ตั้งเป้างบประมาณ 100 ล้านเหรียญ

การป้องกัน ครอบคลุม น้ำ ฟ้า บก

ต้นทุน SU-25 ตามข้อมูลในเว๊ป ลำละ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ

ต้นทุน KA-27 ตามข้อมูลในเว๊ป ลำละ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทางกระผม จึงเสนอขายแบบ เพจเกจ รวมอาวุธ การฝึก และการปรับปรุงสนามบิน ดังนี้

1. SU-25 UKB และ SU-25 UK ลำละ 14 ล้านเหรียญ จำนวน 6 ลำ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 84 ล้านเหรียญ

2. KA-27 และ KA-29 ลำละ 2.5 ล้านเหรียญ จำนวน 6 ลำ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15 ล้านเหรียญ

3. ปรับปรุงสนามบิน และค่าใช้จ่ายในการฝึก 1 ล้านเหรียญ

รวมราคาทั้งสิ้น 100 ล้านเหรียญ

เป็นราคามิตรภาพ เพื่อเปิดตลาดค้าขายอาวุธ กับกัมพูชา...ไม่ทราบ สนใจไหมคร๊าบบบบบบ...?

ตามแสดง

SU-25 UBK = บ.ฝึก/โจมตี และ ต่อต้านเรือผิวน้ำ (บก/ทะเล) อาวุธ ระเบิด FAB-250,500 และจรวด KH-23

SU-25 K = บ.ป้องกัน/โจมตี ทางบก (บก/อากาศ) อาวุธ ระเบิด FAB-250,500 และ จรวด AA-8

KA-27 Helic = ฮ.ลาดตระเวณ/ ต่อต้านเรือดำน้ำ (ทะล) อาวุธ ตอร์ปิโด E 45-7A และกระเปาะยิงจรวด UB-20

KA-29 Helic = ฮ.โจมตี / สนับสนุนการรบ (บก) อาวุธ จรวดต่อต้านรถถัง AT-6 Spiral และกระเปาะยิงจรวด UB-20

ซึ่งเป้าหมายทางการตลาด คาดว่า ประเทศเพื่อนบ้าน คงต้องเหลียวมามอง...และคงต้องตั้งงบประมาณซื้ออาวุธ เพิ่มขึ้น...ซึ่ง กระผม ก็จะหันไปขายอาวุธให้ประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา อีกต่อหนึ่ง....กั๊ก กั๊ก กั๊ก...รวยยยยยย...ไม่เลิกกกก...

ธุรกิจเดี๋ยวนี้มันมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ๆ

เสี่ยต้องทำงานให้หนักขึ้น ^ ^

และปลดปืน AK-47 ที่มีใช้ในสมัยเขมรแดง

มาเป็น ทาเวอร์ อีแก๊บ กระแทกข้าง อิมพอท จากบ้าน

หนองอีเติ่ง จากTHAILAND  และเปลี่ยนจรวด

RPGที่ใช้สมัยแรมโบ้ยังหนุ่ม  มาเป็นบั่งไฟนำวิถี

จากบ้านน้าหม่ำ ยโสธร และจัดซื้อแท็กซี่ปลด

ประจำการดัดแปลงติดเกราะ ติดตั้งบั้งไฟติดหัวรบนิวเคีย

    ด้วยงบประมาณ 100 ล้านเหรียญ เป็นอันจบข่าว

ส่วนผมขายแบบเล็กๆ ง่ายๆ

1. เครื่องแบบทหาร เห็นว่ากำลังจะเปลี่ยนใหม่นี่

2. ปืนกลเบา (ปลย.มันดันใช้ของจีนแดงไปซะแล้ว)

3. ระเบิดมือ

4. ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (ทหารไทยทำได้แค่แฮ่ๆ แต่ก็ไม่กล้าซัดกลับ ดูจากที่ผ่านมาก็เห็นแล้ว วางให้เกลื่อนชายแดนไปเลย)

5. ขาย ว. i-com , yaesu (แต่จะว่าไปมันใช้ มือถือก็ได้นี่หว่า)

6. First Aid Kit

เอาแค่นี้ก็พอได้แบ่งเค้กแล้ว

ที่เห็นเขาลือกันในบอร์ดต่างประเทศก็คือกัมพูชาจะได้ JF-17 จำนวน 12 ลำครับ ...... แม้ว่าราคาของเจ้า JF-17 มันจะดูแล้วเป็นไปไม่ได้สำหรับกัมพูชา แต่ถ้าจีนลดแลกแจกแถม แบบว่าเครื่องบินมีเมลานีนนิดหน่อย กัมพูชาก็จัดหาได้

ความจริงกระทู้นี้ที่คุณ juldas ตั้งขึ้นมานั้นน่ะสนใจนะครับ ...... กัมพูชาจะมีงบกลาโหมเพิ่มขึ้นมา 200 ล้านเหรียญ คำถามคือเขาน่าจะเอาไปทำอะไรบ้าง? ........ ส่วนตัวผมยังมองว่าเงินจำนวนมากจะลงไปกับการปรับปรุงของเก่าที่มีอยู่ ปรับปรุงสวัสดิการของทหาร ปรับปรุงฐานทัพ ปรับปรุงพวกสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารขั้นพื้นฐานต่าง ๆ  และปีต่อ ๆ ไปเมื่อได้งบเท่านี้หรือมากกว่านี้อยู่ก็น่าจะเริ่มจัดหาอาวุธที่จำเป็นเข้าประจำการครับเช่นปืนใหญ่ รถเกราะ เรือตรวจการณ์ หรือเครื่องบินโจมตี น่าจะเป็นแค่นี้ก่อนล่ะครับ

ตอนนี้ในกัมพูชา มันแนว ๆ ว่าใครคว้าได้ก็คว้าครับ เพราะชาติต่าง ๆ เป็นโรคตื่นน้ำมันนั่นเอง .... ความจริงผมอยากจะเสนอให้มองมุมกลับบ้างครับ นอกจากมองว่าใครจะมาช่วยกัมพูชา ใครจะมาให้โน้นให้นี่กัมพูชา ..... แทนที่เราจะพูดโดยมองสิ่งที่กัมพูชามีอยู่ฝ่ายเดียว เราน่าจะมองสิ่งที่เรามีเพื่อไปปรับสมมุติฐานให้ชัดเจนขึ้นนะครับ

..... เอาง่าย ๆ เรื่องรบ ถ้าเกิดสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาขึ้นมาจริง .... ผมฟันธงไปเลยว่า ไม่มีใครช่วยกัมพูชาแน่นอน และในทางกลับกันก็ไม่มีใครช่วยไทยเช่นกัน มหาอำนาจจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะยุติสงครามให้เร็วที่สุด เพราะเขาต้องการความมีเสถียรภาพในสองประเทศนี้เพราะเขาจะได้ทำธุรกิจต่อไปได้ซึ่งนั้นก็หมายความว่าผลประโยชน์ของพวกเขายังเดินต่อไปได้ .... แม้แต่เรื่องจีนให้โน้นให้นี่กัมพูชา สหรัฐเอาเรือโน้นเรือนี้ไปจอด ผมยังมองด้วยซ้ำว่าเป็นพัฒนาการที่ปกติของกัมพูชาและมหาอำนาจ ..... พวกมหาอำนาจได้ยินว่าที่ไหนมีน้ำมันมีผลประโยชน์ เขาไปหมดแหละครับ แต่ในทางกลับกัน ลองดูสิครับ แค่สหรัฐฝึก Cobra Gold กับไทยทุกปี แค่นี้ก็มากกว่าการเอาเรือรบไปจอดหลายขุมแล้วครับ Cobra Gold ในสายตาต่างชาติยิ่งใหญ่มากนะครับ ส่วนจีน ถ้าลองมองตอนรัฐประหารสิครับ จีน Please เราจะตาย โอ๋มาก ๆ จนทหารสหรัฐห่วงว่าไทยซึ่งเป็นเด็กในสังกัดจะย้ายค่าย เขาจึงทำเฉพาะในสิ่งที่กฏหมายเขาบอกให้ทำ นอกนั้นแทงกั๊กคองเกรสหมด (สส.ในคองเกรสกดดันให้ถอนพันธมิตรนอกนาโต้ของไทยเขายังไม่ถอนเลย)

ยิ่งเรื่องเวียดนามมาช่วยเขมรหรือส่งทหารมารบกับไทยยิ่งเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงเลยครับ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เขาจะเอากระดูกมาแขวนคอทำไม .... อีกอย่าง เวียดนามตอนนี้เป็นสมาชิกชั่วคราวคณะมนตรีความมั่นคงแหง่สหประชาชาติ เขาไม่มาทำอะไรอย่างนี้แน่นอนครับ ไม่งั้นอาจจะตายทางการฑูตแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด .... เรื่องนี้มันเป็นเรื่องทื่สื่อของไทยปลุกกระแสชาตินิยมจนเกินขอบเขตเอง

มองกลับกัน จีนขาย C-802 ให้ไทย มาฝึกร่วมกับไทย ให้เครดิตช่วยเหลือทางทหารกับไทย และไทยซื้อ Mi-17V5 กับ Igla จากรัสเซีย ... ผมเชื่อว่าในกัมพูชาเขาก็ต้องพูดกันแหละครับว่า จีนกับรัสเซียจะมาช่วยไทยแน่เลย บลา บลา บลา 

ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าให้อยู่อย่างประมาทนะครับ ..... แต่อยากให้คิดถึงฝั่งเราแล้วลองเอามาถ่วงน้ำหนักดู เราอาจจะได้เห็นอะไร ๆ มากขึ้นก็ได้ครับ ^ ^

ท่าน sepia ....กระทู้ผมต้องการสื่อสาร สิ่งที่ท่าน ไม่มีวันเข้าใจได้ครับ...(มันคงยากกกกกกกกกก....กั๊ก กั๊ก กั๊ก)

ยกเว้น ท่าน Skyman กับ ท่าน น่าคิด...เน๊อะ.....5 5 5 5 5

ตอนนี้ผมกำลังอายชาวโลกที่เข้ามาอ่านความเห็นคุณ sepia

ส่วนเรื่องอาวุธผมอยากให้เน้นไปที่เครื่องขับไล่อย่างที่คุณ น่าคิด ว่าไว้มากกว่าครับ

ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องโจมตีในเมื่อข้างบ้านมีเครื่องขับไล่มากกว่าบานยังงี้นะครับ

ผมมองอย่างนี้ครับท่าน Tasurahings...

ในเรื่อง บ.ขับไล่ ผมว่า กัมพูชา ด้วยบุคคลากร ยังไม่น่าจะมีประสิทธิภาพเพียงพอกับ บ. ครับ...และถ้าต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก ให้กับ อาวุธ ที่มีไว้เพื่อไม่ชนะ...จะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ครับ...

ผมเลยมองไปที่ศักยภาพ เท่าที่ กัมพูชา น่าจะมีประสิทธิภาพสูงสุด และน่าจะสร้างความเสียหายให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ไทย ลาว หรือ เวียดนาม...หรือแม้แต่ สหรัฐ กรณีถ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มประเทศก่อการร้าย และมีการตั้งกองกำลังสหรัฐบนดินแดนกัมพูชา....ซึ่งจะเป็นอาวุธสำหรับการป้องกันประเทศภายใน...ป้องกันการรุกราน ผมกลับมองที่ว่า กัมพูชา ควรที่จะมี บ.โจมตี มากกว่า บ.ขับไล่....

คล้าย ๆ กับ ไทย ที่มี F-86L ซึ่งมีประสิทธิภาพระดับแนวหน้าในขณะนั้น...แต่ในแง่การสงครามแล้ว บทบาทของ T-28 กลับจะดูมีคุณค่าทางยุทธการมากกว่าครับ...และตั้งข้อสมมติฐานว่า ณ เวลานั้น ถ้า ไทย ต้องเสียงบประมาณในการจัดหาอาวุธ ถ้ามี 2 ตัวเลือก ระหว่าง F-86L กับ T-28D ผมคิดว่า ไทย คงต้องเลือกซื้อ T-28D มากกว่า...ณ ช่วงเวลานั้นครับ....

และการตั้งแพจเกจนี้ ก็เป็นการตั้งสนุก ๆ บนสมมติฐานของผม จากข้อมูลทั่ว ๆ ไป...ซึ่งถ้า กัมพูชา มีการว่าจ้างประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากแหล่งทรัพยากร ในการพัฒนากองทัพของเขา (ซึ่งประเทศที่ได้รับผลประโยชน์ ก็ต้องแนะนำสิ่งเหมาะสมกับกัมพูชา เพราะมันต้องคุ้มครองกับผลประโยชน์เขาด้วย)...มันก็คงจะแตกต่างออกไปอย่างไร ก็ไม่มีใครรู้...ผมก็เลยมองในลักษณะเบื้องต้น สมมติ ถ้าผมมองศักยภาพของ กัมพูชา...ด้วยงบประมาณเบื้องต้น อันจำกัด...และสมมติ ถ้าเป็นผม ผมจะจัดเพจเกจอย่างไรน่ะครับ...บางที อาจจะเป็นเสียงในสายลมอันแผ่วเบา และน้อยนิด ที่กระทบกาย...ให้เราได้รู้สึก และมีมุมมองอีกสักมุมหนึ่งครับ...

เพิ่มเติมข้อมูลครับ...เท่าที่ผมลองค้นข้อมูล การจัดซื้อ SU-25 จะไม่ปรากฎมูลค่าการซื้อขาย...และถ้าไปดูใน ข้อมูลของ SIPRI จะพบว่า รัสเซีย จะมอบ SU-25 ฟรีให้กับมิตรประเทศ หรือกลุ่มประเทศรัสเซีย เป็นส่วนใหญ่...ซึ่งถ้าเทียบกับ J-10 ของจีน ผมกลับมองโอกาส ของ SU-25 สำหรับ กัมพูชา น่าจะง่ายกว่า...และด้วยจำนวนที่ไม่มาก ระหว่าง 6-8 ลำ ผมว่า รัสเซีย สามารถตัดจากประจำการได้...และ กัมพูชา ก็ยังรักษาระยะห่างกับจีนได้....เว้นแต่ J-10 ของจีน จะมอบให้ หรือ ขายให้ในราคามิตรภาพจริง ๆ สำหรับผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติ ที่กัมพูชา จะต้องมอบให้กับ จีน เท่านั้น...จน กัมพูชา ไม่สามารถปฏิเสธได้...

เช่นเดียวกับ ที่ เกาหลีใต้ จัดหา KA-32A Helic จากรัสเซีย ถ้าผมเข้าใจความหมายไม่ผิด ก็เป็นผลตอบแทนจากเงินกู้ของเกาหลีใต้...

โอกาสของ อาวุธรัสเซีย ในกลุ่มประเทศตะวันออกเฉียงใต้ ก็น่าจะมีพอสมควรครับ...

ครับผม ผมมองในแง่มีเพื่อรบอย่างเดียวนะครับลืมคิดถึงความเป็นไปได้อย่างที่คุณ juldas ว่าไว้เลยครับ

รู้สึกผมจะอ้างอิงผิดคน ต้องเป็นนโยบายปรับปรุงเครื่องขับไล่อย่างที่คุณ sepia ว่าไม่ใช่คุณน่าคิด เหอะๆหน้าแตก

(แต่ไม่ยังไม่เห็นด้วยกับการใช้คำไม่สุภาพครับ)

ลองเขมรซ่ากับไทยแล้ว ไทยดันไม่อัดมันจริง เดี๋ยวมันได้ใจเรียกร้องดินแดนจากเวียดนามอีก(พื้นที่ในเวียดนามที่เขมรเรียกร้องมีมากกว่าที่เขมรเรียกร้องจากไทยคืนเป็นร้อยๆพันๆเท่า) ต่อไปก็ทวงดินแดนคืนจากลาวอีก เพราะเขมรมันคิดตามแบบขอมโบราณที่ว่าตนเองเป็นเจ้าผู้ครอบครองสุวรรณภูมิในอดีต และต้องยิ่งใหญ่ในปัจจุบันด้วย

ขอให้สบายใจได้ที่เวียดนามจะช่วยเขมร เวียดนามจะไม่ช่วยเขมรเป็นอันขาด เพราะเขมรคิดแบบขอมโบราณตลอดเวลา ทำให้เวียดนามกลัวว่าเขมรจะทวงดินแดนและรบกับเวียดนามแน่

สันดานเขมรคิดคดทรยศตลอดเวลา อ่านข้อมูลเพิ่มเต็มได้ที่

1.หนังสือรู้จักเพื่อนบ้าน(เวียดนามและเขมร)ของมรว.คึกฤทธิ์ ปราโมชเป็นเรื่องราวของเจ้าสีหนุที่มีความคิดไม่แน่นอนและเห็นแก่ตัว จนทำให้เขมรเป็นอย่างทุกวันนี้

2.จริตเขมรเขียนโดยบุณญจันทร์ มุล แปลโดยขุนหาญ เป็นเรื่องราวการหักหลังและคิดคดทรยศกันของคนเขมรเอง ตั้งแต่เขมรกู้ชาติหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไปจนถึงก่อนยุคเขมรแดงครองเมือง

ฯลฯ

อ่านแล้วศรัทธาคนเขมรไม่ลงเลย ไทยเองก็กำลังเป็นอย่างเขมรเพราะคนในชาติเดียวกันทะเลาะกันเองแล้ว

ในช่วงสงครามกลางเมืองในเขมร โซเวียดได้นำยุทธโธปกรณ์ที่จะช่วยเขมรไปไว้ที่เวียดนามก่อน แต่เวียดนามได้ทิ้งเศษเหล็กรุ่นเก่าๆของตนไปให้เขมรแทน แต่ตนเองเอาของใหม่ๆรุ่นใหม่ๆเอาไว้ใช้เอง

สังเกตุได้จากเครื่องบิน รถถังรถเกราะ รถบบรทุก จรวด ปืนใหญ่ เรือ ฯลฯ ของเขมรจึงเก่ามากๆและอายุการใช้งานสั้นมากๆ ทั้งๆที่ได้รับมอบจากเวียดนามไม่ถึง20ปีเท่านั้น แสดงว่าเวียดนามรักเขมรมากกกกก ฮ่าฮ่า(ส่วนลาวนั้น ทางเวียดนามได้มอบของที่ดีๆและจำนวนมากกว่าให้แก่ลาว แสดงว่าเวียดนามรักลาวมากกว่าเขมร)

หลายๆ ท่านคงคิดเหมือนหรือคล้ายๆ ผมบ้างนะครับสำหรับกรณีของกัมพูชา  ผมรู้สึกทั้งหมั่นไส้และสงสารเค้า  ตรงไหนหรือครับ  ตรงที่หมั่นไส้ระดับผู้นำของเค้าแต่สงสารระดับทหารชั้นผู้น้อย  ปะทะกันเมื่อล่าสุดนี้อย่างที่ทราบทางเราบาดเจ็บสี่ท่านและสาหัสหนึ่งท่านซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ในขณะที่ฝ่ายเค้าเสียชีวิตในที่รบสองหรือสามท่าน บาดเจ็บคงไม่น้อยไปกว่าเรา  เท่านี้ก็พอดูออกนะครับว่าใครเป็นต่อเป็นรอง  คนไทยเราเชียร์บอลก็มักเชียร์บอลรองเนื่องจากสงสารหรืออาจเล่นได้ประทับใจคนดู  ประเด็นไหนก็ว่ากันไป

ในที่นี้ผู้แทนจำหน่ายมีเยอะแล้ว  ผมจึงขอเป็นผู้ซื้อบ้างละกัน  ถ้าผมเป็นผู้นำกัมพูชาผมจะซื้ออาวุธสำหรับการรบยืดเยื้อแบบกองโจร  ดูขนาดกองทัพโซเวียตอันมหึมาทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ยังมิอาจเอาชัยเหนือนักรบกองโจรมูจาฮีดีนในศึกอัฟกานิสถานได้  รวมไปถึงศึกเวียดนามของกองทัพสหรัฐ  เป็นต้น อาวุธพกพา(แบก) ไปมาได้สะดวกจำพวกแมนแพดดีๆ เป็นหัวใจอาจขอซื้อจากจีนแดงหรือรัสเซียสักกองร้อยสำหรับจัดการกับกองกำลังทางอากาศอันมหึมาด้วยปริมาณและคุณภาพของเพื่อนบ้านที่จะมาสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดิน  อาจจะกำหราบไม่ได้เด็ดขาดแต่ก็พอขัดแข้งขัดขาได้บ้าง  พอให้ได้ออกแรงกันหน่อย  เผลอๆ อาจสอยได้สักลำสองลำก็ยังดี.....การจัดหาเครื่องบินโจมตีหรือขับไล่สักฝูงก็คงลืมไปได้เลย  เนื่องก็ใช้เวลานานเกินไปกว่าจะพร้อมใช้งานคงไม่ทันการ  จะกลายเป็นส่งไปเป็นเป้าล่อซะเปล่าๆ เทคออฟพ้นรันเวย์มิพ้นเป็นโดนอัมราม  เจียดเงินจำนวนหนึ่งไปปรับปรุงระบบ SAM และ MLRS เอาของเก่านี่แหละไม่เปลืองดี  ไม่ทราบว่ามีการทำ MLU(กระแสกำลังแรง) สำหรับอาวุธจำพวกนี้หรือไม่ครับคุณ SKYMAN และคุณ Rinsc Seaver ถ้ามีก็แจ่มเลยขอรับทั้งหมด  สองตัวนี้แค่เห็นก็ชวนขนลุกดีไม่หยอก......ส่วนที่เหลือคงเจียดไปซื้อสินค้าของคุณน่าคิด....เอ่อ  ว่าแต่ว่ามีรองเท้าคอมแบตมาเสนอสักสองสามพันคู่ใหมครับ...เสื้อเกราะแบบเพื่อนบ้านคงไม่เอาเพราะแพงมากหนักอีกต่างหากและไม่เหมาะกับการรบแบบจรยุทธ

กัมพูชา จะไม่มีเงินมากขนาดนี้ ถ้าเราปิดชายแดน ปิดแบบจริงๆจังๆ

อดตายแน่นอนครับ

- รายได้หลักมาจากบ่อน ซึ่งเป็นการลงทุนของนักการเมืองไทยทั้งสิ้น ผมแนะนำให้หาเอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอ่านกันดูนะครับ ส่วนแหล่งที่มาคงต้องพยายามเอาหน่อยแล้วกัน

- ส่วนที่ว่ามีแหล่งน้ำมัน อย่าคิดว่าจะได้เป็นรายได้หลักของประเทศ เพราะนักการเมืองกัมพูชาก็ ระยำ เหมือนนักการเมืองไทย ผลประโยชน์จะตกอยู่กับ บริษัทข้ามชาติ แล้วนักการเมืองก็รับส่วย ชาวบ้านเหรอ เหอ...เหอ...เหอ...

ผมว่าเราไม่ต้องไปกลัวเพื่อนบ้านเรานักหรอก เพราะยังไงเค้าก็แซงเราแน่ๆ ทั้งเศรษฐกิจ การทหาร สาธารณูปโภค เพราะเมืองไทย

นักการเมืองมันระยำ ทหารที่กุมอำนาจหลายคนก็ขี้ข้านักการเมือง

อ้อ...ผมอาจจะพูดตรงไปหน่อย อาจจะรับกันไม่ได้

มีความจริงบางอย่างที่อยากให้ได้รับรู้นะครับ เป็นเรื่องที่สะเทือนใจคนฟังพอสมควร

เพื่อนที่เรียนด้วยกันในรุ่นผม เค้ามีฐานะทางการเงินดีมาก ทำธุรกิจข้ามชาติเกี่ยวกับกาแฟ ส่งลูกไปเรียนอเมริกาอยู่จนได้ กรีนการ์ด และไม่ต้องการให้ลูกกลับมาเมืองไทย ไม่อยากให้มาเจอสังคมแบบนี้ แล้วเพื่อนนักธุรกิจที่เค้ารู้จัก ก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น เค้าใช้คำพูดที่ว่า "เมืองไทย เป็นเมืองของพวกเหลือบ พวกไร" ไม่ต้องการให้ลูกเค้ามาพบกับสภาพสังคมที่เป็นแบบนี้ ให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้

ส่วนผมฟังแล้วก็เฉยๆนะ อาจจะเพราะเราไม่ได้มีฐานะเท่าเค้า ผ่านอะไรมาน้อยกว่าเค้า ที่เค้ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คงจะโดนคนของ รํฐ เรียกส่วยไปเยอะ

แต่ผมคิดเหมือนการ์ตูนเรื่องนึงที่ว่า

เสี่ยครับ ผมว่าเสี่ยคงต้องขยายตามแนวราบแล้วหละครับ ช่วงนี้รู้สึกว่า

นายหน้าจะเยอะขึ้น ถ้าเสี่ยมัวแต่มานั่งตามแนวดิ่งอย่างเดียว มันจะช้าไปนหนะครับ  ถ้าเสี่ยช้าจะแย่นะครับ.. 55  55 5

ก่อนที่จะตั้งงบประมาณผมว่า เราน่าจะมองที่ยุทธศาสตร์และแผนรองรับของกัมพูชาเป็นอันดับแรกครับ จะแสนล้านเหรียญหรือสิบล้านเหรียญ อยู่ที่การบริหารจัดการกองทัพครับ แพกเกจนี้ไม่ได้ช่วยบอกอะไรได้เลย ถ้าไร้การจัดการที่ดี

อ๋อ 500 ล้านเหรียญอาจจะทำให้เสี่ยโยทำงานหนักขึ้นครับ อิอิ

   อะไรน่ะครับ พี่ น่าคิด นักการเมืองไทย เขา............ยำยำ คนไทย เลยต้องมากิน มาม่า อิอิอิ

   มันเป็นอะไร ที่อัดอั้นตันใจ มานาน เป็นเรื่องที่อยากพูดแต่ไม่กล้าพูด กลัวโดนประนาม

  แต่วันนี้......มีผู้กล้า มาเป็นกระบอกเสียง แทน สำหรับตัวผม หรือ อาจจะคนอื่นๆ ที่เห็นด้วย ใน บอร์ด

    ผมขอพูดคำเดียวครับ....................สะใจโว๊ย

ถ้า  นกม.ไทย ไม่เป็นดั่งเช่นที่เห็นทุกวันนี้  ไทยก็คงจะไม่ต้องโดน เพื่อนบ้าน ที่พัฒนา มาทีหลังเราแซง หน้าเหมือนดั่งทุกวันนี้หรอก

   ถ้าเปรียบชาติ อาเซี่ยน เหมือนการวิ่ง  400 เมตร ชาย

  ออกสตาร์ตมา ไทย วิ่งนำโด่งมา คู่คี่ กับ สิงคโปร์ ผ่าน 100 เมตรแรกไป ไทย ยังนำอยู่

   พอเข้าสู่ช่วง  200 เมตร  สิงคโปร์ เร่ง สปีด แซงหน้าไทย ไปได้ ไทยตกไปอยู่ที่ 2  โดยข้างหลัง มาเลย์เซีย วิ่งตามมาติดๆ

    พอเข้าสู่ช่วง 300 เมตร มาเลเซีย เร่ง สปีด วิ่งจี้มาขนาบข้าง โดยข้างหลัง มี เวียดนาม ตามมาติดๆ อีกแล้ว

   เข้าสู่ช่วง 350 เมตร มาเลเซีย วิ่งแซงหน้าไทย ไป เวียดนาม วิ่งขนาบข้าง

   เข้าสู่ช่วง  50 เมตร สุดท้าย............................ผมอยากให้ สมาชิก บอร์ด ลงความเห็น  ว่าใคร จะเข้าวิน ที่ 3

     อยากให้ นกม.ไทย เห็นความสำคัญ ในการพัฒนา กองทัพ

 คือแบบว่า เอาแบบกำลังพอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป

  ถ้าเอามาก จนประชาชน อดอยาก ก็ไม่ไหวครับ เดี๋ยวเป็นเหมือน ปากีสถาน

    พระราชดำรัส ของ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 6

 "แม้หวังตั้งสงบ........จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ"