หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อยากทราบเกี่ยวกับขนาดของกระสุน

โดยคุณ : supot เมื่อวันที่ : 01/12/2008 18:36:09

ขนาด .38" กับ 9 mm และ ขนาด .45" กับ 11 mm แตกต่างกันอย่างไร

เท่าที่ผมเข้าใจคือ .38 หน่วยเป็นนิ้วรบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ





ความคิดเห็นที่ 1


เข้าใจถูกแล้วครับที่ต่างกันคือหน่วยที่บอกขนาด

โดยปกติถ้าเห็นจุดนำหน้า ก็คาดไว้ก่อนเลยว่าบอกเป็นนิ้วครับ
ที่บอกต่างกันเพราะต้นกำเนิดต่างกันครับ
กระสุนชนิดไหนเกิดในประเทศที่นิยมหน่วยเมตริก ก็จะเรียกเป็น มม.
แต่ถ้าเกิดในประเทศที่นิยมหน่วยอิมพีเรียล ก็เรียกเป็นนิ้ว  ประมาณนั้น

9 mm โดยทั่วไปจะหมายถึง 9 มม.ลูเกอร์ หรือ 9x19 mm มาตรฐานนาโต
เป็นกระสุนปืนออโตตั้งแต่เกิดครับ

ส่วน .38 ส่วนใหญ่จะหมายถึง .38 Special เป็นกระสุนปืนรีวอลเวอร์โดยกำเนิดเช่นกัน
จานท้ายกระสุนจะยื่นออกมาเกาะท้ายลูกโม่ไว้ ไม่ให้ผลุบเข้าไปในโม่ทั้งลูก

.45 กับ 11mm หมายถึงกระสุนชนิดเดียวกันคือ .45 acp ครับ
คำว่าสิบเอ็ด มม.นี่มีบ้านเราเรียกอยู่ที่เดียวครับ
เหตุผลก็คือมันเป็นกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่สุดที่สามารถจดทะเบียนได้ตามกฏหมายไทย
แต่บ้านเราใช้หน่วยเมตริก ก็เลยวัดขนาดจาก .45 เป็นมิลลิเมตร
ซึ่งก็ได้ 11.45 มม.ครับ

โดยคุณ Zepia เมื่อวันที่ 25/11/2008 06:33:28


ความคิดเห็นที่ 2


เรื่องหน่วยของกระสุนปืนนี่ทำคนหน้าแตกมามากแล้วนะระวังด้วยละเช่น
ในการออกกฏหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนสส.ผู้ทรงภูมิท่านนึงลุกขึ้นอภิปรายว่า
"ปืนพกขนาดจุดสามแปดมิลลิเมตรเป็นอาวุธที่ร้ายแรง ไม่สามารถที่จะให้ประชาชนทั่วไปมีไว้ในครอบครองได้ "
อีกตัวอย่างนึงอันนี้เป็นผู้ประกาศข่าว เธออ่านข่าวเกี่ยวกับการลอบสังหารว่า
" ผู้ตายถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาดสามร้อยห้าสิบเจ็ดมิลลิเมตร ยิง 6 นัดตายคาที่ แล้วคนร้ายก็หนีไปพร้อมอาวุธปืน "
นี่ละครับเรื่องตลกที่หามาให้อ่าน ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริงทั้งสองเรื่อง
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่ 25/11/2008 07:47:48


ความคิดเห็นที่ 3


กระสุนขนาด .38 กับกระสุนขนาด .357 มัีนก็คือ
กระสุน . 38 ที่มายืดความยาวของปลอกกระสุนออกไปอีก 1 หุน
หรือ 1/8 นิ้วเท่านั้นเอง
ถ้าวัดกันแบบละเอียดขนาดกระสุน .38 มันวัดไม่ได้ขนาดนั้นนะ
ที่จริงมันวัดได้ .357 หรือ.355 นี่ละจำได้ไม่แน่นอน
ตอนที่อีตา เอล เมอคีธ หาทางที่ทำให้กระสุนมีความแรงขึ้นได้ไม่รู้จะเรียกชื่ออะไร ตอนแรกจะใช้คำว่า SUPER มันก็มีคนเอามาใช้แล้ว
เพื่อนแกก็เลยเสนอความคิดว่าลองใช้คำว่า MAXNUM ดูเพราะแรงระเบิดในรังเพลิงสูงมาก เกือบเกินระดับที่ปืนต้นแบบจะรับได้
แล้วอีตา เอล เมอคีธ ก็เอาทฤษฏีนี้มาใช้กับการพัฒนา กระสุนขนาด .41 และ.44
ที่อเมริกาตำรวจเค้าใช้อา่วุธปืนที่กรมตำรวจจัดหามาให้ พวกในเครื่องแบบทั้งหมดใช้ SMITH AND WESSON ขนาด.38 พอโดนอัพไปทำงานนอกเครื่องแบบก็ยังติดที่จะใช้ปืนขนาด .38 แต่ลำกล้องสั้น 2 นิ้ว
จำปีไม่ได้แต่ประมาณ 70 - 80 เกิดกรณี FBI ยิงคนร้ายแล้วโดนคนร้ายสวนกลับด้วยมีด คนร้ายรอด แต่เจ้าหน้าที่ FBI ตาย
แล้วอีกครั้งเจ้าหน้าที่ยิงคนร้าย ด้วย.38ลำกล้องสั้น โดนเข้าที่ท้องแต่คนร้ายวิ่งหนีได้ คนร้ายมีรูปร่างใหญ่หนักกว่า 350 ปอนด์ กระสุน.38 ไม่สามารถเจาะชั้นไขมันได้
เลยมีโครงการณ์ จัดหากระสุนพร้อมปืนให้เจ้าหน้าที่ใหม่
ก็เลยได้มีการพัฒนากระสุนขนาด .40 S&W ขึ้นมา
อาจจะมีคำถามว่าก็มีกระสุนปืน .45 อยู่แล้วพัฒนาทำไมอีก
คำตอบคือ มันยิงแล้วทะลุตัวคน ซ้ำนัดที่ 2 ยากกรณียิงมือเดียว
แล้วมันเป็นกระสุนที่ใช้งานทางทหารเป็นส่วนใหญ่
ส่วน 9 มม.ที่ไม่ใช้ก็เพราะอานุภาพมันก็พอๆกับ .38 แล้วจะไปใช้มันทำไม
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่ 25/11/2008 18:46:10


ความคิดเห็นที่ 4


.38special และ .357Magnum นั้นเป็นกระสุนปืน Revolver ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในปืนหลายๆแบบครับ แต่ก็มีปืนกึ่งอัตโนมัติบางแบบที่มีรุ่นใช้กระสุนแบบดังกล่าว เช่น Desert Eagle .357 เป็นต้น

ในกรณีของการใช้กระสุน .357 เคยทราบมาว่าตำรวจบ้างมลรัฐฯของสหรัฐฯจะห้ามใช้ปืนที่ใช้กระสุนขนาดนี้ในเขตชุมชนเนื่องจากมีอำนาจการทะลุทะลวงสูงอาจจะจะทะลุสิ่งกีดขวางเป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์ได้ และในส่วนของ .45ACP นั้นกระสุนขนาดนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับปืนพกกึ่งอัตโนมัติครับ แต่ไม่เหมาะกับงานปราบปรามของตำรวจเนื่องจากกระสุนมีขนาดใหญ่ทำให้บรรจุกระสุนได้ไม่มากและปืนที่ใช้ก็ใหญ่เกินจะพกซ่อนได้สะดวกและแรงถีบปืนก็ค่อนข้างสูงยากต่อการทำการยิงซ้ำอย่างรวดเร็วแต่ต่อเนื่องในสถานการณ์ปะทะจริง การพัฒนากระสุน .40S&W ซึ่งมีขนาดกระสุน แรงถีบ อำนาจการทะลุทะลวงและหยุดยั้งเหมาะสมครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 25/11/2008 21:01:55


ความคิดเห็นที่ 5


เทียบดูเลยครับ ส่วนข้อมูล ข้างบนเลยครับ

เหอๆๆๆๆ


โดยคุณ ss_aong เมื่อวันที่ 25/11/2008 23:28:18


ความคิดเห็นที่ 6


ปล. ไม่รู้จักชื่อเจ้าขอภาพ ต้องขออภัยใว้นะที่นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ.

โดยคุณ ss_aong เมื่อวันที่ 25/11/2008 23:29:53


ความคิดเห็นที่ 7


ถ่าน DURACELL คือกระสุนในตำนาน โห๊ะๆๆเผ่น
โดยคุณ Therminator เมื่อวันที่ 26/11/2008 09:50:29


ความคิดเห็นที่ 8


สำหรับขนาด .45 ACP ก็มีพาราออร์ดแนนซ์ของแคนาดาครับที่ทำแบบลูกดกออกมา (14 นัด) ส่วนตัวไม่ชอบ 9 เท่าไหร่ครับเพราะอำนาจหยุดยั้งน้อย ถ้ามี 7 นัด แต่ยิงโป้งเดียวแล้วลงนี่กับมี 15 นัด ยิงสองสามนัดกว่าจะลงได้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอกครับ ถ้าใช้ PO ข้อเสียเปรียบเรื่องจำนวนกระสุนจะหมดไปเลย


โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 26/11/2008 22:59:17


ความคิดเห็นที่ 9


กระสุน .45ACP ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเล่นงานญี่ปุ่นครับน้องแชมป์ กระสุนชนิดนี้ถูก design มาตั้งแต่ปี 1904 แล้วครับ เพราะกระสุนขนาด .38 long colt ในสมัยนั้นไม่มีอำนาจการหยุดยั้งที่เพียงพอ ในการต่อสู้กับกบฏมัวโร กระสุนชนิดนี้หยุดนักรบมัวโรไม่ได้ จนทหารมะกันตายไปหลายครับ

 

จากประสบการณ์นี้ ทำให้เกิดการสุน .45 ACP ขึ้นมาครับ

โดยคุณ helldiver_V2 เมื่อวันที่ 28/11/2008 07:16:11


ความคิดเห็นที่ 10


ส่วนการถือกำเนิดของกระสุน .40S&W เกิดจากเหตุการณ์ Miami Shootout ในปี 1986 ครับ ตอนแรกเกิด 10 มม ขึ้นมาก่อน แล้วจากนั้นก็เป็น .40 ครับ
โดยคุณ helldiver_V2 เมื่อวันที่ 28/11/2008 07:21:21


ความคิดเห็นที่ 11


ฟังลูกน้องโม้ บ่อยว่า 11 นั้นไอ้กันสร้างมาเพื่อหยุดญี่ปุ่นที่วิ่งชาร์จเอาซามูไรไล่ฟันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2......ฟังบ่อยๆเข้าทนไม่ได้ เลยบอกไปว่า    "รู้ไหมว่า ปพ.86 หลวงนะ มันมีชื่อจริงๆจากประเทศผู้ผลิตว่าอะไร"     แล้วก็ร่ายยาวต่อว่า  มันคือ ปืน เอ็ม 1911    ซึ่งเลข 1911 ก็คือปีที่นำเข้าประจำการเป็นครั้งแรก    ก็เหมือนเรา(หรือเราเหมือน)นั่นแหละที่นำปีที่เข้าประจำการมาตั้งชื่อ  ปพ.86 ก็มาจากการนำเข้าประจำการครั้งแรกในปี 2486 นั่นเอง     แล้วก็ถามต่อไปอีกว่า แล้วรู้ไหมว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไอ้กันปะมือกับยุ่นนะปีไหน   ลูกน้องก็ทำตาปริ๊บๆ   ผมก็เลยพูดต่อว่า ไอ้กันโดดร่วมวงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1942    ดังนั้น ไอ้ปืนเนี่ยมันเกิดมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2(ความจริงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยซ้ำ) เสียอีก   ดังนั้นก็คิดดูละกันว่า  ไอ้กันมันสร้างมาเพราะเอามาหยุดไอ้ยุ่นบ้าเลือดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จริงหรือเปล่า   หรือถ้าจริง  ไอ้กันมันก็คงทำนายล่วงหน้าว่าในอีก 30 กว่าปีข้างหน้าต้องมาเจอยุ่นบ้าเลือด เลยรีบสร้างปืน 11 หรือ .45ACP มารอล่วงหน้าก่อน  เอวังด้วยประการฉะนี้  สาธธธธธธธุ

   ความจริงเรามองที่ขนาดกระสุนอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องมองที่ความยาวและรูปทรงของปลอกกระสุนด้วย ถึงจะกะได้ว่าความเร็วต้นมันจะสูงหรือไม่    เช่น  กระสุน .22 LR กับ 5.56x45 มม.(.223 Rem) ถ้าดูขนาดหน้าตัดของกระสุนทั้ง 2 ชนิดข้างต้นแล้วมีขนาดใกล้เคียงกันมาก  แต่ ความเร็วคนละเรื่องเพราะรูปทรงปลอกไม่เหมือนกัน

 ในบรรดาหกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. นั้น ส่วนใหญ่ที่เราจะได้ยินบ่อยๆก็คือ  9 พาราฯ(พาราเบลลั่ม) หรือ 9 ลูเกอร์(อันเดียวกัน)  .380  .38 ซูเปอร์ และ .38 สเปเชี่ยล(จริงๆมันมีมากกว่านี้แต่เอาที่ได้ยินบ่อยๆละกัน)    ที่กล่าวมาทั้งหมดมีขนาดหน้าตัดใกล้เคียงกัน  แต่ถ้าเราฟังชื่อแล้วเราสามารถบอกได้เลยว่ามันคือ กระสุนปืนพก แบบ รีวอลเวอร์(ลูกโม่นั้นแหละ) หรือ ออโต้(จริงๆน่าเรียกกึ่งอัตโนมัติมากกว่า)    กระสุน   .380  9 พาราฯ(ลูเกอร์) และ .38 ซูเปอร์ คือ กระสุนที่ใช้ในปืนพกออโต้ เรียงลำดับตามความยาวปลอกกระสุน  .380 ปลอกสั้นสุด ส่วนมากมักใช้ในปืนพกออโต้ขนาดเล็ก(ซึ่งบางทีเรียกว่า ลูก 9 สั้น)  9 พาราฯ อันนี้น่าจะได้ยินบ่อย ปลอกจะยาวกว่า .380  และอันสุดท้ายคือ .38 ซูเปอร์  ปลอกจะยาวกว่า 9 พาราฯ       ส่วน .38 สเปเชี่ยล เป็นกระสุนปืนพกแบบรีวอลเวอร์  ปลอกยาวกว่า .38 ซูเปอร์

  มีเรื่องน่าแปลกอีกอย่างคือ   ไอ้กัน เปลี่ยนกระสุนปืนพกจาก .45ACP ( เอ็ม 1911 และ 1991) ไปเป็นขนาด 9 พาราฯ(ปืน เบเร็ตต้า 92 FS)   แต่ปัจจุบันนั้นก้มีข่าวว่ากำลังจะกลับมาหา .45ACP อีกครั้ง เพราะบทเรียนในอิรัคและอัฟกานิสถาน     แต่  ทบ.ประเทศสารขัณฑ์ที่มี 2 สีคือ เหลืองกับแดง ในปัจจุบัน นั้นมีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนจาก .45ACP ไปเป็น 9 พาราฯ  อืมมม  งงดีเหมือนกัน

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 28/11/2008 11:52:03


ความคิดเห็นที่ 12


สำหรับทอ.ประเทศนั้น ( สารขัณฑ์ )เค้าใช้ 9 มม.มานานแล้ว
ปืนที่ใช้ประจำการคือ BROWING รุ่น HI POWER นกกลม
ไม่ทราบว่าเปลี่ยนไปใช้รุ่นอื่นบ้างละยัง
ผมลาออกมาแล้ว ก็ยังใช้ปืน BROWING รุ่น HI POWER แต่เป็นรุ่นไกทอง
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่ 29/11/2008 05:54:32


ความคิดเห็นที่ 13


 พิมพ์ครั้งที่สี่ แล้วครับ จาก 0/0 จนกระทู้จะตกกระดาน
กระสุน
การพูดถึงกระสุน คงแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรก ทางภาคพื้นยุโรป ทางนี้ใช้มาตรา เมทริค(เมตร เซ็นติเมตร มิลิเมตร)โดยเรียกตามหน้าตัดกระสุน คั่นด้วยเครื่องหมายคูณ และตามด้วยความยาวของกระสุนเช่น 7x57, 8x57, 9x57, 9.3x62 Mauser, 11.2x60R, 9x19, 9x17
กลุ่มที่สอง ทางฝั่ง ปะกิด กะมะกา ใช้มาตราอังกฤษ (หลา นิ้ว) มักตามด้วยชื่อ เช่น.38 Special, .357 Magnum, .30-06 Springfield, .308 Winchester, .375 Holland & Holland Magnum
กระสุนบางแบบข้ามฝั่งแอตแลนด์ติคก็โดนเปลี่ยนชื่อเช่น 7x57 เป็น 7 mm Mauser, 9x19 เป็น 9mm Luger, 9x17 เป็น.380 ACP

๑๑ มม. บ้านเราใช้เรียก .45 ACP กะปืนโคลท์ ออโตเมติค M1911
ที่กำลังจะฉลองครบรอบร้อยปีในไม่นานนี้ และยังมีกระสุน 11mm อีกหลายแบบ แต่บ้านเราไม่รู้จัก

.45" คงต้องสื่ออีกนิดให้เข้าใจเพราะ กระสุนขนาดนี้ที่ดังๆมีสองแบบ
ถ้าไป Fourty Five Caliber ฝรั่งจะหมายถึง .45 Colt ที่ใช้กะรีวอลเวอร์ ซิงเกิลแอคชั่นของพวกคาวบอย สมัยก่อนบ้านเราฉายหนังคาวบอยซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ เรื่อง Colt.45 
ต้องบอกว่า .45 ACP ถึงจะได้กระสุนที่ใช้กับ Colt Automatic M1911
(ใช้งานครั้งแรก ปราบปานโช วิญ่า ที่แมคซิโก ทหารม้าสหรัฐลุยบนหลังม้า(Mount Charge)ครั้งสุดท้าย โดยใช้ปืน M1911 เปิดตัวครั้งแรก การบุกนำโดยร้อยตรี Patton แล้วถึงได้ไปออกงานในยุโรป จำไม่ได้แล้ว อเมริกาเข้าสงครามปีไหน)

.38 อันนี้ต้องสืบตำนาน ปืนอเมริกัน
ปืนสั้นสมัยแรกๆใช้แบบดินดำ บรรจุกระสุนทางปากกระบอก
ต่อมาก็มีการพัฒนา โม่ปืนเอาไว้บรรจุดินปืน กับลูกปืน ทำกลไกให้ตอนยิงโม่อยู่ตรงลำกล้อง ทำให้บรรจุกระสุนได้หกนัด ซึ่งได้แก่ปืน Colt Navy1861 (.36), Colt Army (.44) ใช้สมัยสงครามกลางเมือง
หลังสงครามกลางเมืองมีการพัฒนาปลอกกระสุน มีกระสุนที่มีทั้งหัวกระสุน ดินปืน และตัวประทุรวมอยู่ในกระสุน จะใช้ก็เอามาบรรจุในรังเพลิงหรือโม่ปืนสั้น
ในยุคนี้ก็มีปืนสองขนาดที่ได้รับความนิยมได้แก่ขนาด .44 (.44-40 ที่ต่อมาพัฒนาเป็น .45 Colt) และขนาด.38 ที่นิยมเอาปืน Colt Navy1861 (.36)มาแปลงให้ใช้กระสุน.38 Colt
กระสุน .38 Colt เป็นกระสุนแบบ Heel เหมือนกระสุนปืนลูกกรด.22 LRในปัจจุบัน ที่หน้าตัดกระสุนเท่ากันกับด้านนอกของปลอกกระสุน และ
ช่วงท้ายของหัวลูกปืนลดขนาดให้สามารถเสียบลูกปืนในปลอกกระสุนได้
แทนที่จะให้หัวลูกปืนทั้งหัวมีขนาดหน้าตัดเท่าๆผนังภายในของปลอกลูกปืน ต่อมาเมื่อมีการทำดินปืนแบบควัญน้อย จึงเลิกนิยมกระสุนแบบ Heel 


มีการออกแบบกระสุนใหม่.38 Long Colt แต่ยังคงเรียกชื่อตามเดิมว่าขนาด .38 ทั้งๆที่กระสุน.38 Long Colt มีขนาดหน้าตัดจริง .357-.358 นิ้ว เล็กกว่า .38 Colt หน่อยนึงกระสุนที่พัฒนาต่อๆกันมาก็ยังคงติด .38 เช่น .38 S&W, .38 Special มาตลอด
(.38 Long Colt ที่ไปแป๊ค ที่ฟิลิปปินส์ กระสุนนี้เป็นกระสุนแบบที่เจ้า Billy the Kid ชอบใช้)
จนปี 1935 ที่Elmer Keith ทำ.38 Special ปลอกกระสุนยาว บรรจุดินปืนให้มากขึ้นแล้วเรียกกระสุนใหม่นี้ตามขนาดหน้าตัดว่า .357 และต่อท้ายด้วย Magnum ตามสไลย์ของ John Weatherby (อ่านเรื่องเกี่ยวกับ เวเธอร์บี้ ได้จาก นิยาย เพชรพระอุมา)
คงบอกได้ว่า .36/ .38/ .357 ต่างก็เป็นชื่อเรียกที่ต่างกันของกระสุนที่มีขนาดหน้าตัดเท่ากัน

กรณียิงกันที่ Miami 1986 หาอ่านในWiki ได้ครับ
ผมว่าเป็นเหตุ ที่ทำให้อุตสาหกรรมปืนสามารถใช้เป็นข้ออ้างเปิดตลาดกระสุนปืนใหม่ๆ

เป็นธรรมชาติของการเล่าเรื่อง ตำนาน สืบสานกัน ปากต่อปาก บางทีก็มีอะไรที่สับสนปนกันอย่างที่ท่าน Helldiver กล่าวไว้ .38 Long Colt ถูกใช้งานที่ฟิลิปปินส์ ปราบพวกโมโร แล้วล้มพวกโมโรไม่ค่อยได้ กองทัพสหรัฐจึงเปลี่ยน มาใช้ปืนออโตเมติค ขนาด .45
ส่วนเรื่องทหารญี่ปุ่น ผมอ่านเรื่องนี้ในบทความของ Jeff Cooper
(Jeff Cooper กะ Elmer Keith เป็นนักเขียนเรื่องปืนในนิตยสาร Gun & Ammo)เป็น กระสุน .357 Magnum ครับ ผมจำไม่ได้ว่าเหตุเกิดในการรบที่ไหน แต่คนยิง น่าจะเป็นตัว Jeff Cooper เอง ตอนเป็นทหารมะรีนหนุ่มๆ ยิงซ้ำโดยใช้ M1911
ในความเห็นของผม คนที่โดน .357 Magnum หกนัด นัดที่เจ็ด ถึงเป็นลูกกรด .22 LR ก็อาจลงแล้ว

 

 


 

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 29/11/2008 22:19:58


ความคิดเห็นที่ 14


อย่างที่ข้างบนบอกและครับแต่ขอเสริมเรื่องลำดับเวลาหน่อยครับ

ปืน รีวอลเวอร์ ขนาด .45 ซิงเกิล แอ็คชั่น ออกแบบโดย แซมมวล โคลท์ ประมาณ ร.3 ( มีของจริงโชว์ในห้องเก็บอาวุชั้นล่างในพระที่นั่งจักกรีฯครับ)  ใช้งานส่วนใหญ่ในสหรัฐ ในการปราบ อินเดียนแดง และในสงครามกลางเมือง นานกว่า 100 ปี ครับ ก่อน ที่จะมีการปรับปรุง เป็น รีวอลเวอร์รุ่น ดับเบิล แอคชั่น ซึ่งสร้าง ราว ปี 1885 หรือ ก่อนสงครามโลก ครั้งแรก 30ปี  ส่วนปืนพกแบบ ออโต้ นั้นสร้าง ก่อน สงครามโลกครั้งแรก ไม่กี่ปีครับ

ปืนซิงเกิล แอคชั่นที่ใช้ในกองทัพบกสหรัฐ กว่า100 ปีนั้น ไม่เคยใช้กระสุนที่มีหน้าตัดเล็กกว่า .44 นาครับ ที่ใช้กันมากก็ .44  หรือ .45 หรือ .50 ครับเป็นกระสุน ขนาดใหญ่ทั้งหมด อำนาจหยุดยั้ง หรือ สต๊อบปิ้ง พาเวอร์ เหลือเฟือครับ   จะมาพลาดเอาตอนที่ กองทัพสหรัฐ เลิกใช้ปืน ซิงเกิลแอคชั่น ขนาด.45  และเปลี่ยนไปใช้ ปืน รีวอลวเอร์ ด้บเบิลแอคชั่น ที่ใช้กระสุน .38  (ซึ่งเป็นขนาดกระสุนที่คิดขึ้นมาใหม่)แล้วเอามาใช้กับกบฎ  ในฟิลิบปินส์ เท่านั้นครับ ที่ กระสุน .38 เอาไม่อยู่ ทำเอากองทัพสหรัฐ หมดความเชื่อถือในกระสุนขนาดนี้ แม้ว่าในตอนหลัง บ.สมิทธ จะนำไปพัฒนาต่อเป็น .38 สเปเชียล ก็ตาม (แต่กลับ ได้ความนิยมในหมู่ พลเรือน และ ตำรวจ แทน) ดังนั้น เมื่อกองทัพสหรัฐ ต้องการปืนพกชนิดใหม่เข้าประจำการ  (ในช่วง ปี 1900 )จึงได้มีการกำหนดสเปค เอาไว้ด้วยว่า นอกจากอาวุธชนิดใหม่จะเป็น ออโต้แล้วยังต้องใช้กระสุนขนาด.45 ออโต้ ด้วย ครับ  สรุปแล้ว กระสุน ขนาด.45  นั้นครองใจกองทัพสหรัฐเสมอมา นับร้อยๆปีแล้วครับ

โดยคุณ data เมื่อวันที่ 30/11/2008 02:22:30


ความคิดเห็นที่ 15


ครับ ปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .45 ซิงเกิล แอคชั่น ไม่ทันสงครามกลางเมือง(1861-1865) ครับ ที่ทันและใช้กันทั้งสองฝ่าย เป็นปืนที่เป็นระบบ ซิงเกิล แอคชั่น เหมือนกันแต่นิยมเรียกว่า Cap & Ball เพราะไม่ใช้กระสุนเป็นนัด ยังใช้การบรรจุดินปืน และลูกกระสุนกลมๆในปากโม่ และเอาประจุPrimerที่ทำเป็นถ้วยเล็กๆ cap ใส่ที่แกนท้ายโม่ปืน ปืนรุ่นนี้มีสามแบบ Colt Navy 1851, Colt Navy 1861ทั้งคู่ใช้ลูกปืนขนาด .36 นิ้ว และ Colt Army 1860 ขนาด .44 นิ้ว หลังสงครามกลางเมือง Colt จึงผลิตปืนSingle Action เรียกว่า Single Action Army หรือ Peace Maker ใช้กระสุน .45 Colt ในปี 1873
ในสงครามกลางเมือง ทหารบกของทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ใช้ปืนColt Navy และColt Army กันทั้งสองฝ่าย และในวันนี้ ก็ยังใช้เจ้าBaretta M9 ส่วนทหารอากาศมีข่าวว่าทำท่าอยากเปลี่ยนกลับมาใช่ .45 ACP แล้ว
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 30/11/2008 04:35:01


ความคิดเห็นที่ 16


อ่านเรื่องของอุโมงChu Chi ในเวียตนามที่เวียตมินห์สร้างเอาไว้รบกับฝรั่งเศส แล้วพวกเวียตกงมาขุดต่อเอาไว้รบกับอเมริกัน ทหารอเมริกันที่ต้องลงรูอุโมงไปรบในนั้น Tunnel Rats เลือกใช้ปืนSmith & Wesson MP ขนาด .38 สมัยเสงครามเวียตนามปืน.38 เป็นที่นิยมของทหารสารวัตร และพวกนักบินมาก

ในยุค80ผมว่าปืน.45 แทบจะไม่มีอนาคต เหมือนของเก่า หนัก งุ่มง่าม ที่ไม่มีใครอยากได้ ทั้งกระแส 9mmก็แรง เป็นWonder Nine หรือ 9 Mania ก้ได้พวกนักเขียนเรื่องปืนที่ ยังบ้าAmerican Round เขียนด่า9mm ทั้งจัดการแข่งขันยิงปืนIPSC ด้วยปืน.45 จน คนเห็นว่าถ้าฝึกดีพอ เจ้าม้าแก่นี่ก็เชื่อง ไว้ใจได้ทำให้พวกSWATและนาวิกยังใช้.45 วันนี้กระแสหมุนวน 9mm กำลังตกในที่นั่งเดียวกับที่ .45เคย USAF ที่ใช้เก้าเป็นหน่วยแรกกำลังจะดันให้กองทัพกลับมาใช้ .45 อีก�
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 01/12/2008 07:36:12