หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ประธานาธิบดี(ผิวสี)คนล่าสุด ของอเมริกัน

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 06/11/2008 16:08:03

คะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วนะครับ ไม่พลิก บารัค โอบาม่า สร้างประัวัติศาสตร์ เป็นประธานาธิบดี ผิวสี คนล่าสุดของสหรัฐ   เป็นประธานาธิดี คนที่  44  รอดูทิศทางนโยบายกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่คงแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในของประเทศตัวเองก่อน   เพราะไม่อย่างนั้นกระทบไปทั่วโลกแน่ๆ  ยักษ์ใหญ่ป่วยทั้งโลกต้องได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า




ความคิดเห็นที่ 1


ข่าวร้ายสำหรับแรงงานไทย และ เศรษฐกิจไทยครับ เตรียมรับทซึนามิลูกใหม่จริง ๆ ได้แล้วครับ หลังจากเห็นลาง ๆ มานาน

เพราะเท่าที่ฟังจากนักวิเคราะห์ (ดร.สมภพ มานะรังสรรค์) ท่านบอกว่าสถานการณ์ อเมริกาเหมือนบ้านเราปี 2540 เปี๊ยบ แต่ อเมริกา ไม่ทำเหมือนเรา พูดง่าย ๆ อเมริกาอุ้มหนี้เน่าไว้อยู่ครับ

อุ้มไว้ถ้ามีเงินอยู่ในระบบมากพอ อย่างที่ญี่ปุ่นเคยเป็นก็ดีไป

แต่ตอนนี้อเมริกาถังแตกของแท้ครับ ขนาด โกลแมน แซค ของ พ่อมดยิว จอร์จ โซรอส ยังต้องพึ่งพาบริการของ SMBC  (Sumitomo Mitsui Bank Co,ltd)จากญี่ปุ่นไปช่วยซื้อหุ้นเลยครับ

รวมไปถึง ที่ล้มไปแล้วอย่าง เลห์ แมน ที่ได้ข่าวว่า MUFJ ( ธนาคารมิตซูบิชิ   ไม่ใช่ แมนยูไนเต็ด นะครับ..อิ ๆ ๆ ) โดดไปอุ้มเรียบร้อยแล้ว

รายแรกตอบแทนบุญคุณกันครับ เพราะโกลแมน แซคเคยอุ้ม SMBC ตอนปี 2003 ตอนนี้เลยอุ้มคืน

ส่วนหลายหลัง ช้อนกันเห็น ๆ ครับ

 

พอโอบามา มา ถ้าทำตามนโยบายจริง คงกระทบกับยอดสั่งซื้อของแน่ ๆ ครับ  ถึงแม้ตอนนี้ หลายฝ่ายจะบอกว่า เราไม่ได้ส่งไปอเมริกาเป็นส่วนมากแล้วก็จริง แต่ ประเทศที่เราส่งของไปขาย ส่วนมาก ก็ค้าขายกับ อเมริกาครับ

 

เมื่ออเมริกาไม่มีเงินซื้อของประเทศเหล่านั้น เงินก็ไม่หมุ่น ทำให้ประเทศเหล่านั้นไม่มีเงินซื้อของเรา... แล้วเราจะไปขายใครหละหว่า ?

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 04/11/2008 23:58:49


ความคิดเห็นที่ 2


สตรี (ผิวสี) หมายเลข 1 ของโลก..................อันนี้สิ สุดยอดกว่า.......................................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 05/11/2008 01:54:31


ความคิดเห็นที่ 3


สงสัยว่าในเมื่อเศรษฐกิจของอเมริกาเป็นแบบนี้แล้ว การเจรจาซื้อขายอาวุธจะง่ายกว่าแต่ก่อนมั้ยครับ
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 05/11/2008 04:29:48


ความคิดเห็นที่ 4


อาวุธนะถ้ามีเงินก็ซื้อได้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญของอเมริกานะมีแต่ของแพง
แล้วเค้าจะขายของที่มีคุณภาพระดับท๊อป ให้เราละปล่าวละ
อย่าคิดว่าอเมริกาจะเห็นไทยเป็นเพื่อนนะ เค้าเป็นเพื่อนเราแค่คำพูด
แต่การกระทำมันคนละเรื่องเลย
โดยคุณ e21cye เมื่อวันที่ 05/11/2008 06:30:45


ความคิดเห็นที่ 5


อืม ตามความคาดหมายละครับ ที่นี้เรามาดูกันว่าเค้าจะทำให้ประเทศอเมริกาผ่านคลื่นลมไปได้ไหม ( ส่วนตัวชอบด้วยละครับ )
โดยคุณ poom1.1 เมื่อวันที่ 05/11/2008 06:49:15


ความคิดเห็นที่ 6


ช่วยชี้แจงด้วยครับว่านโยบายเศรษฐกิจของ โอบาม่านั้น จะกระทบเศรษฐกิจประเทศไทยยังไงไม่ทราบครับ?
โดยคุณ veranda43259 เมื่อวันที่ 05/11/2008 06:57:46


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าเศรฐกิจเป็นอย่างนี้  ต่อให้อาวุธลดลงมาเหลือครึ่งหนึ่ง

ก็ไม่น่าซื้อ เพราะต้องเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า

ที่สำคัญต้องเก็บรักษาของที่มีอยู่ไว้ใช้ให้นานที่สุด


โดยคุณ wut เมื่อวันที่ 05/11/2008 08:57:53


ความคิดเห็นที่ 8


/

/

อย่าเพิ่งรีบร้อนครับ ดูไปก่อนครับ และที่ผมยกมาเนี่ย ผมเอามาจากข้อคิดของ อ. และ นักธุรกิจไทย เป็นส่วนใหญ่ครับ

อย่าง อ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ , คุณ ตัน ภาสกรนที (ตัน โออิชิ), คุณสันติ วิลาสศักดานนท์ (ประธานอุตสาหกรรมไทย) ครับ

จอร์จ บุช หนะ ตัวต้นเรื่องจะทำ FTA กับเราเลยครับ เกือบจะเซ็นต์กันอยู่แล้ว ตั้งแต่ รัฐบาลอดีตนายก ณ ลอนดอน ครับ

 แต่ติดปัญหาเรื่อง การเมืองบ้านเราครับ (มีเสียงท้วงติงมากมาย เช่นเรื่อง สิทธิบัตรยา ของอเมริกา ที่จะมีผลบังคับใช้กับเรา ถ้าเราทำ FTA กับเขา ที่เห็นได้ชัด ก็เรื่อง สิทธิบัตรยารักษาเอดส์ นั่นหละครับ )

จอห์น แมคเคน ยังไง ก็คือ รีพัพลิกัน พรรคเดียวกับ บุช ผู้ลูก นโยบายไม่ต่างกันครับ

และ อเมริกา จะเก็บตัวเงียบกว่าเดิมแน่ ๆ  ดูอย่าง นโยบายถอนทหารของ โอบามา สิครับ กลับแน่นอน ต่างจาก แมคเคน ที่ถอนแน่ แต่ช้ากว่า และ ถอนเฉพาะอิรัก แต่ใน อัฟกัน ยังให้อยู่ต่อ

มันก็สะท้อนแล้วว่า อเมริกา ยุคของโอบามา จะรัดเข็มขัดมากขึ้น

เมื่อรัดเข็มขัดมากขึ้น คนไม่มีเงิน หรือ เงินมีน้อย จะยอมเสียเงินไปซื้อของชาวบ้านไหมหละครับ ?

(คิดง่าย ๆ ตรรกะ แบบชาวบ้านครับ ไม่ต้องพึ่ง นักวิชาการ หรือ คอมเมนต์เตเตอร์ ที่ไหนหรอกครับ )

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 06/11/2008 05:08:05


ความคิดเห็นที่ 9


# veranda43259  

เอาเท่าที่ผมพอจะเข้าใจนะครับ (อาจผิดได้) คือ นโยบายของ โอบามา เท่าที่ฟังมาคร่าว ๆ เขาจะเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก

เพื่อเพิมการจ้างงานให้คนในประเทศมีงานทำ จะได้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเขา ซึ่งถ้าคนมีงานทำ ก็จะมีเงินใช้ พอมีเงินใช้ ก็จะมีเงินจ่ายภาษี เงินก็เข้ารัฐมากขึ้น รัฐก็จะได้ขาดทุนจากการอุ้มหนี้เน่าของ Sub Prime น้อยลงไป

เพราะตอนนี้ อย่างที่ได้บอกไป อเมริกาถังแตกแล้ว ขนาดเงินจะมาอุ้มหนี้เน่านี่ยังต้องผ่านสภาคองเกรสตั้งหลายรอบเลยครับ

อ. สมภพ ท่านบอกต่อไปด้วยว่า นี่ยังไม่ถึงจุดต่ำสุดของ วิกฤตการเงินสหรัฐจริง ๆ เพราะว่า ตอนนี้ หนี้เน่าของอเมริกานั้น รัฐบาลยังโกง ๆ ตัวเลขให้เกินจริงอยู่ ประมาณว่าจะให้มีลักษณะของการ ..."ล้มบนฝูก" แบบนักธุรกิจบ้านเราประมาณนั้น

เพราะอะไร ?

เพราะว่า หนี้สินเหล่านี้ สมัย ปี 2540 บ้านเราโดน IMF บังคับขายทอดในราคาแค่ 35% ของราคาจริงเท่านั้น ทำให้ มูลค่าหายไปถึง 65 %

ในขณะที่ตอนนี้ อเมริกา จะขายทอดตลาดหนี้เน่าอยู่ที่ 70 % ของราคาจริง  ซึ่งต่างกับเราถึง ครึ่งต่อครึ่ง

ถ้าเทียบกับบ้านเราที่โดนวิกฤตไป และ เทียบกับญี่ปุ่น (ก็ขายหนี้เน่าในราคา 30% ของราคาจริง โหดกว่าบ้านเราอีก) แล้ว จะเห็นได้ว่า อเมริกา ยังไม่ถึงจุดต่ำสุดของวิกฤตจริงครับ

นี่แค่เริ่มต้นเปิดฉากให้เห็นถึงความ น่ากลัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นครับ

ต่อไปเรามาว่ากันต่อ

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 05/11/2008 20:26:14


ความคิดเห็นที่ 10


ขนาดญี่ปุ่นที่ว่า เศรษฐกิจแข็งมาก ยังต้องใช้เวลาราว ๆ 10 กว่าปีเลยครับ ถึงจะทำให้ GDP บวกขึ้นมา 1 จุด ตอนนั้นญี่ปุ่นมีเงินออมมากนะครับ ไม่เหมือนบ้านเราตอนปี 40 ที่มีแต่หนี้ และ ก็ไม่เหมือนกับ อเมริกาที่มีแต่หนี้เหมือนกัน

-------------------------------------

ทีนี้ นโยบายของ โอบามา เมื่อตอนเข้ามา ผมก็เดา ๆ ว่า เขาก็คงจะ ชลอ การทำ FTA กับบ้านเรา

แล้วก็คงมีนโยบายอะไรแปลก ๆ มากีดกันการค้ากับเรามากขึ้น แม้ฑูตของเขา (อเมริกา) จะบอกว่า ไม่ทำแบบนั้นก็เหอะ แต่ผมไม่เชื่อลมปากฝรั่งผิวขาวครับ  อ้ายคนหนะ ถ้ามันไม่เห็นแก่ตัว มันจะเห็นแก่เอ๋ง ๆ ที่ไหนหละครับ.. 5 5 55

พอไม่ทำ FTA กับเรา ทำให้ กำแพงภาษีของสินค้าบ้านเราที่ส่งออกไปยังบ้านเขา ก็ยังมีอยู่เหมียนเดิม 

และ ก็อาจมีการส่งเสริมนโยบายเหมือนบ้านเราก็คือ  ใช้ของใช้ภายในประเทศ ลดการบริโภคของจากต่างประเทศ

แค่นี้ ก็จะทำให้ ยอดสั่งสินค้าจากบ้านเรา หดหายไป เมื่อ Order ไม่มี แล้วโรงงานจะเอาจากไหนมาจ้างพนักงานหละครับ ?

สุดท้าย จะจ้างพนักงานไว้ทำแมวอะไร ถ้าไม่มี Order เข้ามา ?

ก็ต้องปลดพนักงานใช่ไหมครับ

พอปลดคนงาน พวกนี้ก็ตกงาน  มันก็จะกลายเป็นปัญหาลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ ครับ

บางท่านอาจบอกว่า อ้าว ก็กลับไป ทำไร่ไถนาสิ จะยากอะไร จริงครับ

ถ้าแค่ทำแบบ เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตัวได้ อย่างนี้อยู่ได้ครับ

แต่ปัจจุบัน เกษตรกรบ้านเรา เขากู้หนี้ยืมสินมา เพื่อทำการเกษตรแบบเพื่อการส่งออกเป็นหลักครับ เมื่อไม่มี Order เข้ามา หรือ สินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ก็จะส่งผลให้ เกษตรกรขายของได้น้อย มันก็จะทำให้เขาขาดทุน เป็นหนี้สิน

ยิ่งลูกหลานต้องออกจากโรงงานมาอีก ก็ซ้ำเติมปัญหาเข้าไปอีก คนเยอะขึ้น แต่รายได้น้อยลง

รัฐจะ จะอุ้มมากก็ไม่ไหว (แค่เงินรับจำนำข้าวนาปี ยังหาไม่ได้เลยครับ) 

เห็นไหมครับ  ทซึนามิ ลูกย่อม ๆ กำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว !

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 05/11/2008 20:35:15


ความคิดเห็นที่ 11


ยิ่งปีหน้าเขาบอกว่า มันจะเข้าสู่ภาวะ  [b]เงินฝืด[/b] เต็มตัวนี่ยิ่งหน้ากลัวเข้าไปใหญ่ครับ

เงินฝืด หมายถึง เงินหนะมี แต่ไม่ใช้ ทั้ง ๆที่ของราคาถูกแล้ว (เป็นผลทางจิตวิทยาครับ )

ก็ต้องแก้โดยการกระตุ้นครับ แต่บ้านเราจะกระตุ้นก็คงไม่ได้มากหรอกครับ

คนที่จะกระตุ้นได้ ก็มีแต่ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ยุโรป และ อเมริกา  แต่พวกนั้น เจ็บตัวไปซะ 2 (อเมริกา , ยุโรป) ที่เหลือ ก็ต้องช่วยตัวเองอยู่

ก็คงเดากันต่อได้นะครับว่า เศรษฐกิจโลก มันจะเป็นไง

เห็นตัวเลข ที่เขาประมาณการ กันแล้วว่า ปีหน้า GDP ของโลก จะเหลือไม่ถึง เลข 3 ครับ ( 5 55  5 )

บ้านเราก็ต้อง ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ครับ

ก็ต้องใช้เงินบ้างนะครับ ให้มันหมุนในประเทศก็ยังดี

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 05/11/2008 20:42:04


ความคิดเห็นที่ 12


ถ้าท่านใด เคยดูหนังญี่ปุ่น ทาง TPBS เมื่อสักหลายเดือนก่อน เรื่องเกี่ยวกับการเงิน (ชื่ออะไรหว่า จำไม่ได้แล้ว)

นั่นหละครับ สภาพจำลองของสถานการณ์ตอนนี้ โดนช้อนกันกระจายครับ ธุรกิจโดนเปลี่ยนแปลง เจ้าของเดิมโดนปลดอำนาจ ฯลฯ

แต่ชีวิตจริง มันคงไม่เหมือนในหนังอะครับ

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 05/11/2008 20:46:27


ความคิดเห็นที่ 13


^
^
^
ตอบคุน lodsri นะครับ
ส่วนใหญ่ที่คุณพูดถึงคือเศรษฐกิจมากกว่า ไม่ใช่นโยบาย ซึ่งถ้าได้ John McCain มาไม่ยิ่งแย่หรอครับ
Trade:
Obama and Biden will fight for a trade policy that opens up foreign markets to support good American jobs. They will use trade agreements to spread good labor and environmental standards around the world
นโยบายของอโบม่าที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างประเทศที่มีผลในทางลบอันเดียวคืออันนี้ครับEnd Tax Breaks for Companies that Send Jobs Overseas: Barack Obama and Joe Biden believe that companies should not get billions of dollars in tax deductions for moving their operations overseas. Obama and Biden will also fight to ensure that public contracts are awarded to companies that are committed to American workers.

Obama ไม่มนโยบายที่จะฉลอการทำFTA กับเราครับ (ฉลอทำมัย?)

สรุปแล้ว เรื่องเศรษฐกิจ Obama ยังไงก็ดีกว่าMcCainครับ ที่คุนพูดถึงนั้นเป็นผลงานของคุน George W. บิชท์ ครับ
โดยคุณ veranda43259 เมื่อวันที่ 06/11/2008 03:06:31