หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เขมรขนจรวด, ปืนใหญ่เพียบเตรียมอัดกับไทย

โดยคุณ : ช้างอ้วน เมื่อวันที่ : 21/10/2008 13:46:10

ผู้จัดการออนไลน์-- ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมทหาร รถลำเลียงพล ปืนใหญ่ ตลอดจนจรวดเข้าสู่เขตชายแดนด้านเขาพระวิหาร เตรียมพร้อมสู้รบกับฝ่ายไทยเต็มอัตราศึกหลังจากการปะทะเมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ที่บริเวณที่อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารราว 2 กิโลเมตร
       
       ภาพถ่ายของสำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยให้เห็นการเคลื่อนกำลังพลบน รถบรรทุกทหาร หลายคัน มีปืนใหญ่บนรถลากเคลื่อนเข้าสู่เขตแนวหน้า รวมทั้งปืนไร้แรงสะท้อน ต่อสู้รถถัง
       
       มีอยู่อีกภาพหนึ่งซึ่งอาจจะเป็น "จรวดชุด" แบบยิงจากพื้นสู่พื้น (surface-to-surface missiles) หรืออาจจะเป็นขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบยิงจากพื้นสู่อากาศ (surface-to-air missile) ที่ทำในสหภาพโซเวียตในอดีต
       
       ทั้งหมดติดตั้งบนรถบรรทุกทหารโดยใช้ผ้าคลุมอีกชั้นหนึ่ง สามารถเคลื่อนที่ไปตามจุดต่างๆ ได้
       
       ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างว่าวันพุธที่ผ่านมาเครื่องบินของไทยได้บินล้ำน่าฟ้า อันเป็นการกล่าวหาที่ฝ่ายไทยปฏิเสธ
       
       ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวต่างประเทศนี้ แสดงให้เห็นการเคลื่อนกำลังพลหลักของฝ่ายกัมพูชาเข้าสู่พื้นที่ชายแดน หลังจากใช้หน่วยกองโจรซึ่งเป็นทหารในท้องถิ่นปะทะกับฝ่ายไทยเมื่อวันพุธ
ผู้บัญชาการทหารของไทยในพื้นที่ยืนยันว่า การปะทะครั้งนี้ยังไม่มีการใช้อาวุธหนักใดยิงถล่มทหารกัมพูชา เป็นเพียงการปะทะด้วยอาวุธประจำกายเท่านั้น และไม่มีการโจมตีทางอากาศ
       
       การสู้รบเกิดขึ้นในเขตพิพาทชายแดนด้านภูมะเขือ หรือ พนมโตร๊บ (Phnom Troap) ระหว่าง จ.พระวิหาร กับ จ.ศรีสะเกษ ของไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างสิทธิ์ตามแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน
       
       แต่ดินแดนดังกล่าวอยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย และเป็นเขตแดนของไทยในแผนที่ยุคใหม่ที่จัดทำขึ้นโดยสหรัฐฯ
       
       ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาในพื้นที่ กล่าวหาว่าทหารได้ได้เข้าโจมตีทหารกัมพูชาใน 3 จุดด้วย ตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร แต่ฝ่ายไทยได้ปฏิเสธการกล่าวหาดังกล่าว
       
       นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวเมื่อวันพุธกล่าวหาว่าทหารไทยจำนวน 84 นาย ได้ล้ำแดนกัมพูชาเข้าไปตั้งแต่ไม่กี่ร้อยเมตรจนถึง กว่า 1 กิโลเมตร อันเป็นการกล่าวหาที่ไทยปฏิเสธเช่นกัน
       
       นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า ทหารไทยได้เฝ้าดินแดนดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ขณะที่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 ของไทยกล่าวว่าทหารดังกล่าวถูกส่งเข้าตรวจกับระเบิดในพื้นที่และได้แจ้งให้ ฝ่ายกัมพูชาทราบล่วงหน้า
  ระหว่างการเยือนกัมพูชาของ รมว.ต่างประเทศไทยในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ยื่นคำขาดให้ไทยถอนทหารชัดดังกล่าวออกจาก “ดินแดนกัมพูชา” ใน “วันนี้พรุ่งนี้” หรือไม่อาณาบริเวณดังกล่าวก็จะกลายเป็น “เขตแดนแห่งความเป็นความตาย”
       
       สองฝ่ายยังผลัดกันกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งเริ่มยิงก่อน ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันเมื่อวันพุธ
       
       ยังไม่มีรายงานเหตุรุนแรงใดๆ ในวันพฤหัสบดี ซึ่งทหารของทั้งสองฝ่ายนัดพบเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาพิพาทชายแดนอย่างสันติ
       
       อย่างไรก็ตามสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการกัมพูชาเริ่มอพยพผู้คนออกจากเขตเมืองอันลองแวง (Anlong Verng) จ.อุดรมีชัย มุ่งหน้าไปยังเมืองเสียมราฐ
       
       ที่นั่นอยู่ห่างจากเขาพระวิหารไปราว 80 กม.เป็นเมืองที่อยู่ใกล้เขตแดนไทยมากที่สุด กล่าวคือ เพียง 20 กม.เศษ จากช่องสะงำ ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชา ได้เตรียมพร้อมรับมือหากการสูรบลุกลามข้ามเขตแดนเข้าไป.

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000123204




ความคิดเห็นที่ 1


เท่าที่ดูภาพข่าว

เห็นมีจลก.แกรด (BM-21) กับป.105มม. น่าจะ M-101 /102

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 16/10/2008 07:39:14


ความคิดเห็นที่ 2


เออ นักข่าวนี่เก่งนะฮะ เขาปิดผ้าใบคลุมไว้ยังรู้อีกว่าเป็นอะไร.. อย่างนี้มันสุดยอดแฟนพันแท้ อาวุธแล้วครับ...อิ ๆ ๆ
โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 16/10/2008 05:58:09


ความคิดเห็นที่ 3


555+

นั่นสิครับ
นักข่าวนี่สุดยอดแล้ว
อีกหน่อยคงต้องให้มาเป็นเสนาธิการภาคสนามแล้ว
แทบจะรู้ทุกเรื่อง
โดยคุณ ช้างอ้วน เมื่อวันที่ 16/10/2008 06:04:21


ความคิดเห็นที่ 4


....นักข่าวบ้านเราหาข่าวจากอินเทอร์เน็ตเป็นหลักคับ แปลตรงมั่งไม่ตรงมั่ง เติมสีใส่ไข่ไปตามเรื่องให้ข่าวมีรสชาติ ขายได้ เห็นบรรยายมาเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ ไม่ได้ไปนั่งดูในเขมรเท่าไรคับ

 

....จรวดเขมร ก็สตาลินออร์แกนแหล่ะคับ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตกทอดผ่านสงครามเวียดนามมาจนถึงวันนี้จะยิงออกกี่ลูกก็เดาลำบาก...

 

....ปืนใหญ่เขมร เอาที่พอลากมายิงได้ก็มีแค่ 122 มม.เท่านั้นคับ 130-155 ที่เคยมีสมัยก่อนน่ะ มันของเวียดนามคับ เหลือแต่เศษเหล็กทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าแค่นั้น...

 

....รถถัง เหลือ T-54 ที่พอวิ่งได้ยิงได้ถึงกองพันหรือไม่ ต้องพิสูจน์ ส่วน T-34 กับ PT.76 เป็นเศษเหล็กไปหมดแล้วคับ ขอย้ำ T.54 คับ ไม่ใช่ T.54/55

 

....เครื่องบิน ทอ.เขมรเป็นง่อยหมดสภาพมาหลายสิบปีแล้วคับ มิก.21 บินไม่ขึ้น กองเป็นเศษเหล็กอยู่สิบกว่าลำ ชั่วโมงนี้ต่อให้ขน เอฟ.18 ไปให้เขมรสักสองฝูงก็ยังไม่มีปัญญาบินอยู่ดี นักบินเขมรต้องฝึกขึ้นมาใหม่ทั้งหมดคับทั่น เพราะเรื้อเวทีมาเป็นสิบปี....

 

.....ทร.เขมร ชะตากรรมและสภาพไม่ต่างจาก ทอ. ต้องปล้นเรือประมงไทยไปติดปืนเป็นเรือรบตามบุญตามกรรมคับ....

 

.....ระบบต่อสู้อากาศยานหลงยุค มีแค่แซม 7 ไม่กี่กระบอก แถมไม่มีคนใจป้ำให้ยิงก่อน ผ่อนทีหลังแบบลาว ยกเว้นไทยค้ำประกันให้คับ....

 

.....กองทัพบก ประกอบด้วยทหารประจำการไม่กี่หมื่นคน เพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณซื้อข้าวเลี้ยง มีแต่กองกำลังทหารป่าที่แยกย้ายกันอยู่ทั่วไป อาวุธประจำกาย ปืนเล็กยาว AK.47 ขนาด 7.62 มม. ปืนกลเบา RPK. จรวดต่อสู้รถถัง B.40 (RPG.) ปืนค.4.2 ค.60 ค.81 และ ค.100 มม.

 

....เวลานี้ ต่อให้อเมริกา รวมกับรัสเซีย และจีน ทุ่มอาวุธทันสมัยให้เขมรเท่าไร ก็ไม่มีทางเอาชนะไทยในทางทหารได้คับ เพราะอาวุธยิ่งทันสมัย คนใช้ต้องมีความรู้ในการใช้คับ สภาพทหารเขมรเอาแค่มีข้าวกินก็พอแล้ว เรื่องจะศึกษาหาความรู้ ตลอดจนการฝึกฝนดูท่าจะยาก ดังนั้น อาวุธทันสมัย (ถ้ามี) น่าจะตกเป็นของแถมคับ ถ้าไทยจะลุยเขมร

 

....สบายใจได้คับ เหมนไม่มีอะไรน่ากลัวเหมือนลาว น่าเป็นห่วงเหมือนพม่าคับ เบบี๋....

 

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 21/10/2008 02:46:10