ผมคิดในใจลึกๆเอาเองครับว่า.......
ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือ ในช่วงระยะหลังๆมักจะเน้นการต่อเรือใหม่ๆ เพื่อจะให้ได้ชื่อว่า เรือลำนี้ ผมเป็นผู้อนุมัติ จะ
ได้มีชื่อจารึกไว้รึไงก็ไม่รู้ และแนวคิดนี้เอง ที่ทำให้กองเรือของไทยดูเหมือนจะยังไม่ยอมก้าวผ่าน เทคโนโลยียุค
สงครามเวียดนาม ซะที
อะไรทำให้ผมคิดแบบนี้ ผมอยากให้สมาชิกลองดูรายชื่อเรือต่อไปนี้แล้วจะรู้ว่าทำไมผมคิดแบบนี้ แต่ละลำอายุเกือบ
10 ปีและเกิน 10 ปีกันแล้วทั้งนั้น แต่ดูอาวุธสิครับ
ร.ล.กันตัง,ร.ล.เทพา,ร.ล.ท้ายเหมือง
ปืน ๗๖/๕๐ จำนวน ๑ กระบอก
ปืนกล ๔๐/๖๐ จำนวน ๑ กระบอก
ปืนกล ๒๐ มม. GAM CO-1 จำนวน ๒ กระบอก
ปืนกล .๕๐ นิ้ว จำนวน ๒ กระบอก
ร.ล.หัวหิน , ร.ล.แกลง และ ร.ล.ศรีราชา
ปืน ๗๖/๕๐ จำนวน ๑ กระบอก
ปืนกล ๔๐/๖๐ จำนวน ๑ กระบอก
ปืนกล .๕๐ นิ้ว จำนวน ๒ กระบอก
เรือชุดเรือ ต.๙๑ ยกเว้น เรือต.91 และเรือต.99
ปืนกล ๔๐/๖๐ จำนวน ๒ กระบอก
ปืนกล .๕๐ นิ้ว จำนวน ๒ กระบอก
ผมไม่ได้คิดแต่จะติ...ขอแนะนำด้วย
เรือชุดเรือ ต.๙๑
ควรติดปืน 30 ม.ม. MSI ใช้แบบแมนน่วล นี่แหละครับ หัว ท้าย เวลาดวลกับ กัมพูชา คงมันน่าดู
ส่วนเรือชุดอื่นๆ ก็เห็นอยู่แล้วควรจะติดอะไรเข้าไป
แต่ก็เข้าใจนะครับว่าคนอายุจะ 60 อยู่แล้ว ไม่ไปยึดติดกับเทคโนโลยีสมัยสงครามเกาหลีก็ดีแล้ว....
เรือที่ยกตัวอย่างมาในข้างต้นนั้นเป็นเรือประเภทเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง และเรือตรวจการณ์ปืน ซึ่งปฏิบัติการตามเขตชายฝั่งโดยการออกแบบเรือนั้นจะเน้นเรื่องความประหยัดในการต่อเรือและง่ายต่อการบำรุงรักษาระบบเครื่องจักร อุปกรณ์ และอาวุธประจำเรือที่ไม่ได้มีความซับซ้อนและมีราคาแพงมากนักครับ เพราะภัยคุกคามหลักของเรือแบบดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องจัดหาอาวุธอัตโนมัติควบคุมด้วยระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัยเกินความจำเป็นครับ
อาวุธปืนประจำเรือนี้ถ้าตัวปืนยังมีอะไหล่และมีกระสุนให้สามารถใช้งานได้ตามปกติอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ครับ เพราะปืนเรือแบบต่างๆในตลาดปัจจุบันนั้นราคาค่อนข้างจะแพงอยู่ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนในชุดเรือหลายๆลำนี้ก็ต้องใช้งบประมาณมากในระดับหนึ่งครับ
ผมว่าคุณ"น่าคิด"นี่มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับ ทร.เลยนะครับ ถ้าหลายๆคนในที่นี้ทราบว่า ปืน 76/62 ราคา230-250 ล้านบาท ( ปืน 57 ใหม่ ราคาใกล้เคียงกับ 76/62) ปืน 30 มม. MSI ราคา 60-80 ล้านบาท แค่ปืน 20 มม.ยังมากกว่า 10 ล้านบาท หลายๆคนคงพิจารณาได้ว่าทำไม ทร.จึงไม่เปลี่ยนปืนเก่าเป็นปืนใหม่ให้หมดก่อนที่จะไปต่อเรือใหม่ ความจริงคงเป็นอย่างที่คุณAAG_th1 ว่า คือปืนรุ่นเก่าเช่น 76/50 , 40/60 นั้นเหมาะที่จะใช้กับสถานการณ์ที่ไม่มีภัยคุกคามสูงมากนัก ในขณะที่มีเรือที่มีอาวุธสมัยใหม่จำนวนหนึ่งไว้ใช้เมื่อภัยคุกคามสูงขึ้น จะว่าไปแล้วอาวุธที่เห็นว่าโบราณนั้นไม่ค่อยขัดข้องนะครับ ลองถามพวกที่เคยไปยิงกับเรือเขมรและกับปืนฝั่งเขมรมาสมัยก่อนนั้นก็ได้ ปืน 76/50-ปืน 40/70นั้นยิงออกทุกนัด (ยกเว้นปืน 20มม.รุ่นเก่า ที่ขัดข้องอยู่เรื่อย ซึ่ง ทร.ก็ทะยอยซื้อรุ่นใหม่พวก GAM และของRheinmetal ไปเรื่อยๆตามกำลังงบประมาณครับ)ในขณะที่เวลาคับขันไฟฟ้าขัดข้อง-ปืนใหม่มีค่าเป็นศูนย์หรือเกือบศูนย์ได้ทันทีเหมือนกัน
สำหรับการต่อเรือใหม่นั้น ไม่ว่าใครมาเป็น ผบ.ทร.ผมคิดว่าก็ต้องต่อเรือใหม่ทุกคน ก็ลองดูอายุเรือที่มีซิครับ เป็นลุงเป็นปู่แล้วทั้งนั้นเรือ LST สมัยสงครามโลก ก็ทะยอยปลดไปหมดแล้ว เรือกวาดทุ่น ก็ปลดไปหมดแล้ว เรือเร็วโจมตีก็เกือบเกษียณแล้วทั้งนั้น จึงต้องมีเรือใหม่มาทดแทนกองทัพไม่ได้รับงบประมาณตามที่ควรจะเป็นมานานประมาณ 10 ปีอย่างต่อเนื่องจึงได้เป็นเช่นนี้ครับ