ผู้จัดการออนไลน์สื่อในต่างแดนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักข่าวใหญ่ของโลก
ทุกสำนักต่างตีพิมพ์เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของผู้นำรัฐบาล
นายทหารในพื้นที่ของไทย รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
ที่ระบุว่า ไม่มีการถอนทหารไทยออกจากพื้นที่ชายแดนในเขตพิพาท
ฝ่ายไทยได้ตอบโต้การกล่าวอ้างของสมเด็จฯ ฮุนเซน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า
ทหารไทยได้เฝ้าเขตแดนแห่งนั้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
เนื่องจากเป็นดินแดนในเขตสันปันน้ำของไทยอันเป็นเขตแดนธรรมชาติ
ตามกฎหมายระหว่างประเทศ
**ทหารไทยแค่ไปตรวจกับระเบิด**
สำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวอื่นๆ ยังได้อ้างคำแถลงของ แม่ทัพภาค
2 พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล กับ นายสมพงษ์ ที่ระบุว่าทหารไทยราว 80 นาย
ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ชายแดนรวมทั้งในเขตพิพาทมากขึ้น
เพื่อตรวจกับระเบิดหลังจากมีทหารไทยสองนายได้รับบาดเจ็บสาหัสสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างคำพูดของ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์
ในวันอังคารว่า ทหารของทั้งสองฝ่ายได้ยอมถอยออกจากกัน ไปอยู่ห่างกันราว
100 เมตร
แม่ทัพภาค 2
ยืนยันว่าทหารไม่ได้ถอนออกจากเขตแดนพิพาทตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
และพร้อมจะตอบโต้ด้วยอาวุธถ้าหากเป็นฝ่ายถูกยิงก่อน
"สถานการณ์ค่อนข้างจะตึงเครียดที่แนวหน้า"
แม่ทัพภาคสองของไทยให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในวันเดียวกัน และ
ยังเปิดเผยด้วยว่าไทยได้เสริมทหารกับปืนใหญ่เข้าสู่ชายแดน
แต่เพียงเพื่อป้องกันและตอบโต้ในกรณีที่ถูกยิงก่อนเท่านั้น
ฝ่ายทหารของกัมพูชากล่าวในเช้าวันเดียวกันว่า ทหารไทยราว 80 นายที่
"ล้ำแดน" กัมพูชาได้ถอนออกไปทั้งหมด
ทั้งยังอ้างว่าทหารเขมรได้เข้ายึดครองพื้นที่แทนทหารไทยแล้วและสถานการณ์
ทั่วไปกลับสู่ภาวะปกติ
แต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยกล่าวว่า ทหารไทยได้เข้าไปในพื้นที่พิพาท
หลังจากได้รับอนุญาตจากฝ่ายกัมพูชา
ซึ่งเป็นเรื่องปฏิบัติตามปกติเช่นเดียวกันที่ฝ่ายกัมพูชาต้องแจ้งให้ฝ่ายไทย
ทราบ แต่ทหารไทยจำนวนดังกล่าวเข้าไปเพื่อตรวจกับระเบิด
เจ้าหน้าที่ของไทยอีกหลายนายกล่าวว่าฝ่ายไทยกำลังเร่งตรวจดูกับ
ระเบิดที่ถูกวางเอาไว้ตามแนวชายแดนของสองประเทศ
หลังจากทหารไทยสองนายได้รับบาดเจ็บสาหัสสัปดาห์ที่แล้ว
ซึ่งถ้าหากเป็นกับระเบิดที่ถูกลักลอบนำเข้าไปวางใหม่ก็เป็นเรื่องที่ผิด
กฎหมายระหว่างประเทศ
**ฮุนเซน ทำเสียบรรยากาศ**
สื่อต่างประเทศยังได้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยอีกหลาย
คน รวมทั้งอ้างคำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศที่ว่า
ฝ่ายไทยต้องการแก้ไขปัญหาและข้อพิพาทกับกัมพูชาด้วยการเจรจา
คำแถลงของนายธฤต จรุงวัฒน์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ออกในวันอังคาร ระบุในตอนหนึ่งว่า
"ประเทศไทยรู้สึกประหลาดใจที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ยื่นคำขาดต่อประเทศไทย
ให้ถอนกำลังทหารของไทยออกจากดินแดนที่ติดกับปราสาทพระวิหารและขู่จะใช้กำลัง
หากไม่ดำเนินการ..
สิ่งนี้ถือว่าสวนทางกับการอยู่ร่วมกันฉันเพื่อนบ้านที่ดี
และขัดต่อสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน
นอกจากนี้ยังขัดกับแนวทางสากลในการแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีโดยใช้แนวทางสันติ
ซึ่งระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทยกล่าว
**เป็นดินแดนในเขตสันปันน้ำ **
สื่อต่างชาติยังอ้างคำกล่าวของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
โฆษกกองทัพบกไทย ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ได้ออกตอบโต้คำขู่ของสมเด็จฯ ฮุนเซน
ที่กล่าวหาว่าทหารไทยล้ำแดนกัมพูชา
"จะเป็นการรุกรานได้อย่างไร" พ.อ.สรรเสริญ กล่าวโดยอธิบายว่าที่นั่นเป็นดินแดนพิพาทที่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวอ้างสิทธิ์
ภาพและข่าวเกี่ยวกับกรณีล่าสุดระหว่างไทยกับกัมพูชาถูกนำไปตีพิมพ์ใน
หนังสือพิมพ์หลายฉบับ ทั้งในออสเตรเลีย อังกฤษและสหรัฐฯ
รวมทั้งสื่อออนไลน์ทั่วโลก
สำนักข่าวต่างประเทศต่างก็รายงานว่า
สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาเริ่มทวีความตึงเครียดขึ้นในเดือน ก.ค.
หลังจากกัมพูชานำเอาปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนส
โกแต่เพียงฝ่ายเดียว
ปราสาทเก่าแก่อายุประมาณ 900
ปีตกเป็นของกัมพูชาโดยการตัดสินของศาลระห่างประเทศในปี 21505
แต่พื้นที่ราว 4.5 ตารางกิโลเมตรโดยรอบ ได้กลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้ง
อาณาบริเวณทั้งหมดนี้อยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย
อันเป็นเส้นเขตแดนตามธรรมชาติ ที่กฎหมายระหว่างประเทศให้การรับรอง
แต่กัมพูชาระบุว่าพื้นที่บนสันเขาหลังสันปันน้ำเกือบทั้งหมดถูกผนวก
เอาไว้ในแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน
และเป็นดินแดนของกัมพูชา
**เส้นตาย เป็นเพียงมุขฝืดๆ**
รมว.ต่างประเทศของไทยไปเยือนกัมพูชาในวันจันทร์ (13 ต.ค.)
ที่ผ่านมา ได้พบหารือข้อราชการกับนายฮอร์นัมฮอง และเข้าเยี่ยมคำนับสมเด็จฯ
ฮุนเซน ซึ่งผู้นำกัมพูชาได้ยื่น คำขาด ให้ไทยต้อง ถอนทหาร
ออกจากดินแดนกัมพูชา ในวันนี้พรุ่งนี้
ต่อมาได้มีการเปิดเผยว่า เส้นตาย ที่ผู้นำกัมพูชากำหนดนั้นคือ
เวลาเที่ยงวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความสับสนไปทั่ว
ที่ผ่านมาผู้ที่ออกให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
ว่า ฝ่ายไทยได้ถอนทหารนั้น มีเพียงนายทหารไม่กี่คน
โดยที่โฆษกคณะรัฐมนตรีอย่างนายฟายสีฟาน (Phay Si Phan) หรือ
รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวคือ นายเขียวกัญฤทธ์
ที่เคยมีบทบาทอย่างสูงในการแถลงข่าวมาตลอด คราวนี้ไม่มีไม่มีส่วนร่วมใดๆ
ข่าวของสำนักข่าวต่างๆ และ
ข่าวที่ตีพิมพ์ผ่านเว็บไซต์หลายแห่งในวันพุธ (15 ต.ค.) นี้
พาดหัวข่าวเป็นทำนองว่า "กัมพูชาประกาศไทยถอนทหาร แต่ฝ่ายไทยปฏิเสธ".
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000122584
ความคิดเห็นที่ 1
โดยคุณ
seekmen เมื่อวันที่
15/10/2008 04:57:05
ความคิดเห็นที่ 2
โดยคุณ aek_SBG เมื่อวันที่
15/10/2008 10:09:16