ถนนทางเดิน เขาทำไว้ดีมาก สมกับได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดก โลกจริงๆ
ตู้ไปรษณีย์ เตี้ยมาก
ตอนแรกก็งงว่าเขาไว้ทำไร ไปถามเณรบอกว่า ใช้ในพิธี เลื่อนจากเณรไปเป็นพระ เมื่อครบอายุ
พระไม้ในวัดวิชุน
เดินไปถ่ายรูปคนเดียว ดูขลังดีน่ะ ดีน่ะ
ค่าเข้าชมวัด วิชุน 20,000 กีบ
1 บาท เท่ากับ 250 กีบ หากแลกด้วยแบงค์เล็ก
1 บาท เท่ากับ 255 กีบ หากแลกด้วยแบงคืใหญ่ เช่น 500 หรือ 1000 บาท
ซุ้มประตูโขงระหว่างวัดวิชุน กับ วัดอาฮาม
เณรแสง วัดหมื่นนา
ชอบคุยกับนักท่องเที่ยว นิสัยดี ยังจะชวนผมมาคุยด้วยตอนเย็น แต่ผมขอตัวเดินเล่นตลาดมืด ดีกว่า
เดินไปสุดเจอสะพาน สีสะหว่างวง เป็นสะพานเหล็ก และมองดูฝั่งโน้นไม่น่ามีอะไร
และที่สำคัญเริ่มหิวแล้ว ต้องหาของกินสักหน่อย เลยเดินกลับมาที่
ถนนเจ้าชมพู
เดินจากถนนเจ้าชมพู มาชนถนนพมทัด
เมืองลาวแปลก ถนนเขาพอเจอแยกตัด เลยไปกลับเป็นอีกชื่อหนึ่ง
แวะวัดอาไพ เป็นวัดเก่า ไม่ค่อยมีนักเที่ยวมา มองเห็นยอด พระธาตุพูสี
เดินออกจากวัด มาถนน พูสี
แวะขึ้นไปดูกลุ่มวัดป่าฝาง แล้วเข้าตรอกเล็กๆ มาถนนสีสะหว่างวง
ซึ่งที่เขาเรียกกันว่า ตลาดจีน
เห็นป้าขาย เฝอน่ากินเลยลองสั่งกิน
กินไป 1 ชาม ยังไม่อิ่ม ลองสั่ง ข้าวซอย หลวงพระบางมากิน
ข้าวซอยที่นี้ไม่เหมือนทางเหนือบ้านเรา
ของเขาทำจาก ถั่วเน่า และ มะเขือเทศ
กินแล้วอร่อยดี เพราะเผ็ดดี อาหารที่นี้ไม่มีที่ไหนผิดเลย
ขนาดไปสั่งร้านอาหารไทย ต้มยำกุ้ง จืดมาก
ตอนแลกกินไปก็กลัวท้องเสีย ผลไม่เกิดฮ่ะ แปลว่าเขาทำสะอาดมาก
ชื่อร้านพี่แขก
น่าจะอยู่ข้างๆ ร้านสแกนดิเนเวี่ยนเบเกอรี่
หมดค่าข้าวไป 20,000 กีบ น้ำ 3,000 กีบ
เงินไทยก็ประมาณ 90 กว่าบาท
พอท้องอิ่มก็เดินต่อ มาบนถนนสักกะลิน ซึ่งเมื่อเช้าผมก็เดินมารอบหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นแดด ไม่ค่อยมี ถ่ายรูปคงไม่สวย
ตอนนี้แดดออกบ้าง ทั้งๆ ที่เจ้าฝนก็ตกตลอด แต่ไม่เป็นปัญหากับคนไทย เพราะเจอฝนมาตลอดอยู่แล้ว
ฝนจริงๆ น่ะ ไม่ใช้ น้องฝน 555
ทั้งสองภาพเป็น วัดแสนสุขาราม ครับ
มีเวลาคงได้ไปเยือนอีกครา (เคยไปแต่แถว คำม่วน)
สะพานเป็นพื้นไม้โครงเหล็กเหรอค่ะ
แต่ตอนนี้กลัวต้มยำแทบทุกชนิด