คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |
|
หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อ "ทีมซีอีโอ มิสชั่น" จากรั้วมหาวิทยาลัยหอการค้าจากผลรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 จากการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยทั้งในระดับประเทศ และในประเทศ ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับผลงานชิ้นใหม่ที่จะต่อยอดให้หุ่นยนต์กู้ภัย ที่ใช้งานได้จริง และช่วยเหลือประเทศไทย ในรูปแบบของ EOXD Robot หุ่นยนต์เอ็กซเรย์และทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance X-ray and Disruption Robot) เพื่อส่งมอบให้กองทัพอากาศนำไปช่วยเก็บกู้ระเบิด ซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อจากต่างประเทศหลายเท่าตัว ผศ.อมร ตันวรรณรักษ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้า เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของ หุ่นยนต์เอ็กซเรย์และทำลายวัตถุระเบิด เรามองเห็นถึงปัญหาที่เกิดจากความสูญเสียครั้งแล้ว ครั้งเล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ถูกผู้ก่อการร้ายกดรีโมตระเบิดทำงาน ขณะที่เข้าไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยหลังได้รับแจ้งเหตุ รวมถึงสถานการณ์ลวงที่ให้ตำรวจ หรือทหารเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ แล้วกดระเบิดเพื่อหวังทำลายชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นแรงบันดาลใจเริ่มแรกที่ได้รวบรวมนักศึกษา คณาจารย์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้เคยผ่านการคิดค้นหุ่นยนต์กู้ภัยมิชชั่น รุ่นแรกดัดแปลงกลไลให้กลายเป็น EOXD Robot หุ่นยนต์เอ็กซเรย์ และทำลายวัตถุระเบิด ผศ.อมร ชี้แจงต่อว่า ก่อนนี้คณาจารย์และนักศึกษา เข้าไปศึกษาวิธีการทำงานของวัตถุระเบิด ที่กองทัพอากาศ เราทราบว่ากองทัพอากาศมีหุ่นยนต์กู้ระเบิด ซึ่งสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก ทำให้กฎเกณฑ์การใช้งานต้องผ่านหลายขั้นตอน หรือต้องเป็นงานที่ใหญ่จริงๆ จึงจะนำออกใช้งาน แต่สำหรับมุมมองของนักศึกษา เขามองว่าตัวเขาเองอยากจะช่วยเหลือสังคมด้วยการดัดแปลงหุ่นยนต์ให้ออกมาในรูปแบบของการเอ็กซ์เรย์หาวัตถุระเบิด ด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ดัดแปลงมาจากหุ่นกู้ภัยที่มีราคาถูก เพียงแค่ 600,000 บาท ซึ่งต่างจากหุ่นยนต์ต่างประเทศที่เป็นมีราคาสูงถึงหลักล้าน สำหรับ EOXD Robot หุ่นยนต์เอ็กซเรย์ และทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance X-ray and Disruption Robot) ควบคุมกลไกการทำงานด้วยระบบไร้สาย ให้ความคล่องตัวสูง สามารถขับเคลื่อนเข้าหาเป้าหมายได้ทุกสภาพพื้นผิว ทั้งราบเรียบ ลาดเอียง หรือปืนบันได ทั้งยังให้ประสิทธิภาพการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยได้อย่างแม่นยำ โดยการใช้รังสีเอ็กซ์ เพื่อตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋า กล่อง หรือใต้เบาะรถจักรยาน ทำงานคล้ายกับการเอ็กซเรย์กระเป๋าตอนขึ้นเครื่องบิน พร้อมมีปืนยิงน้ำแรงดันสูงขนาด 40 มม. ทำลายวัตถุระเบิดไม่ให้เกิดการระเบิดขึ้นก่อนที่จะเกิดระเบิดจะทำอันตรายแก่ชีวิต EOXD Robot (Explosive Ordnance X-ray and Disruption Robot) ทำงานด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง ในส่วนของชุดหุ่นยนต์ประกอบด้วย 1. ฐานหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน พร้อมแขนคู่หน้าที่มีสายพานเพื่อนช่วยการปืนป่าย 2. แขกลที่สามารถควบคุมได้ถึง 3 ทิศทาง (Multi-Joint Mechanical Arm with 3 Degrees of Freedom) 3. ระบบประมวลผลกลาง (Main Board of Microprocessor) 4. ระบบเซนเซอร์ (Sensors System) 5. ระบบปรับภาพวีดิโอ (VDO Server) 6. กล้องวีดีโอ 4 ตัว 4 (VDO Camera) 7. อุปกรณ์กำเนิดรังสีเอ็กซ์ (X-Ray Source) 8. ฉากรับรังสีเอ็กซ์ (X-Ray Screen) 9. ปืนยิงน้ำแรงดันสูง (High Pressure Water Jet Gun : Disrupter) สำหรับยิงทำลายวัตถุต้องสงสัย เพื่อให้กลไกการทำงานของระเบิดสิ้นสุดลง ส่วนชุดควบคุมหุ่นยนต์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบการทำงานของหุ่นยนต์ทั้งหมด ตั้งแต่การขับเคลื่อน การควบคุมอุปกรณ์เอ็กซเรย์ การควบคุมปืนยิงน้ำ การประมวลผล การรายงานผล ชุดควบคุมนี้ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ทำงานภายใต้ซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานทั้งหมดของหุ่นยนต์ อุปกรณ์สื่อสาร 2 ความถี่ 2.4 GHz และ 5GHz และแบตเตอรี่ ชุดควบคุมแหล่งจ่ายไฟ ด้าน นพ นพรัตน์ บุญยา นักศึกษาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนึ่งในทีมผู้จัดทำหุ่นยนต์ บอกว่า นอกจากจะใช้ประสบการณ์ที่ได้จากศึกษาหุ่นยนต์กู้ภัย ซีอีโอ มิสชั่น ต้องเรียนรู้ถึงระบบการทำงานรังสีเอ็กซ์เรย์ให้ละเอียด พร้อมทั้งอธิบายถึงหน้าที่ของการควบคุมหุ่นยนต์ ระบบการทำงานไม่ยุ่งยาก เพราะแค่คนเดียวก็สามารถปฏิบัติภารกิจสำคัญได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าหน้าควบคุมหุ่นยนต์จะอยู่ไม่ไกลจากจุดเสี่ยงภัยได้ถึง 100 เมตร จากนั้นเราจะบังคับแขนกลให้อยู่ในตำแหน่ง ระบบเอ็กซ์เรย์จะเริ่มทำงานตามคำสั่งของผู้ควบคุมรังสีเอ็กซ์ที่ส่องทะลุวัตถุต้องสงสัยจะกระทบที่ฉากรับภาพ และส่งภาพแบบไร้สายมายังคอมพิวเตอร์ของผู้ควบคุม หากวัตถุนั้นอันตราย หุ่นยนต์ EOXD Robot จะถูกขับเคลื่อนมาติดตั้งปืนยิงน้ำแรงดันสูง แล้วกลับไปยิงทำลายกลไกการระเบิดทันที ซึ่งเราสามารถปฏิบัติภารกิจสิ้นสุดลงได้ในเวลา 10 นาที ชาติ พงษ์ชาติ เซี่ยงสิน และ บิ๊ก นิรวิทย์ เผ่าเกียรติ์ นักศึกษาผู้ร่วมทีม เสริมว่า ข้อดีของหุ่นยนต์นี้จะสะดวกปลอดภัย ผู้ปฏิบัติงานไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้วัตถุระเบิดในช่วงเอ็กซ์เรย์ตรวจสอบ และช่วงทลายด้วยปืนยิงน้ำแรงดันสูง ระบบจุดชนวนการยิงน้ำแรงดันสูงถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง เพื่อป้องกันการยิงเองโดยไม่ตั้งใจ อีกทั้งระบบสื่อสารระยะไกลถึง 100 เมตร จะช่วยให้สามารถปรับความถี่ไปทำงานอีก เมื่อถูกรบกวนด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม "เทคโนโลยีที่ให้ประสิทธิภาพเท่าเทียมกับหุ่นยนต์นานาชาติในราคาที่ย่อมเยาได้ และสามารถช่วยลดงบประมาณภาครัฐในการนำเข้าของหุ่นยนต์ราคาแพง และยังเป็นนวัตกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยเพื่อชาติอย่างเต็มความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะเยาวชนไทยที่สามารถใช้ความรู้จากตำราเรียนมาดัดแปลงให้เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมที่ช่วยเหลือสังคมได้อีกทาง ผศ.อมร กล่าวทิ้งท้าย
| | |