Ref. Matichon.co.th, 10/27/2008
อ่านดูแล้วเข้าใจว่าซื้อ 6 ลำ แบ่งเป็น 2 ล๊อต
ล๊อตแรก 3 ลำ ใช้งบปี 50 (งบซ่อมฮิวอี้ 16 ลำ)
ล๊อตที่ 2 อีก 3 ลำ ใช้งบปี 51 (งบซ่อมฮิวอี้ 15 ลำ)
ตอนนี้ก็ปลายปี 51 แล้ว เป็นไปได้มั้ยว่า MI-17 น่าจะมาถึงเร็ว ๆ นี้
อย่างช้าภายในปี 2552
และที่แน่ๆ คือ ฮท. 1 จำนวน 31 ลำ บินไม่ได้แน่ ๆ เพราะว่าไม่ซ่อมแล้ว
แต่จะมี MI-17 ใหม่จำนวน 6 ลำใช้แทน
สำหรับการซ่อม Bell 212 ก็คงเดิม
พิมพ์ไปตั้งเยอะ กดปุ่มผิดทีเดียว หายเกลี้ยง T_T
เอาเป็นว่า ฟังจากเหตุผลแล้ว จากที่รู้สึกกลาง ๆ เปลี่ยนมาเป็นเห็นด้วยแล้วครับผม
อ้อ Mi-17 ตัวที่จะได้มา ไม่มีจรวดอะไรมานะครับ เป็นตัวเปล่าลำเลียงอย่างเดียว อ้างอิงจากข่าวของ Kommersant ครับ
Thailand for the first time in history, buy Russian military equipment
The Thai government intends to buy three helicopters in Russia, wrote Thursday in the newspaper Kommersant. Earlier this country procure military equipment only in the USA.
The contract for the purchase of Russian helicopters had already approved the Prime Minister of Thailand Sonchat Vongsavat. According to Kommersant, a transport helicopter Mi-171 production JSC "Ulan-Ude aviation plant" (UUAZ). Each helicopter is estimated at 316 million baht (9.2 million U.S. dollars).
The representative of the defense-industrial complex told the publication that changed the helicopters, which intends to buy Thailand is considered to be civil, although this dual-use technology.
At the Thai Army is armed with more than 200 helicopters, the U.S.. However, about half of them can not be operated because of wear and tear. In 2007, writes Kommersant, the government of Thailand approved a program of renovation and modernization of U.S. helicopters, 15 Bell-212. However, after coming to power in September 2007, the government Sonchata Vongsavata contract with the Americans was canceled.
Previously, Russia had repeatedly tried to sell military equipment to Thailand, including helicopters, but no transaction has not taken place, said publication.
http://lenta.ru/news/2008/10/23/thai/
ถ้าอย่างนั้น เท่ากับว่า
1. งบปรับปรุง เฟส 1 ของ ฮท. 1 ยุติไป และนำงบประมาณ ไปจัดซื้อ MI-17 จำนวน 3 ลำ (งบประมาณปี 50)
2. งบปรับปรุง เฟส 2 ของ ฮท. 1 ยุติไป และนำงบประมาณ ไปจัดซื้อ MI-17 จำนวน 3 ลำ (งบประมาณปี 51)
อนาคต ก็จะเป็นดังนี้ รึเปล่า ?
3. งบปรับปรุง เฟส 3 ของ ฮท. 1 ยุติไป และนำงบประมาณ ไปจัดซื้อ MI-17 อีก จำนวน 3 ลำ (งบประมาณปี 52)
4. งบจัดซื้อ ฮ.เอนกประสงค์ วงเงิน 950 ล้านบาท ( น่าจะยังไม่ได้จัดของบประมาณ) นำมาจัดซื้อ MI-17 จำนวน 3 ลำ ตามแผนพัฒนาเดิม (งบประมาณปี 52)
รวม อนาคต ทบ. จะมี ฮ. MI-17 รวม 12 ลำ รึเปล่า ?
ก็อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ที่แล้วละครับว่า ต้องมีการผิดพลาดในเรื่องของข้อมูลการโยกงบ ต้องเป็นการโยกงบซ่อม ฮ.ท. 1 ไม่ใช่ ฮ.ท. 212 อย่างที่เป็นข่าวตอนแรก
ส่วนเรื่องความเหมาะสมก็อย่างที่พูดคุยกันไปแล้วนะครับ ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยในการเลือก Mi-17 เข้ามาใช้งาน และดูเหมือนว่า ท.บ. คงจะไม่จัดหาแบล็คฮอร์คเข้ามาเพื่อเติมอีกแล้วละครับ
ฮ. ตระกูลฮิวอี้ ก็จะยังคงมีประจำการต่อไป โดยเฉพาะ B-212 และ UH-1 H ทีได้รับมาล่าสุดจากเมกา ส่วนรุ่นก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้ซ่อมปรับคืนสภาพก็คงปลดไปเลยนะครับ ท.บ. คงเห็นว่ามันเก่ามากและไม่คุ้มค่ากับการซ่อม สู้เอางบไปซื้อ ฮ. ใหม่ดีกว่า (ทำไมไม่คิดได้ตั้งแต่แรกก็ไม่รู้เนอะ)
ส่วนตัวอยากให้เป็นอย่างนี้นานแล้วครับ อาวุธรัสเซียดี ๆ ตั้งหลายอย่างที่เหล่าทัพของเราควรซื้อหามาใช้งานไม่ว่าจะเป็น ไรเฟิลจู่โจมอย่าง เอเค-74, เอเค-101, อาร์พีจีรุ่นล่าสุด, SAM ระยะยิงปานกลาง-ไกล, MLRS ไปจนถึงเรือรบ
เท่ากับว่าตอนนี้เปิดตลาดได้สองแล้วนะครับ อิ๊กล่า กะ Mi-17 ว่าลุ้นกันต่อดีกว่าว่ารายการต่อไปจากพี่หมีจะเป็นอะไรเอ่ย...
เจ้า ฮิวอี้ คง ล้มหายตายจากกองทัพไทยเร็วๆนี้แล้วหลังจากรับใช้อย่างซื่อสัตย์มานาน
ตอนนี้ อเมริกาก็เปิดตัวรุ่นใหม่ สองเครื่องยนต์แล้ว แต่ก็คาดว่าราคาคงแพง
ไม่ทราบ พอจะรู้มั้ยครับ เห็นรัสเซีย มี ฮ รุ่นนึง ที่คล้ายๆ เจ้าแบล็กฮอร์ค มาก เกือบเป็นฝาแฝดเลย ไม่แน่ใจว่ารุ่นอะไร
หากว่าราคาไม่แพงก็ควรซื้อมาเป็นมาใช้ แทนเจ้า ฮิวอี้ ในอนาคตนะครับ
นึกออกแล้ว เจ้า ka 60 จริงๆ รุ่นนี้ก็น่าสนใจดีด้วย
คาดว่า อนาคต ฮ หนึ่งเครื่องยนต์ คง จะไม่มีใช้แล้ว เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย
กระทู้จาก sup096 ราคาเครื่องปี 2548 - 168 ล้านบาทต่อเครื่อง(น่าจะเป็น Lot ที่เสนอพร้อม SU-30) ราคาปี 2551 - 316 ล้านบาทต่อเครื่องจาก skyman (3ลำ950บาท ซ่อมบำรุง+ฝึกอบรมอีก 50ล้านบาท) ราคาต่างกัน 148 ล้านบาทต่อเครื่อง( +88%)รวมแล้วราคา3เครื่องราคาต่างกัน 446 ล้านบาท ข้อมูลใครผิดพลาดหรือมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกครับ
ถือว่าประเทศไทยได้ปะการังเทียม อีกเพียบเลย
ที่อ่านจากคำให้สัมภาษณ์ของ โฆษกทบ. ดูเหมือนว่าการจัดหา ฮ.Mi-17 ชุดแรกจำนวน3ลำนั้นเหตุผลหลักคือเรื่องราคาครับ ซึ่งในการพิจารณา ฮ.ลำเลียงชุดใหม่อีก3ลำ ซึ่งจะใช้งบประมาณจากการซ่อม ฮ.ท.๑ มาเป็นการซื้อ ฮ.ใหม่แทนนั้นถ้าแนวทางในการพิจารณายังเป็นด้านราคาแล้ว ก็เป็นไปมากที่ ฮ.3ชุดหลังจะเป็น Mi-17 ครับ ทำให้กองทัพบกจะมี Mi-17 รวม6ลำ ซึ่งเพียงพอต่องานลำเลียงทั่วไปในระดับหนึ่ง ตามที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ครับคืออยู่ระหว่าง UH-60L และ CH-47D
อย่างไรก็ตาม ฮ.Mi-17 ที่จัดหามานั้นจะเป็นน่าจะเป็น ฮ.ที่ไม่ติดอาวุธ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าจะถูกใช้งานลำเลียงทั่วไปทั้งทางธุรการ บรรเทาสาธารณภัย หรือลำเลียงกำลังพล(หรือโดดร่ม)ครับ แบบเดียวกับ Chinook
แต่ก็ตามที่กล่าวคือ ฮ.ไม่ได้ติดอาวุธในลักษณะเดียวกับ UH-1H หรือ UH-60L ที่ติดปืนกลอากาศไว้ป้องกันตัวเองด้านข้างประตู หรือบ้างรุ่นก็เป็น ฮ.Gunship ที่ติด ปืนกลลำกล้องหมุน และจรวด 2.75" ดังนั้น ฮ.Mi-17 ที่จะจัดหาจึงมีจุดอ่อนตรงการป้องกันตนเองและอำนาจการยิงสนับสนุนกำลังพลขณะระหว่างเคลื่อนที่เข้าสู่สนามรบซึ่งไม่ค่อยเหมาะสำหรับบ้างหน่วยเช่น หน่วยเคลื่อนที่เร็ว RDF หรือหน่วยรบพิเศษ ที่ต้องเข้าสู่พื้นที่ที่ข้าศึกวางกำลังปฏิบัติการต่อต้านอย่างหนาแน่นเท่าไรครับ และการจัดหาอาวุธมาติดตั้งกับ Mi-17 เพิ่มเติมอย่าง กระเปาะปืนกล หรือ จรวด57มม.ก็เป็นระบบของรัสเซียซึ่งต่างแบบและซ้ำซ้อนกับระบบอาวุธที่มีอยู่เดิมซึ่งเป็นระบบสหรัฐฯ-NATO ซึ่งดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไรครับ
โดยส่วนตัวจึงเชื่อว่านอกจากการจัดหา Mi-17 จำนวน 3-6ลำดังกล่าวนั้น กองทัพบกคงต้องมีการจัดหา ฮ.Blackhawk เพิ่มเติมครับ เพราะจะได้ไม่มี ฮ.ใช้งานมากแบบเกินไป แต่จำนวนเดิมที่ตั้งไว้ราว 33ลำคงจะลดลงครับ โดยบางส่วนคงจะมี ฮ.Mi-17 ใช้งานแทนในหลายๆภารกิจ
ฮ.UH-1 EDA ที่ทราบมีราว30ลำครับซึ่งคงจะใช้ไปจนหมดอายุการใช้งาน ส่วน ฮ.UH-1H รุ่นเก่านั้นก็คงจะถูกแทนที่ด้วย ฮ.ลำเลียงใหม่ทั้ง UH-60L และ Mi-17 ตามแผนจัดหาที่ออกมาในข้างต้นครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ งบประมาณได้รับครับว่าจะจัดหา ฮ.แบบใดและจำนวนเท่าไรได้บ้าง
ส่วนตัวแล้วคิดว่า Mi-17 คงไม่ต้องติดอาวุธจำพวกจรวดอะไรหรอกครับ เพราะจะไปลดจำนวนกำลงพลที่จะขนไปได้ จากน้ำหนักอาวุธที่เพิ่มขึ้น
กรณีใช้ Mi-17 เคลื่อนย้ายหน่วยอย่าง RDF อย่างเก่งก็คงดัดแปลงติดปืนอย่างมินิกัน 7.62 หรือขนาดใกล้เคียงกัน เพิ่มโหลดอีกนิดหน่อย จะใช้พลประจำยิงหรือรีโมตก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ปืนรัสเซียก็ได้นิครับ
อย่างไรก็ตาม หากจะใช้งานเป็นลูกผสมกันชิพ+ลำเลียง ผมก็ว่าน่าจะทำได้นะ ขึ้นอยู่กับภารกิจนะครับ อีกอย่างเราก็ไม่ค่อยจะมีกระเปาะปืน+จรวดใช้กับ ฮ. อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของเมกันหรือประเทศไหน จึงไม่ควรจะเป็นห่วงปัญหาการเข้ากันไม่ได้กับระบบอาวุธเดิมหรือปัญหาแบบอาวุธที่มีมากเกินไป
หากจะมีการจัดหามาเพิ่มเติมในอนาคตผมก็ว่าไม่แปลกนะครับ...
อ่านข่าวใน Bangkok post ครับ ฟังแล้วต่างจากข่าวมติชนพอสมควร ...... เขาบอกว่าตอนนี้ทบ.มีเงินซื้ออยู่แล้ว 3 ลำ และจะเอางบซ่อม ฮ. มาซื้ออีก 3 ลำ รวมเป็น 6 ลำ ...... ซึ่งผมว่าอันนี้น่าจะถูกต้องมากกว่านะครับ เพราะกองทัพบกก็มีโครงการเขียนเอาไว้แล้ว งบก็น่าจะกันไว้แล้ว ...... ผมว่าโดยรวมน่าจะเป็นแบบที่คุณ juldas คาดไว้ครับ ..... งบซื้อ 3 ลำ+งบซ่อม ฮ. ซื้อได้ 9 ลำ = Mi-17V5 ทั้งหมด 12 ลำ
DEFENCE
Army to buy Russian choppers
WASSANA NANUAM
The army has decided to buy six new multi-role helicopters from Russia, the first time it has opted not to buy helicopters from the United states.
Army chief Gen Anupong Paojinda said yesterday the army had decided to procure six Mi-17 helicopters from Russia because they met its needs and were cheaper than the American Black Hawk helicopters.
The army has one billion baht in hand to purchase the first three Mi-17s and will divert funds earlier allocated for the repair of its old helicopters to buy the other three, he said.
Army spokesman Col Sansern Kaewkamnerd said the army had cancelled planned repairs to 16 old HU-1 helicopters.
They had been in use for more than four decades and the contractor could not finish the repairs on schedule because of a lack of spare parts.
A committee headed by army assistant chief Gen Theerawat Boonyapradap, a former cadet classmate of Gen Anupong, had decided that buying the Russian helicopters was the better option. The Mi-17 could carry 36 troops and a light military vehicle at the same time. The smaller Black Hawk could carry only 13 soldiers and was much more expensive.
"We can get three Mi-17 helicopters for the same cost as one Black Hawk helicopter," the army spokesman said.
The first three Mi-17s are priced at 950 million baht, with another 50 million baht for pilot training and ground equipment.
Col Sansern said Mi-17s were used in many countries and could be used for rescue work. The supplies of spare parts available would allow them to stay in service for decades.
The purchase needs approval from Prime Minister Somchai Wongsawat, who is also the defence minister.
Russia had offered to sell Mi-17s to Thailand at 168 million baht each in 2006, but the price has now risen to more than 300 million baht each. The deal has been arranged by the same brokerage firm that supplied the army with 96 armoured vehicles from Ukraine for four billion baht - a deal criticised as lacking transparency.
http://www.bangkokpost.com/281008_Ne...008_news11.php
ไม่เห็นด้วยที่จะกราวด์และไม่ซ่อมใหญ่ที่เหลืออยู่ เพราะฮิ้วอี้ยังเหมาะในการลำเลียงหมู่ทหารขนาดเล็กและลำเลียงของขนาดเล็ก มากกว่าmi-17 ดังนั้นถ้าเป็นอย่างนี้จริง โครงการจัดตั้งทหารราบม้าอากาศของทบ.ก็ไม่ได้เกิดนะสิ เป็นที่น่าสังเกตุที่ว่าโครงการซ่อมอาอาศยานของไทยส่วนมากของต่างชาติจะได้รับมากกว่าของไทยเอง อาจเป็นเพราะต่างชาติให้คอมมิสชั่นมากกว่าของไทยก็ได้ หุหุ
สหรัฐเป็นชาติมหาอำนาจ มีเงินและมีความพร้อมรบมากกว่าของไทย แต่ยังมีการซ่อมสร้างฮิวอี้และนำมาใช้จำนวนมาก ผิดกับไทยที่ไม่อุดหนุนอุตสาหกรรมการบินของตน แต่เห็นแก่เงินคอมมิสชั่นมากกว่า โดยอ้างว่าใช้mi-17คุ้มค่ากว่าฮิ้วอี้ แต่ที่จริงแล้วmi-17เหมาะในการลำเลียงหน่วยทหารขนาดใหญ่และขนส่งของขนาดหนักมากกว่า
ภาพกองทัพอากาศสหรัฐใช้ฮิ้วอี้ที่ปรับปรุงใหม่ ประจำการทางทหารเรียกว่าth-1hหรือ ที่ทางบริษัทเบลใช้ชื่อโครงการครั้งแรกว่าฮิ้วอี้2
...หากนำ มิ-17 มาใช้ขนส่งกำลังรบเข้าพื้นที่การปะทะ แสดงว่าหลักนิยม ของ ท.บ.น่าจะเปลี่ยนไปนะครับ เพราะ มิ-17 จากรัสเซีย จัดเป็นฮ.ครบเครื่อง ทำภารกิจโดดๆเช่นยิงคุ้มกันและเลียง ด้วยอาวุธเบาและหนักเช่น กระเปาะจรวด ปืนกล จรวดต่อต้านรถถัง ระเบิด ซึ่งทำการรบ ได้โดยไม่ต้องพึ่ง ฮ.โจมตี ที่บ้านเราไม่มีงบไปจัดหาเพิ่มเติมอยู่ดี(และในอนาคต) หากมองในแง่ความพอดีและประหยัดกับงบประมาณที่ ท.บ.ได้รับ ก็นับว่าคุ้มค่านะครับถอดอาวุธออก ก็ยังใช้ทำภารกิจอื่นๆได้ ส่วน ฮ.นาโต้นั้นติดอาวุธได้น้อยและไม่ติดอาวุธเป็นส่วนใหญ่ต้องพึ่งพากำลังจาก บ.จ./บ.ข. ชนิดอื่นๆ ที่เรามีไม่มากพอ และอีกเรื่องคือภัยคุกคามในภูมิภาคนี้ ฮ.ลำเลียง/กันชิพก็สามารถทำงานแทน ฮ.โจมตีได้
...จริงอยู่ที่ฮ. มันใหญ่ครับ ความคล่องตัวไม่เท่า ฮ.จากนาโต้ แต่สำหรับบ้านเรา มีงบจะไปจัดหามาได้หรือไม่ (ยิ่งใช้ในภารกิจลำเลียง บรรเทาสาธารณะภัย แบบ ซึนามิล่ะก็คงช่วยไปได้เยอะเลยครับ) ส่วนที่ต้องซ่อมอาจจะได้อยู่ แต่ส่วนที่ปลดประจำการ ท.บ.จะแบ่งงบไปหาฮ.จากนาโต้มาได้รึเปล่า (แต่ล่ะรุ่นราคา ไม่น้อยนะ) ส่วนเรื่องระบบอาวุธติดฮ. นั้น เหมือนที่ท่าน เสือใหญ่ว่าไว้ครับ บ้านเรามีใช้กี่อย่างเอง กระสุน 20 ม.ม. กระเปาะจรวด(ติดกับ คอบร้าเพียงน้อยนิด และ จรวดโทว์) นอกนั้นไม่มีอะไรเพียงพอที่จะช่วยยิงคุ้มกันได้เลย อย่างมากก็ มินิกัน และ 12.7 ม.ม.
....แต่ส่วนตัว อยากให้ลดแบบให้น้อยที่สุดครับ เช่น ยูเอช-60 แอล มิ-17 เป็นหัวหอกหลักๆน่ะครับ
....คิดซะว่าเหมือนตอนที่ ท.อ. รับ แอล-39 มาล่ะครับใช้ๆไปก็ชินเอง
....และอีกเรื่อง ผมว่าประตูบ้านเราเริ่มเปิดรับอาวุธรัสเซีย เพิ่มมากขึ้นถ้าหากกองทัพมีความต้องการอาวุธหลายๆแบบมาช่วยเสริมกำลังและงบประมาณไม่มากพอ ดีไม่ดีอาจจะได้เห็น ที-90 หรือ เอที-14 คอร์เน็ท-อี และ คา-50/52 มิ-26 ก็ได้ใครจะไปรู้
...ป.ล.เชียร์อาวุธรัสเซียตามท่านเสือใหญ่ครับ
^
^
^
ข้อความบน เป็นอะไรรึเปล่าครับ ผมก็เห็นเค้าใช้กันให้รึ่ม ไอ้ของห่วยๆ นี่
ซื้อของมาแล้ว พัง กราวน์ ปัจจัยมันไม่ได้อยู่ที่ประเทศที่ผลิตอย่างเดียวมันอยู่ที่ความสามารถในการซ่อมบำรุง การดูแล ของประเทศที่ซื้อด้วย
F-16 ของมะกันดีเลิศใช้กันไปทั่ว ก็ยังตกให้เห็นอยู่เรื่อย ผมก็ว่ามันห่วยได้เหมือนกัน แพงก็แพง�
^
^
ประทานโทษ ด้วยความเคารพ ดูถูกรัสเซียมากไปรึเปล่าครับ ประเทศอื่นๆในโลกเยอะแยะใช่ ฮ รัสเซียไม่เห็นมันจะมีปัญหาอะไร มีหลักฐานอะไรไปว่าเขาห่วยครับ ถามจริง ใช้อะไรเป็นสมมุติฐานครับ .... บอกว่าดูจากระบบความปลอดภัยของ Mi-17 ว่าไม่ดีนี่ใช้หลักฐานอะไรยืนยันครับ...ผมว่าไม่เหมาะสมนะครับที่จะพูดดูถูกอะไรที่ไม่มีหลักฐาน พูดมาลอยๆไม่น่าเชื่อถือหรอกครับ เอาหลักฐานมายืนยันดีกว่า ว่าของรัสเซียห่วย...
ปล. ใช้คำสุภาพด้วยครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ Blackhawk มากกว่านะ และอยากให้จัดหามาใช้เพิ่มเติมจะดีกว่าครับ ถึงแม้จะซื้อได้ครั้งและไม่กี่เครื่องก็ตาม Mi-17 ก็ใช้ว่าจะไม่ดีซะทีเดียว เห็นตอนที่เวเนซูเอร่าซื้อแล้วยังชอบเลยเลยดูดีทีเดียว(ดูทีที่2ไม่ดีแล้ว 555 ) ส่วนตัวผมมองถึงการใช้งานและการซ่อมบำรุง ถ้ามีมากแบบมันจะยุ่งเกินไปหรือเปล่า...อย่าคิดว่าเจ้า L-39 จะไม่มีปัญหานะครับ มันเป็นม้าพยศดีๆนี่เองแหละ วันไหนอารมณ์ไม่ดีดีดนักบินตกม้าเลยนะ(ผมเปรียบให้ดูนะอย่าคิดมากแค่เห็นช่างเค้าบ่นๆมาอ่ะ) ก็อย่างที่พี่หลายท่านว่ามานั้นแหละของแบบนี้มันอยู่ที่การดูแลทำดีก็อยู่กับเรานาน แต่เคยสังเกตบ้างไหมครับ ท.บ. กับ ท.ร. มักมีปัญหากับการซ่อมบำรุงอากาศยาน (เพราะคงไม่ตรงตามสายงาน) แต่ ท.อ. ก็มีนะแต่ส่วนมากจะเจ็บแล้วจำ ผมไม่เคยเห็น ฮ.รัสเซียมาใช้งานในบ้านเราเลยไม่อยากฟันธงไปเลยว่าดีหรือไม่ แต่การจัดซื้อแต่ละครั้งควรคำนึงถึงอะไรบ้างพี่ๆหลายท่านก็คงเข้าใจดี ถ้ามันใช้ดีก็ซื้อเพิ่มใช้เปล่าครับ แต่ถ้าใช้แล้วไม่ดีล่ะ จะทำยังไงกับมันดี จอดทิ้งหรือตั้งโชว์ดี
มานั่งลุ้นกันดีกว่ามา ฮ.SAR ใหม่ของ ท.อ.หวยจะออกอะไร.....
ถ้า ฮ. รัสเซียเกิดได้ผมว่ายาวนะ หมายถึงอนาคตนะครับ
ฮ. มันจะดีหรือห่วย ไม่ได้อยู่ที่ปากคนหรอกครับ การจัดหาก็ทยอยทำกันอยู่แล้ว ไม่ไช่ซื้อทีเดียวฝูงครึ่งฝูง ชุดแรก 3 ตัว ลองดูถ้ามันเวิร์ค ก็จัดหาเพิ่ม ถ้าไม่ก็ขายต่อหรือไม่ก็ใช้มันไปจนหมดสภาพ คนใช้จริง ๆ จะเป็นคนตัดสินครับ
เรื่อง ฮ.เน้นภาระกิจ ลำเลียง ขนส่ง...ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องคุณภาพ หรอกครับ...ปัญหาใหญ่ ๆ เท่าที่เห็นคือ สป.4 (เชื้อเพลิง) กับ การซ่อมบำรุง เท่านั้น...ซึ่ง ฮ.ชินุค หรือ ฮ.ต่าง ๆ ของ ทบ. ผมคิดว่า หน่วยที่ต้องมีการพัฒนา และควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ คือ หน่วยซ่อมบำรุงของ ทบ. ล่ะครับ...(ผมไม่รู้ว่า พวกซ่อมบำรุงอากาศยาน ทบ. หน่วยไหนเป็นคนดูแล)...ถ้าหน่วยจัดเป็นหน่วยคุณภาพ และประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับของ ทอ. น่าจะช่วย ทบ. ได้มากในเรื่องการใช้งานของ ฮ. อย่างคุ้มค่า ครับ...
ส่วน MI-17 ผมคิดว่า ทบ. คงเน้นภาระกิจ ขนส่ง มากกว่า อาวุธ ครับ...ถ้าลองไปเว๊ปไซด์ ของ ทบ. ของ กองบินปีกหมุนที่ 2 จะแบ่ง ฮท. 1 ออกเป็น 2 ประเภท คือ ฮท. 1 อาวุธ กับ ฮท. 1 ขนส่ง...ผมเลยลองมองการจัดหน่วยปีกหมุนของ ทบ. เป็น
MI-17 = ขนส่ง
ฮท.1 = อาวุธ (คุ้มกัน สนับสนุนโจมตี)
Bell 212 = ขนส่ง (และอนาคต น่าจะทดแทนภาระกิจแทน ฮท. 1 คือ อาวุธ (คุ้มกัน สนับสนุนโจมตี)
และผมก็มองไปอีกว่า MI-17 น่าจะเป็นตัวเลือกแทน UH-60L ที่เดิม ทบ. กำหนดความต้องการไว้ 33 ลำ...
อนาคตอาจจะเป็น UH-60L = 11 ลำ และ MI-17 = 22 ลำ ก็จะเป็น 1 : 2 (เดา) ก็จะใช้งบประมาณ ใกล้เคียงกับ งบประมาณเดิมในการจัดหา UH-60L จำนวน 33 ลำ (ปัจจุบัน ราคาของ แบล็คฮอร์ค น่าจะปรับเพิ่มจากเดิมพอสมควร) น่าจะออกมาแนวเหมือนกับ การจัดหา BRT-3 ของ ยูเครน ครับ...(เพราะเนื้อข่าว บอกว่าราคา MI-17 ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง คือ MI-17 ได้ 3 ลำ ถ้าซื้อ UH-60L ได้ 1.5 ลำ)
MI-17 กำลังมาแรงแฮะ วันนี้ก็ออกข่าวมติชนอีกแล้ว
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11190 มติชนรายวัน "อนุพงษ์"เสริมกองทัพ "รถหุ้มเกราะ-ฮ.MI-17" " ทำให้ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เดินหน้า "ซื้อเงียบ" อาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก และทุกโครงการได้รับการสนองตอบจาก "ฝ่ายการเมือง" ด้วยดีทุกครั้ง เริ่มจากจัดซื้อ "รถหุ้มเกราะล้อยาง" จากประเทศยูเครนจำนวน 96 คัน วงเงิน 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีปืนเล็กยาวของประเทศอิสราเอล จำนวน 15,307 กระบอก วงเงิน 1,012 ล้านบาท รวมถึงการจัดซื้อเครื่องบินเจ็ท 1 ลำ 950 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ทั้งนี้ งบประมาณของกองทัพบกประจำปี 2551 มี 2 ส่วน คือ 1.งบฯจัดซื้อ ที่กองทัพบกพิจารณาจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ แบบ MI-17 จำนวน 3 ลำ จากประเทศรัสเซีย รวมเป็นเงิน 950 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้กองทัพบกเสนอผ่านคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก (กมย.ทบ.) เสนอขึ้นสู่การพิจารณาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้ว และส่วนที่ 2 คือ งบฯจัดซ่อมที่รัฐสภาอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อให้กองทัพบก "จัดซ่อม" เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.1 (ฮิวอี้) จำนวน 15 ลำ ซึ่งงบฯจัดซ่อมส่วนนี้เองที่กองทัพบกมีแนวคิดที่จะแปลงเป็นงบฯจัดซื้อ ฮ.แบบ MI-17 ของรัสเซีย จำนวน 3 ลำ เนื่องจากในปี 2550 กองทัพบกทำสัญญากับบริษัทอุตสาหกรรมการบินจำกด หรือ TAI เพื่อซ่อม ฮ.ฮิวอี้ จำนวน 16 ลำ ซึ่งตามกำหนดต้องส่งคืนกองทัพในเดือนสิงหาคม 2551 อย่างน้อย 6 ลำ แต่บริษัทดังกล่าวส่งคืนมาเพียง 2 ลำ ดังนั้น กองทัพบกเห็นว่า หากงบประมาณปี 2551 อีก 1,000 ล้าน ต้องจัดซ่อม ฮ.อิวอี้ อีก 15 ลำ ไม่รู้จะได้รับเครื่องในปีใด ดังนั้น กมย.ทบ.จึงเห็นควรที่จะแปลง "งบฯจัดซ่อม" นี้เป็น "งบฯจัดซื้อ" เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ แบบ MI-17 จำนวน 3 ลำแทน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งานของกองทัพ เมื่อพิจารณาเขี้ยวเล็บ ฮ. MI-17 ของรัสเซียนี้ ราคาลำละ 316 ล้านบาท มีคุณลักษณะเป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง สามารถบรรจุกำลังพลได้ 36 คน ไม่รวมลูกเรือ จำนวน 4 คน และสามารถแปลงจากบรรจุกำลังพล เป็นบรรทุกรถยานยนต์รบขนาดเล็กได้ หากเปลี่ยนภารกิจจากลำเลียงปกติเป็นปฏิบัติการด้านการรบ เมื่อเทียบกับเครื่องบินแบล็คฮอร์คที่กองทัพบกมี ประจำการอยู่ประมาณ 7 ลำ ในภารกิจลำเลียงพลที่สามารถบรรจุกำลังพลได้ 13 คน ไม่รวมนักบิน 4 นาย เครื่องบิน ฮ.แบล็คฮอร์คภารกิจหลัก คือ การรบ ขณะที่ ฮ. MI-17 ภารกิจหลักคือการลำเลียง และเมื่อ ฮ.ฮิวอี้ ที่มีภารกิจลำเลียงมีอายุใช้งานมากว่า 40 ปี สามารถทำการบินจริงได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ "พล.อ.อนุพงษ์" จึงเคาะให้จัดซื้อเครื่องบินรุ่นนี้แทนการจัดซ่อม หน้า 11 |
ฮ.Bell 212 เฉพาะที่ประจำการใน ศบบ.(กองบินปีกหมุนที่3) ราว24-25ลำนั้น เป็น ฮ.รุ่นที่ใช้งานทางพลเรือนซึ่งไม่ติดอาวุธใดๆครับ ซึ่งต่างจาก UH-1H รุ่นต่างๆที่มีอยู่ใน ศบบ.ซึ่งเป็น ฮ.ที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานในกองทัพบกสหรัฐฯโดยตรงและสามารถติดตั้งอาวุธแบบต่างๆเช่น ปก.ที่ด้านข้างประตู หรือรุ่นGunship ติดปืนกล Minigun และจรวด 2.75" เป็นต้น
แต่ ฮ.Bell 212 ที่ประจำการใน กบร.กองทัพเรือนั้นสามารถติดอาวุธเช่นกระเปาะปืนกล 20มม.และจรวด 2.75"ได้ครับ ซึ่ง ฮ.Bell 212 ของ ศบบ.ทบ.ก็น่าจะทำการปรับปรุงในลักษณะดังกล่าวได้ครับ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากที่ๆเห็นกันอยู่นั้น ฮ.Bell 212 ของกองทัพบกจะถูกใช้ในการลำเลียงด้านธุรการเป็นหลักครับและถ้าดูจากอายุการใช้งานแล้ว ถ้ามีงบประมาณโครงการติดอาวุธให้ ฮ.Bell 212 นี้น่าจะเปลี่ยนนำไปติดกับ UH-60L มากกว่าครับ เพราะเครื่องมีอายุการใช้งานและมีความทันสมัยมากกว่าครับ
ถ้ามีการจัดหา ฮ.Blackhawk เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ก็คงจะมีการจัดหามาอย่างน้อย 2-3ลำ ซึ่งเข้าใจว่ากองทัพบกคงจะพยายามจัดหาเครื่อง Blackhawk ให้ได้อย่างน้อย 9-12ลำครับ ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่าถ้ามีการจัดหา Mi-17 มาใช้งานขั้นต้น 3-6ลำแล้วนั้นกองทัพบกจะตัดสินใจจัดหา ฮ.เพิ่มเติมในลักษณะใดต่อไปครับ ซึ่งถ้าอ่านจากข่าวในข้างต้นนั้นกองทัพบกจะใช้ Mi-17 ในการลำเลียงทั่วไปเป็นหลัก และใช้ Blackhawk สำหรับภารกิจปฏิบัติการรบโดยตรงครับ
ผมว่าทางกองทัพก็คงมีเหตุผล ของเขา
ที่น่าจะดี ถึงตัดสินใจทำลงไป ไม่เปลี่ยนแปลง
ก็ไม่เห็นผล รอดูกันต่อไปครับ
เหมือนอย่างฮัมวีนะครับ ผมว่ามันไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่นักหรอก ใหญ่ก็ใหญ่แถมกินจุเกินรถระดับจี๊บใหญ่ แค่รถธุรการเอามาเขียนเสือให้เป็นรถรบ !
จี๊บยี่ปุ่น จี๊บไทย จี๊บรัสเซีย (โครตถึกอึด) ยูนิม๊อคใหม่ๆ จะดูเข้าท่ากว่าไหม หรือไม่ก็อย่างบุชมาสเตอร์หรือรีว่าไปเลย ดูจะเข้าท่ากว่าไหม ?
เปรียบเทียบกับ ฮ. นะครับ จริงหรือเปล่าที่แบล็คฮอร์คมันเหมาะสมกับเรา แพงแต่เอามาใช้แค่บินธุรการขนส่ง ไม่รู้ว่าฮ. มันดีเกินไปหรือเราไม่ใช้มันให้คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพ เหมือนขี่อีคลาสไปซื้อของที่เซเว่นปากซอยยังไงไม่รู้ ปั่นจักรยานหรือฮ้อมอไซค์ไปก็พอแล้ว
ผมสงสัยอยู่อย่างว่าของถูกมันไม่ดีตรงไหนของเมกาแพงแสนแพง
บรรลัยอย่างเจ้าUH-60เนี้ยะนะแพงก็แพงบรรทุกคนก็น้อยอย่างมากสุด
แค่14คนไม่รวมนักบิน2นายแต่ถ้าติดอาวุธน้ำหนักบรรทุกก็จะลดตามไป
ด้วย
แต่ผู้คนจึงนิยมมากกว่าMI-17ของรัสเซีย
ทีบรรทุกคนได้ถึง36คนไม่รวมนักบิน2นายแต่ราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง
ราคา950ล้านบาทซื้อMI-17ได้ถึง3เครื่องแต่ซื้อของเมกาอย่างUH-60
ได้แค่ลำกว่าๆๆเท่านั้นที่ว่าของรัสเซียห่วยเอามาตรฐานอะไรมาวัดขอ
ให้คนที่บอกว่าของรัสเซียนั้นห่วยช่วยตอบคำถามผมทีไม่ใช่สักแต่ว่าพูด
จาสงเดชไปอย่างนั้นหรือพูดจาลอยๆๆๆขึ้นมาของอะไรก็ช่างถ้าเรารู้จัก
บำรุงรักษาดีๆๆมันก็จะอยู่กับเราได้นานอย่างเอฟ-16รับใช้เรามาก็จะ20ปี
ร่อมร่อยังไม่ตกสักลำส่วนข้างบ้านตกกันเป็นว่าเล่นอย่างMI-17นี้ก็
เหมือนกันถ้าบำรุงรักษาดีๆๆไม่ใช่สักแต่ว่าใช้อย่างเดียวมันก็อยุ่กับเราได้
นานตราบเท่าอายุการใช้งานที่ผู้ผลิตเป็นคนกำหนดเอาใว้ดีไม่ดีอาจ
นานกว่านั้น