ผู้จัดการออนไลน์-- กัมพูชาอ้างว่าสามารถจับกุมทหารไทยเป็นเชลยไว้จำนวน 10 คนในวันพุธ วันที่เกิดการสู้รบที่ขายแดนด้านภูมะเขือ แต่ปรากฏว่าทั้งหมดเป็นทหารไทยที่ประจำการอยู่เขตวัดแห่งหนึ่งบนทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่มีการปะทะกันด้วยอาวุธ
ทหารไทยเหล่านั้นประจำการอยู่ที่อาณาบริเวณวัดศิขาคีรีสวรักษ์มาตั้งแต่เดือน ก.ค. ส.ค. และ ใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับของฝ่ายกัมพูชาอยู่ที่นั่นมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้ง ร.อ.อภิชาต ภูพวก หัวหน้าฝ่ายประสานงานของฝ่ายไทยด้วย
ต้นเดือน ส.ค. ไทยและกัมพูชาได้ตกลงถอนทหารส่วนใหญ่ออกไปจากบริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อลดการเผชิญหน้า ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงคงทหารเอาไว้ที่นั่นฝ่ายละประมาณ 50 นายเท่าๆ กัน รวมทั้งหน่วยประสานงานด้วย
ร.อ.อภิชาต ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าปัจจุบันยังมีทหารไทยเหลืออยู่ที่วัดเพียง 11 นายเท่านั้น หลังจาก 2 คนได้ล้มป่วยและถูกนำตัวลงจากเขาเมื่อวันก่อน
นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาแถลงในกรุงพนมเปญในวันพุธว่า ฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต 2 คนในเหตุการณ์ปะทะ อีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ และยังจับทหารไทยเป็นเชลยได้อีก 10 คนด้วย ซึ่งทั้งหมดได้ "ยอมจำนน"
กองทัพภาค 2 ของไทยได้ปฏิเสธการกล่าวอ้างของฝ่ายกัมพูชาในวันเดียวกัน เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าการ "จับเชลย"
ร.อ.อภิชาตกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจหลังจากได้ทราบข่าวจากกรุงพนมเปญ ทั้งๆ ที่ตนเองกับทหารไทยไม่ได้ถูกจับ ไม่ได้ถูกควบคุมตัว เพียงแต่ในวันเกิดเหตุมีการยิงปืนขึ้นมายังเขตวัด และฝ่ายกัมพูชาได้ขอร้องมิให้พวกอาวุธในเขตวัด ทหารไทยให้ความร่วมมือโดยดี
นอกจากนั้นในวันที่เกิดการปะทะก็ยังติดต่อกับผู้บังคับบัญชาฝ่ายไทยทางวิทยุสื่อสารตลอดเวลา
ร.อ.อภิชาต สังกัดกรมทหารพรานอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ในอาณาบริเวณวัดสิขาคีรี มาตั้งแต่ต้นเป็นคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีกับนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาของฝ่ายกัมพูชาหลายนาย รวมทั้ง พล.ต.เสรย์แด๊ก ผู้บัญชาการทหารในพื้นที่
พล.ต.เสรย์แด๊ก (Srey Dek) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ปล่อยตัวทหารไทยทั้ง 13 คนและส่งมอบให้แก่ฝ่ายไทยแล้ว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ปฏิเสธมาตลอดว่า ทหารไทยเหล่านั้นไม่ได้ถูกจับกุมหรือถูกคุมขังแบบเชลย.
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000123383
| |
จากข่าวการเสียชีวิตทหารของกัมพูชาคนที่ 3 โดนควันพิษจากท้ายลำกล้องจรวด !!! หึหึ คิดได้ไงอ่ะ
ถ้าใช้ตาดูอย่างเดียวก็เห็นเป็นเชลยแหละครับ
วิเคราะห์จากรูปเหรอ อย่าใช้คำว่าวิเคราะห์ดีกว่าครับ อายแทน
1. ที่เค้าไปคุยกันไม่ใช่สนามรบ
2.มันขอเราไม่ให้พกอาวุธ มันต้องเฝ้าปืนให้เราสิครับแล้วรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีทหารไทยเฝ้าปืนอยู่ด้วย
3.ผมนึกว่าข้อนี้เอาไว้หลอกแดก ร.ด.เล่นนะเนี่ย ไปเจรจาว่าอย่ายิงขึ้นมาในเขตวัด การไปเจรจาถ้าพกปืนก็คงได้คุยกันอยู่หรอกนะ
ทหารฝั่งมันไม่มีปัญญาจะทำอะไรเรา ก็ใช้วิธีสกปรกทุกวิถีทาง
ดันพากันไปหลงเชื่อ
เปิดฉากยิงก่อน พอเรายิงกลับก็เงียบหัวหด
ฝั่งเราเข้าไปเจรจา(แน่นอนต้องไปอย่างเป็นมิตร)
พวกมันกลัวจนหัวหดแล้วต้องขอให้วางปืนโดยอ้างว่า พกอาวุธในเขตวัด ทหารไทยให้ความร่วมมือโดยดีเพราะไม่มีอะไรให้กลัว(เราจะไปเจรจา)
ทีนี้ใช้สมองดูด้วยนะครับ ว่าคนถ่ายภาพที่เห็นในรูปเป็นฝ่ายไหน
แล้วฝ่ายเรามีนักข่าวหรือไม่
เชลยที่ไหนเค้ามีอุปกรณ์สื่อสาร(วิทยุ) แถมยังโทรศัพท์คุยกับญาติและผู้บังคับบัญชาได้ด้วย