.....คือเพื่อนผมที่มันเรียนร.ด.ที่วิภาวดี ปี.5 มันบอกว่าคนที่เรียนร.ด.มาแล้วปีหน้ามีสิทธิเกณฑ์ทหาร โดนเรียกเข้าประจำการ ด้วยรึครับ?
....คือผมเรียน รด.จบปี.3จบแล้วทำเรื่องนำปลดแล้ว เกิด ปี31 ซึ่งจะโดนเรียกเกณฑ์ในปีหน้า อยากทราบว่าจริงเท็จแค่ไหนครับกับการ โดนทหารของผู้ที่เรียนรด. อ่ะ
....เพราะปีหน้าจะทำเรื่องเรียนต่อ ป.ตรี เลยสงสัยอย่างมากครับ
....ขอบพระคุณที่ตอบค้าบ
มันก็น่าอยู่หรอก อ่านแผนที่เข็มทิศยังไม่เป็นกันเลยปี 3
อีกมุม
มีการแก้ระเบียบข้อกฎหมายแล้วเหรอครับ
ทำไมไม่เป็นข่าวเลย
ถ้าจะมองในแง่ร้าย
ทุจริตเชิงนโยบาย
เอ...จริงเหรอครับ เพราะผมจบปี3ปีนี้ทำนำปลดไปแล้ว ผมว่าที่จริงน่าจะเป็นการเรียกมาฝึกทบทวนมากกว่าครับ ว่าแต่วิชาการอ่านแผนที่และการใช้เข็มทิศนี่ มันเป็นอะไรที่......ยากจริงๆครับ ขนาดผมนั่งฟังตอนเรียนวิชานี้แบบตั้งใจสุดๆ(ปกติก็ตั้งใจเรียนอยู่แล้ว) ตอนสอบยังพลาดเลยครับ เพราะจะมึนงงกับตัวพิกัดของแผนที่ และตัวคุณสมบัติๆต่างๆของเข็มทิศ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ต้นฉบับให้เพื่อนลอกในที่สุด
ทุกอย่างมันต้องมีทั้ง ทฤษฎีและปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างหลังนั้นสำคัญมากๆ.......วิชา แผนที่เข็มทิศ ต่อให้ทำข้อสอบข้อเขียนได้คะแนนเต็ม แต่ไม่เคยฝึกปฏิบัติจริงแล้วละก็รับรองได้เลยว่า ถ้าส่งเข้าป่าไปพร้อมแผนที่และเข็มทิศแล้วละก็ เกิดอาการ "ไปไม่เป็นอย่างแน่นอน"................นอกจากจะใช้ เข็มทิศ เลนส์เซติก เป็นแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้องดูและพิจารณารายละเอียดแผนที่ประกอบภูมิประเทศจริงเป็น แต่ก็อีกนั้นแหละ บางครั้งบางสถานที่ท่านอาจจะมองอะไรรอบตัวไม่เห็นนอกจากต้นไม้ ก้อนหินและใบหญ้า ซึ่งหมายถึงท่านไม่สามารถมองภูมิประเทศเด่นๆรอบข้างเพื่อใช้ในการพิจารณาหรือเล็งสกัดกลับเพื่อหาพิกัดที่อยู่ของตัวเองได้ วิธีแก้คือต้องหาตำแหน่งที่สามารถมองเห็นภูมิประเทศเด่นได้(พูดง่ายดีแฮะ) ซึ่งวิธีแก้ที่ใช้กันก็คือ "ปีนขึ้นที่สูง หรือพูดง่ายๆก็คือ ปีนขึ้นยอดเขานั้นเอง" ประมาณว่า นึกอะไรไม่ออกปีนขึ้นยอดเขาไว้ก่อน ยอมเหนื่อยทีเดียว ดีกว่าเดินวนไปวนมาอยู่กับที่............ปัจจุบันวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีทำให้มีตัวช่วยชั้นดี คือ จีพีเอส ซึ่งช่วยให้หาพิกัดที่อยู่ของตัวเองได้เร็วขึ้น แต่ก็อีกนั้นแหละถึงท่านจะมีจีพีเอส แต่ถ้าความสามารถด้านการอ่านแผนที่ไม่เอาอ่าวแล้วละก็ ท่านก็จะเกิดอาการ "ไปไม่เป็น งงชีวิต" เหมือนเดิม............
ต่ออีกนิดมีเรื่องฮาๆ แบบเหนื่อยๆ.......กาละครั้งหนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งได้ไปยังที่แห่งหนึ่งได้รับภารกิจอย่างหนึ่งบนถนนสายหนึ่งเพื่อเดินทางด้วยหนึ่งเท้าซ้ายและหนึ่งเท้าขวาจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่แห่งหนึ่งปรากฏว่าคนๆหนึ่งเกิดความคิดบรรเจิดอย่างหนึ่งจึงชวนคนอื่นๆไปอีกทางหนึ่ง(คือจริงๆเดินเลาะถนนมันก็ดีอยู่แล้ว แต่บังเอิญดูในแผนที่แล้ว ถ้าตัดภูมิประเทศมันจะใกล้กว่ามาก) เลยเลี้ยวซ้ายเข้าป่าข้างร้านค้าร้านหนึ่ง และแล้วก็เดินผ่านป่าแห่งหนึ่งเดินไปเรื่อยๆ ขึ้นเขาลูกหนึ่งแล้วก็อีกลูกหนึ่งยังยังไม่จบและแล้วก็ข้ามอีกลูกหนึ่งได้พอประมาณคนๆหนึ่งก็นำเลี้ยวขวาแล้วก็เดินต่อ เดินๆๆๆๆไปเรื่อยๆ ข้ามเขาอีกลูกหนึ่งแล้วก็อีกลูกหนึ่ง(เริ่มลิ้นห้อย) ยังยังไม่พอยังไม่สะใจ ว่าแล้วก็ข้ามเข้าอีกลูกหนึ่ง และแล้วความพยายามอยู่ที่ไหนความลำบากเอ๊ยความสำเร็จอยู่ที่นั่น นั่นนั่นข้างหน้านั่น เห็นแล้ว เห็นแล้ว และแล้วเราก็เห็นถนนสายหนึ่งอยู่ตรงหน้า เดินอีกพักหนึ่งก็ถึงขอบถนนแห่งหนึ่ง โอ้ววววว ถึงซะที ว่าแล้วก็งัดแผนที่ฉบับหนึ่งพร้อมด้วยเข็มทิศอันหนึ่งมากาง ดูไปดูมา มันช่างคุ้นๆกับสถานที่แห่งหนึ่งเสียจริงๆ ดูไปดูมา เอ๊ะ นั้นอะไร ณที่แห่งหนึ่งด้านขวามือ ปรากฏร้านค้าร้านหนึ่ง ดูคุ้นๆจริงๆ ว่าแล้วก็เข้าไปดู โอ้วววววววว มันคือร้านค้าร้านเดิมนั่นเอง เอวังด้วยประการฉะนี้ (เดินตั้งนาน ห่างจากจุดตั้งต้นไม่ถึง 200 เมตรเลยมั้ง สุดท้ายก็เดินเกาะถนนไปต่อเพื่อเข้าจุดหมาย 555555
แผนที่และเข็มทิศสำคัญมากครับ ในสถานที่ที่เราไม่รู้จัก
เช่นโดดร่มลงพื้นที่ด้านหลังฆ่าศึกหรือ เข้าโจมตีในภาระกิจนอกประเทศ
อันนี้คิดว่าเดินมั่วคงไม่ได้กลับบ้านตัวเป็นๆแน่
เคยมีข่าวที่อยู่ในป่าทึบมองไม่เห็นแสงอาทิตย์จากด้านล่าง แถวแก่งกระจาน คุ้นๆว่าเป็น ตชด ครับ หลงป่าหลายวัน และก็มีตายมีบาดเจ็บ ปะทะกับคาราวานยาเสพติดหรือเปล่าไม่ชัดเจน แต่ไม่คุ้นป่า ถ้าเก่งแผนที่เข็มทิศคงช่วยได้ครับ
ขอแซวนิดๆครับ บุคคลที่ไม่ผ่าน ร.ด หรือเกณฑ์ทหาร เอาเปรียบผู้อื่นไหมครับ กรณีที่ไม่ได้รับการผ่อนผันหรือจับใบดำใบแดง และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทหารด้วยใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นดังที่ผมว่า บุคคลผู้นั้นมีสิทธิ์ที่จะได้ตำแหน่งสำคัญในบ้านเมืองหรือเปล่าครับ
เช่น อาจได้เป็น นาย.ก ถึงจะไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารก็ตาม แซวเล่นนะครับ
เห็นด้วยกับคุณe21cyeมากๆๆเลยเด็กเรียนรด.สมัยนี้เรียนก็เพื่อ
ไม่อยากเป็นทหารเท่านั้นไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้จริงๆๆอยากให้เด็ก
ที่เป็นคุณหนูอยู่กับบ้านไปเป็นทหารสัก1ปีจังจะได้รู้จักความลำบากว่า
มันเป็นยังงัยใครก็ตามที่อ้วนลงพุงรับประกันได้เลยว่าผอมแน่ๆๆๆไม่ต้อง
ไปเข้าคอร์สลดน้ำหนักให้เสียเงินเสียทองเปล่าๆโดยเฉพาะตอนฝึกทหาร
ใหม่2เดือนขนาดผมตอนนั้นน้ำหนัก85กิโลกรัมพอฝึกเสร็จเขาปล่อยกลับ
บ้านลองไปชั่งน้ำหนักดูรู้ไหมเหลือเท่าไหรเหลือแค่68กิโลกรัมลองบวก
ลบดูแล้วกันว่าหายไปกิโลการเป็นทหารได้อะไรมากมายกว่าที่คุณคิด
อย่างเพื่อนเป็นทหาร2ปีสามารถผ่อนรถจักรยานยนต์ได้คันหนึ่งส่วน
เพื่อนผมอีกคนสามารถซื้อไม้มาปลูกบ้านให้พ่อแม่ได้หลังหนึ่งบางคน
เก็บเงินไปขอแฟนแต่งงานยังได้เลยอันนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้เงินเป็น
บางคนไม่มีเงินเก็บแถมมีหนี้ตามมาอีกเป็นหางว่าวเพราะในค่ายทหาร
จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งคือเงินสดไม่ต้องเซ็นลูกเดียวพอเบี้ยเลี้ยง
เงินเดือนออกจ่ากองร้อยจะเป็นคนหักเงินเองบางคนเซ็นกระหน่ำไม่ยั้ง
พอสิ้นเดือนมาเงินเดือนไม่เหลือสักบาทส่วนผมไม่เซ็นโดยที่ไม่จำเป็น
บางที่ก็ใช้เงินสดซื้อเอาเพราะถือว่าในเมื่อเขาหักเงินเรา34บาทไปเป็นค่า
อาหารแล้วก็ต้องเอาให้คุ้มวันไหนกับข้างโรงเลี้ยงไม่อร่อยหรือไม่ชอบ
ไม่อยากกินก็ไปซื้อข้าวที่หลังกองร้อยเอา(เงินสด)นานๆๆทีเลยทำให้
ผมเป็นคนที่รวยที่สุดในหมู่เพื่อนเพราะเงินเหลือเพียบใครมาขอยืมไม่ให้
เพราะรู้ดีว่าให้ยากเย็นแสนเข็ญแต่บางคนก็ให้เพราะเขาจ่ายตรงตามนัด
ลืมบอกไปรุ่นที่ผมฝึกปี42เงินเดือนๆละ2190บาทเบี้ยเลี้ยงวันละ50บาท
หักค่าข้าว34บาทเหลือตังค์กินหนม16บาทเบี้ยเลี้ยงออกทุกวันที่ 5 15 25
ของทุกเดือนทำให้เดือนหนึ่งเงินออก4รอบและอีกอย่างหนึ่งพอขึ้นปี2
สำหรับพวกที่เป็น2ปีเงินเดือนจะเพิ่มเป็น2490บาทต่อเดือนแถมในแต่ละ
เดือนทางกรมเขาจะหักเงินเข้าสหหรณ์ออมทรัพย์ให้กับเราเดือนละ500
และฝากกับธนาคารอีกเดือนละ100บาททำให้เมื่อเวลาเราปลดแล้วมีเงิน
กลับบ้านอย่างเป็น1ปีก็ปาไปเกือบหมื่นแล้วถ้าเป็น2ปีก็ตกเกือบ3หมื่นย่อ
นหน่อยๆๆแถมเมื่อขึ้นชายแดน(สบายสุดๆสำหรับคนที่อยู่หน่วยช่วยรบ)
เบี้ยเลี้ยงจากวันละ50จะกลายเป็นวันละ69รับเต็มๆๆๆ(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า
ทางจ่ากับหมู่จะบริหารเงินกันอย่างงัย)แถมก่อนจะเปลี่ยนกำลังพล
ทางกรมยังมีเงินค่าสปแห้งอีกคนละ1140บาทจะให้ตอนกลับเข้ากองร้อย
ใครที่เก็บเงินดีๆๆจะมีเงินเหลือ3-4พันแถมเงินเดือนที่เราไม่ได้รับตอนขึ้น
ชายแดนจ่ากองร้อยจะเก็บใว้ให้ตอนนั้นผมขึ้น3เดือนพอถึงเวลาพัก10วัน
ผมมีเงินกลับบ้านถึง8000กว่าบาทใครว่าทหารเกณฑ์เงินเดือนน้อยคิดผิ
คิดใหม่ซะถึงแม้จะดูเหมือนน้อยก็จริงแต่ก็เพียงพอสำหรับใช้จ่ายในแต่ละ
เดือนทหารเกณฑ์จะลำบากก็แค่2เดือนแรกเท่านั้นส่วนเวลาที่เหลือ
มีแต่กินนอนและทำงานๆก็แค่8ชั่วโมงเท่านั้นเวลาที่เหลือก็พักผ่อนกายา
ใครที่เข้าเวรก็รับกรรมไปใครที่ไม่เคยรู้ว่าปืนm-16เวลายิงจริงเสียงดังมาก
ขนาดไหนแล้วถ้ายิงปืนm-60จะดังเป็น2เท่าหูแทบแตกเลยคุณเอ่ยในหนัง
คนละเรื่องเลยจะบอกให้ผมชอบเป็นทหารก็ตรงนี้แหละคือได้ยิงปืนได้จับ
ปืนจริงๆๆๆได้เห็นระเบิดจริงๆๆว่าหน้าตาเป็นยังงัยขนาด RPGยังเห็นของ
จริงมาแล้วเลยแล้วยิ่งเป็นปืนค.81ที่กองทัพใช้อยู่ของจริงหนักเป็นบ้าเลย
คนๆๆเดียวยกไม่ขึ้นหรอกกระบอกหนึ่งใช้คนถึง4คนในการยิง1.พลยิง
2.พลยิงผู้ช่วย 3กับ4 คือพลกระสุนส่วนลูกกระสุนก็หนักเกือบ2โล