หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


รีว่า4x4 สู้บึ้มโจรใต้

โดยคุณ : โต้ง เมื่อวันที่ : 24/09/2008 08:00:26

ข่าวจาก คมชัดลึก ออนไลน์

"สามารถป้องกันแรงระเบิดน้ำหนักถึง 14-15 กก.(น้ำหนักของระเบิด) โดยเฉพาะบริเวณใต้ท้องรถ ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้กับสภาวะที่กลุ่มคนร้ายมักใช้แผนขุดหลุมฝังระเบิดใต้พื้นผิวถนน"

กว่า4 ปีนับแต่เหตุการณ์ปล้นปืนในย่ำอรุณ 4 มกราคม 2547 เป็นต้นมาความรุนแรงหลากรูปแบบหลายยุทธวิธีจากน้ำมือผู้ก่อความไม่สงบไม่เพียงแต่คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ยังเปิดปฏิบัติการสังหารเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ที่สำคัญเปลี่ยนรูปแบบใหม่กลายเป็นโจทย์ที่ฝ่ายความมั่นคงต้องขบคิด และหาทางรับมือเพื่อลดความสูญเสีย

ล่าสุด"กองทัพบก" ได้ส่งรถยนต์หุ้มเกราะรุ่น "REVA 4x4" ที่นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้85 คัน

รถหุ้มเกราะรุ่นนี้เป็นผลมาจากมติครม.พิจารณางบของกระทรวงกลาโหมสมัยที่ พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ. ก่อนจะเกษียณอายุราชการ

ขณะนี้รถหุ้มเกราะรุ่นใหม่เริ่มทยอยส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่จังหวัดชายแดนใต้เพื่อเข้าประจำการหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อใช้ลาดตระเวนตามเส้นทางล่อแหลม หรือสุ่มเสี่ยง 

สมรรถนะของรถหุ้มเกราะรุ่นนี้สามารถป้องกันแรงระเบิดน้ำหนักถึง14-15 กก. (น้ำหนักของระเบิด) โดยเฉพาะบริเวณใต้ท้องรถ ซึ่งเหมาะสำหรับการนำมาใช้กับสภาวะที่กลุ่มคนร้ายมักใช้แผนขุดหลุมฝังระเบิดใต้พื้นผิวถนนสายสำคัญเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก

พ.อ.อัครทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และ ผอ.กองปฏิบัติการข่าวสารกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าบอกว่า กองทัพบกได้ทยอยส่งมอบรถยนต์หุ้มเกราะ รุ่น REVA 4x4 ที่นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้รุ่นแรกจำนวน 17 คันจากทั้งหมด 85 คันก่อนจะทยอยส่งมอบทั้งหมดภายในปีงบประมาณ 2552 

การส่งรถเข้าประจำการในระยะแรกจะเน้นมอบให้แก่พื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญเช่น อ.บันนังสตาจ.ยะลา,อ.รือเสาะอ.ระแงะจ.นราธิวาสและ อ.ยะรังอ.หนองจิก จ.ปัตตานีเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกจัดอยู่ในกลุ่มต้องเฝ้าระวังการเกิดเหตุความรุนแรงเป็นพิเศษ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องนำรถเข้าประจำการก่อนจุดอื่นๆ

การรับมอบรถหุ้มเกราะREVA 4x4 ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ครั้งนี้ช่วยทำให้เจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าคุณสมบัติของรถจะทำให้เดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

สำหรับพื้นที่นำร่องซึ่งได้รับมอบรถยนต์หุ้มเกราะรุ่น "REVA 4x4" เพื่อใช้ปฏิบัติงานตามเป้าหมายคือพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จำนวน 2 คัน ภายใต้การดูแลของ พ.ท.หาญพลเพชรม่วง ผบ.ฉก.24 ปัตตานี

ผบ.ฉก.24 ปัตตานีกล่าวว่า ตามกำหนดจะได้รับรถหุ้มเกราะชุดเฉพาะกิจ 5 คันขณะนี้ส่งนำร่องปฏิบัติการ 2 คันซึ่งสามารถช่วยให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีความคล่องตัวมากขึ้น

"มั่นใจในความปลอดภัยกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะการเข้าตรวจสอบหรือช่วยเหลือประชาชน ข้าราชการ 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ปกครอง และทหาร ในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัย"

การเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุมักมีการซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่บ่อยครั้งและมีการซุกซ่อนระเบิดไว้เพื่อโจมตีระลอกสอง เช่นเดียวกับกรณีตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด 

ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่รถยนต์หุ้มเกราะคันนี้จะต้องเข้าตรวจสอบเพื่อเร่งเคลียร์สถานที่โดยเร็ว เนื่องจากประสิทธิภาพของรถสามารถทนแรงระเบิดได้เมื่อเทียบกับรถทั่วไป รวมถึงสามารถวิ่งฝ่าถนนที่เต็มไปด้วยตะปูเรือใบที่คนร้ายมักโปรยไว้ตามเส้นทางเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ติดตามได้อีกด้วย 

"การนำรถยนต์หุ้นเกราะมาใช้ในพื้นที่เท่ากับช่วยรักษาชีวิตของเจ้าหน้าที่เอาไว้ได้ระดับหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ต้องเข้าไปเสี่ยงชีวิตในพื้นที่อันตรายที่สุด และที่สำคัญมีผลต่อสภาพจิตใจเจ้าหน้าที่ ทำให้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี" พ.ท.หาญพลกล่าวด้วยความมั่นใจ

คุณสมบัติรถยนต์หุ้มเกราะ "REVA 4x4"

- สำหรับตัวรถรุ่นนี้ใช้ เกราะ ARmox Shield + Weldox Shield ของสวีเดนซึ่งถือว่าเป็นแผ่นเกราะที่มีประสิทธิภาพระดับต้นๆ ของโลก สามารถป้องกันระเบิดได้ดี แถมกันกระสุนขนาด 7.62 X 51 ได้( M 60) 

- กระจกกันกระสุนหนา63 มม

- มีช่องยิงตอบโต้ ได้ 8 ช่องมีป้อมปืน 2 จุด ที่สามารถติดตั้งปืนขนาด 7.62 ได้เป็นอย่างดีซึ่งรถดังกล่าวมีการใช้งานในประเทศอิรัก

- มีประสิทธิภาพทนต่อแรงอัดระเบิด น้ำหนัก 14-15 กิโลกรัมแม้กระทั่งรถฮัมวี รถ V150 ที่เป็นรถเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่สร้างมาเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัวก็ยังไม่สามารถทนทานแรงของระเบิดได้ทำให้บ่อยครั้งปรากฏภาพคนร้ายสามารถทำลายยานพาหนะของเจ้าหน้าที่จนอยู่ในสภาพยับเยิน

- เจ้าหน้าที่ประจำรถได้ 10 นายมีป้อมปืน 2 จุดบริเวณหน้า-หลัง 

- สามารถตะลุยเดี่ยวในที่เกิดเหตุได้เร็ว และมีความปลอดภัยสูง ใช้ในภารกิจทั้งเคลื่อนย้ายกำลังพลที่ป้องกันการซุ่มโจมตี และคาร์บอมบ์

เรื่อง ไพศาล รัตนะ

ภาพ จรูญ ทองนวล 





ความคิดเห็นที่ 1


.


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 17/08/2008 21:39:51


ความคิดเห็นที่ 2


.


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 17/08/2008 21:40:25


ความคิดเห็นที่ 3


.


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 17/08/2008 21:40:55


ความคิดเห็นที่ 4


.


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 17/08/2008 21:41:16


ความคิดเห็นที่ 5


ขนาดตัวรถถ้าเทียบกับถนนในพื้นที่ดูแล้วหน้าตัดด้านหน้าเล็กกว่า HMMWV เล็กน้อยครับซึ่งน่าจะมีความคล่องตัวในการใช้งานกับถนนแคบๆในพื้นที่มากกว่า ซึ่งหวังว่าระบบป้องกันตัวพื้นฐานของรถจะสามารถทำงานได้ดีเมื่อเจอการโจมตีจริงครับ (ซึ่งในอิรัก REVA ก็มีประสิทธิภสพในการใช้งานระดับหนึ่ง)

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 17/08/2008 22:15:44


ความคิดเห็นที่ 6


ทำไมต้องลงรายละเอียดซะขนาดนั้น กลัวโจรมันฆ่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้รึไง  ทนระเบิดได้ 15 ก.ก. คราวหน้า ตูงัดไป 16 โล ดูสิมันจะตายไม๊

นี่แหละสื่อมวลชลไทย บอกตรงๆ อยากลาก บก. มาตุบสัก 14-15 ตุบ.....

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 17/08/2008 22:44:12


ความคิดเห็นที่ 7


ในที่สุดก็ได้เห็นรูปซะที   ดีใจกับทหารในพื้นที่ด้วยครับ
แต่  ทำไมต้องบอกคุณสมบัติของตัวรถด้วยครับว่าทนระเบิดได้รับดับใหน 
งั้นอย่างนี้หากคิดจะคว่ำเจ้านี้  ก็ต้องใช้ระเบิดที่แรงกว่าตัวรถที่รับได้สิครับ ผมว่าสื่อเวลาเสนอข่าวควรมีความระมัดระวังบ้างนะครับ 
โดยคุณ Marcus_Aurelius เมื่อวันที่ 17/08/2008 22:44:35


ความคิดเห็นที่ 8


ก็ประมาณว่าเน้นแจงแก่ประชาชนเป็นหลักว่าทนแรงระเบิดได้มากกว่ารถธรรมดาทั่วไป จะได้ไม่มีเสียงคัดค้านว่าซื้อรถห่วยมาใช้งาน

 แต่ในแง่ของ OPSEC ผมว่ามันก็อย่างที่คุณน่าคิดว่า คือมันล่อแหลมไปนิดหนึ่ง ถ้าเป็นผมคงไม่งัดเอา 16 โลหรอกครับ เอามัน 20 -25 (ถ้าแบกไหวนะ) ให้ชัวร์ๆ ไปเลยตามหลักสูตรทำลายล้าง ใช้ให้เยอะเป็นดี


โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 17/08/2008 23:39:55


ความคิดเห็นที่ 9


ที่ข่าวบอกมายังดีที่ไม่บอกชนิดระเบิดว่าเป็นดินระเบิดชนิดใด แต่เท่าที่ทราบมา วิ่งสบายครับในสามจังหวัดปลอดภัยจากระเบิดที่พวกโจรมันทำแน่นอนไม่ระคายเคือง แต่ไม่รู้ว่าสป.๓จะสิ้นเปลืองมากรึเปล่า นี่แหละสำคัญ ได้รถมาแต่จอดโก้โก้ไว้ในฐานก็เคยเห็นแล้ว แล้วก็ให้กำลังพลเดินไป เพื่อความปลอดภัย ฮ่าฮ่า นี่แหละทบ.

โดยคุณ cps เมื่อวันที่ 18/08/2008 01:39:15


ความคิดเห็นที่ 10


เอารูปมาฝากครับ เจ้าตัวนี้ในอิรัก


โดยคุณ cps เมื่อวันที่ 18/08/2008 03:51:39


ความคิดเห็นที่ 11


 น่าใช้จิงจิง


โดยคุณ cps เมื่อวันที่ 18/08/2008 03:55:10


ความคิดเห็นที่ 12


ห้องโดยสารไม่ระคายเคือง ฮ่าฮ่า ขู่ไว้ก่อน


โดยคุณ cps เมื่อวันที่ 18/08/2008 03:57:44


ความคิดเห็นที่ 13


สุดท้ายต้องยินดีกับทหารชายแดนใต้(รวมถึงตัวผมด้วย)ที่มียุทโธปกรณ์ใหม่ๆใช้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นขวัญและกำลังใจทหารใต้ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยความปลอดภัย ก็ขอรถที่ได้รับได้ลงไปอยู่ในหน่วยในพื้นที่จริงจริง แล้วผมจะคอยนั่งและรายงานให้ทราบคับ 
โดยคุณ cps เมื่อวันที่ 18/08/2008 04:07:34


ความคิดเห็นที่ 14


ดูรูปสุดท้ายข้างบนนี้  เห็นแล้วว่า ประมาณลำตัวรถก็เท่ากับเป็นเกราะสองชั้นนี่เอง

แล้วก็สงสัยครับ ว่าพลขับเข้าออกทางไหนครับ


โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 18/08/2008 04:16:06


ความคิดเห็นที่ 15


ดูจากรูปแล้ว ไม่มีประตูหน้าซ้าย ขวาครับ เพราะฉะนั้นเข้าได้ทางด้านบน 2 ช่อง และด้านท้ายรถครับ

ถ้าทหารช่างรถสามารถ Modify ติดตั้ง Romote control สำหรับปืนกลด้านบนทั้ง 2 กระบอกเหมือนรถอัศวิน จะดีมาก ขณะลาดตระเวณทหารไม่ต้องออกนอกตัวรถ ขณะเดียวกับก็สามารถยิงจากในรถได้ จะดีมากครับ

โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 18/08/2008 04:42:31


ความคิดเห็นที่ 16


ส่วนตัวผมไม่ชอบให้ซื้อรถแบบนี้จากเมืองนอกนะครับ เราทำเองได้........ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มี ล่ะนะ จริงมั้ย
โดยคุณ tantongs เมื่อวันที่ 18/08/2008 05:29:00


ความคิดเห็นที่ 17


ซื้อมาแล้ว ได้ใช้งานจริงแล้ว ก็คุ้มค่าแล้วละครับ ส่วนเรื่องอื่นๆค่อยว่ากันต่อไปในภาคสนาม


โดยคุณ sonsos เมื่อวันที่ 18/08/2008 06:05:11


ความคิดเห็นที่ 18


สังเกตุดูนะครับ จะเห็นว่าของไทย จะเป็นพวงมาลัยขวา ขณะที่รูปในอิรัก จะเป็นพวงมาลัยซ้าย

โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 18/08/2008 06:17:10


ความคิดเห็นที่ 19


มีข้อแตกต่างระหว่าง Reva ของไทย กับของที่อยู่ในอิรัก มาให้ดูครับ

- มี Snorkel เผื่อว่าต้องลุยน้ำ หรือเจอน้ำท่วม

- พวงมาลัย ซ้าย ขวาต่างกัน

- มี Wind สำหรับดึง หรือลาก


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 19/08/2008 00:00:27


ความคิดเห็นที่ 20


ด้านหลังมีบันไดทางขึ้น

ถังน้ำมันอะไหล่ (ถ้าถูกยิงโดนถังน้ำมันแล้วมันจะระเบิดมั้ยเนี้ย คงไม่สามารถอุดรอยรั่วได้เองเหมือนถังน้ำมันเครื่องบินนะ หรือว่าถังใส่น้ำ อิ อิ)

ไฟท้ายต่างกัน

อื่น ๆ ถ้ามีเพื่อน ๆ ช่วยหาดูนะครับ สำหรับผมเห็นแค่นี้ครับ


โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 19/08/2008 00:03:39


ความคิดเห็นที่ 21


สีต่างกันครับคุณโต้ง...อิอิ
โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 19/08/2008 03:12:30


ความคิดเห็นที่ 22


นานๆจะมีหนังสือพิมพ์พูดถึงข้อดีของรถที่กองทัพซื้อซักที
โดยคุณ sherlork เมื่อวันที่ 19/08/2008 07:11:04


ความคิดเห็นที่ 23


โพสรูปไม่ได้ครับ  ที่เห็นก็ป้อม(หรือช่องโผล่ยิงปืน) ยังไม่มีเกราะบังด้านหน้าครับ ผมว่า ทบ. น่าจะทำเสริมเองได้นะครับ เห็นใจทหารหาญครับ เขาคงเสี่ยงมากครับ

และสงสัยว่าส่วนนี้ของเราออกแบบมาเป็นยังไงครับ ให้ทหารถือปืน ปลย.โผล่ขึ้นมาแล้วยิง หรือว่าเขาออกแบบให้มีชุดแท่นรับปืนกล เอามาสวมแล้วยิง หรือทำเป็นชุดกลไกลพับพลิกมาจากด้านในอย่างลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ  http://www.youtube.com/watch?v=jYVudN2gVcI&feature=related
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 19/08/2008 12:55:25


ความคิดเห็นที่ 24


ความจริงเกราะติดป้อมทำได้ไม่ยากครับ เห็นด้วยว่าน่าจะทำเช่นกันครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 19/08/2008 20:42:31


ความคิดเห็นที่ 25





ผมดูแล้ว (ดูอีก)รูปที่โดนระเบิด 2รูป 2ข้าง   ว่ารถรุ่นนี้เขาเข้าใจคิดออกแบบให้มันสู้แรงระเบิดจากด้านล่างได้ดี โดยออกแบบตัวถังด้านล่างเป็นรูป V (คิดว่าคงเป็นหลักการพื้นฐาน) เหมือนเอาเรือมาติดล้อ  ผมก็เลยสงสัยว่าถังน้ำมันรถรุ่นนี้มันอยู่ไหน เพราะด้านข้าง2ด้านคงไม่ใช่แน่ๆ และอีกอย่างถ้าอยู่ตรงนี้ คงอัตรายเกินไป  และส่วนตัวคิดว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่ ที่เป็นรูป V ที่กลายเป็นเกราะให้กับถังน้ำมันไปในตัวด้วย แล้ววางเหล็กพื้นเรียบทับให้เป็นพื้นที่ของกำลังพล ถามผู้รู้หน่อยครับ ว่าใช่อย่างนี้หรือเปล่าครับ และถ้าหากไม่มีพื้นทหารคงนั่งเดินลำบากน่าดู และถ้าไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ก็จะกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีประโยชน์

และดูรูปที่โดนระเบิดอีกเช่นกัน รุ่นนี้ก็ใช้ตัวถังที่เป็นเกราะ เป็นคัชซีไปในตัวเลย..
และคิดว่าถังข้างหลังคงเป็นถังน้ำหรืออื่นๆนะครับ เพราะถ้าถังน้ำมันเป็นอย่างที่ผมว่า ปริมาณความจุคงเหลือเฟือโดยไม่ต้องหาถังเสริมและะดูแล้วถังเสริมก็เล็กไปนะครับ..



..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 21/08/2008 04:19:06


ความคิดเห็นที่ 26


ขอชมเชยท่าน Charchar V shape ถูกต้องครับ
เห็นรูปRevaหลายๆมุมแล้วถึงรู้ ว่าคล้ายๆกับเจ้า Buffalo ของอัฟริกาใต้สมัยหลังสงครามเวียตนาม สมัยนั้นอัฟริกาใต้ต้องรบ ภายในกับพวกอะไรสมัยนั้นที่Nelson Mandela โดนจับ และสู้กับภายนอกรู้สึกว่าจะเป็นAngola อาวุธที่พวกเขาเจอเป็นกับระเบิดทำลายรถถัง ซึ่งถ้ารถธรรมดาเจอเข้าก็ไม่ต้องพูดถึง ตอนนั้นด้วยนโยบายเหยียดผิว อัฟริกาใต้ซื้ออาวุธจากใครไม่ได้ ต้องคิดเองทำเอง ผลที่ได้คือเจ้า Buffalo รถบรรทุกทหารที่ born in battle ช่วยให้ ทหารอัฟริกาใต้ไปไหน มาไหนและเอาชนะในการสู้รบได้ตลอด ขณะที่โซเวียต คิดเรื่องรถรบที่มีล้อเยอะๆ โดนระเบิดล้อพังไป ล้อเส้นที่เหลือก็ยังพารถวิ่งต่อได้ อัฟริกาใต้ใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับรูปทรงของยานรบที่จะใช้ในเขตที่ฝ่ายตรงข้ามชอบวางทุ่นระเบิด ช่วงล่างที่อยู่อย่างรถธรรมดา แต่ห้องโดยสารเรียวยาว ท้องทรงตัว V   ที่ยกขึ้นสูงและวางไว้ค่อนไปทางหลัง ต่อก้านพวงมาลัย เกียร์ อะไรที่จำเป็นลงมาที่เครื่อง เหมือนเอาซากรถเก่ามายำเล่น เจ้า Buffalo ช่วยให้ทหารอัฟริกาใต้สมัยนั้นไม่หมดท่ากับทุ่นระเบิดทำลายรถถัง รูปทั้งหมดในกระทู้นี้ทำให้ผมรู้ว่าเจ้า Reva เป็นผลงาน ที่สืบทอดจากประสบการณ์ในสนามรบมาเกือบสี่สิบปี
ทบ.เลือกถูกตัวแล้วครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่เอารูปมาลง มากครับ
ยังสงสัยว่า ถ้า ไปขอซื้อแบบของ เจ้า Buffalo แล้วเอามาสร้าง เอง ใช้ควบคู่กับเจ้า Reva เป็นพ่อกะลูกวิ่งด้วยกัน

และ การติดเกราะกันกระสุนให้พลปืน ก็พอทำได้ แต่จะหมุนป้อมกันอย่างไร ด้วยมือหรือเครื่อง ผมว่าภายในรถน่าจะค่อนข้างแคบ ถ้าทำคงจะมีผลต่อการใช้งาน แต่ก็น่าลองทำดู อุปสรรค ปัญหามีไว้ให้เอาชนะ

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 21/08/2008 08:56:15


ความคิดเห็นที่ 27


น่าจะติด ปืนกล 50 cal ด้านบนเน๊อะ

ยิงไส้แตก

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 21/08/2008 09:20:55


ความคิดเห็นที่ 28


ริว่า..ได้ข่าวตอนลงไปใต้..ขับจาก กท.กึงใต้...ขับแบบ..ชิมไปบ่นไป..เลยนี่นา....ฝรั่ง..มันมีหน้าบอก....ถ้าจะไปไกลๆ..ต้องลงโลเบส............งง  5 5 5
โดยคุณ CAPT.TOM เมื่อวันที่ 23/09/2008 21:00:26