หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เกาหลีใต้ปล่อยเรือรบ Aegis ลำที่สองลงน้ำแล้ว

โดยคุณ : easycheese เมื่อวันที่ : 20/11/2008 19:23:12


เมื่อห้าวันก่อน (เพิ่งทราบ) ว่าเกาหลีใต้ได้ปล่อยเรือรบชั้น  Sejong  ระวางขับน้พ 7,600 ลงน้ำแล้ว เรือลำนี้ติดตั้งระบบอำนวยการรบ   Aegis โดย Lockheed Martin ที่สามารถทำการรบได้สามมิติ คือ อากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ
เรือลำนี้ทำความเร็วได้ที่  30 นอท ระยะ ทำการ  1,000 กิโลเมตร มีลูกเรือสามร้อยคน และรองรับเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางได้อีกสองลำ มี Missile และตอปิโดรวมกัน 120 ลูกแต่ติดตั้ง VLS ที่สร้างขึ้นเองภายในประเทศครับ

สำหรับ Missile 

SM-2 Block IIIA/B  พื้นสู่อากาศ ระยะ  170 กม
Cheonryong พื้นสู่พื้น 500 กม
และตอปิโดระยะสั้นที่  19 กม

นอกจากนี้ยังมี
Hae Seong
RAM Mk 31
5-inch/62-caliber Mk 45 Mod 4

สนนราคาค่าตัว  หนึ่งพันล้านดอลล่าห์ครับ ตีเป็นเงินไทยแบบคร่าวๆ ก็ เกินกว่า สามหมื่นล้านบาทไป ไม่กี่พันล้านครับ




ความคิดเห็นที่ 1


หน้าตาสาวไฮโซ ครับ
โดยคุณ easycheese เมื่อวันที่ 19/11/2008 02:41:19


ความคิดเห็นที่ 2


     มาแจมด้วยครับ เรือ พิฆาต Sejong the Great class Destroyer

 -ราคาต่อลำ      923 Million US. Dollar

-ระวางขับน้ำ     ปกติ  7,700 ตัน

                           เต็มที่  10,000 ตัน  +- 290 ตัน

-ความยาว             165.9 เมตร

-ความกว้าง             21  เมตร

-กินน้ำลึก                 14 เมตร

-เครื่องยนต์           COGAG  4 x GE LM2500

-ความเร็วสูงสุด      56 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นไป  ( 30 น๊อต+ )

-พิสัยปฏิบัติการ      5,500  ไมล์ทะเล

-ระบบตรวจจับ         เรดาร์ ระบบ AEGIS  AN/SPY-1D

 

         

[edit] Missile

 

       


โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 19/11/2008 05:01:51


ความคิดเห็นที่ 3


      ดูเผิน นี่มันเหมือน อาร์ลี่ย์ เบิร์ก ของ อเมริกาเลยน่ะเนี่ย

 

 เอาภาพ Arleigh Burke  มาเทียบดู ผมว่ามันคล้ายกันมากครับ

 อาจจะเป็น เวอร์ชั่น เกาหลีใต้ อิอิ


โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 19/11/2008 05:06:55


ความคิดเห็นที่ 4


เรือ KDX-III ลำแรกคือ DDG-991 King Sejong the Great ได้ปล่อยลงน้ำไปตั้งแต่ปีที่แล้วและทำการทดสอบมาเป็นระยะเวลาหนึ่งคาดว่าน่าจะเข้าประจำการได้ภายในปี2008นี้ครับ

ส่วนเรือลำที่2คือ DDG-992 นั้นคาดว่าจะใช้ชื่อ Yulgok Yi I ครับ ซึ่งปล่อยลงน้ำที่อู่ Daewoo ไปแล้วและคาดว่าจะเข้าประจำการในปี 2010 ครับ ซึ่งในขั้นต้นกองทัพเรือเกาหลีจะต่อเรือชุดนี้3ลำครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 19/11/2008 05:11:14


ความคิดเห็นที่ 5


........อาวุธครบเครื่องตามแบบฉบับ อเมริกานาวี เลยน่ะครับ  สามารถ ป้องกันและโต้ตอบได้ทุกระยะ สิ่งนึงที่ชี้ว่าเรือเป็นตัวรุกคือ ระบบ ขีปนาวุธ ครูซ ระยะยิงไกล 500 ก.ม.  ซึ่งทำให้เพื่อนบ้าน พัฒนาและยัดใส่ในเรือตามด้วย
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 19/11/2008 06:12:40


ความคิดเห็นที่ 6


 

    ราคา 1,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ 35,000 ล้านบาทต่อลำ!    โดยเป็นเรือ aegis ที่ดีที่สุดในโลก   ราคานี้ถือว่าถูกมากๆ   เพราะเรือชั้นArleigh Burke และ F-100 นั้นราคากว่า 50,000 ล้านบาทโดยเพาะ F-100 เท่าที่ทราบว่าทร.ออสซี่จัดหานั้นราคาราวๆ 56,000 ล้านบาทต่อลำ   และมีระวางเต็มที่แค่ 6,000 กว่าตันเท่านั้น    จำนวนอาวุธนำวิถีก็ไม่ได้มากถึงกว่า 120 ลูก   ซึ่งจะดูเป็นเรือ aegis ชุดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพต่ำสุดในหมู่เรือ aegis ชุดใหญ่ทั้งหมด(ใช้เรด้าร์ SPY-1D)      แต่ยอมรับว่าราคา KDX-3 นี่น่าสนใจมากๆ   แม้ว่าอาจจะต้องใช้อาวุธเกาหลีเสียเป็นส่วนใหญ่     แถมมีอาวุธครูสย์ระยะยิงกว่า 500 กม.อีก   

    ผมว่าราคานี้  ทร. จัดหามาสัก 1 ลำแทนเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ 2 ลำไม่ดีกว่าหรือ   เพราะราคาใกล้เคียงกันครับ    เอามาเป็นเรือธง   อำนาจการยิงดุสุดๆ  

 

 

 

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 19/11/2008 07:47:10


ความคิดเห็นที่ 7


เรือ KDX-III นั้นถ้าดูแบบจริงๆแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นแบบเฉพาะของตนเองที่ต่างไปจากเรือชั้น Arleigh Burke ของสหรัฐฯครับเช่นขนาดมิติ การออกแบบตัวเรือหลายๆจุด ตรงนี้คล้ายๆกับเรือชั้น Kongo หรือ Atago ของญี่ปุ่นครับซึ่งถึงแม้ว่ารูปทรงจะคล้ายๆกับ Arleigh Burke แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายๆจุด

รวมถึงอาวุธที่ติดตั้งซึ่งถ้าดูจะเห็นได้ว่าเป็นอาวุธที่เกาหลีใต้พัฒนาเองหลายระบบครับเช่น อาวุธปล่อยต่อต้านเรือผิวน้ำ SSM-700K Hea Seong จำนวน16นัด(ซึ่งเรือ Arleigh Burke Flight หลังๆที่ต่อนี้ไม่ติด Harpoon แล้วด้วยซ้ำ ซึ่งเรือของเกาหลีใต้ติดอาวุธแบบนี้เท่าๆกับเรือพิฆาต Type 052B ของจีนครับ) Torpedo ยิงจากท่อยิงแนวดิ่งแบบ K-ASROC และ อาวุธปล่อยร่อนแบบ Hyunmoo-III ซึ่งทำการยิงจากท่อยิงแนวดิ่งแบบ K-VLS ซึ่งเกาหลีพัฒนาเองเช่นกัน ซึ่งระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆที่เกาหลีพัฒนาเองนี้ก็น่าจะมีผลด้านราคาในการสร้างเรือด้วยครับ

เรือชั้น F-100 Alvaro de Bazan หรือที่ออสเตรเลียเลือกแบบเป็นเรือพิฆาตป้องกัีนภัยทางอากาศชั้น Hobart นั้นถึงแม้ว่าจะมีระวางขับน้ำที่ 5,800-6,250ตัน แต่ระบบที่ติดตั้งนั้นก็ถือว่ามีขีดความทันสมัยสูงครับ ซึ่งเรือชั้นนี้ของสเปนก็ได้รับการรองรับคุณสมบัติในการป้องกันภัยทางอากาศให้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯระหว่างเข้าร่วมฝึกซ้อมร่วมนานาชาติมาแล้วครับ

ถ้ากองทัพเรือไทยจะทุ่มงบประมาณจัดหาเรือป้องกันภัยทางอากาศขนาดใหญ่เพียงลำเดียวจริงๆนี้เรือชั้น F-100 ดูเหมาะสมกว่ามากครับ เพราะในส่วนเครื่องยนตร์เรือนั้นเป็นระบบ CODAG ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า COGAG ในชั้น KDX-III มากครับ  และระบบอาวุธหรืออุปกรณ์อื่นๆก็น่าจะเลือกได้หลายแบบตามความต้องการเช่นกันครับ

แต่เอาเข้าจริง ไม่ว่าจะ F-100 หรือ KDX-III ก็ใหญ่ไปสำหรับไทยอยู่ดีครับ(ซึ่งคงจะมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูงเกินเหตุด้วย)
โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 19/11/2008 10:37:29


ความคิดเห็นที่ 8


  ผมก็ว่า F-100 Alvaro De Bazan Class  มันก็ถือว่าสุดยอดครับ

พอดูจากอาวุธที่สามารถ ขนไปกับเรือได้ นี่มันก็เป็นรอง KDX-III ไม่มากนักครับ

  MK-41 VLS จำนวน  48 ลูก

 SM-2MR Block IIIA จำนวน 32 ลูก

 RIM-162 ESSM  อีก 64 ลูก

  แค่นี้อำนาจการยิง ก็เหลือๆ แล้วครับ 

*อาวุธที่มีอยู่บนเรือลำนี้ เอาไว้สอย นกเหล็ก ได้ไม่ต่ำ กว่า 30 เครื่องได้ สบายๆเลย

  ถ้าเรายิงไม่พลาดน่ะ และต้องไม่โดนเขาจมเรือเราก่อนด้วย

 ชุดแรก เครื่องบินข้าศึก อยู่ระยะไกล ทักทายด้วย SM-2MR ไปก่อน

 เครื่องบินข้าศึกที่หลงเหลือเป็นบางส่วน จากการยิง SM-2 ไปเข้ามาระยะไกล  ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ ของ RIM-162 ESSM และ MK-41

 บอกแล้วว่ามันเหลือๆครับ..........

**แต่ถ้า อนาคต ทร.ไทย รวย ขึ้นมา ( ซึ่งโอกาสเป็นไปได้น้อย )

 ก็อยากเห็น  KDX-III  ประจำอยู่ฝั่งอ่าวไทย 1 ลำ

 และ F-100 อยู่ ฝั่งอันดามัน อีก 1 ลำ

 ร่วมกับ เรือฟริเกต แบบ Stealth อีก ฝั่งละ 1 ลำ

คงไม่มีคนอยากจะมาเคาะประตูบ้านสักเท่าไหร่

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 20/11/2008 05:33:14


ความคิดเห็นที่ 9


เรือป้องกันภัยทางอากาศสำหรับกองทัพเรือขนาดไม่ใหญ่มากนักอย่างไทยนั้นควรจะมีอย่างน้อยชุดละ2ลำแบบเดียวกับเรือชุด ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งเป็นเรือชั้น Knox ครับ 

โดยความเห็นส่วนตัวนั้นถ้าแบบเรือจากสเปนนี้เรือ AFCON Corvette ก็ดูจะเหมาะสมที่สุดครับ ทั้งขนาดระวางขับน้ำ ค่าใช้จ่ายในการสร้างและค่าบำรุงรักษาในการปฏิบัติการภายหลัง(เรือยิ่งมีขนาดใหญ่ค่าใช้จ่ายในการออกเรือแต่ละครั้งก็ยิ่งมาก)

หรือถ้าต่อได้ลำเดียวแต่เอาแบบขนาดใหญ่จริงๆนี้ส่วนตัวก็ว่าเรือแบบ F-310 ชั้น Fridtjof Nansen ของนอร์เวย์แต่มีการปรับแต่งอาวุธให้เป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศ(เรือชุดนี้ของนอร์เวย์นั้นออกแบบเป็นเรืออเนกประสงค์แต่เน้นต่อต้านเรือดำน้ำเป็นหลัก) ตามความต้องการของไทยก็น่าจะพอแล้วครับ ระวางขับน้ำที่ 4,600-5,300ตัน พร้อม AN/SPY-1F เพิ่มแท่นยิง Mk41 2ชุดพร้อม ESSM 32นัด SM-2MR 8ขึ้นไปนี้ถือว่าล้ำหน้าในภูมิภาคนี้มากแล้วครับ(พอๆกับตอนที่ไทยสั่งต่อ ร.ล.มกุฎราชกุมาร เมื่อเกือบ30ปีก่อน)

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 20/11/2008 08:23:13