หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อาณาจักรสยาม

โดยคุณ : phongrapee เมื่อวันที่ : 17/10/2008 00:06:00

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่า กระทู้นี้มิได้ตั้งเพื่อให้เกิดความแตกแยกหรือความขัดแย้งแต่ประการใด เว้นแต่ผู้ดูแลระบบเห็นเป็นอย่างอื่นก็ลบกระทู้นี้ได้เลยครับ

ผมสงสัยว่า หากประเทศไทยทุกวันนี้ ยังมีหัวเมือง มีเมืองประเทศราช หรือแว่นแคว้นเขตแดนของบ้านอื่นเมืองอื่นอยู่ในขอบเขตการปกครอง (งงมั๊ยครับ) อยากถามว่า ประเทศไทยจะประกอบด้วยแคว้นหรือรัฐอะไรบ้างครับ ถ้าเอาแผนที่ 76 จังหวัดปัจจุบันเป็นเกณฑ์





ความคิดเห็นที่ 1


ล้านนา (เชียงราย ลงมาถึง ก่อนถึง น่าน) ภาคกลาง (ตั้งแต่ อุตรดิสถ์ จนถึง ประจวบ รวมภาคตะวันออกทั้งหมด และ ภาคตะวันตกทั้งหมด ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ รวมภาคอิสานทั้งหมดด้วย )  นครศรีธรรมราช (ตั้งแต่ กระบี่ จนถึง  3 จังหวัดใต้)  

 

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 13/10/2008 06:02:19


ความคิดเห็นที่ 2


เอาสมัยไหนเป็นหลักล่ะครับ เพราะ มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตั้งแต่สุโขทัย ยัน รัตนโกสินทร์ (เพิ่งเสียไปหมาดๆ เจ็บใจว้อย)
เท่าที่ผมจำได้ อยุธยามั้งครับ กว้างที่สุดแล้ว
เดี๋ยวหาหนังสือก่อนๆๆ
โดยคุณ aek_SBG เมื่อวันที่ 13/10/2008 09:56:03


ความคิดเห็นที่ 3


เอาใหม่ๆ สมมติว่า ปัจจุบันนี้ ตรงดินแดนขวานทองแห่งนี้คือประเทศ "สหราชอาณาจักรสยาม" (สมมตินะครับ) คล้ายๆกับสหราชอาณาจักรที่มีอังกฤษ เวลล์ สก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ

ถ้ายึดตามแผนที่ปัจจุบันของเรา (แผนที่ 76 จังหวัด) สหราชอาณาจักรสยามแห่งนี้จะประกอบไปด้วยแคว้นหรือรัฐหรือมณฑลอะไรบ้างครับ

โดยคุณ phongrapee เมื่อวันที่ 13/10/2008 10:09:31


ความคิดเห็นที่ 4


**เป็นการนึกจากเรียน อ่าน ประวัติศาสตร์มาก็อย่าถือสาว่าซีเรียสเป็นของแท้จริง

ผมไล่ให้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เลยละกัน

ช่วงที่เริ่มมีการตีเส้นเขตแดนกันนิดหน่อย

โดยมีอังกฤษ ฝรั่งเศส มาแซะๆแผ่นดินเรา

เริ่มจากทางเหนือ

1.รัฐฉานในพม่า

2.เชียงตุงในพม่า

3.ทางหลวงพระบางยันไปจนถึงแผ่นดินเวียดนามละแวก เมืองเดียนเบียนฟู

ยัน ซาปา โดยการยึดเอาชาติพันธุ์เป็นขอบเขตมิได้เอาเขตแดนเป็นขอบเขต4.

4.ลาวใต้ทั้งหมด

5.เขมรบางส่วนยันไปถึงเสียมเรียบ เขาพระวิหารก็สอยมาด้วย เกาะกง *ช่วงจอมพล ป.ถึงกับตั้งเป็นชื่อจังหวัด

6.ตะวันตกก็ช่วง เมืองเมาะตะมะ เมืองทวาย ยันลงมาถึงระนอง

7.ทางใต้ กลันตัน ตรังกานู ปะริด  ไทรบุรีเกาะลังกาวี เผลอรวมเกาะปีนังเข้าไปด้วย

*ยังมีคนไทยใช้ภาษาไทยหลงเหลืออยู่และจะธำรงรักษาประเพณีไว้ด้วย

ถ้าเทียบๆกับแผ่นดินปัจจุบันเราเสียดินแดนทั้งหมดก็  3 ใน 4 ของแผ่นดินปัจจุบันอะเยอะไหมละ

  อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูหนังสือเกี่ยวกับทหารบกน่ะ น่าจะมีเขียนไว้มั่งนะ

โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 13/10/2008 11:25:23


ความคิดเห็นที่ 5


ขอไม่เอาตามหนังสือเรียนก็แล้วกัน  เพราะจริงบ้างเท็จบ้าง  เอาเท่าที่เคยศึกษามาก็แล้วกัน   ผมขอเขียนอย่างไม่มีอคติเลยนะครับ  หลายท่านอ่านแล้วอาจเคือง  สำหรับ เขตแดนยังไม่แน่นอนนะครับเพราะเปลี่ยนแปลงกันตลอด  ตามพลังอำนาจของแต่ละอาณาจักร    ภาคกลางจะเป็นอาณาจักรสยาม ใช้ภาษาไทแบบสุพรรณ  แต่เป็นเผ่าพันธ์ผสมระหว่าง ไต,ลาว,เขมร   ศูนย์กลางอยู่ที่ ภาคใต้ตอนบน  เป็นอาณาจักรศรีวิชัย ศูนย์กลางอยู่ที่นครศรีธรรมราช  เป็นเผ่าพันธ์มลายู แต่พูดภาษาไทใต้  แต่กลืนเข้ากับสยามมาตั้งแต่สมัยอยุธยา     ภาคใต้ตอนล่างเป็นอาณาจักรปาตานี  เป็นเผ่าพันธ์มลายู และก็พูดภาษามลายู  เนื่องจากเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามจึงได้รับการช่วยเหลือจาก อาณาจักรชวาและเมืองต่างๆ ในแหลมมลายู  แต่สุดท้ายได้เข้าเป็นประเทศราชของอาณาจักรสยามในช่วงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากทั้งอาณาจักรชวาและแหลมมลายู กลายเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกไปแล้ว  ความช่วยเหลือจึงขาดไป   ภาคเหนือ เป็นอาณาจักรล้านนา   ถัดขึ้นไปอีกเป็นอาณาจักรเชียงตุงและอาณาจักรสิบสองปันนา   ทั้งหมดเป็นเผ่าพันธ์ไต   ซึ่งถือเป็นต้นสายของวัฒนาธรรมไทย    อาณาจักรไต ตอนบนมีความเกี่ยวดองกันทั้งเชื้อสาย ขนบธรรมเนียมและวัฒนาธรรม     ส่วนทางอีสาน   อีสานตอนบนเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งเป็นประเทศลาวในปัจจุบัน  เป็นเผ่าพันธ์ ลาว  ซึ่งมีความใกล้เคียงกับเผ่าไตอย่างยิ่ง อาณาจักรล้านช้าง เคยตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรสยามในช่วงสั้นๆ ช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์  ต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากชาติฝรั่งเศส ทำให้ส่วนที่เป็นประเทศลาวปัจจุบันสามารถแยกตัวออกไปจนเป็นประเทศลาวได้  ส่วนที่เหลือได้รวมกับอาณาจักรสยามและกลายเป็นภาคอีสานตอนบนของประเทศไทย  ส่วนภาคตะวันออก  เป็นอาณาจักรกัมพูชา  หรือเขมรในภาษาไทย  เป็นเผ่าพันธ์เขมรหรือขะแมร์  ต้นตระกูลของคนไทยภาคกลางอีกสายหนึ่ง  ใช้ภาษาเขมร       ส่วนทางภาคตะวันตก เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรมอญ มีคนเชื้อสายมอญอยู่ พูดภาษามอญ   สำหรับชนเผ่าในดินแดนสุวรรณภูมินี้จริงๆ ยังมีอีกเป็นร้อยชนเผ่า    สำหรับอาณาจักรสยาม   แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นลูกผสมระหว่างคนลาว ,ไต และเขมร  แต่หลังจากเสียกรุงแล้วย้ายศูนย์กลางไปที่กรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์แล้ว  อาณาจักรสยามได้เริ่มรับเลือดใหม่เป็นชนเผ่าแต้จิ๋ว,ฮกเกี้ยน และฮั่นบางส่วนจากทางตอนใต้ของอาณาจักรจีน  ว่ากันว่า  1 ใน 4 ของผู้คนในอาณาจักรสยามยุครัตนโกสินทร์นี้เป็นคนที่มาจากตอนใต้ของจีนเีรียกว่า จีนเก่า   ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีการอพยพครั้งใหญ่มาจากจีนอีกครั้ง  ไม่แน่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาจเป็นคนแต้จิ๋วหรือมีเชื้อแต้จิ๋วก็ได้เพราะแค่ยุคเริ่มต้นก็ 1 ใน 4 แล้ว   ส่วนที่ว่าภาษาไทยในปัจจุบันเป็นภาษาเก่าแก่หรือภาษาเกิดใหม่ผมก็ยังไม่แน่ใจ เพราะวันก่อนดูรายการสุวรรณภูิมิพูดถึงชนเผ่าเก่าแก่ที่อยู่ในเวียดนามเขาเรียกตัวว่าอะไร จำไม่ได้  แต่ไม่ได้เรียกว่าไท หรือ ไต แน่  แต่เขาพูดภาษาไทย  ก็อาจเป็นไปได้ว่าภาษาไทยเกิดก่อนแล้วค่อยเพี้ยนเป็นภาษาไต ,ลาว ,ไทยใต้  หรืออาจจะเกิดจากการผสมของภาษาเขมร,ลาว,มอญ,ไต  อันนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 13/10/2008 13:01:29


ความคิดเห็นที่ 6


 

       เห็นตามประวัติศาตร์ที่เราเรียนกันก็ถือว่าตั้งต้นที่สุโขทัย   แสดงว่ากลุ่มชาติพันธ์ไต   เป็นผู้เริ่มต้นอาณาจักรอยุธยาและต่อมากลายเป็นสยาม   กลุ่มไตทางอยุธยาที่เริ่มมีอำนาจขึ้นมาภายหลัง   

    อาณาจักรอยุธยากว้างใหญ่กว่าประเทศไทยปัจจุบันเกือบ 3 เท่าได้มั๊งครับ    เสียดายที่ล่มสลายไป   ถ้ายุคนั้นมีใครสักคนปรับรูปแบบการปกครองเป็นสหพันธรัฐได้   ป่านนี้เราคงเป็นคนของชาติมหาอำนาจไปแล้วล่ะครับ

 

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 13/10/2008 15:06:37


ความคิดเห็นที่ 7


#neosiamese   

สมัยอยุธยา เราก็เป็น สหพันธรัฐ อยู่แล้วครับ จะมายกเว้น ตอนอยุธยาตอนปลาย สมัยราชวงศ์ปราสาททองลงมา จนถึง กรุงแตก ที่ อยุธยายึดอำนาจการปกครองของ พิษณุโลก มาไว้เอง จากแต่ก่อน ให้มีผู้ปกครองตนเองได้

ซึ่งหัวเมืองอย่าง พิษณุโลก มี ศักดิและสิทธิ เทียบเท่า หัวเมืองอย่าง นครศรีธรรมราช ดูได้จาก เครื่องประกอบยศ ที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานลงมาให้ และรวมไปถึง สิทธิในการแต่งตั้ง ขุนนางของตัวเอง ซึ่งมีชั้นยศเหมือนกับ ขุนนางประจำกรุงศรีอยุธยาครับ

ในสมัย ร.๑ ที่ทรงฟื้นฟู ขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ก็ทรงได้มาจาก ตำราแต่หัวเมืองนครศรีธรรมราช ที่ได้คัดลอกเก็บไว้ และ ปฏิบัติเหมือนอย่างครั้งกรุงศรีฯ ยังอยู่ครับ

-------------------------------------------------------------------

หัวเมืองล้านนาเองก็ตามที ภายหลังจากพระเจ้ากาวิละ ทรงช่วยเหลือสมเด็จพระเจ้าตากสิน ต่อมาจนถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ มาตลอด

ซึ่งมาภายในสมัย ร.๑ ก็ทรงแต่งตั้งให้เป็น "พระเจ้าเชียงใหม่" ถือเป็นหัวเมืองประเทศราช ในขอบขัณฑสีมา ของพระราชอาณาจักรครับ

จนมาถึงราว ๆ ร.๕ ที่ต้องทรงเปลี่ยนแปลงโดยการผนวกเอา ล้านนา เข้ามาอยู่กับ สยามอย่างถาวร เพราะไม่ต้องการเสียให้กับอังกฤษครับ

------------------------------------------------------------------------

หัวเมืองมลายู นับแต่สมัย ร.๑ ลงมา ก็ทรงให้แยก ปัตตานี ออกเป็น ๗ หัวเมือง (ชื่อว่า เมืองแขกทั้ง ๗ ) และก็ให้ ปกครองกันเอง แต่ขึ้นตรงกับ เมืองสงขลา ครับ

เพิ่งมายกเลิกการปกครองนี้ สมัย ร.๗-ร.๘ นี่เองครับ

----------------------------------------------------------------------

ดังนั้นจะเห็นการปกครองต่าง ๆ นั้น สยาม ก็เป็น สหพันธรัฐอยู่แล้วครับ แต่เราเรียกว่า พระราชอาณาเขตแทนครับ

รูปแบบการปกครองนี้ ก็เหมือน Colony ที่ อังกฤษใช้นั่นหละครับ

 

 

 

 

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 13/10/2008 21:55:47


ความคิดเห็นที่ 8


#zeroman

เท่าที่ผมทราบ คนไทย อยู่ที่นี่มานานแล้วครับ ก่อนจะมี สุวัณณภูมิเสียอีก

สุวัณณภูมิ แบบนี้เขียนแบบ สันสกฤต ส่วนที่เขียนว่า สุวรรณภูมิ แบบนี้เขียนแบบ บาลี

สมัยก่อน คนในประเทศไทยนี้ รับเอาอารยธรรม แบบสันสกฤตมามากกว่าบาลีครับ (บาลี มาก็สมัยสุโขทัยแล้ว พร้อมพระเถระลังกา )

-----------------------------------------------------------------

ปัญหา Classic อีกอย่างที่อยากให้ขบกัน ก็คือ

เรื่องของ อาณาจักร สุวัณณภูมิ เพราะเท่าที่มีการขุดค้นพบ กเบื้องจาน (อ่านว่า กระ-เบื้อง-จาน ) ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งบอกที่มาของ คนในบริเวณประเทศไทยนี้ ย้อนกลับไปจนถึง ก่อน พุทธกาล เสียด้วยซ้ำไป

แต่ปัญหามีอยู่ว่า นักวิชาการส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ เพราะท่านเชื่อถือ ยอซ เซ เด กันเสียมากกว่า

เซ เด เอง ก็ยังอ่าน จารึก ที่ใต้ฐานรูปพระ ที่ถ้ำฤาษี เขางู จังหวัดราชบุรีไม่ออกเลยครับ อ่านไปอ่านมา ก็ยกให้เป็น อักษรปัลลวะ ของอินเดียใต้ไปเสียนี่

อ่านไม่ออกไม่ว่ากัน แต่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ได้ไปทำลายข้อความที่บ่งบอกถึง อารยธรรมของคนที่อยู่ในประเทศไทยนี้ โดยการเอา รัก(สีดำ) ไปป้ายข้อความใต้ฐานรูปพระที่ถ้ำเดียวกันนี้เสียด้วยซ้ำไป

ซึ่งทำให้ ปัจจุบัน ถ้าไปดู ที่ถ้ำฤษี ที่ เขางู นี้ ก็จะไม่พบ ข้อความนั้นเสียแล้ว คงเหลือแต่ข้อความที่ ท่าน ยอร์ช เซ เด อ่านผิด อยู่เท่านั้นเองครับ

 

 

 

 

โดยคุณ lordsri เมื่อวันที่ 13/10/2008 22:02:02


ความคิดเห็นที่ 9


ผมคิดว่านะการที่เราเสียดินแดนนั้นไปก็ดีอยู่หลายประการ

1.เราจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องการปกครองที่ต้องแบ่งแยกเป็นหลายแคว้นหลายมณฑลซึ่งดินแดนเหล่านั้นก็หาใช่คนไทย100%ไหมสักวันหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องหาเรื่องแยกตัวเป็นอิสระจากเราอยู่เหมือนเชกเดียวกับที่โซเวียตหรือหลายประเทศเจอเมื่อก่อนหน้านี้มีตั้ง15สาธารรัฐรวมตัวกันอยู่พอล่มสลายตอนนี้ก็เหลือแค่รัสเซียเพียงประเทศเดียวและขนาดเล็กกว่าเดิมส่วนที่เหลือก็กลายสภาพเป็นประเทศเกิดใหม่ไป

2.ตอนเกิดสงครามโลกครั้งที่2ถ้าเรายังไม่เสียดินแดนในสมัยร.4-5ประเทศไทยคงไม่ใช่ขวานทองอย่างทุกวันนี้อาจจะเกิดประเทศใหม่ๆๆหลายประเทศก็ได้ใครจะไปรู้ภาคใต้ของเราอาจจะไปรวมกัยมาเลเซียก็ได้เพราะว่าประเทศมหาอำนาจทั้งหลายจ้องตะครุบอยู่ขนาดจีนยังต้องยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษเช่าเป็นเวลา99ปีและยกมาเก๋าให้โปรตุเกสเช่าไม่รู้อีกกี่ปี

3.ตอนที่ฝรั่งเศสมายึดจันทรบุรีกับตราดเพื่อขอแลกกับเขมรนั้นรัชกาลที่5ทรงรู้ดีว่าถึงยังงัยจันทรบุรีกับตราดยังงัยก็สำศัญมากกว่าเขมรอยู่ดีเลยตัดสินยกเขมรเพื่อแลกกับจันทรบุรีกับตราดและเกาะใกล้เคียงคืนมาดีกว่า

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 14/10/2008 07:26:47


ความคิดเห็นที่ 10


ผมเคยไปเที่ยวชนบทเวียดนาม อยู่ทางเหนือใกล้ๆหุบเขาเดียนเบียนฟู (ใกล้ชายแดนลาวและจีน)เไกด์เขาว่ามีคนไทยอยู่ด้วย พอไปคุยด้วย ชาวบ้านพูดภาษาไทยแบบเหนือปนกลาง คุยกันค่อนข้างรู้เรื่อง เสื้อผ้าหน้าตาคล้ายคนไทยอิสาน แสดงว่าคนเผ่าไทยเราอาศัยในดินแดนนี้เป็นบริเวณกว้าง

ใต้ร่มธงไทยร่มเย็นเหมือนดังอยู่ใน ร่มโพธิ์ร่มไทรที่มีกิ่งใบแน่นหนา

ชาติไทยใหญ่หลวง แต่กระจัดกระจาย ถูกแย่งแบ่งย้ายไปอยู่หลายสาขา

 

โดยคุณ oldbot เมื่อวันที่ 14/10/2008 09:59:40


ความคิดเห็นที่ 11


       กระทู้ของคุณphongrapeeหาได้ล่อเป้าหรือยุยงให้แตกแยกไม่  แต่เป็นการดีที่จะทำให้พวกเราได้ตระหนักและคิดถึงชนชาติไทยเราในอดีตว่ายิ่งใหญ่เพียงใด  อยากจะให้เราคนไทยรักษาผืนแผ่นดินผืนสุดท้ายนี้ไว้ให้จงได้แม้จะแลกมาด้วยชีวิตก็ตามที 

       เราเสียดินแดนไปมากมากที่เราอยู่กันเสียอีกรวมๆแล้วประมาณ700,000 กว่า ตารางกิโลเมตร คิดแล้วมันช้ำใจ แต่ก็ไม่รู้จะเอากลับมายังไง เท่าที่จำได้เราเสียดินแดนตั้งแต่ร.-ร.9 ทั้งหมด14ครั้ง ส่วนใหญ่เสียให้กับเศษฝรั่ง(ฝรั่งเศส  จำชื่อนี้ไว้ให้ดีๆ) เยอะมากได้แก่ บันทายมาศ,สิบสองจุไท,สิบสองปันนา,ลาว,ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง,เขมรทั้งประเทศ และยังมีเสียให้กับอังกฤษคือ ไทรบุรี,ปะลิศ,กลันตัน,ตรังกานู,เกาะหมาก,แสนหวี

       จริงแล้วประเทศไทยเราปัจจุบันนี้ใช่ว่าจะอาณาจักรเดียวกันแต่มีชาติพันธุ์เหมือนกันคือไท ซึ่งชนชาติไทยมีอาณาเขตไปถึงพม่า บางส่วนของอินเดีย,ตอนใต้ของจีน,บางส่วนของเวียดนาม  ความจริงแล้วถ้าเราไม่เสียดินแดนผมว่าอาณาจักรไทยยิ่งใหญ่อย่างที่เป็นอยู่แน่ๆ เพราะไทยเราปกครองชนกลุ่มน้อยได้ดีมาทุกยุคทุกสมัย ดังจะเห็นได้จากอาณาจักรล้านนาที่มีภาษาล้านนาเป็นของตัวเอง ปัจจุบันแทบจะสูญหายแล้ว เรียกได้ว่าล้านนานกลืนกับเราได้เป็นอย่างดีรวมถึงอีสานก็ด้วย  เมื่อพิจารณาแล้วถ้าเราไม่เสียลาว  ลาวก็น่าจะกลืนกลายเป็นไทอีกเหมือนกันเพราะรากเหง้าวัฒนธรรมใกล้เคียงใกล้  ยกเว้นก็แต่เมืองทางใต้หรือมลายูเท่านั้นเพราะนับถือศาสนาและพูดกันคนละภาษา

         ผมอยากให้เราและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆรู้ว่าในอดีตไทยเรายิ่งใหญ่ในอุษาคเนย์เพียงใด  มีความฝันเหมือนกันว่าสักวันเราจะทวงกลับมาเป็นของเราให้จงได้  แต่คงได้แค่ฝันเพราะคงยากแล้ว

โดยคุณ crash เมื่อวันที่ 14/10/2008 12:15:21


ความคิดเห็นที่ 12


จริงๆ ผมอยากจะให้พวกเราเปลี่ยนความคิดกันสักหน่อย  เรามักจะถูกสอนให้เชื่อว่าเราเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่  และมีเชื้อชาติเดียว   มาแต่อดีตกาล   แนวความคิดนี้ทำให้เรามีปัญหากับเพื่อนบ้านมาโดยตลอด  มองไปรอบตัวไม่มีใครชอบหน้าเราสักคนเดียว   เพราะคนไทยเราชอบดูถูกเหยียดหยามเพื่อนบ้านอยู่เสมอ     ความคิดเรื่องชนชาติไทย  นี้มันถือกำเนิดในช่วง ร.6 - ร.โดยคนที่จุดประกายเรื่องนี้ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นหลวงวิจิตรวาทะการ กับจอมพล.ป     ด้วยเหตุถือไปอ่านงานวิจัยของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่พบว่า มีคนพูดภาษาตระกูลไตกะได  อยู่ทั่วไปตั้งแต่จีนตอนใต้ ยันทางตะวันออกของอินเดียและในเวียดนามก็มี จนสุดที่แหลมมลายูก็ยังมี  ทำให้เกิดแนวคิดว่าไทยเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา     แต่ถ้าเราดูตามลักษณะทางกายภาพแล้ว คนที่พูดภาษาไตกะได   ไม่จำเป็นต้องเป็นเผ่าพันธ์เดียวกัน    ถ้าเรามองไปรอบตัว  คงมีคำถามว่าทำไม คนทางเหนือ ถึงหน้าตาขาวและตาตี่เป็นมองโกลอยด์  แต่คนทางใต้ กับผิวคล้ำ ตาโต เป็นแบบโพลีนีเชียน     ถ้าเราไปอ่านประวัติศาสตร์ของประเทศอื่นเช่นลาว ,เขมร ,มาเลเซีย หรือรัฐฉาน หรือสิบสองปันนา  หรือแม้แต่ล้านนาเอง เขาก็เขียนว่าเขาเป็นรัฐอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางอยุธยาซักหน่อย   คนเขียนประวัติศาสตร์ของเราเองหรือเปล่าที่เหมาเอาว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา   ที่เคยอ่านประวัติศาสตร์ของแต่ละที่มา   อาณาจักรสยามก็ไม่ได้กินที่กว้างใหญ่อย่างที่นักประวัติศาสตร์ไทยเขียน    พอเอามาทำหนังกันที่ถึงได้รู้สึกแปลกเช่น สุริโยทัย  ทำไมมีเนื่องที่เกี่ยวข้องไม่กี่เมืองเท่านั้นเอง   การที่อาณาจักรนึง เช่นล้านนา  ล้านช้าง  ปาตานี เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรสยาม  มันก็ไม่ได้หมายความว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยามเสียเมื่อไหร่

ผมว่าการที่เรามักพูดกันเราเสียดินแดนนู้นดินแดนนี้  ก็ต้องถามว่ามันเป็นของเราจริงหรือเปล่า   ผู้คนในดินแดนเหล่านั้นเขาอยากอยู่กับเราหรือไม่ การที่เขาแค่เป็นพันธมิตรกับเราแล้วไปตีขลุมว่าเป็นดินแดนของเรา มันก็ไม่ถูกต้อง  การที่ไทยเราจะไปบอกว่าแผ่นดินนั้น แผ่นดินนี้เคยเป็นของไทยมาก่อนยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องใหญ่   เพราะนั้นแสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่บ้าอำนาจ จ้องแต่จะขยายดินแดน ยึดแผ่นดินของผู้อื่น  ซึ่งไม่สอดคล้องกับเพลงชาติที่ร้องว่า "ไทยนี้รักสงบ" ถ้ายังคิดแต่จะบอกว่าสิบสองจุไท ประเทศลาว ,กัมพูชา,มาเลเซีย หรือแต่รัฐไทยใหญ่เคยเป็นของไทย  อย่างนี้ประเทศไทยเราก็ไม่ต่างอะไรกับชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคมเลย       ในประเทศลาวและกัมพูชา  เขามองว่าไทยเราเป็นชาติที่บ้าอำนาจชอบรุกรานไปยึดแผ่นดินของเขาในสมัยที่เป็นอาณาจักรล้านช้างและเขมร     พวกเขาถือว่าฝรั่งเศสเป็นชาติที่เป็นฮีโร่ ช่วยปลดปล่อยประเทศของเขาจากการยึดครองของไทย  ถึงขนาดมีอนุเสารีย์ปาวี ที่ประเทศลาว   หรืออย่างประตูชัย  ในความเป็นจริงแล้ว คนไทยไม่ใช่เผ่าพันธ์เดียวแน่นอน   อย่างคนในอยุธยา  ใครบอกว่าเป็นคนไตล้วนๆ ผมไม่เชื่อแน่นอน  คนไตต้องมีหน้าตาเป็นมองโกลอย์ด  ผิวขาว และนุ่งผ้าซิ่นตามวัฒนธรรมไต   แต่คนสมัยอยุธยา ทำไมมีวัฒนธรรมแบบเดียวกับคนเขมร  ใครเคยฟังเพลงเขมรบ้าง   มันเหมือนเพลงไทยเดิมเลย   ทีสำคัญหน้าตาคนไทยสยาม กับคนเขมรก็เหมือนกันยังกับแกะ  ภาษาไทยกับเขมรก็มีท่วงทำนองการพูดที่คล้ายกัน ต่างกันที่ภาษาเขมรไม่มีวรรณยุกต์   ในพงศวดารพม่าก็เรียกคนอยุธยาว่า ขะแมร์  ถ้าเทียบกันระหว่างคนไทยสยามอันหมายถึงคนไทยในภาคกลางกับคนไตในทางเหนือ แล้วบอกว่าเป็นคนเผ่าพันธ์เดียวกันไหม   ผมบอกได้ว่าคนละเผ่าพันธ์แน่นอน  แค่ผิวกับลูกกะตาก็ไม่เหมือนกันแล้ว คนไตผิวขาวตาตี่  แต่คนไทยสยามในภาคกลาง ผิวคล้ำ ตาโต หน้าตาแบบเดียวกับคนโพลีนีเชียน เช่นในฟิลิปปินส์  วัฒนธรรมของไทยภาคกลางก็ไม่เหมือนคนไตแต่เหมือนเขมร  ไม่ว่าจะเป็นการนุ่งโจงกระเบน , ทรงผม  ล้วนแต่เหมือนเขมรทั้งนั้น   การออกเสียงควบกล้ำ ร.เรือ ก็แบบเดียวกับเขมร  เสียงเพลงที่มีการเอิง เอย  ก็แบบเดียวกับเขมร  ในตำราเรียนบอกว่าเรารับวัฒนธรรมเขมร  เป็นไปได้หรือ  หรือจริงๆ เราคนไทยภาคกลางสืบเชื้อสายมาจากชาวเขมรโบราณกันแน่   แต่ยังไงก็ผู้คนที่พูดภาษาไตกะได  ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเชื้อชาติเดียวกัน   การที่ผู้คนพูดภาษาไตกะได   มันน่าจะหมายถึงมีวัฒนธรรมทางภาษาร่วมกันมากกว่า

 

โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 15/10/2008 02:38:36


ความคิดเห็นที่ 13


ที่นี่ก็ลองไปอ่านความนึกคิดของคนที่เรานับญาติว่าเขาไปคนไทยหน่อยซิว่าเขาคิดอย่างเดียวกับคนไทยภาคกลางหรือเปล่า

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=41009

โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 15/10/2008 02:53:10


ความคิดเห็นที่ 14


ยังมีอีก

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=35197

อันนี้รู้จักกับไทเขิน

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=37101

อันนี้ก็ความรู้สึกของคนลาวที่รู้สึกว่าวัฒนธรรมไทยกำลังรุกรานวัฒนธรรมลาว

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=37079

อันนี้ก็ความรู้สึกของคนไตยวนต้องการอนุรักษ์ภาษาเขียนของตน

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=36734

อันนี้ก็ความรู้สึกของคนไตยวนต่อวีรชนของตนเอง  "

ผมว่าในฐานะที่ผมเปฌนเด็กล้านนาทำไมผมต้องไปดูหนังนเรศวรด้วย เพราะอย่าลืมว่าอาราจักรล้านนาเคยถุกอยุธยารุกรรานมาก่อน ผมควรจะยกย่องกษัตริย์ล้านนามากกว่า เช่น พญามังรายมหาราช มากกว่า เพราะท่านเป็นคนสร้างอาราจักรล้านนาขึ้นมา ผมว่าคนล้านนาควรไปศึกษาปรุวัติสาสตร์ของล้านนาให้ชัดเจน แล้วท่านจะคิดเหมือนผมว่าชาวล้านนาจะมีความยิ่งไหญ่ในอดีต ไม่เหมือนคนที่มายึดครองล้านนาเขียนประวัติศาสตร์แต่งเติมตัวเองให้ดูดี และเขียนให้ล้านนาเป็นแค่หัวเมืองเท่านั้น "

http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=39921

และยังมีอื่นๆ อีกมาก  โลกเดี๋ยวนี้ไม่ได้ถูกปิดกั้นอีกแล้ว  ผู้คนเชื้อชาติต่างๆ ในเมืองไทยก็เริ่มรวมตัว  จับกลุ่มกันทางอินเตอร์เน็ต  เรื่องต่างๆ ที่เราไม่เคยรู้เพราะถูกทางราชการปิดหูปิดตา  ก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา   ผมเป็นห่วงว่า  ถ้าคนไทยเราที่ได้รับการสั่งสอนตามตำราจนเกิดการหลงชาติไทย  แล้วคิดเสมอว่า  ล้านนาเป็นเมืองขึ้น ลาวเป็นเมืองขึ้นหรือมลายูเป็นเมืองขึ้น แล้วก็ดูถูกคนที่ไม่ได้พูดภาษาไทยกลางว่าด้อยกว่าแล้ว   อีกหน่อยเหตุการณ์แบบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คงไม่ได้เกิดขึ้นที่นั่นที่เดียวแน่ แต่จะลามไปยังแผ่นดินส่วนอื่นๆ ของประเทศด้วย  ถ้าเรายังไม่รู้จักการให้เกียรติและยกย่องผู้คนในดินแดนเหล่านั้น รวมทั้งภาษาถิ่นเหล่านั้น  สุดท้ายประเทศไทยในอนาคตจะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างแน่นนอน

 

โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 15/10/2008 03:13:57


ความคิดเห็นที่ 15


เพลง เราสู้

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ      ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
  เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา                     หน้าที่เรารักษาสืบไป
  ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า                 จะได้มีพสุธาอาศัย
  อนาคตจะต้องมีประเทศไทย                  มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
  ถึงขู่ฆ่าล้างโคตรก็ไม่หวั่น                    จะสู้กันไม่หลบหนีหาย
  สู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนตาย                         ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู
  บ้านเมืองเราเราต้องรักษา                   อยากทำลายเชิญมาเราสู้
  เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู                 เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว

http://www.krunong.com/songnation/raosoo.html

เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว

โดยคุณ TemplaKnight เมื่อวันที่ 16/10/2008 09:44:13


ความคิดเห็นที่ 16


ลองอ่านการเรียนประวัติศาสตร์ในแง่ของ คุณ จิตร ภูมิศักดิ์ดูบ้าง  ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะ

http://biolawcom.de/blog/153

"การศึกษาประวัติศาสตร์ไทยที่ถูกต้องจะต้องเริ่มกันใหม่ นั่นคือศึกษาประวัติความเปนมาแห่งสังคมบนผืนดินอันเปนเอกภาพผืนนี้ ศึกษาย้อนขึ้นไปตามลำดับ จากอยุธยาไปสู่ละโว้, พิมาย, สุโขทัย, โยนก, ศรีธรรมราช, ไชยาหรือศรีวิชัย, จานาศปุระ, ทวารวดี, พนมหรือฝูหนาน ฯลฯ

ศึกษาให้ทราบว่าสังคมบนเอกภาพแห่งดินแดนนี้ พัฒนาขึ้นมาจากลักษณะใด มาสู่ลักษณะใด มีประวัติการณ์ของชนชาติใดมาบ้างบนผืนแผ่นดินนี้ และทั้งหมดนี้รวมกันคือประวัติศาสตร์ของประชาชาติไท อันประกอบด้วยหลายชนชาติ และผ่านยุคสมัยมาหลายสมัย บางสมัยก็ชนชาตินี้เปนชนชั้นปกครอง บางสมัยก็ชนชาตินั้นเปนชนชั้นปกครอง.

ส่วนชนชาติใดอพยพมาจากที่ไหนนั้น เปนเพียงส่วนประกอบทางตำนานอันเปนข้อปลีกย่อย เปนเรื่องของมานุษยชาติวิทยาเท่านั้น." ""นี่แหละคือผลร้ายของการเรียนประวัติศาสตร์โดยวิธีผิดๆ ที่พวกฝรั่งถ่ายทอดทิ้งไว้ให้

นั่นคือ แทนที่จะเรียนประวัติศาสตร์ของสังคมไทยที่อยู่ภายในการรวมศูนย์ทางเศรษฐกิจและการเมืองเดียวกัน ซึ่งสังคมนี้ประกอบขึ้นด้วยหลายชนชาติอันมีไทย ลาว เขมร มลายู ฯลฯ เรากลับถูกฝรั่งจูงให้ไปมุ่งเรียนแต่ประวัติศาสตร์ของชนเชื้อชาติไท-ไต, ไปสืบสาวราวเรื่องเรียนเรื่องของสังคมน่านเจ้าในเขตยูนนานของประเทศจีนเสียเปนคุ้งเปนแคว แล้วมาเริ่มศึกษาประวัติของชนชาติไทยในแหลมทองเอาเมื่อสมัยสุโขทัยและศรีอยุธยา"  ""เรื่องของชนในรัฐจึงเปนเรื่องของประชาชาติ ไม่ใช่ชนชาติ. ชนชาติหาได้มีบทบาทกำหนดขอบเขตของรัฐไม่. ปัจจุบันนี้ ชนเชื้อชาติลาวที่อยู่ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้น มีมากกว่าที่อยู่ในประเทศลาวเองเสียอีก.

ผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องรัฐกับชนชาติหรือเชื้อชาติ จึงมักจะเอียงกระเท่ไปศึกษาเรื่องราวของเชื้อชาติ, ศึกษาประวัติของเชื้อชาติ แทนการศึกษาประวัติศาสตร์แห่งสังคมในรัฐ ผลก็คือ พากันบ้าคลั่งเชื้อชาติ(Racialism) หรือเปนนักลัทธิคลั่งชาติ(Chanvinism) คิดแต่จะไปรวบเอาชนเชื้อชาติเดียวกันภายนอกประเทศ มารวมกับประเทศตน หรือคิดแยกชนเชื้อชาติตนไปรวมกับประเทศอื่นที่มีเชื้อชาติเดียวกัน ให้วุ่นวายไปหมด.""ถ้าคนไทยก็คิดจะรวบเอารัฐชานซึ่งเปนพวกไทใหญ่ และไตลื้อสิบสองปันนา ตลอดไปจนถึงผู้ไทในเวียดนามเหนือ; ชาวลาวก็คิดจะรวบเอาภาคอีสานของไทย; ชาวเขมรก็คิดจะรวบเอาดินแดนฟากใต้แม่น้ำมูล; ชาวพะม่าก็คิดจะรวบเอาดินแดนสี่จังหวัดภาคใต้ของไทย และหลายๆ ประเทศก็เปนไปในทำนองนี้, โลกจะเปนอย่างไร? ก็ต้องทำสงครามเพราะลัทธิคลั่งชาติกันเรื่อยไป และก็ไม่มีวันจะตกลงอะไรกันได้."
โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 16/10/2008 13:06:01