หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ทำอย่างไรกับเขมรดี

โดยคุณ : Soldier เมื่อวันที่ : 21/09/2008 19:40:56

ผู้สังเกตการณ์การเมืองในกัมพูชา กล่าวว่า กรณีพิพาทพรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งชายแดนด้านตะวันออก คือ เวียดนาม กับชายแดนทางตะวันตก คือไทย ชาวกัมพูชาล้วนมีเลือดรักชาติไม่ต่างกัน แต่รัฐบาลใช้สองมาตรฐานสำหรับเรื่องเช่นนี้ 
       
       กล่าวคือ รัฐบาลจะอนุญาตให้ทุกฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์หรือกระทั่งก่นด่าประเทศไทยได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับเวียดนาม.. ไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น
       
       “พวกเขาห้ามการแสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเกี่ยวกับเวียดนาม” ดร.เสียน เป็งสี (Sean Pengse) สมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการชายแดนของชาวกัมพูชาในกรุงปารีสกล่าวกับวิทยุเสียงอเมริกาวันพุธ (18 ก.ย.) ที่ผ่านมา
       
       “พวกเขาอนุญาตให้วิจารณ์ได้ (กรณีเกี่ยวกับไทย) แต่กับเวียดนาม รัฐบาลไม่อนุญาตให้พูด” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพรมแดนของประชาคมชาวเขมรโพ้นทะเล กล่าว
       
       กัมพูชา และ ไทย ได้เผชิญหน้ากันทางทหารที่ชายแดนด้านเขาพระวิหารอย่างน่าสะพรึงกลัวในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ในกัมพูชามีการระดมพลังมวลชนเพื่อคัดค้านสิงที่เรียกว่า “การรุกรานของพวกสยาม” อย่างเต็มที่
       
       โทรทัศน์บายนที่บริหารโดยบุตรสาวคนหนึ่งของนายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุนเซน ระดมเงินบริจาค รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ส่งไปช่วยทหารในแนวหน้า
       
       นายฟายสีฟาน (Phai Siphan) โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า จะนำความขัดแย้งนี้กลับเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีกครั้งหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาในระดับพหุภาคี แทนการเจรจาสองฝ่ายที่กัมพูชามองว่าล่าช้าและไม่ได้ผล
       
       ผู้เชี่ยวชาญด้านเขตแดนในโพ้นทะเล รวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ยก “ดินแดนพิพาท" ให้กับเวียดนามไปจำนวนมากในช่วงปี 2549-2550 ที่สองฝ่ายเจรจาทำอนุสัญญาและพิธีสารเพิ่มเติมในสัญญาปักปันเขตแดนเมื่อหลายปีก่อน
       
       ผู้เชี่ยวชาญกล่าวผ่านสื่อในกัมพูชา ว่า ชายแดนบางช่วงระหว่าง จ.ไตนิง (Tay Ninh) เวียดนาม กับ จ.สวายเรียง (Svay Rieng) ของกัมพูชา มีลำน้ำเป็นเขตแดนธรรมชาติ ต่อมาน้ำได้กัดเซาะเข้าฝั่งกัมพูชา กินเนื้อที่หลายตารางกิโลเมตร รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ปริปากใดๆ และในที่สุดก็ได้ยกดินแดนที่ถูกกัดเซาะให้เวียดนามไป
       
       สมเด็จฯ ฮุนเซน เคยออกตอบโต้การกล่าวหาอย่างเผ็ดร้อนและท้าให้ไปพิสูจน์ รวมทั้งได้ข่มขู่จะดำเนินคดีแก่ผู้กล่าวหาฐานหมิ่นประมาทอีกด้วย
       
       สื่อของรัฐรวมทั้งสื่อมวลชนในประเทศนี้ ได้ออกวิจารณ์การสูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนามน้อยมาก รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวนี้
       
       พรรคประชาชนกัมพูชาในปัจจุบัน ได้กลายมาจาก “พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา” อันเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ที่เวียดนามตัดตั้งขึ้นในปี 2522 หลังยกกองทัพมหึมาเข้าขับไล่ระบอบเขมรแดงออกจากกรุงพนมเปญ
       
       สมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นนายกรัฐมนตรีมา 23 ปี ตั้งแต่ยุครัฐบาลที่เวียดนามจัดตั้งขึ้น จนถึงยุคใหม่ในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่สหประชาชาติจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2536
       
       คราวนั้น พรรคประชาชนกัมพูชา พ่ายแพ้ แต่ก็ได้เข้าร่วมรัฐบาล โดยใช้กองกำลังทหารตำรวจที่อยู่ในมือเป็นเครื่องต่อรอง “นายฮุนเซน” ขณะนั้นได้กลายเป็น “นายกรัฐมนตรีคนที่ 2”
       
       สมเด็จฯ เจียซิม ประธานวุฒิสภา และประธานพรรคประชาชนกัมพูชา รวมทั้งสมเด็จฯ เฮงสัมริน ประธานกิตติมศักดิ์พรรคประชาชนฯ และ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบัน ล้วนเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์เก่าที่เวียดนามนำเข้าบริหารประเทศหลังการขับไล่ฝ่ายเขมรแดง
( จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ )




ความคิดเห็นที่ 1


อยู่เฉยๆสิครับ....ปล่อยให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการปักปันเขตแดน
เราคนไทยก็ทำให้ประเทศสงบ  ค้าขายกับมหาอำนาจเยอะๆ...
เวลาขึ้นศาลโลกจะได้มี power  ศาลโลกมันไม่เหมือนศาลยุติธรรมอย่างที่
เรารู้จักมันเป็นเรื่องผลประโยชน์   บอกให้นิด!!!!  ถ้าไม่มี เมกาใช้สิทธิวีโต้
ขวางเขมรไว้  เขาพระวิหารอาจบานปลายกว่านี้   เขามีฝรั่งเศส กับ เวียดนาม
เรามีจีนกับเมกา....ถ้าดูดีๆจะเข้าใจว่าที่เป็นพวกกันเพราะ มีการค้าต่อกันมาก
แต่มีคำกล่าวของผู้นำ ( ไม่แน่ใจว่าเมกาหรือฝรั่งเศส ) บอกว่า  ไม่มีมหาอำนาจ
ไหนโง่ยอมทำสงครามเพื่อประเทศเล็กๆ.....ถ้าไม่มีผลประโยชน์  ( ตอนท้ายผม
ต่อเอง  อิอิ )
ท่าน เตช  ก็บอกไว้ว่าเขตแดนชั่วชีวิตท่านก็ปักปันไม่เสร็จ.....
ผมว่าใจเย็นๆ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ  เรามีทหารพระราชาจะกลัวอะไร


โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่ 19/09/2008 10:13:21


ความคิดเห็นที่ 2


^

^

ถ้าจำไม่ผิด อเมริกาครับ รมต กลาโหมเก่ารึไงน่ะ "ไม่มีใครยอมตายเพื่อพันธมิตร" หรืออะไรเนี่ยแหละ หุหุ ช่วยงมดำน้ำ

 

สำหรับเขมร ผมว่าทำไงให้เขารักเราดีกว่ามั้ง

เหมือนลาวที่เขาเกลียดคนไทยจะตาย (เราเลิกเบ่งว่าเราเหนือกว่า หรือข่มขู่เขาเถอะครับ จะทำให้เขาเกลียดเรายิ่งขึ้น)

ตอนนี้เว็บ Asiafinest พวกเวียตนามคุยกันแต่ว่า จะหาความร่วมมือกันในเขตอาเซียนให้ร่วมมือกันในระดับทหารได้ยังไง

ขณะที่ชนชาติไทยในเว็บนั้นทำม๊ายมีแต่คุยกันแต่เรื่องฉาวๆกะแฟชั่น~ซะมาก

สำหรับเขมร ขอโนคอมเม้น อ่านเอาเองแล้วจะตกใจกับความคิดเขาแต่ละอย่าง ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่หากเป็นไปได้จะฮาไม่ออก

ลาว ก็มียัวะไทยบ้างหลายเรื่อง (ปากพวกเรานี่แหละ เมื่อไหร่จะเลิกกันห๊า?)

อดทนโลดครับ ผมเองก็มีนอตหลุดหลายรอบ แต่เอาเข้าจริง ก็ต้องอดทนครับ ระหว่างนี้ไปซ้อมกระสอบทรายคลายเครียดครับ เพื่อสุขภาพ(เตะต่อยระวังข้อมือหน้าแข้งบาดเจ็บเน้อ)

โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 19/09/2008 11:17:56


ความคิดเห็นที่ 3


เรื่องนี้ ปล่อยเขาไปครับ เรื่องปกติของเค้าครับ ถ้าผมเป็นเขมรผมก็จะทำ เพราะตอนนี้กำลังเหมาะ ตัวเองกำลังเลือกตั้ง เมืองไทยกำลังปั่นป่วน เขาพระวิหารได้เป็นมรดกโลก ไม่มีเวลาไหนที่เหมาะจะขยายดินแดนไปมากกว่าตอนนี้อีกแล้ว

เรารอดตัวจากเขาพระวิหารมารอบนึงแล้ว คราวนั้นเราจำเป็นต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเพราะปัจจัยไม่เอื้ออำนวย แต่ในกรณีตาเมืองธมและที่อื่น ๆ เราเป็นฝ่ายรุกได้ไม่มีปัญหาครับ

จุดมุ่งหมายของเค้าอ่านไม่ยากครับ เขาต้องการน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลทั้งหมดอย่างชอบธรรมแทนที่จะต้องมาแชร์กับไทยแบบที่เราแชร์กับมาเลเซีย ทางที่จะทำได้ก็คือ การเปลี่ยนพรมแดนใหม่ จะเปลี่ยนพรมแดนใหม่ ก็ต้องยึดพื้นที่ตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น การจะยึดพื้นที่ตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าการยึดปราสาทขอมตามแนวชายแดนของไทย เพราะเขาก็ใช้ความที่มันเป็นปราสาทขอมปลุกระดมคนในชาติได้

การเมืองในระเทศเขาล้วน ๆ ครับ แบบเรียนเขาวางไทยไว้เป็นตัวร้าย (ซึ่งหลายอย่างเราก็ร้ายจริง ๆ นั่นแหละ แต่หลาย ๆ เรื่องเขาก็ใส่สีใส่ไฟ) ฉะนั้นถ้าจะปลุกกระแสชาตินิยม ไม่มีอะไรเด็ดไปกว่าการใช้ไทยเป็นแพะอยู่แล้ว เพราะฮุนเซ็นก็ต้องการรักษาอำนาจและกลบประเด็นทางเศรษฐกิจด้วย แม้เศรษฐกิจกัมพูชาจะโต 7% - 8% แต่เงินเฟ้อไม่มีการประกาศมาตั้งแต่เดือนเมษาแล้ว เพราะขืนประกาศมาล่ะก็คะแนนนิยมลดทันทีเพราะมันสูงกว่า 26% ซะอีก เศรษฐกิจเขมรมันจะพังทลายเอา

การปลุกระดมของเขา ก้าวข้ามไปสู่การให้คนเชมรรุ่นใหม่ช่วยกันสร้างชาติเพื่อที่จะสร้างอาณาจักรขอมอันรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง และจะได้ปกครองสุวรรณภูมิในที่สุด .... เอากับมันสิ ฮ่วย

เราอย่าไปสนใจครับ เขายึดเขาพระวิหารผ่านศาลโลกได้ด้วยกฏหมาย เราก็รักษาปราสาทเหล่านั้นได้ด้วยกฏหมายเหมือนกัน เพราะงานนี้หลักกฎหมายปิดปาก (Estoppel) ใช้ไม่ได้เหมือนเมื่อคราวเขาพระวิหารอีกแล้ว (คราวนั้นเราพลาดเอง เราไม่ยอมท้วงฝรั่งเศส แถมเราดันมีรูปคนใหญ่คนโตของเรากับธงฝรั่งเศส) แต่ครั้งนี้มันต่างครับ ขืนเขมรแย้ว ๆ ไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ

ซึ่งเราไม่ต้องไปกลัว UN หรือศาลโลกครับ ตอนมีปัญหา เราสร้างสายสัมพันธ์และเกราะป้องกันกับพันธมิตรของเราได้ดีพอ อีกอย่างประเทศอื่นเขาไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะเร่งด่วนหรือคอขาดบาดตายจน UNSC ต้องออกมติอะไรออกมา เพราะไอ้ที่ฮุนเซนแย้ว ๆ ว่าอีกนิดเดียวมันก็จะเกิดสงครามแล้ว อีกนิดเดียวเมืองไทยก็จะบุกแล้ว มันโครตจะต่างกับภาพที่ออกมาจากสื่อนานาชาติที่เห็นทหารสองชาติกินข้าวจานเดียวกันด้วยซ้ำ เราได้สหรัฐกับจีนหนุนเรา เรื่องครั้งที่แล้วมันก็จบไปเรียบร้อยโดยเรารอดตัวจากเกมส์การฑูตของเรา ยิ่งตอนนี้มันมีเรื่องรัสเซีย-จอร์เจียมาด้วยมันยิ่งเห็นข้อเปรียบเทียบว่า ไม่ว่ายังไงกรณีนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ UN เข้าไปช่วย (ถ้าลองฟัง UNSC เขาเถียงกันตอนรัสเซียบุกจอร์จีนจะพอได้ยินครับ)

อีกอย่างไม่ต้องกลัวครับ ฮุนเซนก็พูดไปอย่างงั้นแหละ ไม่มีใครหน้าไหนในโลกนี้จะลากคอเราขึ้นศาลโลกได้ถ้าเราไม่ยินยอม เพราะศาลโลกไม่มีอำนาจบังคับให้ใครมาขึ้นศาล ถ้ากัมพูชายื่นเรื่องไป แต่เราอารยะขัดขืนไม่อยมขึ้นศาลซะอย่าง ศาลโลกก็ไม่มีอำนาจพิจารณาครับ

ผมเพิ่งซัดกับเกรียนเขมรไป มันด่าผมหยาบ ๆ แต่ผมใช้เหตุผลพวกนี้สู้มัน ไม่ได้อะไรมากเลย แค่พูดไปตามความจริง อ้างหลักกฏหมาย อ้างหลักการฑูต สุดท้ายมันก็พูดไม่ออก เพราะมันรู้แค่สิ่งที่รัฐบาลของมันอยากให้รู้ แต่ไม่เคยรู้เหตุผล ไม่เคยรู้ต้นสายปลายเหตุ เพราะรัฐบาลสร้างคนพวกนี้ให้มาเกรียนอย่างเดียว

สรุปก็คือ สบายใจได้ครับ ไอ้ที่ฮุนเซนขู่ ๆ น่ะ มันทำไม่ได้จริงสักอย่างครับ ฮุนเซนก็รู้ดี แต่เขาขู่เพื่อเรียกคะแนนในบ้านเขาเอง แล้ววเราก็ซวยไป ขอแค่อย่างเดียว คนไทยต้องสามัคคีกันให้ถูกทาง เตรียมตัวรับการโจมตีทางการเมืองระหว่างประเทศให้ดี เพราะเขาไม่ได้โจมตีเราด้วย RPG เขาโจมตีเราโดยการเมืองระหว่างประเทศ ถึงเรามี F-22 เราก็ชนะเขาไม่ได้ แต่ถ้าเราสู้ด้วยการเมืองระหว่างประเทศ ต่อให้มีแค่ M16 ก็ชนะได้สบาย และห้ามเกิดสงครามโดยเด็ดขาด กระสุนสักนัดก็ยิงไม่ได้ ถ้ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ..... เสียดินแดนแน่นอนครับ

 

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 19/09/2008 13:03:34


ความคิดเห็นที่ 4


เป็นคำพูดสุดประทับใจ จากใจอดีด รมต. ต่างประเทศอเมริกา คือท่านเฮนรี่ คิสซิงเจอร์  ที่ทำให้หมวลหมู่พันธมิตรของประเทศท่านรู้สึกประทับใจ มั่นคงแบบงงๆ ที่จำได้มีสองคำคือ

"ไม่มีประเทศมหาอำนาจชาติใดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อพันธมิตรแน่นอน" กับ

"มันจะเป็นไอ้เลวก็ไม่เป็นไรขอแค่เป็นไอ้เลวของเราก็พอ"

สมเป็น รมต. ประเทศพ่อค้าหน้าเลือดจริงๆ

โดยคุณ natty เมื่อวันที่ 19/09/2008 20:19:08


ความคิดเห็นที่ 5


ขอบคุณคุณ NATTY มากครับ

ส่วนเรื่องของทางเกรียนเขมรแผนกการต่างประเทศ ฝากคุณสกายแมนลุยด้วยเน้อ

ผมแค่เรื่องมวยไทยต้องเถียงกับพวกนี้ก็เหนื่อยจะบ้าตายแล้วครับใน youtube...

 

asiafinest อ่านอย่างเดียว เห็นละอนาถ (มันคิดไปได้จะให้สุรินทร์ลุกฮือแข็งข้อกับไทยเพื่อกลับสู่ต้นกำเนิดขอม)

โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 19/09/2008 22:00:38


ความคิดเห็นที่ 6


ผมไม่แปลกใจเลยที่คนเขมรจะมีสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  ก็เพราะคนเขมรมีนิสัยแบบนี้นี้เอง

ปัญหาของเขมรตอนนี้คือการคอรัปชั่น  เพราะมันเป็นต้นทุนของเอกชนมากกว่าความวุ่นวายทางการเมืองอีก

ผมต่อใหญ่เขมรได้น้ำมันจากอ่าวไทยจริง  เงินที่ได้มันก็จะกลายเป็นเเค่ตัวเลขในสมุดบัญชีของคนมีอำนาจไม่กี่คน  ไม่สามารถนำเงินนั้นมาสร้าง ถนนไฟฟ้า  ให้คนเขมรได้

ประเทศไทยดีอย่างที่ไม่มีฝ่ายใดมีอำนาจมากจนเกินไปทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างเข้มข้น

ฟิลิปินส์ อินโดการเมืองเข้มแข็ง แต่ดูเศรษกิจทำไม่แพ้ไทย

มาเลเซียเศรษกิจดีเพราะคนจีนช่วยสร้างชาติให้

สิงคโปร์คอรัปชั่นน้อยมากแถมรัฐบาลก็เข้มแข็งเลยไปกันใหญ่

โดยคุณ mikion เมื่อวันที่ 19/09/2008 22:15:46


ความคิดเห็นที่ 7


ยกให้เขมรเงียบๆ ตามคำสั่งท่านหัวหน้าใหญ่ ใช้แผน บังหูบังตาประชาชนด้วยการทำให้อดอยากปากแห้ง มีเวลาแค่สนใจเรื่องปากท้อง ไม่มีเวลาสนเรื่องอื่น ทำท่าเจรจาไปงั้นๆ นั่งกินข้าวตกดึกก้อไปเที่ยวกัน

นี้แหละครับ สันติวิธี ไม่เสียเลือด เสียเนื้อ จริงๆ และเป็นทางออกที่ดีด้วย ทางอื่นผมมองไม่ออกจริงๆ
1. จะสู้ก้อตายเปล่าๆครับ บอกตรงๆประชาชนบางคนไม่คิดว่าทหารจะูสู้ทหารเขมรได้ เขายังพูดกันนะ ไม่ใช่ทหารระดับล่าง แต่ระดับบนนั้นแหละตัวปัญหาการเกิดการตายหมู่ และสร้างวีระบุรุษที่ไม่มีชีวิตแล้ว เราจำชื่อวีระบุรุษเหล่านั้นไม่ได้ แต่จำชื่อคนสร้างวีระบุรุษที่ไม่มีชีวิตได้ เพราะออกทีวีบ่อยๆ อย่างน้อยก้อนามสกุล
2. เจรจาก้อไม่มีอะไรไปต่อรอง ไม่มีผลประโยชน์อะไรให้ประเทศมหาอำนาจ แถมท่านหัวหน้ายังอยากได้บ่อแ๊ก๊สบ่อน้ำมันในประเทศเขาอีก
3. ประเทศเขาปลุกระดมกันเต็มที่ ส่วนประเทศเราปลุกระดมให้ฆ่ากันเอง
4. นึกถึงเพลากรุงศรีอยุธยาแตก ยิ่งนัก

เราห่างไกลสงครามมากเกินไปครับ พูดจริงๆนะ ตอนนี้แตกความสามัคคีกัน ต้องมีภัยครั้งใหญ่มารุมล้อมเรา เราถึงจะสามัคคีกันได้อีกครั้ง อย่างน้อยก้อชั่วคราวแหละ
คงไม่ให้ความเห็นไปมากกว่านี้ เพราะมีฝ่ายไม่เห็นด้วยมีอำนาจ จัดการผมได้เอิ๊กๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ เอาเป็นว่าขอยุติการให้ความเห็นเรื่องเขมรในเว็บนี้เพียงเท่านี้ ต่อไปจะพยายามอ่านแต่เรื่องที่มีสาระอย่างเดียวไม่โพสต์อีก
โดยคุณ fujiwara เมื่อวันที่ 19/09/2008 22:59:40


ความคิดเห็นที่ 8


ขอถามคุณ skyman หรือท่านอื่นๆ ที่มีความรู้นะครับ แต่ไม่อยากตั้งกระทู้ใหม่ ถ้าใครมีความรู้รบกวนช่วยตอบที่นะครับ คำถามของผมคือ

1. คำว่า เกรียน มีความหมายว่าอะไรเหรอครับ พอดีผมไม่เข้าใจ

2. ที่คุณskymanบอกว่า ห้ามเกิดสงครามขึ้นเด็ดขาด กระสุนนัดเดียวก็ยิงไม่ได้ ไม่งั้นเสียดินแดนแน่นอน  ทำไมผลของมันถึงรุนแรงขนาดต้องเสียดินแดนเลยเหรอครับ 

สุดท้ายขอให้คนไทยสามัคคีกันไว้ เพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

โดยคุณ Baros เมื่อวันที่ 20/09/2008 00:40:09


ความคิดเห็นที่ 9


เมื่อเค้ามีอคติกับประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่จำเป็นมองเพื่อนบ้านในแง่ดีนะครับ การเอาธรรมะเข้าข่ม เอาความดีเข้าแลก กว่าจะได้ผลนั้นกลับคืนคงใช้เวลาร่วม100ปี

   ทุกวันนี้ใครอยากท้าตี ถ้าต่อยกับ เขมร ก็หาว่า เป็นพวกรักชาติแบบขาดสติ พวกพันธมิตร มองเรื่องการเมืองแอบแฝงซะงั้น

  หลายๆคนบอกว่า มองผลประโยชน์ร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเราย้ายประเทศหนีไปไหนไม่ได้ ผมเลยอยากจะถามว่า ผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับ คืออะไรบ้าง? ตามีตาสาจะได้ผลประโยชน์กับการคบประเทศโจรนี้หรือไม่? หรือมีผลประโยชน์เฉพาะนักการเมือง หรือ กลุ่มนายทุน เท่านั้น?? ผมเข้าใจว่าประเทศโจรมีทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวที่มากมาย ปราสาทเพียง1หลังอาจสวยกว่า ปราสาททุกหลังในประเทศไทยรวมกันเสียอีก เข้าจะพัฒนาไปได้ไกล ถ้าวันนึงประเทศเขาพัฒนากว่านี้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว เมื่อเขามีเงิน เขาก็มีเงินซื้ออาวุธ วันนั้นมดตัวเล็ก อาจกลายเป็นเสือร้าย ที่จ้องจัดการเรา หากสิ่งใดทำเพื่อประเทศไทยได้จงทำครับ เพราะความดี ไม่อาจชนะใจโจรร้ายดอก คงต้องใช้เวลา50ปี เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เลิกเกลียดชังประเทศเรา

 

เรารักเค้าแต่เค้าไม่เคยรักเราเลยครับ ทนอยู่แบบนางเอก นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังชอกช้ำ น่าสมเพชอีกด้วย

 

ปล...ความเห็นโง่ๆส่วนตัวเท่านั้นนะครับ อ่านข้ามๆไปก็ได้

โดยคุณ Step01 เมื่อวันที่ 20/09/2008 00:58:39


ความคิดเห็นที่ 10


เขมรก็ไม่ได้นิสัยแย่ทุกคนหลอกครับ  นิสัยเหมือนคนไทยนี่แหละที่บ้านผมมี
อาชีพประมงครับ  เลยมีลูกน้อง พม่า  เขมร เยอะ  เขมรจะนิสัยเรียบร้อยกว่า
พม่าเยอะครับ  พม่าจะโผงผาง แข็งๆ   เคยเรียนภาษากับลูกน้องเขมรด้วย
ไฟ  เขาเรียก เพลิง   น้ำแข็ง เขาเรียก ตึกเกาะ   หมา นี้ก็  จะเกง  ( ไม่รู้ปนกับ
พม่ามั่งเปล่าเพราะพม่าก็เคยถามเหมือนกัน )  อย่าไปมองว่าเป็นศัตรูเลยครับ
และขอร้อง  วิงวอน  อ้อนวอน  กราบ  ชาวสมาชิกทุกท่าน  อย่าได้พูดในเชิง
สมน้ำหน้า หรือ สมควรแล้ว กับเหตุการณ์ี่ที่คนเขมรมีสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ผมเคยถามเขาเรื่องนี้เหมือนกัน  เขาว่าก็รู้สึกไม่ต่างกับคนไทยเสียดินแดน
ผมจึงเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องอ่อนไหว....เราคบกันอย่างมิตร คุยกันอย่างเพื่อน
ดีกว่าครับ  อย่าเอาปมด้อยมาเกทับกันเลยไม่อยากคุยก็เดินจากไป  วันหลัง
คิดถึงกันจะได้มาคุยกันใหม่  
เรียนคุณ    mikion    หากผ่านมาอ่านอีกช่วยถอนคำพูดว่า.......
ผมไม่แปลกใจเลยที่คนเขมรจะมีสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  ก็เพราะคนเขมรมีนิสัยแบบนี้นี้เอง
กรุณาถอนนะครับ  การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ  แต่ต้อง
ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครนะครับ  อย่าไปมองว่าเป็นเขมร  มองว่า
เป็นคนเหมือนกันดีกว่า.....ก็แล้วแต่ดุลพินิจของท่านนะครับ....


โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่ 20/09/2008 01:05:32


ความคิดเห็นที่ 11


ชักแรงขึ้นเรื่อยๆ
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 20/09/2008 01:18:46


ความคิดเห็นที่ 12


อาจจะไม่ต้องทำให้รักก็ได้ครับ

แต่อยากให้รู้จักหลัก FORGIVE AND FORGET

ทุกวันนี้ปัจจุบันนี้พวกยุโรปก็เกลียดอเมริกากันเหมือนกัน รวมถึงฝรั่งเศสกับเยอรมันเองก็ไม่กินเส้นกันพอสมควร

แต่เขายึดหลักผลประโยชน์ร่วม แล้วเลือกที่จะอภัยให้และลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

ผมเองอยากให้ไทยและเพื่อนบ้าน มองกันในแง่ดังกล่าวบ้าง มิใช่เอะอะ เฮ้ย ผลประโยชน์คำนวนได้เสีย เอาดีมั้ย ซัดดีมั้ย? หรือว่า เออ ยอมมันเลยดีกว่ากลัว เกรงใจต้องอยู่กันอีกนาน

ตราบใดที่คนไทยยังถือว่าตนเองเหนือกว่า แม้จะเป็นความจริง แต่หากว่าเรากดขี่ข่มเหงเขาไปเรื่อยๆ ปิดด่านดูซิมันจะรอดมั้ย ถอนการลงทุนการค้า เรียกฑูตกลับ บลาๆ ดำเนินการต่างๆ

ใช่ครับ เราได้เปรียบ เขาจะแย่แน่ๆ แต่ถามว่า จะทำให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆมั้ย?

อันนี้ก็แล้วแต่ครับ

แต่จำไว้เถอะ ใครๆรอบบ้านก็เกลียดเรากันส่วนมากเพราะสาเหตุว่าเราอวด เบ่ง

โอ้ย ไอ้พวกเขมรเรอะ ? ปิดด่านแมร่งก็อดตายห่าหมดละ โอ้ยไอ้ลาวเรอะ? ปล่อยแม่งดิลาวจะตายห่า

 

คิดแต่อย่างนี้ สักวันผมว่าเราจะเสียใจแน่ๆ

โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 20/09/2008 02:51:07


ความคิดเห็นที่ 13


เรียนคุณ Baros ...... เกิดสงครามไม่ได้ครับ เพราะที่ฮุนเซนแย้ว ๆ ต่อชาวโลกอยู่ทุกวันนี้ คือฮุนเซนกล่าวว่า ไทยต้องการรุกรานกัมพูชา ถ้าเกิดการสู้รบ ข้อกล่าวหาของฮุนเซนจะดูเหมือนชอบธรรมขึ้นมาทันที และนั้นจะเรียกร้องการแทรกทรงจากนานาชาติ ...... ลองดูได้ทุกที่ครับ โซมาเลีย อินโดนิเซีย  โคโซโว ยกเว้นจอร์เจียร์นี่แหละครับเพราะรัสเซียเป็นมหาอำนาจ ไม่มีใครกล้ายุ่ง ถ้าเราไม่ใช่มหาอำนาจ เราต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้ต่างชาติหรือ UN เข้าแทรกแทรงได้ครับ ........ การเมืองระหว่างประเทศ เอาความสะใจเข้าว่าไม่ได้ครับผม

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ...... บางทีผมอาจจะรักชาติน้อยกว่าคนไทยคนอื่น หรือมีความเป็นคนไทยต่ำกว่าคนอื่น .... แต่ถ้าเกิดว่าการเป็นคนไทยที่ดี ต้องเกลียดเพื่อนบ้าน ต้องจ้องทำลายเพื่อนบ้าน ..... ผมก็ยินดีเป็นพลเมืองชั้นสองที่ต่ำชั้นกว่าคนอื่นอย่างนี้ต่อไปครับ

ผมเห็นด้วยกับหลัก Forgive and Forget ของคุณ BloodRoyal ครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมมีเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตจากทั่วโลก คุยกันบ่อย ๆ หรือก็เล่นเว็บบอร์ดด้วยกัน คนอังกฤษเรียกเรียกคนฝรั่งเศสด้วยความดูถูก คนดัชต์รังเกียจคนเยอรมันยิ่งกว่าอะไรดี ..... แต่สิ้งที่ผมเจอทุกครั้งก็คือ แม้ว่าเขาจะด่ากัน แซวกัน แต่เขาเรียนรู้ที่จะร่วมมือกันได้ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้ เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันได้ เรียนรู้ที่จะพัฒนาไปด้วยกันได้ ....... เขาไม่เคยตั้งธงว่าฉันต้องเกลียดคนชาตินี้เพราะเคยทำสงครามมาตั้งแต่พันปีที่แล้ว เขาจะพูดว่าถึงแม้เราจะแซวกันสนั่น เราจะเคยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันมาก่อน แต่ประเทศของเราก็ร่วมมือกันในปัจจุบัน .... ชาวยุโรปเขาภาคภูมิใจมากที่เขาสามารถสร้าง EU ให้ยิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะสำหรับเขาแล้ว EU คือสัญลักษณ์ของการยุติความขัดแย้งระหว่างกันและริเริ่มความร่วมมือระหว่างกัน

ผมเล่นเว็บบอร์ดต่างประเทศมานาน ผมคนไทย คุยกันคุนมาเลเซีย คนสิงคโปร์ คนอินโดนิเซีย หรือแม้แต่คนพม่า ได้อย่างสนุกสนาน พวกเราที่อยู่ในบอร์ดต่างประเทศ ภูมิใจในความที่เราเป็นคนอาเซียนด้วยกัน ที่แม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่เท่า EU แต่มันก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือที่ภูมิภาคอื่นไม่มี เพราะเราบอกชาวโลกได้ว่าภูมิภาคของเราสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทฤษฎีโดมิโนไม่สามารถเป็นจริงได้เมื่อเรายุติความเป็นศัตรูกันและมาร่วมมือกัน

ผมอยากให้พม่า ลาว และเขมรเจริญ เพราะผมไม่อยากให้คนจากทั้งสามชาติที่ไร้ความหวังต้องอพยพเข้ามาเมืองไทย ซึ่งบางส่วนก็สร้างปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัย และความมั่นคงให้กับเมืองไทย ถ้าประเทศเขาเจริญ เขาก็สามารถทำงานในประเทศของเขา ไม่ต้องเข้ามาเมืองไทย และเราก็สามารถเข้าไปลงทุนทำธุรกิจและนำเงินกลับประเทศมาได้มากมาย

ผมไม่เคยมองใครเป็นศัตรูหรือว่าใครมันเลวคนผมคบไม่ได้ เพราะผมไม่ต้องการจะลดตัวไปเลวเหมือนเขา อีกอย่างสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือสงคราม และผมจะยืนอยู่ตรงข้ามทุกฝ่ายที่สนับสนุนสงครามไม่ว่าที่ไหนในโลกก็ตาม (ผมซัดมะกันกับพวกยิวมาแล้วด้วยซ้ำ) ..... เมื่อผมเห็นว่าใครที่พยายามคุกคามเรา พยายามโจมตีเรา ผมจะคิดว่าถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะคิดอย่างไร ทำไมฉันถึงทำอย่างนี้ ..... เมื่อเราเข้าใจความคิดของพวกเขาได้แล้ว เราก็จะรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องการแบบนี้ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เมื่อเราเข้าใจ มันจะนำไปสู่ทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุดต่อไป

ประเทศไทยยุติความเป็นศัตรูกับจีน เปิดสัมพันธ์ทางการฑูตกับจีนจนทุกวันนี้จีนคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่เราไว้ใจได้มากที่สุด นายกชาติชาย ประกาศนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้ไทยยุติความเป็นศัตรูกับเวียดนาม ภูมิภาคอินโดจีนยุติยุคแห่งสงครามไปสู่ยุคแห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ...... สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่เรายอมเลิกก่อน ยอมเป็นคนดีก่อนทั้งสิ้น

ไม่มีอำนาจใดมาจากปากกระบอกปืน เพราะในสถานการณ์หลายครั้งพิสูจน์ว่า มีคนที่พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลกกับกระบอกปืนเพียงเพราะความเชื่อ ดังนั้นสงครามไม่เคยเป็นคำตอบของปัญหาใด ๆ

ปัจจุบัน คนชาติอื่นเกลียดคนไทย เพราะเราชอบไปดูถูกเขา ถ้าเราคนไทย เลิกดูถูกเพื่อนบ้าน โดยไม่ต้องสนใจว่าเขาจะประณามเราว่าอย่างไร สุดท้าย ความจงเกลียดจงชังต่อกันมันก็จะหายไป ถ้าเราไม่เริ่มก่อน เราก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างจริงจังได้ เพราะเขาถูกล้างสมองอยู่

ผมอาจจะเป็นคนที่อ่อนแอ ไม่ยอมรับความรุนแรง แต่ผมก็เชื่อว่า ความดี มันไม่มีทางแพ้ความชั่ว แม้ว่ามันจะนาน แต่สุดท้ายมันจะยุติปัญหาทุกอย่าง เหมือนอย่างที่เนลสัน แมนเดลล่าหรือมหามะ คานทีทำสำเร็จมาแล้วครับ

ปล. เรื่องเกรียนเขมร ยังซัดอยู่ครับคุณ BloodRoyal ^ ^

ปล.2 คำว่าเกรียน เป็นคำเรียกคนที่ชอบป่วนและไร้วุฒิภาวะครับคุณ Baros ^ ^

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 20/09/2008 04:14:11


ความคิดเห็นที่ 14


ใน เรื่องของ เราหลงตนเอง เขารวมกันเกลียดเรา........

มันเป็นเรื่องที่มองคนละมุม

บางประเทศ ตั้งแต่อดีต คบหาด้วยก็แอบตีท้ายครัว

กวาดต้อนและให้ร้ายแก่   สยามประเทศ

จนต้องเอาเลือดล้างเท้า......เป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์

คงอาจจะเกิดจากการที่สยามประเทศ เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง

แต่ประเทศเขาไม่ได้เจริญเท่าที่ควร อันนี้คือที่มาของความเกลียดหรือเปล่า ลองคิดดู

บางครั้งการคบเพื่อค้าขาย ก็ไม่เพียงพอหรอกครับ

เพราะเราคบคนที่ชอบแทงเราเวลาหันหลัง

ประเทศเช่นนี้เราอยากค้าขายด้วยหรือ ต้องโดนกับตัวเราถึงจะรู้สึก

ถ้าเขายังไม่ลบภาพการเกลียดชังแบบฝังหัวแล้ว

เราต้องระวังในการคบมิตรเหล่านี้

ผมมองคนละมุมกับท่านครับ (ไม่เคยไว้ใจเลย) ผมเกิดที่ชายแดนครับ.....

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 20/09/2008 04:30:33


ความคิดเห็นที่ 15


กระบอกปืนมิใช่ทางเลือกเลยครับ

แต่อาจต้องเลือก เพราะไม่มีอะไรให้เลือก

คบ DOG ยังอันตรายน้อยกว่าคบคนจ้องเผาสถานทูตครับ

ดีที่เขาเลือกตั้งเสร็จแล้ว และได้เป็นผู้นำแล้ว กระแสปั่นให้เกลียดแล้วหันมาเลือก  กรู เขาใช้มาตลอดครับ.........

มันจะหาเหตุให้ประจวบ คีรีขันธ์ เอ้ย ประจวบเหมาะกับเหตุการ

แล้ว เข้าล๊อกเมื่อใด ประเทศใหญ่อย่างสยาม ต้องมองลีลาแพรวพราวของเขาครับ  ผมว่าคนไทยยังไม่หัวแพทย์เท่าเขาหรอกครับ ไม่เชื่อลองเอามาไว้ในบ้านท่านดูก็ได้ครับ โทษทีมองโลกในแง่ลบ ซะงั้น.......

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 20/09/2008 04:44:59


ความคิดเห็นที่ 16


ยาวๆกระทู้นี้

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 20/09/2008 04:46:59


ความคิดเห็นที่ 17


เรื่องความเห็น ความคิด แตกต่างกันได้ครับทุกคนมีเหตุูผลและผมเชื่อว่า
เหตุผลของทุกท่านมาจากความรักชาติ       เพื่อบรรยากาศที่ดีผมว่าเรา
ยุติการคุยเรื่องนี้ไว้ดีกว่า   ไม่อยากให้สมาชิกทะเลาะกันจนไม่อยากเข้ามาอีก
เพราะตอนนี้ก็หายไปเยอะแล้ว ( ผมชอบอ่านความคิดคุณ X 1 นะแต่ไม่รู้
หายไปไหน )  อย่างไรก็ขอให้สามัคคีกันไว้นะครับ
!!!!!!!!!!!  เอะ....เอะ.......อะไรเค็มๆ       ทะเล.....!!!!!!
           ไปทะเลกันดีกว่า.............................................................
    ( ผู้ดูแลเว็บ ผมเสนอให้ลบกระทูนี้ครับ.....เพื่อบรรยากาศ  และตอนนี้
ประเทศต้องการความสมานฉันท์ )


โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่ 20/09/2008 04:55:10


ความคิดเห็นที่ 18


ความจริงผมว่าเรายังไม่ได้ด่ากันหยาบ ๆ คาย ๆ หรือทะเลาะกันรุนแรงเหมือนตอนเรื่องฮอต ๆ แบบตอนนั้นเลยนะครับ ผมว่าบางทีเรายังไม่ต้องลบก็ได้นะครับกระทู้นี้

ผมยินดีเสียอีกที่คนที่มาพูดคุยกันในกระทู้นี้ ยอมรับความแตกต่างได้ ไม่เหมือนตอนนั้น ผมว่าถ้ายังคุยกันในระดับนี้อยู่ เก็บไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายครับ


ส่วนตัวแล้ว ผมว่าเรายังมีทางเลือกอีกมากนอกจากสงคราม และเราก็เลือกแล้วว่าเราจะไม่ทำสงคราม และมันก็ทำให้เราไม่เพลี้ยงพล้าเขาในเกมส์การฑูต .... ผมยังยืนยันว่า การเมืองระหว่างประเทศ เอาความสะใจหรือความเคียดแค้นมาเป็นแนวทางไม่ได้ครับ เพราะเราจะแพ้ทันที ..... เกมส์ของเขมร อ่านไม่ยาก และไม่ได้ซันซ้อนอะไรมากขนาดที่เราจะตามไม่ทันครับ เรามีทางป้องกันได้ทุกอย่าง และเราก็ป้องกันมาแล้วตั้งเยอะ ..... ฟังฮุนเซนพูดมาก ๆ แล้วมันน่าโมโหและเสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ ครับ เพราะเขาพูดโจมตีเราเพื่อหาเสียงในประเทศเขา อย่าไปสนใจมันมากครับ ฮุนเซนก็รู้อยู่เต็มอกว่าที่พูด ๆ น่ะทำไม่ได้จริงหรอก แต่ก็พูดไปงั้นแหละ ...... ลองดูการดำเนินการทางการฑูตของเราแต่ละอย่าง มันอาจจะไม่ได้ตอบโต้แบบสะใจหรือรุนแรง แต่ทุกอย่าง ในทางฏกหมายระหว่างประเทศ เราวางหมากและซ้อนมีดปิดข้อกล่าวหาของเขาไว้หมดแล้วครับ ถ้าเรื่องมันต้องกลับไปถึงการเผชิญหน้าทางทหารและขึ้นสูง UNSC อีกรอบจริง ๆ รอบนี้จะยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ....... แค่นี้เราก็ชนะได้โดยไม่ต้องก่อสงครามแล้วครับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 20/09/2008 06:02:20


ความคิดเห็นที่ 19


เรียน คุณ skyman และท่านอื่นๆที่ในเว็ปบอร์ด 

ขอบคุณครับที่เข้ามาตอบข้อสงสัยของผม  ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นเยอะครับ   และสิ่งที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง คือการไม่ดูถูกเพื่อนบ้าน หรือมีนโยบายเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในประเทศของเรา   เพราะในความรู้สึกคือเค้าก็มีความเป็นมนุษย์เหมือนๆกับเรา  ถึงแม้ว่าประเทศเค้าจะมีความเจริญทางวัตถุน้อยกว่าเรา(ทางจิตใจผมไม่ค่อยแน่ใจ  แต่ผมว่าไม่ต่างกัน) และผมสนับสนุนอย่างยิ่งกับกับความคิดที่อยากให้ประเทศเพื่อนบ้านเจริญขึ้น  เพราะเปรียบไปก็เหมือนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน   ถ้าบ้านเรารวยอยู่คนเดียว บ้านข้างๆ จนหมด  แน่ใจหรือครับ ว่าเราจะอยู่ได้อย่างมีความสุข   และอีกอย่างผมค่อนข้างมีความเชื่อเป็นส่วนตัวว่า ประเทศเราตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด  ถ้าสามารถกระชับความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านได้  เราจะได้ประโยชน์จากประเทศเพื่อนบ้านมหาศาล(เค้าก็ได้ประโยชน์จากเราด้วยเช่นกัน)  แต่เราอยู่ทำเลดีกว่าคนอื่น  โดยเฉพาะเรื่องการค้าระหว่างกัน จริงๆ ผมเชื่อว่า ความคิดของผม  เพื่อนที่อยู่ในบอร์ดนี้ หลายคน ก็คงคิดแบบผม  ซึ่งผม ก็ไม่อยากพิมพ์ออกมา  แต่เหตุผลคือเพื่อสนับสนุนความคิดดีๆ และสร้างสรรค์ของคุณ skyman และอีกอย่างรู้สึกว่าในสังคมไทย ความคิดดีๆ มักจะเสียงเบา ไม่เหมือนความคิดแปลกๆ ล้าหลัง  ชอบสร้างความแตกแยก  แต่เวลามีปัญหาก็ไม่ได้ออกมารับผิดชอบ  มักจะมีเสียงดัง  จนกลบเสียงเบาๆ ของความคิดดีๆ ไปหมด 

โดยคุณ Baros เมื่อวันที่ 20/09/2008 06:08:06


ความคิดเห็นที่ 20


เข้าใจ ความหมายของ SKYMAN และเข้าใจทุกคนครับ

การวางหมากปิดช่องนั้นดีครับ เหมือนอยู่ใน ชัยภูมิที่สูงกว่า

แต่การที่วางใจมากไปก็ไม่ดี

ที่ผ่านมา ถ้าเขาเกรงใจเรา เขาไม่ เขย่าไฮโล ลองเชิงเรื่องวิหารหรอก

แต่ดูแล้ว บ้านเมืองเรา พันตูอยู่ เขาก็เลยลองเขย่าเล่น

กว่าจะเข้าทีเข้าทางก็อึดอัดกันไปพักหนึ่งนั่นแหละ

ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเกมส์ วัดสมาธิเหมือนกัน ใครสติแตกก่อน ก็อาจเพรี่ยงพร้ำ

หรืออีกนัยหนึ่ง ศักยภาพทางทหาร พอจะเชื่อถือได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

แต่ที่แน่ๆนะ ลองช่วยบอกให้เขารื้อร้านที่เขามาตั้งตีนเขาออกไปก่อน

ลองดูเล่นๆก็ได้ เป็นเกมส์ฝึกสมาธิคนใจเย็นและเบื่อหน่ายสงคราม

การทูตได้ผลครับ ก็ต้องทำ ถึงมันจะช้า และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่

ถ้าเราคิดดีกันทุกๆคน ขออย่าให้คนไทยทะเลาะกันอีกเลย จนคนข้างบ้านดูถูกเรายังกะอะไรดี........

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 20/09/2008 08:12:34


ความคิดเห็นที่ 21


ผมไม่ถอนคำพูดครับ  เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ  เราคบเขาได้แต่ต้องระวังหลังด้วย  มันไม่มีความสุข

จากที่เขาเคยเกรียดชังกันเองทำไปทำมาดันมาเกรียดเรา 

 

ยอมรับว่าค่อนข้างมีอคติกับประเทศนี้

 

จะลบก็ลบ ตามใจ

โดยคุณ mikion เมื่อวันที่ 20/09/2008 09:25:51


ความคิดเห็นที่ 22


ชาติเขมรก็นิสัยเดิมๆ มาตั้งแต่โบราณแล้วนิครับ ...เมื่อใดชาติไทยเกิดปัญหาภายในและอ่อนแอ เขมรก็รุก อย่างสมัยสมเด็จพระนเรศวรทรงทำศึกติดพันกับพม่า เขมรก็บุกเข้ามากวาดต้อนทรัพย์สินและคนไทยไปเป็นเชลย เมื่อพระองค์ท่านกลับจากศึกสงครามทรงทราบข่าว จึงจัดทัพยกไปตีได้ถึงเมืองเขมรแล้วทรงจับและทรงตัดคอกษัตริย์เขมรผู้นั้นเสีย(จำชื่อไม่ได้แล้วครับ ขออภัย) เอาเลือดมาล้างพระบาทให้สมกับที่ทำไว้กับคนไทย

...มาสมัยนี้ทำอย่างสมัยสมเด็จพระนเรศวรไม่ได้แล้วน่ะครับ ...จะทำอย่างไรกับเขมรได้ พวกเราก็จะรู้กันเองครับเมื่อบ้านเราจัดการปัญหาภายในได้สำเร็จ การเมืองเข้มแข็งขึ้นมาเมื่อใด เมื่อนั้นเขมรจะรู้ซึ้งว่าไม่ควรมาเล่นกับไทยครับ

โดยคุณ Tidthom เมื่อวันที่ 21/09/2008 08:40:56