หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


แอบมอง Thai Aviation Industry (TAI) ... บริษัทอุตสาหกรรมการบินของคนไทย

โดยคุณ : Skyman เมื่อวันที่ : 14/10/2008 22:26:22

พอดีเกิดสะดุดตากับ Aerospace ฉบับนี้มาก ๆ ครับเนื่องจากลงเรื่องของ TAI ลองอ่านดูในเล่ม ได้รู้อะไรที่ไม่รู้เยอะแยะเลยครับเกี่ยวกับ TAI ช่วยลบภาพลบของผมต่อองค์กรนี้ได้พอสมควร ..... เลยโทรไปขออนุญาตคุณ Thunderbird เอารูปมาเป็นวัตถุดิบเขียนบทความบ้างครับ ^ ^




ความคิดเห็นที่ 1


ไอเดียของการตั้งบริษัท TAI หรือ Thai Aviation Industry นี้เกิดจากการที่รัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคครับ ไอ้การที่จะเป็นศูนย์กลางทางการบินนั้น แค่มีสนามบินใหญ่ ๆ ยังไม่เพียงพอครับ เพราะอย่างกัวลาลัมเบอร์เขายังเป็นศูนย์กลางไม่ได้เลยทั้ง ๆ ที่สนามบินของเขาใหญ่จะตาย โดนสิงคโปร์คว้าไปกินหมด ........ อาาาา มาเลเซีย สิงคโปร์ เดี๋ยวจะได้ยินชื่อสองประเทศนี้หลายครั้งแน่นอนครับ

TAI ถือหุ้นโดยรัฐบาลและกองทัพอากาศ หน้าที่หลักของ TAI ก็คือการรับซ่อมอากาศยานของกองทัพอากาศก่อน และขยับขยายเป็นการรับซ่อมอากาศยานของหน่วยงานรัฐบาลทั้งหลาย จนเมื่อมีความพร้อมก็จะเริ่มรับลูกค้าเอกชนและต่างชาติ



การตั้ง TAI คือการคัดเลือกข้าราชการของกองทัพอากาศที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาอยู่ในบริษัทในระยะเวลาแรก และเมื่อครบกำหนดสัญญาก็สามารถเลือกได้ว่าจะกลับกองทัพหรืออยู่กับ TAI ต่อ

งานหลักของ TAI ในปัจจุบันยังเป็นการซ่อมบำรุงอากาศยานของหน่วยงานราชการและองค์กรเอกชนบางองค์กรครับ TAI ไม่ใช่มูลนิธิรับซ่อมฟรี แต่เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหากำไรและส่งเสริมให้คนไทยสามารถซ่อมเครื่องบินไทยได้



คราวนี้ไอ้การที่จะมาซ่อมเครื่องบินได้นั้นมันไม่เหมือนกับการซ่อมรถยนต์ครับ .... อยากซ่อมรถยนต์ให้เป็น จบปวช. ปวส. วิศวะ หรือไม่จบอะไรเลยก็ได้ ไปฝึกงานสักพักก็ซ่อมเป็นแล้วและสามารถซ่อมได้ตามมาตราฐานทุกประการ .... แต่เครื่องบินเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ ไม่ใช่ว่าคนซ่อมเครื่องบินเก่งกว่า แต่เครื่องบินมีหลักปฏิบัติในการซ่อมที่ยุ่งยากมาก เพราะความปลอดภัยในการบินนั้นสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ..... วิศวกรที่จบมา ไม่ใช่แค่มีใบกว.ก็ซ่อมอะไรก็ได้นะครับ คุณต้องมี certificate รับรองว่าคุณมีความรู้ที่จะซ่อมเครื่องยนต์รุ่นนี้หรือเครื่องบินรุ่นนี้ได้ และโรงงานที่ซ่อมก็ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานระดับสากล .... เพราะเราไม่สามารถเสี่ยงที่จะให้ช่างวิ่งไปซื้ออะไหล่จากเซียงกงมาใส่ใน Roll Royce Trent 900 ของ A380 แน่นอน



ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ .... แน่นอนสายการบินของไทยหลายสายก็มีช่างที่มี certificate อยู่ในฝ่ายช่างของตน .... แต่งานส่วนใหญ่ก็จะรับซ่อมเครื่องบินของสายการบินของตน และอาจจะรับซ่อมเครื่องบินของสายการบินต่างชาติที่มาลงในเมืองไทยด้วย ..... แล้วกองทัพกับหน่วยงานราชการล่ะครับ? ..... OK ล่ะแม้ว่าเราจะพูดกันว่าช่างไทยนั่นเก่งจริง ๆ เลย .... ซึ่งก็เก่งจริง ๆ นะครับผมพูดได้ F-16 ไทยทั้ง 59 ลำ บินมา 20 ปีไม่เคยตกแม้แต่เครื่องเดียว ไม่มีใครในโลกทำได้ คงพอเป็นเครื่องหมายการค้าได้ดี ...... แต่ทำไปทำมาปรากฏว่า การซ่อมอากาศยานต่าง ๆ ของกองทัพในระดับใหญ่ ๆ ขึ้นไป กลับต้องส่งไปซ่อมที่มาเลเซียและสิงคโปร์



โอ้ยยย อย่าให้พูดเลยครับ ..... ผมเห็นแล้วปวดใจ เห็นบริษัท AIROD ของมาเลเซียมาลงโฆษณาในเมืองไทยว่าเขาได้รับงานซ่อม C-130 ของกองทัพอากาศไทย .... สิงคโปร์ไม่ต้องพูดถึงครับ ST Aero นี่ได้กองทัพไทยเป็นลูกค้าขาประจำ

แล้วเราจะเป็นศูนย์กลางทางการบินได้อย่างไร ในเมื่อเครื่องบินของเราเองเรายังซ่อมไม่ได้เลยครับ? ....... เรื่องนี้จะว่ากองทัพอย่างเดียวก็ดูกระไรอยู่ เพราะข้อจำกัดของหน่วยงานราชการมันเยอะแยะมากมาย กว่าคุณจะซื้อโน่นซื้อนี่ได้ คุณต้องรองบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่มันไม่มาหรอกครับ จะอนุมัติซ่อมที ยาวววววววววว อีกอย่าง ด้วยความที่เราเป็นหน่วยงานราชการ เราก็ซ่อมแค่พอที่เรามี แต่องค์ความรู้ใหม่ ๆ ของโลกการบินมันวิ่งตลอดเวลา ซึ่งสุดท้ายเราก็อาจจะตกขบวน

จะว่ากันจริง ๆ ก็คือ เราตกขบวนมานานแล้วครับ



อย่างน้อย TAI ยังเป็นรูปแบบขององค์กรเอกชน ...... องค์กรเอกชนไม่ว่ายังไงก็คล่องตัวกว่าหน่วยงานราชการอยู่แล้วครับ อีกอย่างด้วยการแข่งขันขององค์กรเอกชน มันกระตุ้นให้องค์กรต้องปรับตัว ต้องเรียนรู้ ต้องพัฒนาตนเองให้มากกว่าการซ่อมแค่ของเราให้เราบินได้ ..... เพราะจุดมุ่งหมายขององค์กรเอกชนคือกำไร และผลพลอยได้ของการมี TAI คือการที่คนไทยซ่อมเครื่องบินไทยได้เอง

เรื่องข้อจำกัดทางระเบียบราชการนี่สำคัญนะครับ .... ทุกท่านเชื่อไหมครับ เพื่อดำรงความพร้อมรบของกองทัพอากาศไทยให้อยู่ในระดับสูงตลอดเวลา กองทัพอากาศจำเป็นต้องสำรองอะไหล่เอาไว้เผื่อที่ว่าถ้าเครื่องบินเสียจะได้เดินข้ามไปโรงเก็บอะไหล่เอามาเปลี่ยนได้เลย ..... แต่ถ้ามันไม่เสียล่ะครับ? ....... กองทัพอากาศโยนอะไหล่ที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไปจำนวนมากในแต่ละปีเพราะมันไม่ได้เปลี่ยนและอะไหล่ก็หมดอายุ และอะไหล่พวกนี้ใช่ว่าจะกอง ๆ เอาไว้ตรงไหนก็ได้ อะไหล่บางชิ้นถึงขั้นต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้น เงินทั้งนั้นครับ ....... แต่เมื่อกองทัพอากาศเปลี่ยนมาให้ TAI ซ่อม สิ่งเดียวที่กองทัพอากาศต้องสนใจก็คือ TAI จะส่งเครื่องมาทันเวลาไหม? นอกนั้นให้ TAI ไปรับผิดชอบเองครับ



อีกอย่างที่สำคัญ เราหาเงินจาก TAI ได้ ..... เพราะไม่ว่ายังไงเงินร้อยทั้งร้อยมันก็เข้ารัฐอยู่ดีครับเนื่องจากรัฐถือหุ้น 100% อัฐยายจากกองทัพอากาศก็จะซื้อขนมยายจาก TAI ...... อีกทั้ง ด้วยความคล่องตัวขององค์กรเอกชนและด้วยการไม่มีข้อจำกัดของหน่วยงานราชการ มันได้ประโยชน์มากกว่าครับ .... กองทัพเคยได้รับเทคโนโลยีหลายรายการจากบริษัทอาวุธต่างชาติ แต่ปรากฏว่า น้อยครั้งที่เราจะสามารถนำเทคโนโลยีนั้นออกมาเป็นอาวุธให้เราได้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหางบประมาณหรือปัญหาด้านบุคลากร ..... แต่ถ้าคุณเป็นองค์กรเอกชน ข้อจำกัดนี้หายไปเยอะครับ

งานหลักที่ TAI ทำมาในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทุก ๆ ท่านอาจจะเคยได้ผ่าน ๆ ตากันมาแล้วก็เช่น โครงการปรับปรุงโครงสร้างของ F-16 เพราะเอาเข้าจริง F-16 ที่ออกมาจากโรงงานมีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้เครื่องบินบินได้แค่ 4000 ชั่วโมงเท่านั้น Lockheed Martin จึงต้องออกแบบโครงการปรับปรุงโครงสร้างสองโครงการนั้นก็คือ Falcon Up และ Falcon Star เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของ F-16 ให้ใช้ได้ถึง 8000 ชั่วโมงตามที่ออกแบบไว้ หรืออีกงานหนึ่งก็คือการปรับปรุงระบบ Avionic ของ C-130 เพราะ C-130 ของเรายังใช้ระบบ Avionic รุ่นเก่าที่มีเข็มมากมาย และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีอะไหล่ก็หายากและค่าซ่อมก็แพง อีกทั้งมันยังไม่ได้มาตราฐานการเดินอากาศในปัจจุบัน

ทั้งสองโครงการนี้ กองทัพอากาศให้สัญญา TAI ในการทำ และ TAI ก็ให้สัญญา Lockheed Martin และ Rockwell Collin เป็นคนจัดหาชุด kit และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ TAI ในการทำการปรับปรุง F-16 และ C-130 ตามลำดับ ..... วิธีก็คือ ช่างฝรั่งจะปรับปรุงเครื่องบินลำแรก ๆ โดยช่าง TAI จะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และในลำต่อ ๆ มาช่าง TAI ก็สามารถทำการปรับปรุงได้ด้วยตัวเองโดยมีช่างฝรั่งเป็นเพียงที่ปรึกษา .... การทำอย่างนี้มันคือวิธีเรียนลัด ไม่ต้องทำวิจัยอะไรตั้งแต่ 0 ครับ เราเอาองค์ความรู้ที่สำเร็จแล้วมาเรียนรู้ และต่อไปเราก็จะสามารถต่อยอดจากองค์ความรู้นั้น ๆ ได้ด้วยตัวเอง .... ในอนาคต เราก็ไม่ต้องพึ่งฝรั่ง เพราะเราได้องค์ความรู้เรียบร้อยแล้ว และเราก็สามารถต่อยอดองค์ความรู้ที่เราได้รับเพื่อออกแบบแบบแผนการปรับปรุงของเราเองได้ ทำไปทำมาหาลูกค้าต่างชาติได้อีก



อีกหลายเรื่องที่ TAI ทำได้ ..... มันต้องทำได้ครับ เพราะรัฐบาลออกมติว่าเครื่องหน่วยงานของทางราชการไทยต้องส่งให้ TAI ทำ .... ฮ. UH-1H ของทบ.ที่บินไม่ได้มานานตั้งหลายลำ ตอนนี้ TAI กำลังทำใน Phase ที่สองแล้วจำนวน (ถ้าจำไม่ผิด) 19 ลำ .... Phase แรกทำการปรับปรุงไป 19 ลำ .... ฮ. ของทบ.ซึ่งมีความสำคัญมากในทางยุทธการ TAI สามารถซ่อมให้บินได้แล้วจำนวนมาก ..... PC-9 ของโรงเรียนการบินกำแพงแสน TAI สามารถทำการ Upgrade ห้องนักบินและระบบ Avionic จากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอลได้ .... Normad ของกองบิน 46 TAI ก็ทำการปรับปรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน ทุกวันนี้มันบินได้เกินครึ่งนะครับ อย่าไปเชื่อข้อมูลฝรั่งที่ว่า Normad ไทยบินได้แค่ 6 ลำ ...... และยังมีอีกมากที่ต้องทำ เห็นเขาลือกันด้วยซ้ำว่ากองทัพอากาศอินโดนิเซียสนใจที่จะส่ง F-16 มาทำ Falcon Up และ Falcon Star กับ TAI .... นอกจากนั้นยังมีสายการบินเอกชนว่าจ้าง TAI ทำการซ่อมตามวงรอบเช่น PB Air กับ Thai Air Asia ..... ซึ่งนั้นก็คือการสร้างผลกำไรให้กับรัฐบาลไทยนั้นเอง

ต่อไป TAI จะต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ และต้องประสานยุทธศาสตร์การซ่อมบำรุงกับฝ่ายช่างของการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์เพื่อที่ว่าบริษัทคนไทยด้วยกับจะได้ไม่แย่งงานกันทำ แต่ต้องช่วยเหลือกันในการที่จะซ่อมเครื่องบินทุกแบบของสายการบินทุกสายที่มาลงในเมืองไทย ..... เพราะการบินไทยก็มีโครงการที่น่าสนใจมากที่ดอนเมือง โดยจะสร้างศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่และเริ่มทำการปรับปรุงเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างให้เป็นเครื่องบินขนสินค้า (Cargo Aircraft) ซึ่งตลาดในเอเชียยังไม่ค่อยมีใครทำ และสิงคโปร์ก็มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ในขณะที่ความต้องการทั่วโลกยังมีสูง ทำให้เราต้องคว้างานส่วนนี้มาให้ได้ .... และบางกอกแอร์เวย์ก็มีความสามารถในการซ่อมเครื่อง ATR-72 ได้ในระดับที่สูง ซึ่งต้องแข่งขันกับมาเลเซียที่ประกาศว่าจะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินของ ATR ในเอเชียให้ได้



ทุกท่านครับ ..... บริษัทอย่าง AIROD ของมาเลเซีย, ST Engineering ของสิงคโปร์, IAe ของอินโดนิเซีย บริษัทพวกนี้ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากการที่รัฐบาลของพวกเขาต้องการให้คนของเขาซ่อมเครื่องบินของตนเองได้ทั้งสิ้น .... แต่ทุกวันนี้บริษัทเหล่านี้ก้าวไปไกลถึงระดับภูมิภาคและระดับโลก ..... AIROD เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงชั้นนำของภูมิภาค, IAe ร่วมกับ CASA ของสเปนพัฒนาเครื่องบินออกขายทั่วโลก, ST Engineering ไม่ต้องพูดถึงครับ เขารับทำทุกอย่าง และยังได้ลูกค้าจากทั่วโลก ....... แล้วพี่ไทยล่ะครับ? ......... หรือเราต้องรอให้มี Cambodian Aerospace ก่อนหรือ? แล้วเราจะได้ส่ง F-16 ไปให้เขมรซ่อม?

ปัญหาของ TAI ก็มีนะครับไม่ใช่ไม่มี มีมากพอสมควร และเป็นธรรมดาเพราะเราเพิ่งตั้งบริษัทมา 5 ปีเอง ...... ผมคงไม่อยากกล่าวถึงปัญหามากนักเพราะทุก ๆ ท่านก็ทราบกันดี .... แต่ผมไม่เห็นด้วย หากเราจะต้องยกเลิก TAI เพียงเพราะเราเจอปัญหา ก่อนจะไปถึงจุดมุ่งหมายที่ประเทศเราตั้งเอาไว้ ถ้าไม่เจอปัญหาสิครับเป็นเรื่องแปลก เพราะแปลว่าเราไม่ได้ทำอะไรแน่นอน แต่การเจอปัญหา เราต้องแก้ไข อย่าหลีกหนีปัญหา ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีวันเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคได้ ..... คน TAI และรัฐบาลคงรู้ดีว่าปัญหาคืออะไร หวังว่าจะช่วยกันแก้ไขครับ



สำคัญที่สุดคือ คนไทยต้องสนับสนุนคนไทยด้วยกันเอง ..... ที่ทุก ๆ ท่านบอกว่าทำไมกองทัพเอาแต่ซื้อเครื่องบิน ไม่ยอมทำเครื่องบินเอง ..... จะไปทำเองได้อย่างไรล่ะครับในเมื่อซ่อมเองยังซ่อมไม่ได้เลย ..... นี่เป็นเหตุผลที่ว่าผมมักพูดเสมอว่าอย่าไปคิดทำเครื่องบินขับไล่เลย เพราะคุณยังไม่มีพื้นฐานและองค์ความรู้เลยด้วยซ้ำ พูดน่ะพูดง่าย หนังสือพิมพ์ด่าได้สบายเพราะมันเป็นการด่าแบบไม่มี่ต้นทุน แต่ทำจริงมันทำไม่ได้ครับ .... เราต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานก่อน สร้างพื้นฐานให้แน่น แล้วต่อไปจะทำอะไรก็ต่อยอดได้

สำคัญที่สุดของที่สุดคือต้องต่อเนื่องครับ เราต้องสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง .... กราบขออภัย นโยบายของรัฐบาลอย่ามั่วครับ อย่าเป็นแบบเมื่อสามปีที่ผ่านมา พูดมากไปก็การเมือง ขอพูดแค่นี้นะครับคงเข้าใจกันดี เหอ ๆ ^ ^

สุดท้าย TAI ก็ต้องแสดงให้ทุกคนเห็นด้วยว่า ท่านทำได้ และท่านจะต้องทำให้สมกับที่ทุกคนหวังเอาไว้ เพราะตอนนี้ท่านคือความหวังของอุตสาหกรรมการบินของไทยครับ ..... งานแรกเลยครับ เว็บไซต์ของท่าน ควรปรับปรุงได้แล้ว



ในอนาคตก็หวังว่า อุตสาหกรรมการบินของไทย จะมีรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง เพียงพอกับการต่อสู้กับการแข่งขันในภูมิภาคได้ เมื่อนั้น อนาคตของศูนย์กลางทางการบินของชาติคงอยู่ไม่ไกล



ขอขอบคุณคุณ 001 JZ Team และนิตยสาร Aerospace ที่เอื้อเฟื้อรูปภาพครับ

สำหรับวันนี้จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=12-10-2008&group=2&gblog=100

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 12/10/2008 01:54:18


ความคิดเห็นที่ 2


ซื้อมาแล้วครับ แต่เริ่มวางจำหน่ายเลย ไปหาก่อนวางอยู่หลายวันเหมือนกัน...

ซื้อมาก็จะอ่านเรื่อง TAI นี่แหละ..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 12/10/2008 03:02:32


ความคิดเห็นที่ 3


อ่านเเล้วทั้งภูมิใจเเละก็สบายใจในอนาคตของชาติครับ ถึงเเม้วันนี้ TAI ยังไม่เเข็งเเรงมากนัก เเต่ผมเชื่อครับสักวัน TAI จะต้องเติบต่อมากขึ้นเเน่นอนครับ เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆก่อนเเล้วค่อยๆโต นี่สิครับ คนไทย เเค่ซ้อมอากาศยานของหน่วยราชการได้ ก็ถือว่าดีมากมายเเล้วครับ ลดค่าใช้จ่ายได้มากโขเลยครับ
โดยคุณ poom1.1 เมื่อวันที่ 12/10/2008 04:36:21


ความคิดเห็นที่ 4


ถ้าเรามีอุตสาหกรรมการผลิตขั้นพื้นฐานเช่น เหล็ก แปรรูปวัสดุ แม็ดทรีเรียว ฯลฯ
คงไปได้ไกลกว่านี้

บทความนี้น่าสนใจมากครับ
โดยคุณ economic เมื่อวันที่ 12/10/2008 05:16:07


ความคิดเห็นที่ 5


ครับ...เป็นบทความที่ดี เห็นด้วยอย่างยิ่ง...และก็ขอเอาใจช่วย TAI ด้วยครับขอให้ถึงจุดมุ่งหมายการเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานแบบครบวงจรของภูมิภาคให้ได้...ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น TAI เองจะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีแผนการดำเนินงานและกรอบระยะเวลาที่แน่นอน อีกทั้งจะต้องสามารถแก้ไขปัญหาที่เป็นข้ออุปสรรคต่างๆ ของการดำเนินงานให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี....และจะต้องมีการประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินงานอย่างเป็นระบบอยู่เป็นระยะๆ เพื่อที่ทำให้ทันปัจจุบันในเรื่องการเติบโตของธุรกิจ  ภาวะการแข่งขัน(คู่แข่ง) เทคโนโลยี...ที่สำคัญเราจะต้องทำตัวให้อยู่ในสภาวะที่คิดและทำให้นำหน้าคนอื่นอยู่เสมอๆ ไม่ใช่เดินตามอย่างเดียว...

เห็นด้วยนะครับเรื่องเว็บไซต์ของ TAI ควรจะปรับปรุงได้แล้วครับ...เรื่องนี้สำคัญมากเหมือนกันเพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะเป็นการประชาสัมพันธ์กิจการของ TAI ให้ได้รับรู้กันได้ทั่วไปในวงกว้าง 

โดยคุณ sk03 เมื่อวันที่ 12/10/2008 08:03:35


ความคิดเห็นที่ 6


ตามมาชมอีกรอบครับเสี่ย อิอิ

 

และก็ขอฝาก The aerospace เล่มนี้ไว้ด้วยนะคราฟ ทุกท่านสามารถลองเข้าไปชมตัวอย่างได้ที่นี่ครัผม  smile 

http://www.aerospacemag.com/home/latest_issue.asp

ถ้าถูกใจค่อยไปหาที่แผงหนังสือได้ครับ ^_^

 

 

ปล. แว่วๆมาว่า TAI กำลังเตรียมทำเวปไซท์ใหม่อยู่ครับ

 

 

 

 

 

โดยคุณ thunderbirds เมื่อวันที่ 12/10/2008 09:10:08


ความคิดเห็นที่ 7


เอาใจช่วย TAI ด้วยคนครับ  ตอนแรกนึกว่าจะไปไม่รอด แต่ได้เห็นพัฒนาการแบบนี้ รู้สึกดีใจครับ   ขอให้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ มีผลกำไรที่ดี  และเป็นองค์กรที่แหล่งความรู้ในการสร้างอากาศยานของประเทศอีกอย่างนึง 

เราคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก  แต่ต้องมีโอกาสแสดงฝีมือด้วยนะครับ

โดยคุณ Baros เมื่อวันที่ 12/10/2008 10:18:19


ความคิดเห็นที่ 8


คุณโมกข์ ........ อย่าลืมจ่ายค่าคอมพ์ผมด้วย 200 ล้านนะ ผมให้เด็กส่งใบแจ้งหนี้ไปแล้ว หวังว่าคงได้รับเงินในเร็ววัน กรั่ก ๆ ๆ ๆ ^ ^



ปล. อีกอย่าง ทำไมผมถึงดีใจที่กองทัพอากาศเลือก Gripen รู้ไหมครับ ^ ^

MoU ของไทยกับสวีเดนซึ่งเซ็นกันก่อน Gripen ได้รับเลือก มีข้อความที่ระบุว่าสวีเดนจะเข้ามาร่วมมือกับองค์กรการบินของไทยเช่น TAI ด้วยครับ

"g. enhance cooperation between the Swedish Defence Industries and Thai agencies concerned such as Thai Aviation Industry (TAI), Thai Aerospace and Defence Industry, in developing maintenance and support capabilities of Thailand. "

http://www.swedenabroad.com/SelectImage/4853/Joint_Plan_of_Action_svensk_version.pdf
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 12/10/2008 13:45:40


ความคิดเห็นที่ 9


อิอิ ส่งบิลไปที่ TAI ได้เลยคราฟเสี่ย  wink

โดยคุณ thunderbirds เมื่อวันที่ 12/10/2008 22:19:16


ความคิดเห็นที่ 10


ชอบรูปใน Aerospace มากครับ
เล่นแสงได้สะใจผมมาก น่าสะสม ^^
โดยคุณ aek_SBG เมื่อวันที่ 12/10/2008 23:20:38


ความคิดเห็นที่ 11


           มันถูกต้องเลยครับ..........เสี่ยโย

     บริษัท TAI มันต้องยืนหยัดอยู่ต่อไปให้จงได้

  *สมมุติ น่ะสมมุติ ถ้าเราไม่มี TAI  ในยามที่เราเกิดความบาดหมาง ถึงขั้นจะทำให้เกิดสงคราม กับเพื่อนบ้าน

  พอดี F-16ADF ของเราเกิดมีปัญหาที่จะต้องซ่อมระดับโรงงานขึ้นมา เกือบทั้งฝูง ( บอกแล้วไงว่า สมมุติ )

  แล้ว สมมุติ อีกนั่นแหล่ะว่าเรา ไม่ถูกกับประเทศ ทางใต้ทั้ง 3 ประเทศเลย ( ไม่อยากพาดพิง )

 เราก็จะส่งเครื่องบินไปซ่อม กับประเทศที่มีความขัดแย้งกับเราอยู่ ( ประเทศที่มีหอคอยคู่ ชื่อเหมือนบริษัทน้ำมัน)

    คำกล่าวของ ไทย : เฮ้ยคุณ! เอาเครื่องบินขับไล่ของผมไปซ่อมให้ก่อนแล้วเราค่อยประกาศ สงครามกัน

  หอคอยคู่ :  ซ่อมให้ ข้าก็โง่น่ะสิแก 5555.  เครื่องบินขับไล่ที่แกจะใช้บินปกป้องประเทศก็มีน้อยลง ข้าจะได้บิน ไป โซโล่ ในประเทศแกได้ง่ายขึ้น เดี๋ยวส่ง MKM ไปสักฝูง แกก็เดี้ยงแล้ว...........เอิ๊ก 55555555

 

   เหตุการ ข้างบนเป็นเหตุการณ์สมมุติทั้งสิ้น อาจจะลำดับเหตุการณ์ และเนื้อหาไม่ค่อยจะถูกต้องสมบูรณ์สักเท่าไหร่ ยินดีน้อมรับคำด่าของ สมาชิก บอร์ด ทุกท่านครับ

 

  แต่เหตุผล ที่ผมเขียนลงไปก็คือ  เราต้องยืนหยัดอยู่บนลำแข้งของตัวเองให้ได้ครับ

 เพราะฉะนั้น บริษัท TAI  มันจำเป็นต่อชาติไทย มากครับไม่ว่าจะยามสงบ หรือยาม สงคราม

   ต้องสบับสนุน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน / กองทัพ และ รัฐบาล

ครับ จบแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

 

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 13/10/2008 01:22:43


ความคิดเห็นที่ 12


เสี่ยๆๆๆ ตามมาถามต่อแล้วตกลง TAI สามารถซ่อมเครื่องที่ชนโรงเก็บได้เป่าครับเสี่ย  กลายพันธ์ุ์แล้วจากไป แวปปปปปปปปป
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 13/10/2008 01:28:40


ความคิดเห็นที่ 13


TAI เกิดขึ้นมาในสมัยคุณทักษิณ ที่ตอนนั้นจีบ บ.ผลิตชิ้นส่วนเครื่อบินมาลงทุนอย่างโบอิ้ง แอร์บัส จริงๆชิ้นส่วนเครื่องบินเราสามารถผลิตเองได้อุตสาหกรรมยานยต์ไงละ ขอให้มีแม่พิมพ์ กับเครื่อง CNC ก็พอแล้ว นอกนั้นก็วัสดุที่จะนำมาใช้ แต่เกิดการรัฐประหารก่อนโครงการบางส่วนเลยสดุด�
แล้วเมื่อเปรียบเทียบแล้วสิงคโปร์กับมาเลแล้วเขาอยากมาลงทุนบ้านเราครับ
สิงคโปร์มีเงินเทคโนโลยี แต่ถูกจำักัดด้านเนื้อที่กับทรัพยากรด้านบุคคลทางด้านนี้ไม่พอ
มาเลเซีย อันนี้ไม่ต้องพูดถึงมั่วมากๆบุคลากรขาดประสบการณ์ทักษะ ซ่อมเครื่องบินหลายค่ายมากเกินไปรัสเซีย ยุโรป สหรัฐ ทำให้งบประมาณไปมหาศาล
ไทย ไม่มีเงิน นโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง ไม่มีค่าน้ำกูไม่เอา!!!
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 13/10/2008 03:43:07


ความคิดเห็นที่ 14


   ว๊ากๆๆๆๆๆ........ไม่มีค่าน้ำ จริงสิครับ

         หลังจากเรากระหายน้ำ เราก็เดินไปซื้อน้ำมาดื่ม ( ได้ค่าน้ำแล้ว)

  พอหันหลังเดินกลับมานั่งที่โต๊ะคอม........ว๊าก หมดเวลาแล้วจะทำยังไงดีเนี่ย.........ไม่มีค่าคอม

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 13/10/2008 03:51:51


ความคิดเห็นที่ 15


กองทัพเรือน่าจะส่ง AV8-B  ไปให้ TAI ซ่อมบ้างนะครับ

จะได้บินได้เป็นฝูงซะที

โดยคุณ AIRTIGER เมื่อวันที่ 14/10/2008 01:18:10


ความคิดเห็นที่ 16


กองทัพเรือไม่มี AV8-B ประจำการครับ

ปัจจุบัน กบร. นั้นมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศได้เองในระดับหนึ่งครับ ซึ่งในส่วนของ บ.AV-8S นั้นก็มีการซ่อมบำรุงได้เองตั้งแต่ปั ๒๕๔๓-๒๕๔๔ แล้ว ส่วนหนึ่งกองทัพเรือได้รับมอบอะไหล่จากเครื่องรุ่น AV-8A ของสหรัฐฯซึ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่เลิกใช้งานไปแล้วแบบให้เปล่าซึ่งหลายชิ้นส่วนสามารถใช้ร่วมกันได้

อย่างไรก็ตาม AV-8S นั้นเป็น Harrier รุ่นเก่าซึ่งหลายๆประเทศเลิกใช้งานไปนานแล้ว ดังนั้นอะไหล่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะเครื่องยนตร์จึงไม่มีสายการผลิตแล้วครับซึ่งยากต่อการซ่อมบำรุงให้ปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 14/10/2008 02:14:10


ความคิดเห็นที่ 17


รู้สึกว่าท่าน nok จะติดใจเจ้าเครื่องที่ชนโรงเก็บนี่เสียจริงนะครับ แต่เข้าใจว่าคงซ่อมไม่ไหวล่ะครับ น่าจะเข้าขั้นจำหน่าย หุหุหุ

โดยคุณ rinsc seaver เมื่อวันที่ 14/10/2008 09:27:57


ความคิดเห็นที่ 18


มันจะพากันเข้าคุกกันทั้งแก๊งแล้วครับ!!! ^ ^
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 14/10/2008 11:18:36