ศก.ญี่ปุ่น"ถดถอย"ครั้งแรก ตลาดหุ้นวูบเมินแผน"จี20"
เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 7 ปี รบ.ระบุไตรมาส 3 หดตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 คาดติดลบยาวตลอดปีหน้า เพราะตลาดส่งออกจะไม่ฟื้น ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับลง ไม่ตอบรับแผนกลุ่มจี 20 กู้วิกฤตการเงิน
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้เผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจประจำไตรมาสที่ 3 ในเบื้องต้นระบุว่าหดตัว 0.1% แย่กว่าที่คาด หลังจากหดตัวไปแล้ว 0.9% ในไตรมาสที่ 2 ทำให้รวมแล้วตลอดทั้งปีเศรษฐกิจหดตัว 0.4% ซึ่งเท่ากับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในทางเทคนิคแล้วเนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นถดถอย สาเหตุหลักเกิดจากการลงทุนของภาคธุรกิจลดลงมากถึง 1.7% ในไตรมาสที่ 3 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกจนทำให้การส่งออกลดลงมาก
นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่าญี่ปุ่นอาจประสบกับภาวะถดถอย 4 ไตรมาสต่อเนื่องกัน ซึ่งจะถือว่าเป็นการถดถอยยาวนานทุบสถิติ และเชื่อว่าในปีหน้าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังคงหดตัว 0.1% เพราะเชื่อว่าภาคส่งออกจะยังอ่อนแอต่อไป ขณะที่นายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจอาจเลวร้ายต่อไปอีกเพราะวิกฤตการเงินในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเข้มข้นขึ้น
รายงานข่าวเปิดเผยว่า นักวิเคราะห์บางคนมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยก่อนที่จะได้รับผลกระทบเต็มๆ จากวิกฤตการเงินโลกด้วยซ้ำไป และถือว่าเป็นการเดินตามรอยของกลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) เยอรมนี ที่เข้าสู่ภาวะถดถอยไปแล้ว ขณะเดียวกันวันเดียวกันนี้นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ที่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ไปแล้วอาจจะเติบโตติดลบในปีหน้า ดังนั้น ต้องเตรียมรับมือความเลวร้ายที่สุด
สำหรับภาวะตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิก ในวันเดียวกันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าแถลงการณ์ของกลุ่มจี 20 ที่ออกมาหลังจากการประชุมที่สหรัฐอเมริกาเพื่อแก้ไขวิกฤตการเงินโลกไม่มีมาตรการอะไรที่เป็นรูปธรรมที่จะสร้างความหวังได้
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ecb01181151§ionid=0141&day=2008-11-18
โอ๊ย ไฟกำลังจะแรงเลยครับปีหน้า คงกลิ่นหอมฉุยพอดี เวลาโดนเผา... ฮึ ๆ ๆ
รักษาฐานที่มั่นกันให้ดีนะครับ ระวังจะละลายได้ง่าย ๆ
ตัวใคร ตัวเผือกครับ
ตอนนี้ได้ข่าวโรงงานในไทยบางแห่งเลิกจ้างพนักงานบางส่วนแล้ว คงมีแต่ข่าวแย่ๆออกมาเรื่อยๆ ปีหน้าทำธุรกิจคงลำบากหน่อยนะครับ ดีอย่างเดียว ช่วงนี้น้ำมันลด อิอิ
**ทำธุรกิจไม่ได้ หันมาซื้อหวยออนไลน์กันเต๊อะ กำไรดีน้อ อิอิ
ถ้าผมมีปัญญาผมจะเอาตัวเองออกเองล่ะครับ ^ ^ ..... บริษัทนี้แย่อยู่อย่างคือ คือน้ำมันแพง ๆ เงินเฟ้อมาก ๆ พี่ท่านไม่ให้อะไรเลย แต่ตอนที่ recession มาแล้วพี่ท่านก็ไม่ตัดอะไรเลยเช่นกัน
อยากเรียนต่ออ่ะ กะว่าเริ่มเรียนปีหน้ากลับมาเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นพอดี ........ ถ้ามันจะฟื้นนะ 555+
ใครมีตังค์ก็เก็บหุ้นถูกได้นะครับ ตอนนี้หุ้นหลายตัวค่ารถเมล์ยังแพงกว่าเลย ถือยาว ๆ กำไรแน่ครับ ^ ^
เสี่ยว่าจะไปซื้อ Lockheed Martin แล้วเปลี่ยนเป็นบริษัทขายเต้าฮวย ..... บริษัทที่เสี่ย Base ด้วยจะได้ครองตลาดแต่เพียงผู้เดียว แล้วเสี่ยก็จะรับทรัพย์
นั่นแน่ เสี่ยแผนสูงนะครับ
นี่เสี่ยกะจะทำให้คู่แข่ง กริปเปน หมดไปใช่ไหมครับ
นั่นแน่ monopoly ตัวจริงเลยอะ...อิ ๆ ๆ (แซวนะครับ)
เอาหน่า ตอนนี้โอกาสเสี่ยทำมาหากิน ก็ต้องเล่นกันสักหน่อยนะ 555+
คุณe21cye ครับ มันเป็นเรื่องปกติของวงการธุรกิจครับ ไม่ใช่แค่ธนาคารที่คุณทำงานที่เดียวหรอกครับ บริษัทอื่นๆก็มีในลักษณะนี้เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจและกิจการของคุณมีค่าโสหุ้ยที่มากจนทำให้เมื่อบวกลบกับผลประกอบการแล้ว กิจการขาดทุนหรือกำไรไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ต้องมีการลดต้นทุนลงซึ่งก็มีหลายวิธีการและการเลิกจ้างลดพนักงานก็เป็นวิธีการหนึ่งในการลดต้นทุนแต่จะนำมาใช้เป็นวิธีท้ายๆ ซึ่งผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงมากก็คือคนที่มีตำแหน่งซ้ำซ้อนกันและคนที่มีเงินเดือนสูงๆ(เว้นเสียแต่เงินเดือนสูงแต่เป็นคนที่สำคัญหรือมีขีดความสามารถสูง) แต่ว่าบางตำแหน่งงานเจ้าหน้าที่ตรงนั้นเงินเดือนสูงจำเป้นต้องเลิกจ้างเพื่อลดต้นทุนแต่ว่าตำแหน่งงานตรงนั้นมันขาดเจ้าหน้าที่ไม่ได้ วิธีการหนึ่งจึงเข้ามา ก็คือ การจ้างคนเก่าออกและรับพนักงานใหม่ที่อัตราเงินเดือนสตาร์ทที่ต่ำกว่าคนเก่าประมาณ 2-3 เท่า(เรียกว่าจ้างออก 1 คนสามารถรับคนใหม่ได้ 2-3 คน)แล้วมาฝึกกันใหม่ซึ่งไม่เกินปี เจ้าหน้าที่คนใหม่สามารถทำงานแทนคนเก่าที่มีเงินเดือนแพงกว่าได้ไงก็จะทำให้กิจการนั้นสามารถลดค่าโสหุ้ยได้โดยที่ยังมีคนทำงานตรงตำแหน่งนั้นอยู่ไงครับ
อมตะนคร...ชลบุรี...ที่ทำงานกระปม...no ot แล้วครับ
.......ทำใจเถอะบัวผัน...ฮา..ฮา..และ ฮา..อีกที