รัสเซีย – จอร์เจีย  กับปมความขัดแย้งจาก เซาท์ ออสเซเทีย
ปูมหลัง
ชาวออสเซเทียนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในแถบแม่น้ำดอน (Don River) ได้อพยพสู่คอเคซัส (Caucasus) หลังจากถูกการรุกรานของชาวมองโกลในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยบางส่วนได้อพยพไปในเขตนอร์ท ออสเซเทีย (North Ossetia) ซึ่งปัจจุบันเป็นดินแดนในประเทศรัสเซีย และอีกส่วนหนึ่งได้อพยพสู่เขตเซาท์ ออสเซเทีย (South Ossetia) ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศจอร์เจียในปัจจุบัน ทั้งนี้ในปัจจุบันในเขตนี้มีทั้งชาวจอร์เจียนและชาวออสเซเทียนอาศัยอยู่ร่วมกัน --- ปัจจุบันมีประชากรอยู่ในเขตนี้ประมาณ 70,000 คน โดยสองในสามของประชากรเป็นชาวออสเซเทียน และหนึ่งในสามเป็นชาวจอร์เจียน
ทั้งนี้ชาวออสเซเทียนเองก็อยากที่จะเป็นอิสระจากจอร์เจีย มีขบวนการและกองกำลังแบ่งแยกดินแดนออกจากจอร์เจีย ทำให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคนี้อยู่เนืองๆ
ในปี 1991 – 1992 เกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นและได้ทำให้เขตเซาท์ ออสเซเทีย ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลจอร์เจีย และมีกองกำลังรักษาสันติภาพประมาณ 500 คนจากจอร์เจีย, รัสเซีย และนอร์ท ออสเซเทีย รักษาการอยู่ตั้งแต่ปี 1992
ปัจจุบันนี้จากข้อมูลของทางการรัสเซียพบว่ามีผู้ลี้ภัยจากเซาท์ ออสเซเทีย กว่า 30,000 คน อาศัยอยู่ในรัสเซียตามเขตพรมแดนของทั้งสองประเทศ

ความขัดแย้งล่าสุด
นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เริ่มมีการปะทะกันระหว่างทหารจอร์เจียกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเซาท์ ออสเซเทีย ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไป 6 คน และบาดเจ็บอีก 21 คน ต่อมาในวันที่ 3 ส.ค. รัฐบาลรัสเซียได้ทำตามคำขอของชาวออสเซียเทียนด้วยการเริ่มให้มีการอพยพเข้าสู่รัสเซีย
จากนั้นรัสเซียได้เข้าแทรกแซงความขัดแย้งนี้อย่างเต็มตัว หลังจากหนึ่งวันที่มีการปะทะกันอย่างหนักระหว่างกองทัพจอร์เจีย กับกลุ่มแบ่งแยกดินดินที่ฝักใฝ่รัสเซียในเขตเซาท์ ออสเซเทีย
โดยวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา รัสเซียส่งทหารพร้อมถังบุกเข้าไปใน เซาท์ ออสเซเทีย โดยอ้างว่าเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย เข้าไปปกป้องกองกำลังรักษาสันติภาพและพลเรือนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ซึ่งท่ามกลางความวิตกว่าการสู้รบครั้งนี้จะจุดชนวนสงครามระหว่างรัสเซียกับจอร์เจีย และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐตึงเครียดขึ้น เนื่องจากจอร์เจียเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสหรัฐในภูมิภาคนี้

กระทรวงมหาดไทยจอร์เจียได้แถลงว่า รัสเซียได้ส่งเครื่องบินหลายลำเข้ามาทิ้งระเบิดถล่มฐานทัพของจอร์เจียชานกรุงทบิลิซิ (Tbilisi) และอีก 2 แห่งในเมืองโปติ (Poti) เมืองท่ายุทธศาสตร์สำคัญในทะเลดำ และยังได้โจมตีพื้นที่โดยรอบท่อส่งน้ำมันและท่าเรือ ที่ส่งน้ำมันไปยังตะวันตก ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ขณะที่ ประธานาธิบดีมีเฮอิล ซาคัชวิลิ (Mikheil Saakashvili) กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตี 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นทหาร
การสู้รบครั้งนี้ปะทุขึ้นในขณะที่โลกพุ่งความสนใจไปที่พิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งของจีนซึ่งมีบรรดาผู้นำ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซีย,ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) อยู่ที่นั่นด้วย ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 8 ส.ค. เพื่อหาทางป้องกันการเกิดสงคราม
ทางด้านนางสาวคอนโดลีซซ่า ไรซ์ (Condoleezza Rice) เรียกร้องให้รัสเซียยุติการยิงขีปนาวุธและการโจมตีทางอากาศ พร้อมทั้งให้ถอนทหารออกจากดินแดนของจอร์เจีย และขอให้รัสเซียเคารพอธิปไตยของจอร์เจีย
ส่วนนายบัน คี-มูน (Ban Ki-moon) เลขาธิการสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกประเทศที่อยู่ในภาวะสงบศึกในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน
9 ส.ค. ความตรึงเครียดเริ่มทวีคูณขึ้นในจอร์เจียที่สนามบินในกรุงทบิลิซิ ของจอร์เจีย แออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คนที่พยายามจะเดินทางออกจากจอร์เจียในวันนี้ หลังสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและจอร์เจียที่เซาท์ ออสเซเทีย ทวีความตึงเครียดขึ้น ขณะที่ความวิตกว่าจะเกิดสงครามระหว่างสองประเทศใกล้ความจริงมากขึ้นล่าสุดจอร์เจียประกาศถอนทหาร 2 พันนายกลับจากอิรัก เพื่อเตรียมทำสงครามกับรัสเซียแล้ว
ด้านนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีนหลังร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกปักกิ่ง ได้พบปะกับประธานาธิบดีหู จิ่น เทาของจีน และไม่มีท่าทีว่าจะพูดถึงวิกฤติในเซาท์ออสเซเทียก่อนเดินทางกลับรัสเซียในวันนี้ (9 ส.ค.) แต่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีปูติน ประณามจอร์เจีย ต่อการกระทำที่เขาเรียกว่า ก้าวร้าว ในเซาท์ ออสเซเทีย พร้อมทั้งประกาศว่ารัสเซียจะตอบโต้