บรรยากาศภายใน "ตะพาบน้ำ" (ฝ่ายตรงข้ามเรียก ฮัมวี่ว่า ตะพาบน้ำ อืมมมม มันก็จริงของมันแฮะ เหมือนจริงๆ แต่กระดองตะพาบน้ำไม่ยักแข็ง)
มาดูด้านหลังตะพาบน้ำบ้าง.......สิ่งเดียวที่พกไปด้วยเวลาออกข้างนอกคือ "สติ" ......ไม่มีอะไรอุ่นใจเท่าเอา "สติ" ไปด้วย......ประเภทนั่งรถเล่น เหม่อลอย หรือ คุยโทรศัพท์ไปด้วยละก็ระวังตัวให้ดี.....หามุมเปิดช่องและลืมตา(จะอ้าปากด้วยก็ได้ หุหุ)ตรวจการณ์ให้มากที่สุด.....
เกราะมันหนักตามน้ำหนักของมันอยู่แล้วละครับ....ถ้ามีเสื้อเกราะ ถ้านั่งรถก็ใส่มันไปเถอะครับ ช่วยเซพได้ระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆถ้าโดนลอบยิงก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา (แต่ถ้าเดินเท้าจรยุทธ์ป่าภูเขาแล้วละก็ก็อีกกรณีหนึ่ง ) ฝ่ายตรงข้ามถ้าลอบยิงมันก็เปลี่ยนเป็นเล็งช่วงล่างของเรา(เพราะไม่มีเกราะ) อย่างน้อยก็เปลี่ยนจากตายเป็นเจ็บ มีเคสหนึ่งใส่เสื้อเกราะ แต่ถอดแผ่นเกราะที่สีข้างออก(เพื่อลดน้ำหนัก)แล้วดันโดนยิงเข้าสีข้างพอดีเป๊ะเลย......การใส่เสื้อเกราะควรจัดปรับให้พอดีกับตัวเราให้มากที่สุด หรือจัดปรับให้เราเกิดความคล่องแคล่วให้มากที่สุด และก็ควรทำตัวให้ชินกับมันให้มากที่สุด
มาเปลี่ยนบรรยากาศครับ จากตะพาบน้ำ เรามาเป็นแก๊งเด็กแว้นกันบ้าง
ฝนตกพรำๆ เย็นสบาย บรรยากาศดี.........กฏเหล็กของที่นี้คือ ห้ามออกไปคันเดียว....แต่ในบางสถานการณ์ภารกิจที่ได้รับ ก็อาจทำให้ยานพาหนะไม่พอเพียงกับการจัด 2 คัน ก็ต้องออกคันเดียว(ภารกิจเหนือสิ่งอื่นใด) เป็นการเพิ่มเกณฑ์เสี่ยง มันก็อยู่ที่ ฝ่ายอำนวยการและผู้บังคับหน่วยว่า ยอมรับเกณฑ์เสี่ยงได้มากขนาดไหน ดีที่สุดก็คือ ปิดช่อง ลดเกณฑ์เสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด........ลูกน้องผมมันพูดเล่นๆว่า ถ้าผมเอามอไซด์ขึ้นรถกระบะแล้วขับมาได้ไหมครับ เพราะ 2 คันเหมือนกัน ผมก็ยิ้มแล้วตอบว่า อยากตายก็เรื่องของ มึ.....(ในใจก็ชื่นชมลูกน้องว่า มึ..คิดได้ไงฟ๊ะ ตูยังคิดไม่ได้เลยนะเนี่ย อืมมม น่าคิด 2 คันเหมือนกันไม่ผิดกฏ)...
การใช้งานรถจักรยานยนต์นั้น ถ้าใช้งานถูกวิธี มีรูปขบวนทางยุทธวิธีแล้วใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง
สนธิกำลังครั้งนี้ ยานพาหนะ 4 แบบเลย........นำหน้าโดยกระบะของเจ้าเพื่อนรักตัวดีของผมที่ ขาว สูง หล่อ ที่สุดใน ฉก.(เหอะๆๆๆๆ) ตามติดมาด้วยเจ้า "อยู่ในหมอก" ยานรบชั้นดี(ถ้าดัดแปลงเล็กน้อย)ที่มองข้ามกันไป ตะพาบน้ำ คลานตามมาเป็นตัวที่ 3 และปิดท้ายด้วยแก๊งเด็กแว้นที่มีผมเป็นหัวหน้าแก๊ง (เหอะๆๆ เสียดายที่ไม่มีสก๊อยซ้อนท้ายมาด้วย)....
เส้นทางสายนี้แหละครับ เส้นทางที่เราเคยสูญเสียนักรบไป 8 ศพเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 51(น่าจะยังคงจำกันได้)
ผ่านตรงนี้ที่ไร เศร้าใจ...หลุมระเบิดเคสนักรบ 8 ท่านของเรา....ตอนนี้หญ้าขึ้นคลุมหมดแล้ว(ไม่ได้กลบ) จุดนี้ต้องตรวจสอบเพราะชัยภูมิเอื้ออำนวยในการซุ่มฝ่ายตรงข้ามอาจจะทำซ้ำที่เดิม
ทีใครทีมัน....ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งก็ไม่เหลือ
ผมไม่ได้ถือกล้องคอยถ่ายตลอดครับ......มันอยู่ที่การจัดแต่งอุปกรณ์ในการเอื้ออำนวยในการหยิบใช้.....เลือกถ่ายในช่วงเวลาที่มีเกณฑ์เสี่ยงน้อย.....ตรวจการณ์ไปด้วย พอตรวจจุดอันตรายเสร็จก็ละมือข้างที่ไม่ได้กำด้ามปืนนั้นแหละหยิบกล้องขึ้นมา(สายตาก็ยังตรวจการณ์อยู่) พอได้ช่วงโอกาสเหมาะก็รีบยกแล้วกดถ่าย(โหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหวนั้นแหละครับ กดถ่ายต่อเนื่องเลยแล้วมาคัดเอาทีหลัง) ละสายตาประมาณ วิสองวิ และที่สำคัญผมก็ไม่ได้ถ่ายทุกภารกิจครับ แล้วแต่ช่วงโอกาส
มาดูรถเกราะกันบ้างครับ(เหอะๆๆ)
บรรยากาศตัวเมือง
ความจริงรถกระบะนั้น ถ้าใช้งานถูกวิธีและเลือกใช้ยุทธวิธีเหมาะสมแล้ว ผมก็ว่าไม่เลวครับ ในพื้นที่คับแคบ เช่น ถนนป่าภูเขาแล้ว คล่องตัวกว่า ตะพาบน้ำ ครับ อัตราเร่งเหนือกว่า แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้รูปแบบยุทธวิธีที่เหมาะสมและหลากหลาย รวมถึงการจัดวางแผนการบรรทุก ครับ
ว่าจะไม่พูดแต่ก็อดไม่ได้ครับ
รถเกราะอีกแบบครับ.....คือก็เข้าใจในความหวังดีนะครับ แต่ผมก็พยายามคิดถึงประโยชน์ในการใช้งานมันยังไง คือก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยกันอะไร จะกันกระสุนก็ อืมมม นึกภาพไม่ออกว่ามันจะยิงมาในมุมนั้นยังไง จะกันระเบิดก็ อืมมม รถมันคงกระจายหายไปทั้งคันเลยละ ขนาดตะพาบน้ำยังกระเด็นตีลังกา ครั้นจะบอกว่าเอาไว้ล้มรถแล้วอาศัยรถเป็นที่กำบังยิง อืมม ผมว่า ใช้การยิงประกอบการเคลื่อนที่ไปหาที่กำบังข้างทางดีกว่าหรือเปล่า และที่สำคัญคือ ตำแหน่งของขาพลขับนั้น ผมว่าถ้ารถล้ม หรือ ล้มรถขณะวิ่งอยู่ละก็ ขาพลขับไม่หักก็เนื้อขาหายละครับ(มันคมซะด้วยสิ) ไม่ได้มีเจตนาจะว่าคนออกแบบนะครับ แต่ผมสงสัยจริงๆ
อีกซักมุม ดูตำแหน่งที่พักเท้าให้ดีๆ ครับ เข้าเกียร์ยาก เบรกก็ยาก และที่สำคัญถ้ารถล้มแล้วผมกลัวว่าข้อเท้าหรือขาจะหักนะครับ
มันอยู่ที่การจัดวางแผนการบรรทุก หรือพูดง่ายๆก็คือ จัดวางตำแหน่งบุคคลครับ มันไม่มีอะไรช่วยป้องกันเราได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ครับ มันต้องประกอบกันทั้งหมดในอัตราส่วนที่พอดี ทั้งอุปกรณ์และการใช้งานทางยุทธวิธี การกำบัง มุมตรวจการณ์ และพื้นการยิง มันต้องสอดคล้องอยู่ในอัตราส่วนที่พอดี การยิงทะลุช่องต่อเป้าหมายเคลื่อนที่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และที่สำคัญส่วนมากจากบทเรียนที่ผ่านมาฝ่ายตรงข้ามมักจะเลือกยิงที่ห้องโดยสารด้านหน้ามากกว่า เพราะง่ายกว่าเยอะ(ถ้าปรับปรุงรูปแบบเกราะในห้องโดยสารหน้าด้วยก็ดี) ดังนั้นจุดสำคัญอีกอย่างคือการตรวจการณ์และช่องทางในการตอบโต้หลังจากนั้นมากกว่า แต่ถ้าโดนระเบิดมันก็อีกกรณีหนึ่ง ซึ่งมันก็มีวิธีการและมาตรการณ์ของมันครับ สิ่งสำคัญคือการซักซ้อมให้เกิดความเข้าใจ ไม่ใช่พอโดนแล้วทำอะไรไม่ถูก ......
ถูกต้องครับ การ ลว. คุ้มครองเส้นทางด้วยการจรยุทธ์เดินเท้าเป็นสิ่งที่พึงกระทำที่สุด ซึ่งปัจจุบันก็ทำกันอยู่ครับ .........ทุกหนทางปฏิบัติมันมีหลายปัจจัยในการเลือกใช้งาน(ถ้าอธิบายละก็ยาวครับ) ......แต่ปัจจุบันก็ตื่นตัวกันมาก เพราะบทเรียนมันสอนในตัวของมันเอง........หนทางในการเอาชนะคือ สงครามการข่าวและสงครามมวลชน(เชิงรุก) การลดการสูญเสียก็คือ มาตรการในเชิงรับ ซึ่งก็มีหลายอย่างครับ สิ่งที่ดีที่สุดคือ การข่าว ถ้าการข่าวบอดแล้วละก็ อันตรายต่อการสูญเสีย
เสื้อเกราะครับ หน่วยผมมี 2 แบบ(ไม่แน่ใจว่า Level ไหน)
เสื้อเกราะอีกแบบ แบบนี้จะไม่มีกระเป๋าใส่ซองกระสุนมาให้ ต้องดัดแปลงกันเอาเอง จะติดข้างขา หรือติดด้านหน้าก็ว่ากันตามถนัด ส่วนตัวผมแล้วเอาน้ำหนักมาใว้ที่ตัวดีกว่า ข้างขาผมว่าเกะกะ ขึ้นรถลงรถลำบาก วิ่งก็แกว่ง
อ้าว ไม่ใช้ซีรีส์แอบ แล้วหรอฟะ
เสื้อเกราะถ้ากันปืนพกได้ทั้งหมด ก็น่าจะเป็น สามเอ ถ้ากันพวกไรเฟิลพวก 5.56 7.62 ได้ก็น่าจะเป็นระดับสาม แต่ถ้าจะให้เอาพวก 30-06 กับพวกเจาะเกราะอยู่ก็ต้องระดับสี่
กลับมาไวๆ มีเครื่องดื่มรออยู่ 555
ไปทันวัน ฮารีรายอ ไม๊ครับ สนุกนะผมชอบ
ผมยืนยันนะครับ สาวๆแถวนั้นน่ารัก
หักอกผมมาสองครั้งแล้ว
คิดถึงความหลังแล้ว....เฮ้อ......
ถ้าเข้ามาโกลก (ไม่มีภาระกิจ) มานั่งกินข้าวกินน้ำกันครับ เดี๋ยวหลังไมค์เบอร์โทรไปครับน้อง
ปกติคนที่นี้เวลาเกิดกรณี ขับรถชนวัว(ผมเองด้วย) เค้าไม่จ่ายกันหรอกครับ เพราะแค่หาตัวเจ้าของวัวมันยังไม่ยอมรับเลยว่าเป็นวัวมัน เค้ากลัวต้องจ่ายค่าซ่อมรถครับ ส่วนใหญ่เค้าจะเอาวัวตัวที่ถูกชนนั่นแหละไปเป็นค่าเสียหาย รับรองครับต่อให้มันยืนถือสายจูงวัวตัวอื่นอยู่ มันก็จะบอกว่า วัวตัวนั้นไม่รู้ของใครครับ 555
ที่หน่วยไม่มี uav ใช้ตรวจเส้นทางล่วงหน้าก่อนเหรอครับ เห็นว่าเอาลงไปใช้ที่ใต้แล้ว
เป็นกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นะครับ
มอไซต์ติดเกราะ........-*-
ว่าแต่คุณบอมบ์ไปนมัสการ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล แล้วยังครับ
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมรอดปากเหยี่ยว ปากกามาหลายครั้งก็เพราะท่านนี่แหละครับ
ตอนแรกเห็นหัวข้อนึกว่าบอมไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่แท้ไปนราธิวาสนี่เอง
รักษาเนื้อรักษาตัว พระคุ้มครองนะครับบอมบ์
ผมจะเอาใจช่วยอยู่แนวหลังเอง
แต่ว่า.............ถ้ากลับมา อย่าลืมเลี้ยงสะเดาะเคราะห์ด้วยล่ะ 5555
อ้างถึง
"ตามติดมาด้วยเจ้า "อยู่ในหมอก" ยานรบชั้นดี(ถ้าดัดแปลงเล็กน้อย)ที่มองข้ามกันไป"
ผมเห็นด้วยอะครับ เจ้า ยูนิม็อก น่าจะเอามา Mod ใหม่ เกรดรถบรรทุก แต่กลับคล่องตัว พอๆ กับ รถเก๋ง+รถโพล์วีนไดรฟ์ วิสัยน์ทัศน์ชมวิวสูง ถ้าแบ่งกะบะท้ายออกเป็นสองส่วน ส่วนติดเก๋งเสริมให้สูงติดป้อมปืน ส่วนท้ายเป็นกะบะขนย้ายกำลังพล จับนั่งหันหน้าออก ดีไซน์กะบะให้มีกลไกถีบทีเดียวหลุดหมด เพื่อลดเวลาการกระจายกำลังลงจากรถ ใช้แทนฮัมวี่ ได้เลย เพราะถ้าเทียบขนาดความกว้างแล้ว ใกล้กันๆ ยกเว้นว่าอย่านำความสูงและความยาวมาคิดด้วย เหอๆ รถอะไร มีตั้ง 16 เกียร์ ใส่กันเพลินเลย
ขอให้ปลอดภัยครับ ท่านบอมบ์ และคณะ รอให้กลับมา ชำแหล่ะ เอ็ม16 เอ1 กับ เอ2 ให้ดูครับ อยากเห็นๆๆๆๆ
หมวดบอม์บสบายดีนะครับ ขอให้หมวดบอม์บและทหารทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัย คงได้ใช้กลยุทธ์ ต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ได้เต็มที่นะครับ
ถ้าเจอ ริว่า 4X4 ถ่ายรูปมาให้ดูกันบ้างเด้อ
อยู่ที่นั่นมีของหวานประเภทน้ำตาลทานบ้างหรือป่าว คงไม่อดอยากปากแห้งนะครับ
เจ้า รีว่า เห็นบ่อยครับ ฉก.ใกล้ๆกับผมมีตั้ง 4 ตัว แต่ฉก.ผมยังไม่ได้(ไม่รู้จะได้หรือเปล่า)....ล่าสุด เห็นมันอยู่ใกล้ๆแล้วครับ ว่าว่างๆจะแวะชม วอร์คอราวด์ซะหน่อย.......ส่วนตัวนี้ถ่ายตอนไป พตท. ที่ยะลา ครับ................มีข่าวลือเกี่ยวกับมันเยอะ ลองให้ได้สัมผัสก่อน น่าจะรู้เรื่อง............
หุหุ ช่วงนี้ถึงจะอยู่ไกลแหล่งของหวานแต่ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดยังสูงอยู่ครับพี่โต้ง หุหุ อยู่แถวนี้ กินแต่ชากับกาแฟ เข้าสิบบ้านก็กิน10แก้ว ไม่กินก็ไม่ได้ แตออซู่.................
"ตะพาบน้ำดง" บางพื้นที่ กระบะ คล่องกว่า ตะพาบน้ำ พลปืนกล ถ้ามัวเหม่อมีสิทธิ์โดนกิ่งไม้ฟาดกระบาลเอาได้ง่ายๆ(พระเจ้าลงโทษ)
"THIS IS MY RIFLE.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY RIFLE,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY RIFLE IS NOTHING."
And
"THIS IS MY PISTOL.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY PISTOL,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY PISTOL IS NOTHING."
เห็นอ่านมาจากหลายๆที่เรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์ปฐมพยาบาลพื้นฐานของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานภาคสนามจะออกไปในทางเดียวกันครับ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่างบประมาณการจัดหาส่วนนี้ไม่เพียงพอหรือว่าหน่วยระดับบนๆไม่มีแนวคิดในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้แต่แรกแล้ว
ทางแก้เฉพาะหน้านอกจากรอการร่วมเงินบริจากจัดหาอุปกรณ์ตามที่ TFC นี้เคยจัดมาแล้วก็ต้องต้องหากันเอาเองในหน่วยครับ แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีหลายๆประเทศในภูมิภาคนี้ที่ทหารราบตามแบบออกสนามแล้วไม่มีอุปกรณ์ First Aid ติดไปกับ ชป.นะครับ
ขึ้นมาเร็ว ๆ ครับบอม์บ จัดไว้ให้แล้ว 1 ชุดเล็ก
แว่นกันสะเก็ดครบหมู่ 12 คน (1 Revision + 11 AO)
ทูนิเก้ 3 อัน ๆ ละ พันกว่า
ผงห้ามเลือด 3 ซอง ๆ ละ สองพันสาม
ผ้าก๊อซกดแผลห้ามเลือด ยังไม่ทราบราคา
สนับสนุนโดยผม ท่านวสิน และท่านชายสถาปนิกฯ ครับ
ที่เหลือท่านใดมีจิตศัทธาอยากจะช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของหมวดบอม์บและลูกทีมก็เรียนเชิญนะครับ
จะถือว่าเป็นนอกรอบไทยช่วยสันติสุขก็ได้
ใจอยากให้มีเป้น้ำสะพายหลังเหมือนโครงการแรก แต่งบผมหมดแล้วครับ
ใบละประมาณ 600 จุน้ำได้ 1-1.5 ลิตร คล่องตัว ไม่เกะกะเวลาหมอบกลิ้งตอนเข้าปะทะ ช่วยได้เยอะครับ
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ.......ผมทราบผลัดพักเมื่อไหร่จะแจ้งทาง ว.13 ให้ทราบครับ ขอบคุณครับ