ส่วนเรื่องนเรศวร ระบบอำนวยการรบและเรด้าร์มาจาก Selex แล้วอาวุธมาจาก LM จริง ๆ (Mk.53 หรือ Mk.41 และ ESSM?) หน้าตาจะออกมาเป็นยังไงครับ คือหมายถึง อยากให้ท่านผู้เชี่ยวชาญลองคาดเดาดูถึงรุ่นของระบบอำนวยการรบและเรด้าร์ (ถ้ามี) น่ะครับ
อะฮ้า......ในที่สุดเรือชั้นนเรศวรก็ถึงสรวงสวรรค์สักที เราชาว TFC ได้เฮแล้วครับ แถมยังทายถูกอีกต่างหาก แหม....3 ตัวท้ายงวดหน้าออกอะไรครับเพื่อนๆ
^
^
^
โอ้ววว ท่าน AAG_th1 ฮะ .... ตัวเรด้าร์กับระบบควบคุมการเจรจาทางอากาศนั้นจะติดตั้งที่สนามบินของกองทัพเรือที่สัตหีบครับ ^ ^ .... พอดีลืมบอกไปว่า ผมเอาตัวนี้มาลงเพื่อที่จะให้ชมและช่วยกันเดาตรงที่ขีดเส้นที่แดงครับ ^ ^
ไปขุดมาดูแล้วพบว่ามีเรด้าร์ 3D ของ SELEX อยู่ 1 แบบที่เทียบเคียงได้เกือบเท่า Smart-s Mk-2 ที่มาเลย์นำมาติดตั้งในเรือชั้นลิเกียวมาก นั่นคือ
KRONOS 3D NV
ระยะตรวจการณ์ 180 Km. ด้อยกว่า Smart-s Mk-2 เห็นทางผู้ผลิตคุยว่าเป็นเรด้าร์ที่ใช้เทคโนโลยีของเรด้าร์ EMPAR มาใช้ในการพัฒนาเรด้าร์รุ่นนี้ด้วย สามารถตรวจจับอาวุธนำวิถีขนาดเล็กที่พุ่งเรี่ยน้ำเข้ามาได้อย่างแม่นยำเพื่อทำการแทรคกิ้งให้แก่เรด้าร์ควบคุมการยิงได้ดีมาก(ผมว่า STIR 1.8 ก็น่าจะยังใช้งานอยู่ เพียงแต่เรด้าร์อำนวยการรบต้องเปลี่ยนครับ)
ดังนั้นผมทายว่า KRONOS 3D NV จะมาเป็นเรด้าร์อำนวยการรบแทนของเก่าครับ แต่ยังคงติดตั้งเรด้าร์ควบคุมการยิง STIR ต่อไป แต่มันต้องใช้เรด้าร์ควบคุมการยิง 2 ตัวในเรือ 1 ลำนี่ครับ อาจเป็นไปได้ว่ามีการถอดเรด้าร์ควบคุมการยิง STIR 1.8 จากลำใดลำหนึ่งไปติดตั้งให้อีกลำ ในขณะที่อีกลำอาจจะต้องนำเรด้าร์ควบคุมการยิงของ SELEX มาติดตั้งแทนครับ เพราะของเก่ายังใช้ได้และน่าจะสามารถทำงานร่วมกับเรดาร์อำนวยการรบและระบบอำนวยการรบของ SELEX ได้ เพราะมาจากยุโรปตะวันตกเช่นเดียวกัน
ส่วนเรด้าร์ 2D LW-08 น่าจะยังคงใช้งานต่อไปเช่นกัน เพราะเป็นของยุโรปเหมือนกัน และน่าจะสามารถใช้งานร่วมกับระบบอำนวยการรบของ SELEX ได้เช่นเดียวกันครับ
ผมก็รอเพื่อนท่านใดที่พอทราบระบบอำนวยการรบของ SELEX ที่นิยมนำมาใช้ในเรือฟรีเกตขนาดเล็กมาทายกันบ้างนะครับ
เวปอ้างอิง
http://www.selex-si.com/IT/Common/files/SelexSI/brochure_datasheet/2008/Data_Sheet/KRONOS.pdf
โอ้วววว...............ขุดไปขุดมาเจออีกเย้ว ระบบอำนวยการรบของ SELEX
IPN-S Combat Management System
The IPN-S Combat Management System integrates combat system sensors, weapons, EW (ESM/ECM)
systems, tactical data links and navigation systems into a main system, providing the command team
with the facilities to operate the combat system to fulfil the ship operational tasks and missions.
Thanks to its scalar architecture the IPN-S is a solution for any type of vessel starting from Patrol Vessels
through Aircraft Carriers.
It can be customized to meet the ship role and operational requirements.
Any component is fully redundant, assuring no break level resilience and graceful degradation. The
IPN-S combat management systems are already boarded on the Horizon class frigates, the aircraft
carrier Cavour and will also equip the new FREMM frigates.
ทั้งเรด้าร์ 3D และระบบอำนวยการรบ IPN-S ถูกนำมาใช้ในเรือฟรีเกต Horizon และ FREMM จึงเดาได้ว่าน่าจะมาทั้งระบบ และอาจจะมีเรด้าณ์ควบคุมการยิง ชื่อไรน้า....มีเลข 25 อยู่ด้วย มาใช้งานในเรือบางลำด้วย
ถามเพื่อนนิดนึงครับ สถาปัตยกรรม สเกลล่า ที่มีในระบบอำนวยการรบ IPN-S นี่มันเป็นอะไรครับ
ขออภัยเรื่องชื่อเรด้าร์ที่ผิดพลาด จาก STIR 1.8 ต้องมาเป็น STIR 180 ครับ ขออภัยความจำช่วงนี้ไม่ค่อยดีเลย
จากข้อมูลของท่าน Photo pds บอกว่าเรด้าร์อำนวยการรบจะเปลี่ยนจากของจีนมาเป็นของ Thales ซึ่งผมเดาว่าต้องเป็นเรด้าร์ 3D แบบ SMART-S Mk-2 แบบที่ทร.มาเลย์ใช้ งั้นเรด้าร์ KRONOS 3D NV ก็ต้องปิ๋ว แต่ไม่เห็นบอกว่าจะมีการติดตั้ง STIR 180 ชุดที่ 2 ให้เลยนี่ครับ ผมว่ายังไงก็ต้องติดตั้งน่ะ เพราะจะได้ไม่มีมุมอับในการควบคุมลูกอาวุธนำวิถี
เท่ากับว่าเรือชั้นนี้ใช้ระบบเรด้าร์จาก Thales เป็นหลักครับ
เรด้าร์ตรวจการณ์อากาศ LW-08
เรด้าร์อำนวยการรบ อาจจะเป็น SMART-S mk-2
เรด้าร์ควบคุมการยิง STIR 180
ส่วนเรด้าร์เดินเรือ(ตรวจการผิวน้ำ) ผมจำไม่ได้จริงๆว่าเป็นของใคร แต่น่าจะเป็นของ thales เช่นกัน
ต่อไปเป็นการประเมินค่าใช้จ่ายของโครงการครับ
เรด้าร์อำนวยการรบ + เรด้าร์ควบคุมการยิงตัวที่ 2 ราคารวมกันน่าจะอยู่ประมาณ 700 ล้านบาทต่อเรือ 1 ลำ ดังนั้น 2 ลำก็ 1400 ล้านบาท
ระบบอำนวยการรบ 500 - 1000 ล้านบาทต่อลำ 2 ลำก็ 1000 -2000 ล้านบาท
จรวด ESSM จำนวน 64 ลูกสำหรับเรือ 2 ลำ โดยราคาลูกละ 20-25 ล้านบาทแล้วแต่ค่าเงิน 64 ลูก เป็นเงินประมาณ 1280 - 1600 ล้านบาท
แท่นยิง VLS mk-41 SDL ผมไม่ทราบราคาครับ แต่ราคาอะแดปเตอร์คอร์ดแพคพอจะทราบ คือ ชุดละ 10 ล้านบาท 1 แท่นยิงใช้อะแดปเตอร์ 8 ชุด เป็นเงิน 80 ล้านบาทต่อMk-41 1 แท่น 2 แท่น ก็ 180 ล้าน
ดังนั้น Mk-41 SDL พร้อมจรวดและอะแดปเตอร์สำหรับเรือ 2 ลำ ก็มีราคาราวๆ 1500 -2500 ล้านบาท
ราคารวมทั้งโครงการจะอยู่ในช่วงราคา 4900 - 5500 ล้านบาท
งบที่ท่าน photo pds บอกมาจะพอหรือครับ นี่ยังไม่นับรวมราคาระบบ CIWs แบบจรวดด้วยนะ ถ้าทร.เกิดอยากติดตั้ง RAM รุ่นยิง 21 นัด เอาไว้บนโรงเก็บฮ. (ใช้ระบบเรด้าร์บนเรือช่วยควบคุมการยิงได้ครับ ไม่ต้องมีระบบเรด้าร์เพิ่มเข้ามาอีก) ก็ต้องจ่ายอีกราวๆ 500 ล้านบาทต่อเรือ 1 ลำ 2 ลำก็อีก 1000 ล้านบาทนั่นเอง
ราคารวมทั้งโครงการ (ถ้ารวม RAM รุ่น 21 นัด) 5900 - 6500 ล้านบาท
เฉลี่ยลำละประมาณ 3000 ล้านบาท แบบสุดเจ๋งเลยครับ ไหนๆก็ไหนๆ ทร.ก็น่าจะทุ่มไปเลยนะครับ จะทำให้เรือชั้นนี้ครบเครื่องทีเดียว ดีกว่าเรือชั้นลิเกียวในเรื่องการป้องกันตัวจากทางอากาศ แต่ระบบโซน่าร์เพื่อการต่อต้านเรือดำน้ำนี่สิครับ ถ้าจะปรับปรุงให้ทัดเทียมไม่รู้ว่าต้องใช้เงินอีกเท่าไร
จริงด้วยครับตามเอกสาร PDF นั้นระบบควบคุมการจราจรทางอากาศจะถูกติดที่สนามบินอู่ตะเภาครับ(อ่านไม่ละเอียด)
ในส่วนของการปรับปรุงเรือชุด ร.ล.นเรศวร นี้ก็ตามที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ครับว่านอกจากการสำรวจของ SELEX Sistemi อิตาลี และ Lockheed Martin สหรัฐฯแล้วก็ต้องดูต่อครับว่าในอนาคตกองทัพเรือจะมีข่าวการเชิญบริษัทอื่นอีกหรือไม่เช่น Thales หรือ Raytheon ซึ่งจะทำให้พอมองภาพการปรับปรุงที่ชัดเจนขึ้นครับ
สำหรับในส่วนเรือชุด ร.ล.เจ้าพระยา และ ร.ล.บางประกงนั้นส่วนตัวคิดว่าจะมีจะมีการปรับปรุงเฉพาะการเปลี่ยนไปติด C-802A ครับ เนื่องจากเรือชุดนี้นั้นมีพื้นฐานมาจากเรือชั้น Type 053H1 Jianghu ซึ่งค่อนข้างจะมีพื้นที่จำกัดในการติดตั้งระบบควบคุมและอาวุธใหม่ๆ และถ้าดูจาการงบประมาณที่จำกัดและต้องจัดใช้ในหลายๆโครงการแล้ว เรือชุดนี้คงจะไม่น่าจะมีการติดตั้ง LY-60 ในเร็วๆนี้ครับ
ไม่มีใครเอ่ยถึงปืนรองเลย
จะออกมาเป็นแบบไหน
40/70 แท่นคู่ (เป็นไปได้ค่อนข้างสูง)
หรืออะไรในใจคุณ
เหตุผลคือ เป็นปืนที่มีความไว้ใจได้สูง อัตรายิง 600 นัด/นาที กระบอกละ 300 นัด/นาที ถ้าใช้ระบบ fast forty จะยิงเร็วกว่านี้อีก นับเป็น CIWS (Dardo)ที่ไว้ใจได้ระบบหนึ่ง
http://en.wikipedia.org/wiki/DARDO
http://www.otomelara.it/OtoMelara/EN/Business/Sea/Small_Calibres/index.sdo
อีกอย่างคือจุดตรงนั้นได้ถูกออกแบบมาแบบเดียวกันกับระบบนี้ การไปใช้ปืน 30 ม.ม. ดูออกจะเป็นการลดอำนาจการป้องกันตัวเองไป
โดยส่วนตัวแล้วเรือฟริเกต หรือ ตกฝ. ยังไม่ควรมีโรงเก็บ ฮ. มีแค่ลานจอดเหมือน ร.ล.กระบุรี ,ร.ล.สายบุรี ก็พอ ส่วนเหตุคือจริงๆแล้วมันมี ฮ.ไปประจำการ เปลืองเงิน
ของเก่าแค่ซ่อมให้บินได้ บอกไม่มีเงิน ขัดกันยังไงไม่รู้กับการที่บอกว่ามีไว้เผื่อวันหน้า
ถ้าระบบอำนวยการรบ เป็น Selex...
The Selex Sistemi Integrati NUMC/NUPA combat system is a totally new system comprising of the sensors, CMS (combat management system) and weapons. All operations can be wholly managed by the CMS, including fire control, internal and external communications, message handling and blind pilotage.
เรดาร์
The ship is fitted with a Selex RAN-30X/I multi-mode radar operating at x band. RAN-30X has four modes: surface and air surveillance mode for small air / surface targets; navigation and helicopter control mode with high antenna rotation speed for navigation close to the coastline; over-the-horizon (OTH) detection mode with low antenna rotation speed and long range detection capability; and anti-sea-skimming missile detection mode, with high antenna-rotation speed to detect and track very small manoeuvring targets.
There is also an SPS-753 navigation radar operating at I-band.
สรุปออกมา จะคล้าย ๆ กับเรือลำนี้ รึเปล่า ?
Commandante Class Light Combatant Ships (อดีต เกือบจะเป็นเรือ OPV ชั้น ปัตตานี)
อืมมมม น่าสนใจครับ
ว่าแต่มันจะไหวไหมหว่า? ...... เพราะงบของเราแค่ 3 พันล้าน และต้องหารสองด้วยนะครับเพราะเราต้องทำสองลำ เท่ากับมีงบลำละ 1,500 ล้าน ...... แค่ลำพังVLS กับ ESSM ก็ปาเข้าไปเกือบ 1พันล้านซะแล้ว = =!
ผมว่าในความขาดแคลนมันยังโชคดีอยู่อย่างที่สิ่งที่ต้องการ upgrade มันยังมีแค่ VLS กับพวก Naval Electronic บางรายการเท่านั้น ไม่งั้นตายแน่เลย
หรือ ถ้าระบบอำนวยการรบ และเรดาร์ เป็นของ Selex แบบ IPN-S
IPN-S Combat Management System
SELEX Sistemi Integrati boasts a dedicated exhibition area inside the Finmeccanica stand, housing a MAGICS-2 and a NUM console, which are part of the CMSs designed by the Company. On board, the consoles are part of the Command and Control Rooms and represent a basic component of the IPN-S System. MAGICS-2 are multifunctional consoles, suitable for a wide rank of mission profiles (missile guidance, target acquisition and management); NUM are the main consoles within the onboard Operations Room, playing the role of messages and information integration and management. The large screen plays a demo about a typical Joint Forces mission, showing the enormous potential added by the Integration concept to Command and Control architectures, that can be applied to a targeted battlespace.
The IPN-S Combat Management System integrates Combat System sensors, Weapons, EW (ESM/ECM) Systems, Tactical Data Links and Navigation Systems into a Main System, providing the Command Team with the facilities to operate the Combat System and fulfil the ship Operational Tasks and Missions.
Thanks to its scalar architecture, the IPN-S is a solution for any size and class of vessel starting from Patrol Vessels through Aircraft Carriers.
เสากระโดง เรดาร์ อาจจะมาในรูปแบบใหม่ คล้าย ๆ ลำนี้ รึเปล่า ?
ในส่วน MK-41 ผมว่าปัจจุบัน คงไม่ได้แพงเหมือนเมื่อก่อนครับ...และรู้สึกว่า ถ้าเราใช้การขอซื้อแบบ เกาหลีใต้ ด้วยความช่วยเหลือของ ทร.สหรัฐ...ระบบ MK-41 ของเรา จะจ่ายชำระพ่วงไปกับ การติดตั้งระบบ MK-41 ของเรือสหรัฐ ที่อยู่ระหว่างติดตั้งครับ...ค่าใช้จ่ายของเราจะแชร์กันทั้ง 2 ฝ่าย...ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ....
ท่าน juldas ครับ เรือคอร์เวตในรูปนี้เป็นเรือคอร์เวตชั้นอะไรครับ ดูจากรูปแล้วโดนใจสุดๆ มีครบเครื่องเลยนะครับ มีทั้งปืน 76 ซูปเปอร์ราปิด ทั้ง harpoon และบนหลังคาโรงเก็บฮ.ยังมีระบบฟาลังก์หรือ SEA RAM ติดตั้งอีก ระบบอำนวยการรบและเรด้าร์น่าประทับใจจริงๆครับ
ดูจากขนาดแล้วน่าจะมีขนาดประมาณ 85 - 90 เมตร ระวางน่าจะอยู่ประมาณ 1400 -1600 ตัน แหมถ้า OPV เราเป็นเรือคอร์เวตระดับขนาดนี้ได้ละก็ สุดเจ๋งเลยครับ
เท่าที่มองได้คราวๆตอนนี้ในส่วนการปรับปรุงเรือชุด ร.ล.นเรศวรคือ การเปลี่ยนระบบอำนวยการรบของ SELEX, Radar ตรวจการพื้นน้ำ/อากาศ Type 360 จีน และ ติดตั้ง Mk41 VLS พร้อม ESSM ครับ
ซึ่งในการจัดหา Mk41 VLS นั้นส่วนตัวคิดว่าในขั้นต้นน่าจะจัดหาเฉพาะแท่นยิงให้ได้ครบ2ชุดยิงครับ แต่ตัวจรวด ESSM นั้นอาจจะจัดหามาไม่ถึง 64นัด เช่นจัดหาชุดบรรจุ Mk25 Quad Pack พร้อม ESSM สัก4-8ชุด(16-32นัด) สำหรับเรือสองลำซึ่งตรงนี้จะลด งป.ในการจัดหาได้มากครับ เมื่อมี งป.พอค่อยจัดหาตัวจรวดเพิ่มภายหลังได้
ส่วนการปรับปรุงRadar ตรวจการพื้นน้ำ/อากาศ Type 360 จีนเป็นแบบอื่นซึ่งถ้าดูจากโครงสร้างของเสากระโดงเรือชุดนี้แล้วก็คงจะติดได้1ระบบ ซึ่งก็คงต้องเป็นRadar ตรวจการพื้นน้ำ/อากาศเหมือนกันครับ เช่น RAN-30X/I เช่นเดียวกับที่ติดกับเรือชุด ร.ล.ปัตตานี
http://www.selex-si.com/IT/Common/files/SelexSI/brochure_datasheet/2008/Data_Sheet/RAN30X.pdf
ส่วน Radar ตรวจการณ์แบบอื่นที่มีขีดความสามารถในการจับเป้าเพื่อควบคุมการยิงได้เช่น เช่น KRONOS NV, แต่ถ้าเป็นของ Thales ตามข้อมูลข้างต้นจริงก็น่าจะเป็น SMART-S Mk2 ครับ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น Radar ควบคุมการยิงสำหรับ ESSM ไปด้วยในตัว
ซึ่งแนวทางในการปรับปรุง Radar ตรวจการใหม่ประจำเรือนั้นก็มีการติด Radar ตรวจการณ์ที่เสากระโดง1ตัวกับ STIR ชุดที่2ที่ท้ายเรือ หรือติด Radar 3D Multi-Function ตัวเดียวที่เสากระโดงเรือ แต่แบบหลังจะดูประหยัดกว่าครับ
อย่างไรก็ตามถ้ามีการปรับปรุงเฉพาะส่วนข้างต้นจริงก็เป็นไปได้มากว่าระบบตรวจจับและอาวุธจากจีนบางส่วนอาจจะยังคงติดตั้งในเรือชุดนี้ครับเช่น Sonar แบบ SJD-7 ระบบ ESM,ECM และปืน 37มม.แฝดพร้อมระบบควบคุมการยิง ซึ่งอาจจะมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อกับระบบอำนวยการใหม่ของยุโรปครับ
แต่ที่ดูจากเรือชั้น ของบังคลาเทศที่เป็นเรือต่อจากเกาหลีใต้ใช้ระบบอำนวยการ Thales TACTICOS และมีอาวุธหลักเช่นปืนใหญ่ OTO 76mm ,OTObreda 40mm แฝด และ อาวุธปล่อยต่อต้านเรือผิวน้ำ Otomat Mk2 แต่ติดอาวุธปล่อยต่อสู้อากาศยานแบบ FM-90N จากจีนได้นี้
ก็ชักจะสงสัยครับว่าระบบอำนวยการจาก SELEX นี้อาจจะทำการเชื่อมกับปืน37มม.แฝดจีนจนใช้งานได้ก็ได้ครับ
ถ้าจะประหยัดงบประมาณให้อยู่ในวงเงิน ก็คงต้องเป็นระบบอำนวยการรบ NUMC/NUPA combat system และ เรด้าร์ RAN 30X/I แบบท่าน Juldas หาข้อมูลมาให้ แต่กลับดันจะไปลงทุนในระบบ VLS Mk-41 พร้อมจรวด ราคาชุดละกว่า 1000 ล้าน
โหแล้วมันจะไปสู้เรือชั้นลิเกียวได้ไงครับนี้ สู้จัดหาเรด้าร์ ระบบอำนวยการรบดีๆก่อน แล้วไปซื้อ VLS mk-41 มาแต่ ESSM เอามาแค่ลำละ 8 ลูกไปก่อน แล้วค่อยทะยอยซื้อ ESSM มาเพิ่มทีหลังโดยใช้งบของทร.เองจะยังดีกว่าครับ เพราะไงซะถ้าระบบดีไว้ก่อนแล้ว ยามสงครามค่อยร้องของตัวจรวดมาเพิ่มยังจะดูดีกว่ามากครับ ไม่ต้องมาปวดหัวภายหลัง ถ้าตัดราคา ESSM ไปได้ ก็ถูกลง 1000 กว่าล้านเลยครับ ซึ่งอาจจะอยู่ในงบประมาณ
เรือชั้น Baynunah ครับ..ท่าน neosiamese
http://www.naval-technology.com/projects/baynunah/
แต่เดิม สเปค ของเรือชั้นนเรศวร เป็นปืน Oto Breda 30 m.m. แท่นคู่ ซึ่งถ้าระบบมาจาก Selex ผมว่า ก็น่าจะเปลี่ยนปืนคู่กราบซ้าย-ขวา จากจีนได้...
เรือชั้น นเรศวร เป็นเรือที่ออกมาแบบ Meko design...ซึ่งเรื่อง กระโดงเรือ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาถ้าจะปรับปรุง หรือ เปลี่ยนร่าง ครับ...
The MEKO family of warships was developed by the German company Blohm+Voss MEKO is a registered trademark. The portmanteau stands for "Mehrzweck-Kombination" (English: multi-purpose-combination). It is a concept in modern naval shipbuilding based on modularity of armament, electronics and other equipment, aiming at ease of maintenance and cost reduction.
งบประมาณผมว่า บทสรุปน่าจะขยายไปประมาณ 3,500 ล้านบาท ( 100 ล้านเหรียญ )
ระบบ VLS 2 ระบบ ประมาณ 50 ล้านเหรียญ (ซึ่งผมว่ามันไม่น่าจะถึง...มันแค่ 2 ชุดเอง...ชุดละ 8 เซล...ในขณะที่ สหรัฐ ทำสัญญาติดตั้งระบบ VLS ให้กับเรือชั้น บลัคเร่ย ลำใหม่ กับของ เรือใหม่ เกาหลีใต้ รวมทั้งหมด 3 หรือ 5 ลำ ผมจำไม่ค่อยได้ มูลค่าสัญญาประมาณ 190 กว่าล้านเหรียญ ในขณะที่ต่อลำใช้ชุด MK-41 มากกว่า ชั้นนเรศวร หลายเท่า )
ระบบอำนวยการรบใหม่ ประมาณ 50 ล้านเหรียญ
ผมว่าน่าจะพอ นะครับ...เพราะ คาดว่า ทร. คงใช้การสั่งซื้อในส่วนของ MK-41 ในแบบการช่วยเหลือทางการทหารจากสหรัฐ
ตัวอย่าง ครับ...ไม่รู้ผมจะเข้าใจถูกรึเปล่า ครับ..
Nov 9/06: Lockheed Martin Maritime System and Sensors/ Littoral Ships and Systems in Baltimore, MD received a $60.7 million firm-fixed-price modification under previously awarded contract (N00024-98-C-5363) for procurement of four MK 41, MOD 15 Baseline VII, Vertical Launcher Ship (VLS) Sets. This work is taking place on behalf the Governments of Australia (73.2%) and Spain (26.8%) under the Foreign Military Sales Program.
4 ระบบ ถัวเฉลี่ยระบบละ 12 ล้านเหรียญ
Bethesda, MD-based military contractor Lockheed Martin
received a $127 million foreign military sale contract from the U.S. Navy to deliver their MK 41 Vertical Launching System for three Republic of Korea KDX-III destroyers.
The naval missile launcher is capable of launching missiles for every threat in naval warfare, including anti-air, anti-submarine, ship self defense, land attack, and missile defense.
Lockheed Martin will issue subcontracts to United Defense of Aberdeen, SD, and Metric Systems of Fort Walton Beach, FL, to produce subassemblies for the MK 41 VLS.
ของ ทร.เกาหลีใต้ ถัวลำละ 40 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อลำก็มากกว่าของเรือชั้น นเรศวร มากอยู่ครับ...
ซึ่งผมว่า ต่อ 1 ระบบ ที่ติดตั้งในชั้น นเรศวร ไม่น่าจะเกิน 12-15 ล้านเหรียญ ต่อ 1 ระบบ ก็น่าจะประมาณ 420 - 500 ล้านบาท
อันนี้เพิ่มเติมนะครับ ในส่วนของเรือชั้นนเรศวรจะมีการติดตั้ง STIR เพิ่มเติมอีกตัวที่ด้านท้ายเรือบริเวณเหนือโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ครับ พอดีจะสอบแล้วก็เลยรีบเขียนอะครับเลยลืมเรื่อง STIR ไปเลย แต่อุปกรณ์นี้ก็รวมอยู่ในงบประมาณ 4 ปีเหมือนเดิมนะครับ ส่วนเรดาห์เดินอากาศตัวใหม่ที่จะมาแทนของจีนที่ติดตั้งบนสะพานเดินเรือนั้นยังไงก็เป็นของตะวันตกครับ แต่ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าน่าจะเป็นของ Thaless ครับเพราะ ว่าด้วยเหตุผมบางประการ บริษัทที่ติดต่อ Thaless มีภาษีดีกว่านิดหน่อยครับ หิหิ แล้วอย่างที่มี comment กันนั้น คงได้แต่ท่อยิงแหละครับ ตัวจรวจคงไม่ได้ไปตามระเบียบครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่า ทร.น่าจะทำได้ดีกว่านี้นะครับ ไหนๆก็จัดหามาแล้ว ก็น่าจะทำให้มันพร้อมใช้งานได้เลย เป็นอย่างนี้ตั้งแต่รับเรือแล้วครับ Install ไม่ครบอย่างที่ได้วางแผนไว้
แล้วตอนนี้ก็ได้ข่าวแว่วๆมาว่า อาจจะมีเรือรบไทยไปโผล่แถวทะเลแดงครับ เนื่องจากข่าวๆที่หลายๆคนได้ทราบนะครับว่า ช่วงนี้มีโจรสลัดพลุกพล่านเยอะครับแถวๆนั้น เราก็อาจจะได้เห็นเรือรบไทยไปอยู่กับกองเรือผสมนานาชาติก็ได้นะครับ
และเรื่อง Yl-60 อันนี้ไม่ comfirm ครับผม 555+ โดยส่วนตัวนะครับ เรือชั้นเจ้าพระยาติดแค่ C-802 ก็ ok แล้วครับตอนนี้ เพราะสภาพเรือมันก็ไม่น่าจะไปการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงอะไรกับมันมากหรอกครับ อันนี้โดยความเห็นและสิ่งที่ได้ไปพบมานะครับ�
แต่งวดนี้ก็ดีใจนะครับที่เรือเราได้รับการติดตั้งอะไรๆ ให้มันดีขึ้นกว่าที่มันเป็นอยู่ในปัจจุบัน สำหรับวันนี้ก็สวัสดีครับ
เปลี่ยนของใหม่ แล้วของเกา ที่โละทิ้งจะทำอย่างไรดีครับ
เสียดายเหมือนกัน ขายจีนถูกๆ ก็คงไม่เอาแล้วมั้ง
เรือหลวงชุดนเรศวร สามารถติดแท่นยิง Mk41 VLS ได้ลำละแค่ 1 แท่น 8 ท่อยิงใช่มั๊ยครับ พอดีเรื่องเรือรบไม่ค่อยรู้เรื่อง จริงๆที่อ่านมาหลายกระทู้ ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ เพราะบางทีตัวย่อมันเยอะ แต่กำลังพยายาม
ค่อนข้างจะเห็นด้วยอย่างมากครับที่กองทัพเรือจะส่งเรือเข้าร่วมลาดตระเวนกับกองเรือนานาชาติในทะเล เพราะในแง่ผลประโยชน์นั้นเรือพลเรือนในสังกัดไทยก็ถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า2ลำครับ และมีผลดีในแง่ภาพลักาณ์ของนานาประเทศด้วย
ในส่วนการปรับปรุงเรือชุด ร.ล.นเรศวรนั้น การติดRadar ควบคุมการยิง STIR ตัวที่สองที่เหนือโรงเก็บ ฮ.หลังเรือนั้นก็ชัดเจนครับ เพราะถ้าจะไปติดระบบควบคุมการยิงตัวอื่นอย่าง SELEX NX-25X นั้นคงจะดูแปลกๆครับ ซึ่งในส่วนของระบบอำนวยการรบและRadar อำนวยการ ตรวจการณ์อากาศ/พื้นน้ำ ก็เช่นกันครับ เพราะเรือชุดนี้นั้นจะติดระบบอำนวยการ ZKJ-3T และ Radar Type 360 จีน ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็นของยุโรปอย่างที่ตั้งข้อสังเกตุเช่น SELEX IPN-S ซึ่งเรือชั้น Baynunah ใช้ร่วมกับระบบ MK56 VLS และ ESSM นั้นก็ต้องเปลี่ยน Radar บนสะพานเดินเรือใหม่ครับ
ซึ่งส่วนตัวคิดว่าอาจจะไม่ใช่ Radar 3D อย่าง SELEX KRONOS 3D NV หรือ Thales SMART-S Mk.2 ตามที่มีการแนะนำไปในข้างต้นครับ แต่น่าจะเป็นระบบที่เบากว่าอย่าง Selex RAN-30X/I ที่ติดบนเรือชุด ร.ล.ปัตตานี ซึ่งถ้าดูจากรูปแบบของเสากระโดงเรือชุดนี้และการจัดหาที่ผ่านมาๆ RAN-30X/I ค่อนข้างจะเหมาะกว่าครับ แต่ถ้าได้ 3D Radar อย่าง SMART-S Mk2 จริงจะดีมากครับ(แต่ไม่ทราบจะติดจริงได้หรือไม่ คงต้องรอข่าวว่า กองเรือฟริเกตที่๒ จะเชิญ Thales มาสำรวจเรือเมื่อไรครับ)
เรื่องแท่นยิง Mk41 ที่จะจัดหามาพร้อมกับอาวุธปล่อย ESSM ก็เช่นกันครับ ส่วนตัวตัวคิดว่าจัดหาแท่นยิงติดตั้งเรียบร้อยพร้อมจรวดจำนวนหนึ่งนั้นก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ
เพราะอย่างในต่างประเทศเองนั้นเรือที่คุณสมบัติระบบสูงกว่าเรือที่กองทัพเรือไทยมีประจำการก็ไม่ได้สมบูรณ์นักครับ ตัวอย่างเช่นเรือชั้น F310 Fritjof Nansen ของนอร์เวย์ที่เป็นเรือติดระบบอำนวยการ Aegis พร้อม SPY-1Fนั้นยังมีการบ่นๆเลยครับว่าปัจจุบันเรือชุดนี้ที่ต่อออกมา3ลำติดแค่ปืนใหญ่ OTO 76mm, Mk41 1ชุดกับ ESSM 32นัด และ Torpedo Stingray 6นัดกับ ปก.12.7มม.เท่านั้น แต่ไม่มีปืนรองกับ CIWS อวป.ต่อต้านเรือผิวน้ำก็ยังไม่มี(NSM ไม่ทราบจะพัฒนาเสร็จเมื่อไร) ฮ.ประจำเรือ NH90 ก็ยังไม่มา แถม Mk41 อีกชุดหรือ SM-2MR ก็ไม่ทราบจะมีการจัดหาหรือไม่เลยครับ
ถ้ามีแท่นยิงจัดหาจรวดมาก่อน 8-16นัดก็ถือว่าใช้ซ้อมยิงทดสอบได้ครับ แล้วค่อยจัดหามาบรรจุให้ครบภายหลังได้
ว้า....อย่างนี้ ก็ไม่ได้ลุ้นเลย..จิ...มาแต่ลำกล้อง กระสุนไม่มี...แต่กว่าจะครบ 4 ปี ก็คงจะมี กะตัง ซื้อกระสุน แว๊วววว..เน๊อะ....
พี่จูลดาสครับ ที่พี่โพสต์รูปมาเนี๊ยะ ผมฝันมานานแล้วครับ ไม่เป็นดังหวังซักกะอย่าง อิอิ
เดี๋ยวเอาไปใส่ในโมเดลก็ได้ ของจริงไม่ได้ติด ติดเองซะเลยดีกว่า 5 5 5
จากราคาระบบอำนวยการรบที่เพื่อนๆประมาณไว้ 50 ล้านเหรียญสำหรับ 2 ระบบ หรือ ประมาณ 1,750 ล้านบาท
SMART-Smk-2 + STIR 180 สำหรับเรือ 2 ลำ ก็น่าจะอยู่ราวๆ 1,400-1,500 ล้านบาท
รวมกันประมาณ 3,200-3,300 ล้านบาท
ถ้าแท่นยิง VLS Mk-41 ขอกู้เงินอเมริกาจัดหามาโดยผ่านโครงการ FMS แล้วลูกจรวด ESSM ค่อยทะยอยซื้อเอาทีหลัง อย่างนี้ค่อยเป็นไปได้ครับ แหมทั้งทีแล้วก็น่าจะกู้ซื้อ RAM รุ่น 21 นัดกับลูกจรวด ESSM มาพร้อมกันเลยดีกว่านะครับ
ถ้าผ่านขอกู้ส่วนที่เหลือผ่าน FMS ได้ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงครับที่จะสามารถ Upgrade เรือชั้นนี้ได้ครบตามสเปกที่ต้องการ
สาธุ!!! ขอให้มันมาและมาแบบครบๆด้วยเทิด ตั้งแต่ขึ้นระวางประจำการ นี่ก็ปาเข้าไปสิบกว่าปีแล้ว ไม่อยากรออีกต่อไปแล้วครับ
อยากได้ RAM Mk31 ซักแท่นนึงด้วยครับ ลำพัง ESSM นั้น ถึงแม้ว่าเป็นแท่น Mk41 quad-pack ซึ่งบรรจุได้ถึง 32 นัดก็ตาม แต่เรดาร์ควบคุมการยิง STIR ใช้ควบคุม ESSM ได้เพียง 1 นัดต่อเรดาร์ 1 ชุดเท่านั้น ถ้าเรือโดนโจมตีด้วยอาวุธนำวิถีมากกว่า 2 นัดขึ้นไป มีสิทธิ์จบข่าวได้เลยครับ
ดังนั้นวันนี้ขอเสนอไอเดียใหม่ๆ นะครับ คือ บริเวณพื้นที่ว่างหน้าสะพานเดินเรือนั้น ตรงกลางขอเป็น RAM ซัก 1 แท่นบนดาดฟ้ายก ขนาบซ้ายขวาด้วย Mk56 VLS dual-pack (ESSM รวม 24 นัด) ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้ไหมครับ ส่วนอีกไอเดียหนึ่ง คือ กรณีที่พื้นที่ไม่พอ ขอเป็น RAM 1 แท่นบนดาดฟ้ายกหน้าสะพานเดินเรือ และ Mk56 VLS ในตำแหน่งของปืน 37 มม.เดิม ขนาบซ้ายขวาของโรงเก็บ ฮ. ครับ
สำหรับ sensor นั้น ก็มี Thales SMART-S Mk2 สำหรับติดตามเป้าให้กับ ESSM + RAM แทนเรดาร์ Type-360 เพิ่ม Thales STIR 1 ชุดตามแผนเดิม สำหรับนำวิถีให้กับ ESSM และถ้าเป็นไปได้ขอ Mirador ซัก 1-2 ชุดด้วยก็ดีครับ
ส่วนตัวคิดว่าถ้ามองจากการออกแบบตัวเรือชุด ร.ล.นเรศวรแล้ว พื้นที่ว่างหน้าสะพานเดินเรือนั้นไม่เหมาะสำหรับจะทำดาดฟ้ายกสำหรับติดตั้งแท่นยิงอย่าง Mk31 กับ RAM ครับ เพราะพื้นที่ตรงนั้นได้เตรียมไว้สำหรับ Mk41 VLS แล้ว และก็จะเกะกะปืนใหญ่ 5" ด้วย
ถ้าจะมีการติดระบบป้องกันระยะประชิดเช่น RAM จริงนั้นคงจะติดในส่วนของท้ายเรือครับ เช่นถอดระบบควบคุมการยิงปืน 37mm แฝดออกแล้วติด RAM ที่หลังคาโรงเก็บแท่น หรือถอดระบบควบคุมการยิงและปืน37mmออก แล้วติดเป็น RAM หรือ Sadral ข้างโรงเก็บแทนที่กราบเรือข้างโรงเก็บ ฮ.ทั้งสองด้าน ส่วนหลังคาโรงเก็บก็ติดระบบ Optronic อย่าง Mirador ครับ