ผมอยากณู้ว่าคนไทยชอบปืนไร
1 ak 47
2 หรือจะตะกูล นี้ทั้งหมด
5 หรือขวัญใจ คนทั่วไป เจ้า M4a1
เลือกเอาครับ ผมทราบเฉยๆว่าใครชอบอะไรในบอร์ด TFC
จะไปตาย แล้วจะเอาปืนไปทำ.....อะไร ล่ะ
ผมชอบ M4a1 สวยดีครับ
ให้ไปรบ จะเอาเจ้านี่ไปครับ
AK-101 Assault Rifle เป็นปืนเล็กยาวที่บรรจุกระสุน 30 นัด พานท้ายแบบพลาสติกพับได้แท่นติดตั้งกล้องเล็งในเวลากลางคืนติดที่โครงปืน ใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบกล้องร่วมกับเหล็ก เช่น ประกับลำกล้องและด้ามจับเป็นต้น ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 มม.ของนาโต แม็กกาซีนบรรจุกระสุน 30 นัด ความยาวปืนทั้งกระบอก 943 มม. เมื่อพับพานท้ายแล้วยาว 700 มม. ลำกล้องยาว 415 มม. ระยะยิงหวังผล 1000 เมตร น้ำหนักปืนเปล่า 3,400 กรัม อัตราการยิง 600 นัด/นาที
ถ้าให้ไปตาย จะเอานางงามไป 2 คน ผมถือคติที่ว่า "ตายคาอก ดีกว่าตกน้ำตาย"
คือไปตายนี่ ถ้าไม่รอด ก็ปืนอะไรก็ได้ครับ ไว้ยิงตัวเอง
ส่วนตัวแล้วชอบ AK-47 ครับ ปืนที่ใช้ทุกสภาพอากาศได้ดี
ไม่ทราบเหมือนกันว่า M16A4 ดีกว่า AK -47 ตรงไหนบ้าง
รู้แต่ว่าเป็นปืน อเมริกาแค่นั้นครับ.....
ไปตาย?? ใส่นาโนสูทแบบ Crysis แล้วกันอย่างน้อยเผื่อรอด
ไปรบเฉยๆ ผมเอาปืน M8 ไปดีกว่า ทนมือทนเท้าดีไม่เหมือน M4 อันนั้นอย่าเอาครับขัดลำเมื่อไหร่ตายแน่ แถมมีกล้องเรดดอทติดมาให้ด้วยไม่ต้องหาของเพิ่ม
ปืนอะไรก็ได้ที่เหมาะสมตามแต่ละภารกิจ
ปืนค่ายโลกตะวันตก ส่วนมากจะออกแบบมาปราณีต ศูนย์เล็งมีความละเอียดสูง(ช่วยให้ผู้ที่ถูกฝึกมาสามารถปรับใช้เล็งปราณีตได้แม่นยำกว่า) โดยเฉพาะปัจจุบันได้มีการปรับปรุงติดตั้งรางมาตรฐาน สำหรับจับยึดอุปกรณ์เสริมพวกอุปกรณ์ช่วยยิงต่างๆ ด้วยแล้วทำให้มีความหลากหลายในรูปแบบการใช้งานตามแต่ละภารกิจ และก็เช่นกัน เมื่อมีลูกเล่นมาก การดูแลรักษาและการเอาใจใส่ก็ต้องสูงตามเพื่อให้ระบบอาวุธใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และสิ้นเปลืองในกระบวนการส่งกำลังต่างๆ
ส่วนปืนค่ายโซเวียตเดิมนั้น ออกแบบมาตามหลักนิยมในเรื่อง ง่ายและเชื่อถือได้ ดังนั้นปืนจึงออกแบบมาอย่างง่ายๆ ศูนย์เล็งหยาบไม่ปราณีต แต่ก็เมื่อความเชื่อถือได้สูง ไม่ต้องดูแลมาก(แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องดูแล) ปัจจุบัน ก็พยายามปรับปรุงเพื่อให้รองรับรางจับยึดอุปกรณ์ช่วยยิงต่างๆ
ดังนั้นถ้าถามว่าจะเลือกปืนอะไรออกไปรบ(แต่ไปตายนั้นคงไม่ยอมง่ายๆ ประมาณว่าถ้าอยากฆ่าตู ก็จงพยายามเอาชนะให้ได้ก็แล้วกัน) สิ่งที่จะถามกลับก็คือว่า ไปรบที่ไหน ยังไง พูดง่ายๆศัพท์ทหารก็คือภารกิจอะไร ถ้ามันมีปืนให้เลือกก็จะเลือกให้เหมาะสมกับภารกิจที่สุด เช่น ถ้าส่งเข้าพื้นที่ ที่ส่วนมากเป็นชุมชนเมือง มีสิ่งปลูกสร้างมาก ยังไงก็ต้องเอาปืนที่มีศูนย์ยิงที่ปราณีตไปละครับ(จะแม่น ไม่แม่น อยู่ที่ฝีมือผู้ยิงอีกที) แต่ถ้าส่งไปรบในการจรยุทธ์ในป่าเป็นเวลานานๆ สมบุกสมบัน การส่งกำลังกระทำได้ยาก หรือพูดง่ายๆก็คือ ออกไปรบแบบซกมกแล้วละก็ ปืนตระกูล คลาชนิคอฟ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
นักรบนั้นถึงจะถูกฝึกมาดีแค่ไหนแต่ในบางครั้งมันก็ยังหนีกฏธรรมชาติไปไม่พ้น นั้นก็คือขีดจำกัดของร่างกาย เช่น การรบในเวลากลางคืน ถึงฝึกมาดีแค่ไหน มันก็คงไม่สามารถฝึกให้มองในเวลากลางคืนให้เห็นประดุจดั่งกลางวันด้วยตาเปล่าได้เป็นแน่แท้ ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยยิงในเวลากลางคืนจึงจำเป็นมากในการเพิ่มขีดความสามารถดังกล่าว หลายคนอาจจะยังคงเข้าใจผิด กล้อง NVG นั้น ช่วยในเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืนก็จริง แต่ถ้ามีเพียงแค่ NVG อย่างเดียว การยิงก็ยังคงทำยากอยู่ดี จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยยิงอื่นๆเข้ามาเสริมด้วย
อย่างที่บอกข้างต้น ถ้าเลือกปืนได้ จะเลือกตามภารกิจ แต่ถ้าเลือกไม่ได้ละ(และส่วนใหญ่มันจะเป็นเช่นนั้นด้วย) ก็คงต้องฝึกให้ชำนาญกับการใช้ปืนนั้นๆ ต้องรู้จัก จุดอ่อน จุดแข็งของปืนเป็นอย่างดี ปืนทุกชนิดในโลกมันเกิดติดขัดได้ทั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่า เปอร์เซ็นต์ใครจะสูงจะต่ำกว่ากัน และสิ่งที่สำคัญก็คือ เมื่อเกิดการขัดขึ้น จะต้องทำยังไงในการแก้ไขเหตุติดขัดนั้น เพื่อให้สามารถใช้อาวุธได้อีกครั้ง ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่บางหน่วยขาดความเอาใจใส่ เคยเห็นทหารฝึกทำนองยุทธ์กระสุนจริง ปืนเกิดขัด แล้วหันหน้า(เอ๋อๆ) หันมามองผู้หมู่ ผู้จ่า ผู้หมวด ประมาณว่าอยากจะถามเต็มแก่ว่า เอายังไงดีครับ ปืนผมขัด ซึ่งถ้าเป็นในสนามรบจริง ใครมันก็คงเข้าไปช่วยไม่ได้หรอกครับ ทั้งหมู่เกิดปืนขัดมา 3 กระบอก ผู้หมู่ก็ตายกันพอดีไม่ต้องคิดดำเนินกลยุทธ์แล้วละครับ คอยวิ่งแก้ปืนนั้นแหละครับ ตรงนี้ไม่ต้องไปโทษทหารคนนั้นหรอกครับ ต้องด่าผู้บังคับหน่วยนั้นแหละที่ปล่อยปะไม่ฝึกให้เขาชำนาญเอง
และบางทีก็อย่างว่าละครับ บางทีมันก็ไม่มีเวลาจริงๆ เพราะปัจจุบัน กองทัพไปรับงานนอกซะเยอะ ไปมุ่งเน้น ด้านอื่นมากเกิน จนปล่อยปะละเลยการฝึก ไปแย่งงานคนอื่นเขาหมด เช่น การจัดงานเฉลิมพระเกียรติต่างๆ ทำไมทหารต้องไปแย่งงานคนอื่นเค้า เช่น ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ไปแย่งกรมป่าไม้เขาทำไม ทำไมไม่ทำในรูปแบบของตนเองตามหน้าที่ของตนเอง เช่น การฝึกเดินเร่งรีบเฉลิมพระเกียรติ เดินทางไกลเฉลิมพระเกียรติ ฝึกเข้าตีกระสุนจริงเฉลิมพระเกียรติ อะไรทำนองนี้
คุณ 147 ครับ
ระยะยิงหวังผล ขึ้นอยู่กับ ปืน และ กระสุนครับ
ปืนส่วนสำคัญคือ รังเพลิงและลำกล้อง
HK คือเจ้าแรกที่ยืดระยะยิงหวังผลของกระสุน .223 นิ้ว จาก 400 เมตร (ยิงจาก M-16 A1) ออกไปเป็น 800 เมตร
โดย(ถ้าจำไม่ผิด) HK นี่แหละครับ
ชุดรังเพลิงปิดสนิทไม่มีรอยรั่วของแก๊ส ลำกล้องใช้แบบ เหลี่ยมบิดเกลียว(ผมไม่อธิบายหาข้อมูลเอง) ลำกล้องเคลือบสารเทฟล่อน
กระสุนลดดินขับ เพิ่มน้ำหนักหัวกระสุน จนเป็นที่มาของโค๊ด SS 109 ต่อมาอเมริกาก็พัฒนา M-16 A2 ใช้กระสุน SS 109 แต่เปลี่ยนชื่อเป็น M 193 แทน M-16 A2 มีระยะยิงหวังผลที่ 600 เมตร
และแล้วกระสุน SS 109 ก็เป็นกระสุนมาตรฐานกลุ่มนาโต้ไปในที่สุด
ส่วนของ AK 101 ข้อมูลแบบเจาะลึกหน่อยดันเป็นภาษา รัสเซี่ยน อ่านไม่ออกครับ ใครอ่านออกช่วยแปลที ถือว่าอนุเคราะห์ความรู้กัน
ส่วนข้อมูลที่นำมาลงผมไม่ได้ให้เครดิตไว้เนื่องจากเป็นเว็ปของไทย ใช้ Google หาเอาก็เจอ
แต่ถ้าใครอยากลองเจ้า AK-101 ยิงที่ระยะ 1000 เมตร บอกด้วยนะครับจะได้ไปดูด้วยคน
ระยะยิงหวังผล 1000 เมตรเลยหรือครับ เป็นจุด หรือ เป็นพื้นที่ครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง แต่วิถีกระสุนมันคงโค้งน่าดู ถึงตัวปืนจะทำได้จริง แต่ลำพังศูนย์เล็งแบบศูนย์เปิดมาตรฐานติดปืนซึ่งหยาบน่าจะทำการเล็งยิงได้ลำบากพอสมควรสำหรับระยะ 1000 เมตร(ลองนึกดูครับว่า ศูนย์หน้ามันจะใหญ่กว่าเป้าขนาดไหน)............... H&K ตัวที่ท่าน น่าคิด กล่าวถึงนี่คือตัวไหนหรือครับ.....กระสุน นาโต้ SS 109 มีชื่อในแบบไอ้กันว่า M 855(ลูกธรรมดา) ครับ ส่วนส่องวิถีถ้าจำไม่ผิดคือ M 856 เป็นกระสุนที่พัฒนามาจากกระสุนตัวเก่าคือ M 193 (ธรรมดา) และ M 196 (ส่องวิถี) ครับ สิ่งที่แตกต่างคือ หัวกระสุน SS109 หรือ M 855 นั้นจะเสริมแกนโลหะ(Steel Core) จึงทำให้หัวกระสุนนั้นหนักกว่าตัวเก่าคือ M 193 ส่วนหนักกี่เกรนนั้นผมจำไม่ได้แล้วครับน่าจะ 62 เกรน เมื่อหัวหนักกว่าเก่าดินขับต้องเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนครับ กระสุน M 855 หรือ SS109 นั้นออกแบบให้นำมาใช้กับเกลียวลำกล้องแบบครบรอบที่ระยะ 7 นิ้ว เช่น ปืนซี่รี่ เอ็ม 16 เอ 2 เป็นต้นไป ปืน มินิมิ ซึ่งกระสุน M 193 แบบเก่านั้นใช้กับเกลียวครบรอบ 12 นิ้ว ในเอ็ม 16 เอ 1 .........กระสุน M 855 จะมีแรงดันในรังเพลิงสูงกว่า M 193 ถ้าถามว่าถ้านำกระสุน M 855 มายิงกับปืน เอ็ม 16 เอ 1 ได้มั๊ย คำตอบคือได้(เพราะขนาดรังเพลิงเดียวกัน) แต่กล้าเสี่ยงไหมแค่นั้นเอง เพราะแรงดัน M 855 สูงกว่า และถ้าเอากระสุนตัวเก่าแบบ M 193 ไปยิงกับ เอ็ม 16 เอ 2 ละ คำตอบคือยิงได้ ไม่เป็นอันตราย แต่ค่าขีปนวิถีต่างๆจะเปลี่ยนไป
ระยะยิงหวังผลนั้น เอ็ม 16 เอ 1 หวังผลที่ 460 ม. H&K 33 หวังผล 400 เมตร
เอ็ม 16 เอ 2 หวังผลเป็นจุด 550 ม. เป็นพื้นที่ 800 ม.(แต่ยิงจริงๆด้วยศูนย์เปิด หรือศูนย์เหล็กนั้นแหละครับ แค่ระยะ 3-400 เมตรก็แถบจะมองไม่เห็นเป้าแล้วละครับ ต้องอาศัยความชำนาญจริงๆ)
ภาพปลากรอบเล็กๆน้อยๆของกระสุน 5.56 x 45 mm (45 คือความยาวปลอก) หรือ .223 เรมิงตัน ในภาพก็จะมีทั้งตัวเก่า(ไม่เสริมแกนโลหะ) และ ตัวใหม่(เสริมแกนโลหะ) Ball คือ ลูกธรรมดา Tracer คือ ลูกส่องวิถี Dummy คือ ลูกฝึกหัดบรรจุ(ไม่มีดินปืน ถ้าบ้านเราก็เอากระสุนตัวธรรมดานั้นแหละมาเจาะปลอกแล้วกระเทาะเอาดินปืนออก) Blank คือลูกซ้อมรบ (ไม่มีหัวกระสุน จะจีบปลายปลอกเข้าหากัน เวลายิงจะมีแค่แสงและเสียง) ส่วนเจ้า SRTA (Short Range Training Ammunition ) หรือกระสุนฝึกยิงระยะใกล้นั้น อันนี้ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าเรามีใช้หรือเปล่า
เคยสงสัยไหมครับว่า เจ้า กระสุนส่องวิถี หรือ Tracer นั้นมันส่องแสงได้ยังไง เจ้ากระสุนดังกล่าว ที่ท้ายตูดหัวกระสุนจะมีสารเคมีอยู่ เมื่อเสียดสีกับอากาศ หรือ กระทบกระแทกจะเกิดปฏิกิริยาเกิดการเผาไหม้ขึ้น ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างตามทางวิ่งของลูกกระสุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีระยะการจุดตัวและไหม้หมดของมันครับ จะสังเกตุว่าเจ้ากระสุนชนิดนี้นั้น หัวมันจะยาวกว่าหัวกระสุนชนิดธรรมดาหรือหัว Ball และ ท้ายกระสุนจะไม่ลู่เข้าหากันในลักษณะ Boat tail ตามหลักอากาศพลศาสตร์เท่าหัว Ball ครับ เพราะต้องเพิ่มพื้นที่ท้ายตูดกระสุนเพื่อบรรจุสารเคมีสำหรับลุกไหม้ส่องวิถี และเจ้ากระสุนส่องวิถีนั้นเมื่อกระทบดินหรือหิน มันจะริกกาเช่ ม้วนตัวเป็นลูกไฟอย่างสวยงาม ถ้าตกแหมะไปที่หญ้าแห้งหรือวัสดุติดไฟงายก็จะเกิดการลุกไม้ขึ้น ดังนั้นถ้าสนามยิงปืนไหนใช้ภูเขาเป็น Back Stopper แล้วละก็ ถ้าเกิดมีการยิงในหน้าแล้งและมีลูกส่องวิถีด้วยแล้วละก็ เตรียมควบคุมเพลิงให้ดี ไม่งั้นมีรายการเผาป่ากันเป็นภูเขาแน่ๆ
ที่มาของข้อมูล AK-101
http://www.taharn.net/thai/29e44.html
ข้อมูลกระสุน .223
http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=28077.0
นอนดึกเหมือนกันนะครับ
ที่มาของข้อมูล AK-101
http://www.taharn.net/thai/29e44.html
ข้อมูลกระสุน .223
http://www.thaiairsoftgun.com/board/index.php?topic=28077.0
นอนดึกเหมือนกันนะครับ
ต่อจากเมื่อคืนครับ
ผมหาข้อมูล HK ไม่ได้จริงๆ เอาข้อมูลปืนรุ่นใหม่มาให้ดูกันครับ
ระยะยิงหวังผล 5.56x45 ม.ม. 800 เมตร (SS 109)
อันนี้สำหรับผู้ที่ยังไม่มีตัวเลือกครับ
http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/question.asp?page=1&id=3953
แล้วเจ้า M8 ปืนต้นแบบก็คือ HK G-36
555+ ไม่ค่อยได้เข้ามาในบอร์ดเลยครับช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยครับ แต่ก็แอบอ่านอยู่เนืองครับ สำหรับผม ผมขอ G ครับ เอเค 47 เอ็ม ครับตัวโปรดผมเลยรู้เปล่าครับ
อย่าลืม กันนะ
เงาอดีดครับ