3. เจ้านี่ไม่ใช่ F-15S แต่เป็นของชอบผมก๊าบ

   F-15SG จะกล่าวได้ว่า เป็นเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัย ที่สุดในตระกูล F-15

   มันทันสมัยกว่า F-15E ที่มีประจำการอยู่ในกองทัพอากาศ สหรัฐ และ F-15K ที่มีประจำการอยู่ใน กองทัพอากาศ เกาหลีใต้

   F-15SG ของ สิงคโปร์ ติดเรดาร์ AN/APG-63(V)3  AESA

   F15K ของ เกาหลีใต้ ติดเรดาร์ AN/APG-63(V)1  AESA

 แต่ถึง F-15SG จะมีความทัยสมัยกว่า แต่ระบบอาวุธ ที่ สหรัฐอเมริกา ขายให้ เกาหลีใต้ พร้อมกับ Integrated ให้ติดตั้งกับ F-15K ได้มีความน่าเกรงขาม + ความรุนแรงมากกว่า

  คือ AGM-84K SLAM-ER  และ สามารถติดตั้ง AGM-84H Harpoon ได้อีกด้วย

  *สรุป F-15SG แม้จะมีความทันสมัยกว่า แต่ระบบ อาวุธ อากาศ-สู่-พื้น ที่ติดตั้งอยู่กับ F-15K มี อำนาจในการทำลายล้างสูงกว่า F-15SG

 แต่ในเรื่องการรบ ทางอากาศมีความสามารถ ทัดเทียมกันครับ

   นิตยสาร แทงโก เล่มล่าสุดที่เขียน เรื่อง SU-30MKM............เขียนไว้ตอนท้ายว่า

   นักวิเคราะห์ทางการทหาร ต่างประเทศ ยกให้ SU-30MKM มีความสามารถ มากกว่า เครื่องบินขับไล่ในกองทัพ สหรัฐ ทุกแบบ ยกเว้น F-22 ( เฉพาะกองทัพ สหรัฐ )

    ผมก็คิดว่า..........F-15SG  ก็เหนือกว่าเครื่องบินขับไล่ทั้งของ กองทัพอากาศสหรัฐ และกองทัพเรือ ทุกแบบ ยกเว้น F-22 เช่นกัน ( เฉพาะเครื่องบินของ อเมริกา น่ะครับ )

   และ SU-30MKM กับ F-15SG  ก็คงจะมีความสามารถ สูสีกับ EUROFIGHTER 2000 ( TYPHOON ) และ RAFALE

  ส่วนเขี้ยวเล็บ อากาศ-สู่-พื้น ของ สิงคโปร์ ก็ใช่ย่อยครับ

 AGM-154A ( JSOW )  Joint Standoff Weapons with BLU-111 warheads จำนวน 30 ลูก

  AGM-154C ( JSOW ) Joint Standoff Weapons จำนวน 30 ลูก

 MK-82 GBU-38 ( JDAM ) จำนวน 50 ลูก

   น่าเกรงขาม ไม่น้อยเลยทีเดียว

*เพราะ อเมริกา เสนออาวุธให้เยอะ ขนาดนี้ไง F-15SG ถึงได้ชนะ RAFALE ในการแข่งขัน โครงการ F-X ของ สิงคโปร์

**แล้ว JAS-39C/D ของ ทอ.ไทย จะมีของแรงๆ ติดตัวมาบ้างหรือเปล่าครับ 

  ขอ KEPD-350 สัก 20 ลูก  + RBS-15F อีก 30 ลูก ก็ดีน่ะครับ

AGM-154 JSOW

บ๊ะ....น่าเกลียด พิลึก...หน้า มี สิว ด้วย ทั้งแก้ม ซ้าย แก้ม ขวา...

สู้เครื่อง ซู 30ของมาเลย์ได้ไหมครับ

F-15SG นั้นเลือกกระเปาะชี้เป้าแบบ SNIPER พร้อมระบบค้นหาและชี้เป้าแบบ Infrared เสริม ซึ่งในภาพเครื่องที่เปิดตัวด้านบนจะเห็นติดที่ช่อง Intake ซ้ายครับ

ก็ไม่ทราบว่าสำหรับไทยนั้น บ.ขับไล่ขนาดกลาง-ใหญ่สองเครื่องยนตร์จะมีโอกาสเข้าประจำการในกองทัพอากาศหรือไม่ครับ

คงยากมากพอๆๆกับงมเข็มในมหาสมุทรเพราะนโยบายของกองทัพไทย

เน้นเรื่องการตั้งรับมากกว่าไปโจมตีชาวบ้านเขาและอีกอย่างเครื่องบิน

ขนาด2เครื่องยนต์คงมีค่าบำรุงรักษาสูงมากพอๆๆกับราคาค่าตัวของมัน

และประเทศไทยเราเองคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมาด้วยไม่งั้น

ซู-30คงไม่แพ้ให้แก่กรีเป้นด้วยเหตุผลนี้แต่น่าเจ็บใจอย่างหนึ่งคือ

ทีสิงคโปร์แถมให้สารพัดแต่กับเอฟ-16ไม่แถมอะไรเลยแถมราคายัง

แพงพอๆๆกับชาวบ้านทีมาแข่งขันการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ในบ้านเรา

ประเทศไทยตั้งงบประมาณใว้ที่39000ล้านบาทประเทศทีเสนอมามี

1.รัสเซียเสนอซู-3012เครื่อง+ฮ.MI-17อีก6ลำพร้อมทั้งอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ

2.สวีเดนเสนอJAS-39C/D12เครื่อง+เครื่องบินแจ้งเตือนภัยทางอากาศ

แบบอิริอาย2เครื่อง+เครื่องบินขนส่งอีก1ลำเพื่อใช้ในการฝึกอีก1ลำ+

จรวดต่อต้านเรือรบแบบRBS-15อีกจำนวนหนึ่งและอุปกรณ์อะไหล่และ

ทุนการศึกษาที่สวีเดนอีก80ทุนและsoundcodeของJAS-39มาด้วย

3.เมกาเสนอF-16C/DBLOCK50มา12เครื่องแต่ไม่ได้แถมอะไรให้เลย

แม้แต่อย่างเดียว

และนี้เหตุผลที่ว่าทำไมF-16ของเมกาถึงแพ้ให้กับJAS-39ส่วนของรัสเซีย

ใช้ว่าจะไม่ดีที่แพ้เพราะเครื่องมันใหญ่เกินไปสำหรับบ้านเราและค่าบำรุง

รักษาก็สูงมากเมื่อเทียบกับ2ค่ายที่เหลือ

สวยจริงๆ ดูน่าเกรงขามมั๊กๆมาก คิดว่าน่าจะดีที่สุดในภูมิภาคแล้วมั้ง  โดยส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อออกรบไม่เป็นรอง Su-30MKM จะเป็นรองก็แค่การทำท่างบินอาจไม่หวือหวาเท่าเพราะท่อท้ายเครื่องยนต์ปรับไม่ได้ 

 เห็นแล้วอิจฉาจัง มีของดีๆ ใช้ทั้งนั้น  แถมไม่ได้มีน้อยๆ อีกต่างหาก  เป็นประเทศเล็กนิดเดียวแท้ แต่บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าจนเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคได้ อย่างมั่นคง    นับถือ..........  

ไม่ได้อิจฉาที่เค้ามีเครื่องบินใหญ่กว่าเรา ดีกว่าเรา เยอะกว่าเรา แต่อิจฉาที่ประเทศเค้ามีคุณภาพในหลายๆด้าน   จนรวมกันเป็นความแข็งแกร่งของประเทศ

ธุระกิจตัวแทน ของพี่ เม อยู่บนเกาะโปร์ เยอะ และโปร์ก็มีเงิน พี่เมก็เลยใช้โปร์เป็น AIR SHOW ON SOUTH EAST ASIA 

และอีกอย่าง รบ.ของโปร์ เชื่อถือได้ในการรักษาและขยายธุระกิจ ของพี่เม.....ทั้งๆที่ ที่นั่นก็ค่าใช้จ่ายสูง แต่ความปลอดภัยก็สูงเช่นกัน....