลยเหรอ
โหดชิบ

เฮียเป็นมหาอำนาจของโลกไปเหอะ

"ในเรื่องสงครามและความรัก ทุกอย่างที่ใช้ถือว่าเป็นความยุติธรรมทั้งสิ้น"
โดยคุณ ช้างอ้วน เมื่อวันที่ 12/12/2008 05:46:31


ความคิดเห็นที่ 8


อืม..เก่งจังเลยครับ อัจฉริยะจริงในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมาประหัตประหารกัน เอ็งช่างน่ะยกย่องซะจริงจริ๊ง พับผ่า เก่งเหลือเกินโว้ยครับ ! พอคนอื่นเขาคิดประดิษฐ์มั่ง เต้นแร้งเต้นกา
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 12/12/2008 07:04:19


ความคิดเห็นที่ 9


ข้อมูลบางอย่างมีความคลาดเคลื่อนไปมากครับ

Metal Storm เป็นซื้อบริษัทในออสเตรเลียมาหลายปีแล้วครับซึ่งกองทัพบก และนาวิกโยธินสหรัฐฯเพิ่งจะมีการนำอาวุธที่พัฒนาจากบริษัทนี้หลายแบบมาทดสอบ อย่างในภาพข้างต้นนั้นก็เป็นระบบที่ชื่อว่า Fire Storm ครับ

http://www.metalstorm.com/

http://www.metalstorm.com/content/view/82/166/

ส่วน LRAD กับ Microwave Gun นั้นเป็นอาวุธที่มีเป้าประสงค์เพื่อใช้ในการปราบปราบโยไม่หวังผลต่อชีวิตครับ

โดย LRAD เป็นระบบขนาดใหญ่ซึ่งติดตั้งในเรือตรวจการณ์ขนาดเล็กซึ่งกองทัพเรือนำไปใช้ปฏิบัติบัติการตามลำน้ำที่บาสราอิรักมาแล้ว แต่การทำงานหลักๆนั้นจะเน้นไปที่การส่งเสียงเพื่อใช้เตือนในระยะไกลๆมากกว่าครับ

http://www.defense-update.com/products/l/LRAD.htm

ส่วน Microwave Gun นั้นก็เป็นอาวุธพลังงานตรงแบบหนึ่งซึ่งมีจุดประสงค์ในการใช้ปราบปรามฝูงชนหรือการก่อจราจลโดยไม่หวังผลต่อชีวิตครับ โดยในภาพเป็นระบบที่สหรัฐฯพัฒนาร่วมกับแคนาดา มีผลอย่างมากจะทำให้กลุ่มเป้าหมายที่โดนยิงใส่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนอย่างแรงเท่านั้น(ไม่ถึงกับสุก!) แต่ระบบนี้สามารถนำมาใช้ยิงทำลายระบบอุปกรณ์ Electronic ได้ด้วยครับ ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ก็มีการนำไปใช้ทดสอบที่อิรักแล้วเช่นกันครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 12/12/2008 07:15:59


ความคิดเห็นที่ 10


เหอะๆ ขออย่าให้มันเอาออกมาใช้เเละกันครับ รับไม่ได้กับความโหดร้ายของตัวอาวุธครับ
โดยคุณ poom1.1 เมื่อวันที่ 12/12/2008 11:03:42


ความคิดเห็นที่ 11


Thermobalic bomb ระบบของมันคือ ขั้นแรกจะระเบิดละอองเชื้อเพลิง ให้กระจาย และระเบิดอีกครั้งเพื่อที่จุดระเบิดให้ละอองเชื้อเพลิงนั้นครับ

 

เปรียบเทียบกันแล้วถ้าระเบิดธรรมดา เหมือนกับการเอารถมอเตอร์ไซค์ชนที่ 100 กม ต่อ ชม เทอร์โมบาร์ริค จะเหมือนกับเอารถไฟต่อกัน 20 ตู้ชนที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รัสเซีย และจีน ก็มีเทอร์โมบาร์ริคใช้ แต่ว่าในการระเบิดนั้นยังต้องใช้ออกซิเจนมากๆ ไม่เหมือนกับ ของไอ้กัน ที่ถึงแม้ว่ามีออกซิเจนน้อย หรือ ไม่มี มันก็ยังทำงาน

โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 13/12/2008 12:39:19