หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มีข้อสงสัยครับ

โดยคุณ : phongrapee เมื่อวันที่ : 11/12/2008 21:31:36

1. เรดาร์อำนวยการรบ , ระบบอำนวยการรบ , เรดาร์ 3D คืออันเดียวกันหรือป่าวครับ

2. 2D กับ 3D เป็นคุณสมบัติอะไรของเรดาร์ครับ

3. เรือที่ต่อตามมาตรฐานพาณิชย์ (เช่น OPV ของเรา) แตกต่างกับเรือที่ต่อตามมาตรฐานทางทหารมากมั๊ยครับ

4. เพราะเหตุใดเรือ OPV จึงใช้มาตรฐานเรือพาณิชย์ในการต่อ





ความคิดเห็นที่ 1


3.และ4. เหตุผลสำคัญคือราคาครับ เรือรบผิวน้ำที่ต่อโดยใช้มาตรฐานทางทหารนั้นจะต้องใช้วัสดุและTechonology ในการต่อขั้นสูงทำให้มีราคาแพงครับ โดยเรือ ตกก. นั้นโดยมากจะเป็นเรือที่ออกแบบมาสำหรับการปฏิบัติการในภัยคุกคามระดับต่ำ เช่นการตรวจตราน่านน้ำในยามปกติ การปราบปรามการกระทำที่ผิดกฏหมายเช่นค้าของเถื่อกลางทะเลหรือปราบโจรสลัด เพราะฉนั้นตัวเรือที่ใช้บางแบบจึงมักจะเป็นการต่อในมาตรฐานเรือพานิชย์ ซึ่งเรือที่ต่างจากเรือที่ต่อในมาตรฐานทางทหารซึ่งจะออกแบบให้ทนต่อการโจมตีตัวเรือในภาวะสงครามโดยตรงมากกว่าเช่น การทนแต่แรง Shock สะเก็ดระเบิด ทุ่นระเบิด หรือจนถึงสงคราม นชค. เป็นต้นครับ ซึ่งภารกิจตามปกติของเรือ ตกก.ไม่จำเป็นต้องใช้เรือในมาตรฐานระดับนั้นครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 09/12/2008 21:42:08


ความคิดเห็นที่ 2


ระบบอำนวยการรบ คือ ระบบที่ทำให้การรบทำได้แม่นยำ  ดังนั้น ระบบอำนวยการรบจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลป้อนเข้าไปเพื่อประมวลเป็นภาพเหตุการณ์ต่อเนื่อง (เหมือนเราเป็นพี่เลี้ยงนั่งดูนักมวยชก เราจะรู้ว่าสภาวะการอย่างถูกต้องตรงทิศตรงที่ตรงเวลา เราก็สั่งให้นักมวยชกอย่างที่เราต้องการ)................. ข้อมูลที่ป้อนให้ระบบอำนวยการรบจึงได้มาจากระบบเซ็นเซ่อร์ต่างๆ  ได้แก่ ระบบพิสูจน์ฝ่าย เรดาร์ โซน่าร์ อีเอสเอ็ม ออปโตรนิคส์ ดาวเทียม และลิ้งค์ต่างๆ  ................... เราจะชกกับใครสักคน เราต้องมีระบบอำนวยการรบ ระบบสร้างจินตนาการที่สมองประมวลผลและตัดสินใจที่จะทำอะไร จะชกเวลาไหน จะวิ่งหนีเมื่อไหร่ โดยการประมวลผลจะรับข้อมูลมาจากระบบเซ็นเซ่อร์ได้แก่ ตา หู ตะหมูก (ลิ้นไม่ต้อง) สัมผัสผิวหนัง.....................เช่นนี้เป็นต้น...................

 

เรดาร์อำนวยการรบ คือ เรดาร์ที่ส่งข้อมูลละเอียดไปให้ระบบอำนวยการรบ ดังนั้น เราดาร์อำนวยการรบจึงเป็นแบบดีที่สุดเท่าที่ระบบนั้นๆจะมีได้......................... หลักการทำงานของเรดาร์คือการส่งคลื่นแม่เหล็กออกไปรอจนสะท้อนกลับมา บวกลบหักกลบเวลาก็จะรู้เป็นระยะทาง...................... ทีนี้ถ้าเป็นแบบ 2 มิติ การทำงานจะหมุนกวาดเป็นรอบ ข้อมูลที่ได้รับก็คือ ทิศทางเป็นวงกลมของเป้าโดยมีเราเป็นจุดศูนย์กลาง ประกิตเค้าเรียก อะสิหมูด และอีกอันก็คือระยะเป้า.............................. จะเห็นว่าถ้าเป็นเป้าหมายภาคพื้น  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..................คือรู้ทิศรู้ระยะ เอาไปใช้เป็นข้อมูลอำนวยการรบเท่านี้พอ.........แต่................มีต่อ................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 02:40:04


ความคิดเห็นที่ 3


ถ้าเกิดข้าศึกหรือภัยคุกคามมันลอยอยู่เหนือพื้นได้   อีนี้หล่ะปัญหา........................... รู้ว่าข้าศึกเหาะมา   รู้ทิศ รู้ระยะ  แต่ไม่รู้สูง....................  อันนี้ต่อให้ระบบอำนวยการรบเจ๋งแม่นยำเรียวไทม์แค่ไหน   ข้อมูลไม่ซับผอร์ท ก็เสียของ.........................

เราจะเห็นว่า เรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียวของเราติดเรดาร์สามมิติ เพราะจะได้ใช้เป็นข้อมูลให้ระบบอำนวยการรบ คือรู้ทิศ รู้ระยะ รู้สูง  ระบบจะสั่งให้ใช้อาวุธเพื่อรับต่อภัยคุกคามได้ทันท่วงที  จะส่งเครื่องบินอะไรขึ้นไปสกัด จะใช้อะไรยิง จะยิงเมื่อไหร่ ยิงทิศทางไหน อย่างนี้เป็นต้น...............................

 

ข้อต่อไป ................. มาตรฐานการต่อเรือ ว่าด้วยทางตะหาร กะ ทางพานิชย์  มีหลัการพื้นฐานง่ายๆ  ตรงที่พานิชย์ก็คือทั่วๆไป ลอยน้ำได้ วิ่งไปได้ บรรทุกได้ ทนทะเลได้ อันนี้พอ...................... มาตรฐานทางตะหารตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ต้องใช้แรงมากกว่า คือ สามารถใช้งานได้ในสภาวะการสู้รบ..................... คือนอกจากวิ่งปุเลงๆได้  ยังต้องทนมือทนเท้าด้วย.......................  มาตรฐานอาจกำหนดให้ใช้เหล็กที่มีความหนา หรือมีความเหนียวมากกว่า (ลูกปืนตก หรือตอปิโดระเบิดใกล้ๆ อาจไม่แตกออกเหมือนโอ่งมังกรถูกมอตะไซด์ล้มทับ)  การมีระบบเครื่องช่วยเอาตัวรอดในภาวะคับขัน เช่นระบบดับเพลิง ระบบป้องกันการทะลักของน้ำ  อะนี้เป็นต้น.....................................ดังนั้นจะเห็นว่า มาตรฐานพานิชย์ กะของตะหารก็ต่างกันมากอยู่  ราคามันจึงต่างกันโข...........อ่ะนะ

 

เหตุผลที่โอพีวีใช้มาตรฐานพานิชย์คือ "ต้องการความประหยัด"   จริงๆแล้วต้องไปเริ่มที่คอนเส็ปก่อน......................... แนวคิดมีอยู่ว่า  เกิดความต้องการเรือชนิดหนึ่งซึ่งสามารถลาดตระเวณน่านน้ำที่ห่างฝั่งในภาวะปกติ(ไม่ใช่ภาวะสงคราม)  โดยสามารถรับมือกับภัยคุกคามระดับที่ไม่สูงมาก ประเภทเรือสลัด หรือเรือติดอาวุธขนาดเบาได้ .................การใช้เรือรบแท้ๆประเภทผูกไท้ใส่สูทลำใหญ่ๆ ออกลอยลำไปยิงเรืออีแปะอีโปงนั้น เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน.......................ก็เลยแผนแบบเรือใหญ่ทนทะเลสูง แต่มีราคาถูก  ติดอาวุธที่มีความรุนแรงพอจะเอาชนะเป้าหมายที่ได้กล่าวไว้ได้...........................ก๊อด้วยราคาถูกนี่แหล่ะ เลยต้องต่อด้วยมาตรฐานพานิชย์.......................... ดังนั้น เพื่อนๆที่เชียร์กันจัง ให้โอพีวี ของเราติดนั่นติดโน่นติดนี่   อันนี้ต้องมาทบทวนกันหน่อยแล้ว.........................ระบบอาวุธนั้นเป็นที่ทราบดีว่าราคาไม่ถูก บางอันแพงหูดับตับแตก................................ อาวุธดี ยังต้องการระบบซับผอร์ทที่ดี  รวมๆแล้วมูลค่ามหาศาล............แต่ทีนี้มาตั้งอยู่บนเรือที่มีมาตรฐานความอยู่รอดต่ำ.....................อันนี้บางทีมันจะไม่คุ้ม  เหมืนฝากสินค้ามูลค่าเป็นร้อยล้านไปกับสิบล้อฮีโน่หัวยาวกระบะไม้ ของ ส.สินชัยขนส่ง  ไม่รู้โชเฟ่อร์ม้าถีบ ทั้งรถทั้งสินค้าจะลงข้างทางเมื่อไหร่..................................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 03:09:15


ความคิดเห็นที่ 4


ขออภัยครับพี่น้อง...........ที่บอกว่า เรือบรรทุกบ.ลำเดียวที่ติดเรดาร์สามมิติ  ..........อีนี้สั้นไปหน่อยเดี๋ยวเข้าใจผิด......................

 

จริงๆต้องบอกว่า เป็นเรือลำเดียวที่มีเรดาร์ตรวจการณ์พิสัยไกลสามมิติ....................

ถ้าท่านสังเกตุ รล.นเรศวร   ท่านจะเห็นเรดาร์ตรวจการณ์พิสัยไกล สองมิติแบบ แอลดับบลิว-08 มีจานใหญ่ๆสานๆ อยู่กระโดงหลัง อันนั้นใช้ตรวจการณ์พิสัยไกล คือรู้ทิศ รู้ระยะเป้า ไม่ว่าบินได้หรือบินไม่ได้  คือเป็นข้อมูลดิบว่ามีเป้าหมายเข้ามาแล้วนะเฟ้ย ทิศนี้ระยะเท่านี้ สูงเท่าไหร่ตูไม่รู้ เตรียมตัวให้ดีละกัน............................. เอาหล่ะ ทีนี้ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของเรดาร์อำนวยการรบ ในเรือชั้นนี้เรดาร์เป็นของจีน ใช้ควบคู่กับระบบอำนวยการรบจีน  เรดาร์ตั้งอยู่บนกระโดงหน้า ตอนบนเก๋งสะพานเดินเรือ  ตัวนี้แหละคือทีเด็ดที่สุดเท่าที่เธอมี ............... แต่ถ้าเป็นชุดเจ้าพระยา  จานเรดาร์ตัวใหญ่ตัวเดียวนั้นเป็นเรดาร์อำนวยการรบ(ระบบอำนวยการก็เป็นของจีนเหมือนกัน)  แต่ชุดนี้เธอไม่มีเรดาร์ตรวจการณ์พิสัยไกล   ตาสั้น(ตาถั่ว)...................................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 03:35:57


ความคิดเห็นที่ 5


นี่ ภาพนี้ ชุดนเรศวร ด้านหลังเป็รเรดาร์ตรวจการณืพิสัยไกล สอง มิติ แอลดับบลิว-08 ขณะอันหน้เป็นเรดาร์อำนวยการรบใช้ควบคู่ระบบอำนวยการของจีน.......................... ส่วนของชุดเจ้าพระยา มีอันใหญ่จานเดียว อันนั้นเป็นเรดาร์อำนวยการใช้ควบคู่กับระบบจีนเหมือนกัน................


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 03:45:45


ความคิดเห็นที่ 6


ในอนาคตถ้าหากข่าวการเปลี่ยนระบบอำนวยการรบของเรือหลวงนเรศารเป็นจริง เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของจานสายอากาศเรดาร์ตัวหน้า..................................

 

ส่วนในภาพนี้เป็นจานสายอากาศเรดาร์ตรวจการณ์สามมิติบนเรือจักกรีนฤเบศร  มีคำถามว่าตัวใหนเป็นเรดาร์อำนวยการรบ ตัวกลมๆด้านข้างหรือเปล่า หรือว่าไม่มี ใช้ของสามมิติตัวใหญ่ตัวเดียว.................. แต่จะว่าไปเรือชั้นนี้ก็ไม่ได้มีอาวุธอะไรไว้ต่อกรมาก  ระบบน่าจะใช้เพื่ออำนวยการให้อากาศยานมากกว่า


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 03:59:27


ความคิดเห็นที่ 7


ไหนๆก็ไหนๆ ..................... ขออนุญาต ท่าน จขก.  โซโล่  ว่าด้วยเรื่อง เรดาร์ตรวจการณื เรดาร์อำนวยการรบเลย.................

อีนี้มาต่อกันที่ อดีตสุดยอดเรือป้องกันภัยทางอากาศของ ทร.   ภาพนี้ แสดงให้เห็นเรดาร์ตรวจการณ์พิสัยไกลสองมิติ ดีเอ-05 อยู่ด้านหลัง ส่วนเรดาร์อำนวยการรบจานสายอากาศอยู่ใต้โดมเรดาร์ควบคุมการยิงแบบ เอ็มดับบลิว-25 .....................


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 04:36:34


ความคิดเห็นที่ 8


หนี่....เดี๊ยะ   เหมือนยังกะแกะ........... มาที่ เรือที่มีขีดความสามารถป้องกันภัยทางอากาศที่ดีที่สุดของเราในปัจจุบัน เรดาร์ตรวจการณ์ และ เรดาร์อำนวยการรบลอกกันมาเห็นๆ แถม ปตอ.ยังเป็นแบบเดียวกัน ออปโตรนิคส์ คกย. ก็เหมือนกัน ต่างแต่เรดาร์ คกย. หลัก ของชุดรัตนโกสินทร์เป็น เอ็มดับบลิว-26 อันนี้ใช้เล็งยิง อาวุธปล่อยนำวิถีได้..............ว่าแต่ดีเอ-05 สองลำนี้ทำไมไม่เหมือนกัน


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 04:58:36


ความคิดเห็นที่ 9


มาที่น้องเล็กของกลุ่มนี้.................เรือ รจป.ชุดสงขลา........... แม้ไม่มีเรดาร์ตรวจการณ์พิสัยไกล แต่เรดาร์อำนวยการรบก็เหมือนสองลำข้างบน แถมมี 40 ทวิน ทรินิตี้ ควบคุมด้วยออปโตรนิคไลร็อทเหมือนกันอีกต่ะหาก


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:02:45


ความคิดเห็นที่ 10


อันนี้ของชุดน็อกซ์...........จะเห็นว่าเรดาร์อำนวยการรบตัวบน(ตัวล่างอันใหญ่เป็นตรวจการณ์) เป็นมาตรฐานเดียวของทัพเรือไอ้กันที่ผ่านมาเลยทีเดียว...........


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:13:55


ความคิดเห็นที่ 11


ไหนๆก็ไหนๆ เพื่ออ้างอิง ...........นี่คือ อดีตสุดยอดเรือลาดตระเวณป้องกันภัยทางอากาศของไอ้กัน  ก่อนที่เรือลาดตระเวณเอจีสชุด ติคอนเดอโรก้าจะมาแทนที่................ในภาพเป็นเรือ ลว.นิวเคลียร์ป้องกันภัยทางอากาศชั้นลองหบีช สภาพก่อนปรับปรุง จะเห็นเรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกลสองมิติที่กระโดงหลัง ส่วนด้านหน้ามีจานสายอากาศเรดาร์สามมิติระยะไกล  ด้านบนเป็นเรดาร์อำนวยการรบ (เหมือนชุดน็อกซ์เด๊ะ).................. เรือชั้นนี้เป็นสุดยอดเทคโนโลยี่ก่อนระบบเฝสอาเรย์จะมาแทนที่ จะเห็นว่ามีเรดาร์ คกย.ถึง 4 ตัว......... โคตรสะใจ


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:21:40


ความคิดเห็นที่ 12


^

ขอแทรกนิดหนึ่งครับท่านกบ ตัวข้างบนนั้นใช้ stir รึเปล่าครับท่าน

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:27:45


ความคิดเห็นที่ 13


คิดว่าไม่น่าใช่ครับ เพราะสันฐาน ดูใหญ่กว่าสเตียร์ ค่อนข้างเยอะ............................. เป็นอะไรนั้นเดี๋ยวขอความกรุณาเพื่อนท่านอื่นมาตอบครับ.................................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:48:35


ความคิดเห็นที่ 14


ขอบคุณครับท่าน ( ท่านเขียนได้อ่านสนุกมากเลยครับ )
โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 10/12/2008 05:51:28


ความคิดเห็นที่ 15


ขอบคุณลุงกบ และ ท่าน AAG_th1 มากเลยครับ

ยังสงสัยอีกว่า อย่างกรณีของเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศระยะไกล กับ เรดาร์ตรวจการณ์อากาศ/พื้นน้ำ จะมีการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันหรือป่าวครับ หรือว่ารับส่งกันเป็นทอดๆ

โดยคุณ phongrapee เมื่อวันที่ 10/12/2008 06:29:31


ความคิดเห็นที่ 16


Radar ค้นหาเป้าหมายพื้นน้ำ/อากาศของเรือชุด ร.ล.นเรศวร นั้นคือ Type 360 ของจีนครับ ซึ่งจะทำทำงานร่วมกับระบบอำนวยการรบ ZKJ-3T ของจีนเช่นกัน โดย Radar แบบ Type 360 นี้เป็น Radar ที่ถูกติดตั้งใช้งานกับเรือรบผิวน้ำหลักหลายแบบที่จีนต่อในช่วงปี 1990sครับ เช่น เรือพิฆาตชั้น Type 052 Luhu, เรือพิฆาตชั้น Type 051B Luhai, เรือฟริเกตชั้น Type 053H3 Jiangwei เป็นต้น ซึ่ง Radar นี้มีนักวิเคราะห์ว่าจีนลอกแบบมาจาก RAN-10S ของอิตาลีครับ

Radar ควบคุมการยิงของเรือชั้น Long Beach มีการติดตั้งหลายระบบครับเช่น AN/SPG-49 สำหรับควบคุมอาวุธปล่อยพื้นสู่อากาศ Talos 2ระบบ และ AN/SPG-55 สำหรับควบคุมอาวุธปล่อยพื้นสู่อากาศ Terrier 4ระบบ รวมถึงยังมี AN/SPS-33 สำหรับใช้ติดตามเป้าหมายครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 10/12/2008 07:21:52


ความคิดเห็นที่ 17


คุณกบมีบล็อกส่วนตัวหรือเปล่าครับ…...

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 11/12/2008 01:48:14


ความคิดเห็นที่ 18


ไม่มีครับ................... ที่ ท.ฟ.ค. แห่งนี้ที่เดียว ครับ..........................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 11/12/2008 02:01:29


ความคิดเห็นที่ 19


แหม่.....เสียดายนะครับกับการตอบกระทู้หรือบทความที่คุณกบนำเสนอมีแต่โดนใจทั้งนั้น  ถ้านำมารวบรวมเก็บไว้ก็จะดีไม่น้อย......ยังไงๆ ถ้าเปลี่ยนใจคิดจะทำก็อย่าลืมแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ....จะขอมาเป็นผู้ติดตามซะหน่อย

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 11/12/2008 02:30:39


ความคิดเห็นที่ 20


ไว้ปีหน้าผมจะเปิด Blog ให้ลุงกบน่ะครับ


เป็น http://ลุงกบ.thaifighterclub.org


น่ะครับ ขอจองตัวเลยครับ อิอิิ


พร้อมแจกเมลล์ ลุงกบ@thaifighterclub.org ครับ
โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 11/12/2008 10:31:36