โครงการปรับปรุง...F-16 ของ ทอ.ไทย
http://www.pantown.com/market.php?id=32248&name=market4&area=3&topic=1&action=view
โครงการจัดหา ฮ.ขนาดกลาง ของ ทอ.ไทย
http://www.pantown.com/market.php?id=32248&name=market4&area=3&topic=2&action=view
ขี้เกียจพิมพ์ใหม่...แวะไปอ่านที่นี่หละกันนะครับ..
ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามนี้จริง ๆ เราคงเห็นภาพชัดขึ้นครับ ...... เท่าที่มีในรายการคือ JDAM, LITENING, และ AMRAAM ..... พูดถึงระบบ Avionic นั้น อ่านจากท่านท้าวแล้ว ฝูง 103 ทอ. ปล่อยไปเลย คงจะคงภารกิจโจมตี/ฝึกนักบิน F-16 อย่างเดียวแน่ ....... ฝูง 102 เปลี่ยนแต่ระบบพิสูจน์ฝ่าย นอกนั้นยังเหมือนเดิมคือติด AMRAAM ได้ ประสิทธิภาพยังไม่ต่างจากเดิม ..... 403 ทำครบชุด ติดกระเปาะชี้เป้า LITENING คงมารับภารกิจเดิม คือขับไล่/โจมตี
สรุปก็คือ ทอ. จะมีเครื่องบินที่สามารถใช้อาวุธปล่อยเกินสายตาได้ก็คือฝูง 102, 403, และ 701
ผมเดาว่าน่าจะมีรายการอาวุธและรายการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอีกแน่ล่ะครับ เพราะเท่าที่ท่านท้าวเปิดเผยมามันยังขาด ๆ อุปการณ์หลาย ๆ อย่างที่จะทำให้มันทำภารกิจได้เต็มที่อยู่ ..... รอต่อไปคงได้ทราบล่ะครับ
ขอบคุณท่านท้าวฮะ ^ ^
ข่าวเก่าของ Janes เมื่อปีที่แล้วจาก Defense & Security 2007 จ๊า
Appearing in
Janes Defence Industry
Publication date
Nov 08, 2007
Lockheed Martin and the Royal Thai Air Force (RTAF) are close to concluding an agreement for the mid-life update of the RTAFs fleet of 57 F-16A/B aircraft.
The company told Janes at the Asian Defence and Security 2007 show in Bangkok that discussions are continuing and that it hopes to commence the upgrade project next year.
ฝูงบิน ๑๐๓ (PN I, II) ปรับปรุงโครงสร้างตามโครงการ Falcon UP, Falcon Star ทุกรายการ
# ฝูงบิน ๑๐๒ (PN IV) ปรับปรุงโครงสร้างตามโครงการ Falcon Star และพิจารณาเปลี่ยน AIFF ตามความจำเป็น
# ฝูงบิน ๔๐๓ (PN III) ปรับปรุงโครงสร้างตามโครงการ Partial Falcon UP, Falcon Star บางรายการ และการปรับปรุง MLU (Mid Life Update), Liteing Pod
เยี่ยมครับ ขอบคุณท่านท้าวฯ สำหรับข้อมูลครับผม
อืม ฝูง 103 มาแต่โครงสร้างล้วนๆ เลยนะเนี่ย ส่วนของ 102 มีงานโครงสร้างและเปลี่ยนแต่ AIFF อย่างเดียว ส่วนทีเด็ดยังคงอยู่ที่ 403 เหมือนเคย งานโครงสร้าง (โครงสร้าง 403 มีการอัพเกรดบางส่วนมาตั้งแต่ต้นแล้ว) และ MLU ซึ่งน่าจะมี option เยอะอยู่
ข้อสังเกตของ 403 คือ ทอ. เลือก Litening AT pod เอาไว้แล้ว แสดงว่า Sniper XR ตกกระป๋อง ส่วนรายการ MLU คงจะค่อนข้างครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น MMC, เรดาร์ใหม่ (ไม่งั้นก็ยิง AMRAAM ไม่ได้), AIFF, ห้องนักบินใหม่ (แต่อาจไม่ full-option ทุกรายการ), NVG, weapon bus MIL-STD 1760 (รองรับ JDAM) ส่วนรายการที่ไม่ได้ระบุไว้ที่สำคัญๆ ก็มี เช่น หมวกนักบินติดจอภาพ (HMD), ระบบ EW ใหม่ และ data-link (link-16)
เท่าที่ติดตามความคืบหน้ามา F-16A/B ฝูง.103 ก็น่าจะอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุง Falcon UP/STAR ใกล้จะครบทุกลำในฝูงอันใกล้นี้แล้วครับ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าสำหรับ F-16A/B ในฝูง.103 นั้นควรจะมีการปรับปรุงระบบเพิ่มเติมอย่างน้อยในลักษณะเดียวกับ F-16 ADF ฝูง.102 คือจัดหา AIFF และปรับปรุง Radar และ Softwareระบบควบคุมการยิงและอาวุธให้สามารถใช้อาวุธปล่อย AMRAAM รวมถึงติดกระเปาะชี้เป้า LITENING ด้วยได้อย่างน้อยครับ ซึ่งจะทำให้ บ.มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการมากกว่าแค่การปรับปรุงเครื่องยนตร์และโครงสร้างอย่างเดียว แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะติดข้อจำกัดด้านงบประมาณครับ
ในส่วนของฝูง.403 นั้นมีการปรับปรุงในระดับ MLU ที่ถือได้ว่าค่อนข้างจะเต็มรูปแบบครับ ซึ่งการที่จะติด JDAM นั้นจะเป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศมีอาวุธนำวิถีดาวเทียมใช้งานครับ แต่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดจริงๆว่าจะมีการติดตั้งอะไรใหม่ในการทำ MLU ดังกล่าวบ้างครับ
สำหรับการจัดหากระปาะชี้เป้า LITENING นั้นก็คงจะเป็นการเลือกเพื่อให้มาใช้ติดกับ บ.Gripen ด้วยเช่นกันครับ เพราะ บ.Gripen ที่ประจำการในฮังการีและแอฟริกาใต้นั้นก็เลือกใช้ LITENING เป็นกระเปาะชี้เป้าครับ
แล้วโครงการจะเริ่มเมื่อไหร่ เหรอครับท่านท้าว พอบอกได้ไหม หรือท่านท้าวก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากเสนอให้ปรับปรุง ระบบ avionic ของ ฝูง103 ให้อย่างน้อย ก็ยิง AIM-120 ได้ กองทัพอากาศให้ลองของบประมาณปรับปรุงกองทัพเพิ่ม เหตุผลประเทศเพื่อนบ้าน มีฟฤติกรรม ไม่น่าไว้วางใจ เราทำตัวให้น่าเกรงขามไว้หน่อยก็ดี แล้วก็ถ้าเกิดโครงการปรับปรุง f-16 สามารถเจรจาให้มีการตอบแทนทางอุตสาหกรรมได้บ้างก็คงดี นอกเหนือจากถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ TAI
ผมว่าแค่นี้ก็ถือเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีแล้วล่ะครับเพราะ TAI จะทำ MLU เอง ได้ขนาดนี้จากอเมริกันก็ดีใจจะแย่เลยล่ะครับ อิอิอิ ^ ^
อาจารย์รินฮะ ..... เรื่องเปลี่ยน AIFF ของ 102 นี่มันสำคัญยังไงอ่ะครับ คือแค่เปลี่ยนแค่นี้มันสร้างความแตกต่างยังไงอ่ะครับ แล้ว IFF ของ 102 ที่มีอยู่มันทำงานต่างจาก AIFF ใหม่ที่จะติดยังไงเหรอครับ แล้วนอกจากเปลี่ยน AIFF แล้วมันต้องเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับของ 102
อืม อีกส่วนหนึ่งสนใจประเด็นของคุณ AAG_th1 นะครับ ไม่แน่ Gripen อาจจะติด LITENING pod ก็ได้ครับ ^ ^
JDAM เป็นชุดนำวิถีดาวเทียมใช้ติดตั้งกับระเบิดได้หลายแบบเช่น ระเบิดธรรมดาตระกูล Mk80s เป็นต้นครับ ซึ่งมีหลายขนาดเช่น
GBU-29 ขนาด 250lbs, GBU-30 ขนาด 500lbs ,GBU-31 ขนาด 2,000lbs, GBU-32 ขนาด 1,000lbs และ GBU-38 ขนาด 500lbs เป็นต้นครับ
F-16 ฝูงบิน 403 ถ้าทำ MLU มาแล้ว มันจะมีประสิทธิภาพ เหมือนกับพวกของประเทศ ใน ยุโรป อย่าง ฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม นอร์เวย์ และ เดนมาร์ก หรือเปล่าครับ
บังเอิญ ผมเปิดไปเจอ บทความที่พี่ SKYMAN เขียนไว้ใน บล๊อก เรื่อง หัวใจของระบบ ตรวจจับ MLU
คือการ เราดาร์ จากระบบเก่า คือ AN/APG-66 (V)1 ไปเป็นรุ่น AN/APG-66 (V)2
และจะเปลี่ยนภายในไปเป็น Glass Cockpit ( เป็นบางส่วนเหมือน ทอ.ของ ยุโรป หรือเปล่าครับ )
เดาว่า IFF เก่านั้น มันไม่ support mode พิสูจน์ฝ่ายใหม่ๆ มั้งครับ เลยต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ สำหรับการอัพเกรดส่วนอื่นๆ ถ้าจะทำจริงมันต้องมาทั้ง set แบบ 403 น่ะสิครับ (อย่างที่เขียนไว้ข้างบนน่ะครับ ไล่ไปตั้งแต่ MMC, APG-66(V)2, Cockpit นี่คือขั้นต่ำ นอกนั้นจะเอาหรือไม่เอาก็ได้ เช่น HMD, link-16 ฯลฯ โดย set อัพเกรดนี้เน้น air-to-air เป็นหลักนะครับ) แต่หลายตังค์อยู่ครับ อีกอย่าง 102 เป็นฝูงที่อายุสั้นที่สุดด้วย ตอนนี้อายุการใช้งานเหลือน้อยที่สุดแล้วในบรรดา F-16 ทั้งหมด
การที่ ทอ. เลือก Litening ถูกแล้วครับ เพราะ Gripen นั้น certified มาสำหรับ Litening โดยเฉพาะ จะได้ไม่ต้องซื้อหลายแบบให้มันยุ่งเกินไป
คุณ TOP SECRET ...... อันนั้นอาจารย์รินเขียนนะครับไม่ใช่ผมเขียนครับ ^ ^
อืม ....ใจจริงผมก็คิดเหมือนกันว่า 102 นั้นน่าจะทำให้น้อยที่สุดถ้าไม่มีเงิน เพราะเครื่องมันเก่าที่สุด ยิ่งตอนนี้ยิง AMRAAM ได้แล้วด้วย อยากให้ไปเน้นที่ 103 กับ 403 มากกว่า .... แต่ใจที่จริงยิ่งกว่าก็คือทำน้อยแค่ไหนก็ไม่ควรจะน้อยเท่านี้น่ะครับ เปลี่ยน AIFF อาจจะเป็นภาคบังคับ แต่ผมอยากให้ติด Link16 ด้วย เพราะว่าไม่งั้น Gripen กับ F-16 ฝูงอื่นเขาคุยกันรู้เรื่องแต่ 102 ยังต้อง ว. หากันอยู่ ..... อย่างน้อยที่สุด AIFF ติดแล้ว อยากให้ติด Link16 ด้วยครับ
เหมือนกับฝูง 103 น่ะครับ ชั่วโมงบินยังเหลืออีกเยอะ ยังไงผมว่าก็ยังน่า upgrade นะครับ เพราะลองคิดไปเรื่อย ๆ ว่าต่อไประบ analog ใน 103 มันจะหมดอายุลง อะไหล่ก็แพง มันจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพไปเสียอีกอย่างหนึ่ง 403 มีภารกิจโจมตีที่เป็นภารกิจหลักด้วย (เลยมี LITENING มา) ถ้าเกิดภาวะสงครามทางอากาศที่กับรัฐที่มีเครื่องบินทันสมัย แทนที่ 403 จะได้เป็น บ. ที่ใช้ในภารกิจโจมตีเป้าหมายด้วยอาวุธ PGM ต่าง ๆ กลับต้องมาแบ่งกำลังไปรับมือสงครามทางอากาศอีก ไอ้ครั้นที่จะโยน 103 ไปโจมตีทางอากาศก็ทำได้ไม่ดีเท่า 403 เพราะของดี ๆ อยู่ 403 หมด อย่าง LITENING กับ รุ่น B ที่มี WSO ก็อยู่ที่ 403 ทั้งสิ้น มันเลยกลายเป็นกรณีแทงกั๊กไปน่ะสิครับ ไป ๆ มา ๆ มันจะดึงประสิทธิภาพโดยรวมลงไป
ผมยังหวังว่าเขาจะทำอะไรกับ 103 ให้มากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุด ทำให้มันรับมือกับสงครามทางอากาศได้เต็มที่ไปเลย และเปลี่ยนภารกิจของมันเป็นเน้นการต่อสู้ทางอากาศเป็นภารกิจหลัก การฝึกนักบินพร้อมรบเป็นภารกิจรอง อาจจะเปลี่ยนเรด้าร์ไปเป็น AN/APG-66(V)2, เปลี่ยน MMC, ติด Datalink, ปรับปรุง Cockpit ซึ่งมันเป็น option ต่ำสุดที่จะทำให้ 103 รับมือกับสงครามทางอากาศได้เต็มที่ และเปลี่ยน 403 ให้เป็นฝูงที่เน้นภารกิจโจมตีเป็นภารกิจหลัก เน้นภารกิจ Air to Air เป็นภารกิจรอง 403 จะได้ฝึกโจมตีให้เต็มที่ เช่นฝึกโจมตีด้วย LGB ฝึกโจมตีรถถังหรือที่ตั้งต่าง ๆ ด้วย AGM-65 หรือฝึกขัดขวางทางอากาศ และทำให้ 403 มีความสามารถในการทำลาย SAM หรือเป็น Wild Weasel ในระดับจำกัดด้วย (เพราะสหรัฐไม่ขาย HARM ให้ชาติอาเซียน) ส่วน 102 ก็ยังเหมือนเดิมนั่นคือเน้นภารกิจต่อสู้ทางอากาศเป็นภารกิจหลัก และเพิ่มภารกิจสนับสนุน 403 กับ 103 เข้าไป ........ ผมว่ามันน่าจะ Work กว่านะครับ
เห็นด้วยกับแนวความคิดของคุณ skyman เพราะในความรู้สึกของผม กองทัพอากาศยังต้องใช้งาน F-16 ฝูง 103 อีกเกือบยี่สิบปี ซึ่งมันค่อนข้างนาน และถ้าลงทุนปรับปรุงระบบ avionic ให้เครื่องบิน เพื่อใช้งานมันได้อีกยี่สิบปี คิดว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต และมีความคุ้มค่าสูง คิดว่าถ้ากองทัพอากาศทำเรื่องเสนอของบประมาณรัฐบาลเพิ่ม ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้ ก็เห็นอยู่แล้ว ว่าประเทศของเรา มีเรื่องอ่อนไหว ที่สามารถกลายเป็นชนวนเหตุให้มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านได้ตั้งหลายเรื่อง หรือบางทีประเทศเพื่อนบ้านก็จงใจหาเรื่องเราซะอย่างงั้น เราจึงต้องมีกำลังทางทหารที่เหนือกว่าเอาไว้เพื่อความไม่ประมาท ทั้งในเชิงคุณภาพ และปริมาณ นอกจากนี้ผมไม่แน่ใจว่าการปรับปรุงเครื่องบินแบบนี้กองทัพ หรือรัฐบาลสามารถแบ่งจ่าย ตามปีงบประมาณได้หรือไม่ และเห็นด้วยที่สุดในเรื่องระบบเครื่องวัดแบบ analog ที่มีแค่จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงขึ้น เพราะกองทัพอากาศก็ให้เหตุผลในการ upgrade เครื่องบิน C-130 ว่าระบบ analog ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครใช้ แล้วมีค่าดูแลรักษาสูง
ส่วน F-16 ฝูง 102 นั้นเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่ไม่น่าเปลี่ยน แค่ระบบพิสูจน์ฝ่าย น่าจะติดตั้ง link 16 ส่วนเครืองวัดในห้องนักบิน อาจไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ เพราะอายุการใช้งานเหลือน้อยที่สุด
ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ว่า...จะปรับปรุงตรงไหนแบบไหนบ้าง...ทั้งนี้ เราเหมือนคนดูที่นั่งลุ้นว่าอันนั้นดี..ควรติด อันนั้นไม่ดีอย่าติด...แต่ทางปฏิบัติ..ผู้ปฏิบัติทุกฝ่าย..ทั้งนักบินและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง...เขาคิดแล้วเพราะได้ทดลองใช้จริงว่าอะไรดี..ไม่ดี.....
แต่อย่างที่กล่าวข้างต้น....เหมือนบุญมีกรรมบัง...เมื่อ สิบปีที่แล้ว เราเจวิกฤตต้มยำกุ้ง....มาถึงตอนนี้เรากำลังจะฝ่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ....โครงการต่างๆ อาจจะยืดหรือชลอตัว...เพื่อให้ "โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ก" หรือ "เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ GRIPPEN 39 C/D" เดินหน้าต่อไปได้...ไม่ให้หยุดโครงการ (ซ้ำรอย)
ทุกเหล่าทัพต้องการอะไรในช่วงนี้ที่ต้องการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยขึ้น ผมว่าน่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดนะครับ ทั้งสถานการณ์ของเพื่อนบ้านที่จะมีปัญหากับเรา และสถานการณ์ทางการเมือง เป็นใจอย่างมากครับ
ลุ้นให้โครงการสำเร็จครับ(ไม่รู้กี่ปี )
ขนาด Grippen ลุ้นกันตั้งหลายปี ลุ้นจนเบื่อกว่าจะคลอด
ดาวเทียม GPS ของเมกันไงครับท่าน
สาธุ ขออย่าให้เลื่อนเลย รอมานานแล้ว อยากเห็น ไวเปอร์ หล่อๆ อยู่ใน ทอ.สักที ยิ่งเลื่อนเครื่องก็ยิ่งเก่า อีกต่างหาก
อยากทราบว่าการทำ MLU กับซื้อเครื่องมือสองที่ผ่านการทำ MLU แล้วนี่อันไหนคุ้มกว่ากันครับเพราะค่าทำ MLU นี่ได้ยินว่าแพงกว่าซื้อเครื่องมือสองที่ผ่าน MLU มาแล้วมากพอสมควรน่ะครับ