หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สื่อนอกรุมฉีกหน้า ฮุนเซน" ยันไทยไม่เคยถอนทหาร

โดยคุณ : Akula เมื่อวันที่ : 15/10/2008 21:09:15

 ผู้จัดการออนไลน์—สื่อในต่างแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักข่าวใหญ่ของโลก ทุกสำนักต่างตีพิมพ์เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของผู้นำรัฐบาล นายทหารในพื้นที่ของไทย รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ระบุว่า ไม่มีการถอนทหารไทยออกจากพื้นที่ชายแดนในเขตพิพาท
       
       ฝ่ายไทยได้ตอบโต้การกล่าวอ้างของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ทหารไทยได้เฝ้าเขตแดนแห่งนั้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากเป็นดินแดนในเขตสันปันน้ำของไทยอันเป็นเขตแดนธรรมชาติ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
       
       **ทหารไทยแค่ไปตรวจกับระเบิด**
       
       สำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวอื่นๆ ยังได้อ้างคำแถลงของ แม่ทัพภาค 2 พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล กับ นายสมพงษ์ ที่ระบุว่าทหารไทยราว 80 นาย ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ชายแดนรวมทั้งในเขตพิพาทมากขึ้น เพื่อตรวจกับระเบิดหลังจากมีทหารไทยสองนายได้รับบาดเจ็บสาหัสสัปดาห์ที่แล้ว
       
       อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างคำพูดของ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ในวันอังคารว่า ทหารของทั้งสองฝ่ายได้ยอมถอยออกจากกัน ไปอยู่ห่างกันราว 100 เมตร
       
       แม่ทัพภาค 2 ยืนยันว่าทหารไม่ได้ถอนออกจากเขตแดนพิพาทตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง และพร้อมจะตอบโต้ด้วยอาวุธถ้าหากเป็นฝ่ายถูกยิงก่อน
       
       "สถานการณ์ค่อนข้างจะตึงเครียดที่แนวหน้า" แม่ทัพภาคสองของไทยให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในวันเดียวกัน และ ยังเปิดเผยด้วยว่าไทยได้เสริมทหารกับปืนใหญ่เข้าสู่ชายแดน แต่เพียงเพื่อป้องกันและตอบโต้ในกรณีที่ถูกยิงก่อนเท่านั้น
       
       ฝ่ายทหารของกัมพูชากล่าวในเช้าวันเดียวกันว่า ทหารไทยราว 80 นายที่ "ล้ำแดน" กัมพูชาได้ถอนออกไปทั้งหมด ทั้งยังอ้างว่าทหารเขมรได้เข้ายึดครองพื้นที่แทนทหารไทยแล้วและสถานการณ์ ทั่วไปกลับสู่ภาวะปกติ
แต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยกล่าวว่า ทหารไทยได้เข้าไปในพื้นที่พิพาท หลังจากได้รับอนุญาตจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องปฏิบัติตามปกติเช่นเดียวกันที่ฝ่ายกัมพูชาต้องแจ้งให้ฝ่ายไทย ทราบ แต่ทหารไทยจำนวนดังกล่าวเข้าไปเพื่อตรวจกับระเบิด
       
       เจ้าหน้าที่ของไทยอีกหลายนายกล่าวว่าฝ่ายไทยกำลังเร่งตรวจดูกับ ระเบิดที่ถูกวางเอาไว้ตามแนวชายแดนของสองประเทศ หลังจากทหารไทยสองนายได้รับบาดเจ็บสาหัสสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นกับระเบิดที่ถูกลักลอบนำเข้าไปวางใหม่ก็เป็นเรื่องที่ผิด กฎหมายระหว่างประเทศ
       
       **”ฮุนเซน” ทำเสียบรรยากาศ**
       
       สื่อต่างประเทศยังได้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยอีกหลาย คน รวมทั้งอ้างคำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศที่ว่า ฝ่ายไทยต้องการแก้ไขปัญหาและข้อพิพาทกับกัมพูชาด้วยการเจรจา
       
       คำแถลงของนายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ออกในวันอังคาร ระบุในตอนหนึ่งว่า "ประเทศไทยรู้สึกประหลาดใจที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ยื่นคำขาดต่อประเทศไทย ให้ถอนกำลังทหารของไทยออกจากดินแดนที่ติดกับปราสาทพระวิหารและขู่จะใช้กำลัง หากไม่ดำเนินการ..”
       
       “สิ่งนี้ถือว่าสวนทางกับการอยู่ร่วมกันฉันเพื่อนบ้านที่ดี และขัดต่อสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน นอกจากนี้ยังขัดกับแนวทางสากลในการแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีโดยใช้แนวทางสันติ ซึ่งระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทยกล่าว
       
       **เป็นดินแดนในเขตสันปันน้ำ **
       
       สื่อต่างชาติยังอ้างคำกล่าวของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกไทย ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ได้ออกตอบโต้คำขู่ของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่กล่าวหาว่าทหารไทยล้ำแดนกัมพูชา
       
       "จะเป็นการรุกรานได้อย่างไร" พ.อ.สรรเสริญ กล่าวโดยอธิบายว่าที่นั่นเป็นดินแดนพิพาทที่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวอ้างสิทธิ์
       
       ภาพและข่าวเกี่ยวกับกรณีล่าสุดระหว่างไทยกับกัมพูชาถูกนำไปตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์หลายฉบับ ทั้งในออสเตรเลีย อังกฤษและสหรัฐฯ รวมทั้งสื่อออนไลน์ทั่วโลก
       
       สำนักข่าวต่างประเทศต่างก็รายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาเริ่มทวีความตึงเครียดขึ้นในเดือน ก.ค. หลังจากกัมพูชานำเอาปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนส โกแต่เพียงฝ่ายเดียว
 ปราสาทเก่าแก่อายุประมาณ 900 ปีตกเป็นของกัมพูชาโดยการตัดสินของศาลระห่างประเทศในปี 21505 แต่พื้นที่ราว 4.5 ตารางกิโลเมตรโดยรอบ ได้กลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้ง อาณาบริเวณทั้งหมดนี้อยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย อันเป็นเส้นเขตแดนตามธรรมชาติ ที่กฎหมายระหว่างประเทศให้การรับรอง
       
       แต่กัมพูชาระบุว่าพื้นที่บนสันเขาหลังสันปันน้ำเกือบทั้งหมดถูกผนวก เอาไว้ในแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน และเป็นดินแดนของกัมพูชา
       
       **“เส้นตาย” เป็นเพียงมุขฝืดๆ**
       
       รมว.ต่างประเทศของไทยไปเยือนกัมพูชาในวันจันทร์ (13 ต.ค.) ที่ผ่านมา ได้พบหารือข้อราชการกับนายฮอร์นัมฮอง และเข้าเยี่ยมคำนับสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งผู้นำกัมพูชาได้ยื่น “คำขาด” ให้ไทยต้อง “ถอนทหาร” ออกจากดินแดนกัมพูชา “ในวันนี้พรุ่งนี้”
       
       ต่อมาได้มีการเปิดเผยว่า “เส้นตาย” ที่ผู้นำกัมพูชากำหนดนั้นคือ เวลาเที่ยงวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความสับสนไปทั่ว
       
       ที่ผ่านมาผู้ที่ออกให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง ว่า ฝ่ายไทยได้ถอนทหารนั้น มีเพียงนายทหารไม่กี่คน โดยที่โฆษกคณะรัฐมนตรีอย่างนายฟายสีฟาน (Phay Si Phan) หรือ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวคือ นายเขียวกัญฤทธ์ ที่เคยมีบทบาทอย่างสูงในการแถลงข่าวมาตลอด คราวนี้ไม่มีไม่มีส่วนร่วมใดๆ
       
       ข่าวของสำนักข่าวต่างๆ และ ข่าวที่ตีพิมพ์ผ่านเว็บไซต์หลายแห่งในวันพุธ (15 ต.ค.) นี้ พาดหัวข่าวเป็นทำนองว่า "กัมพูชาประกาศไทยถอนทหาร แต่ฝ่ายไทยปฏิเสธ".
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000122584




ความคิดเห็นที่ 1


ช่างกล้าเนอะพวกนี้
โดยคุณ seekmen เมื่อวันที่ 15/10/2008 04:57:05


ความคิดเห็นที่ 2


ทำ-ไม-กล้า
โดยคุณ aek_SBG เมื่อวันที่ 15/10/2008 10:09:16