อยากให้ช่วยเล่าให้ฟังกันหน่อยครับว่า
1. จบปีไหนกันบ้าง
2. เรียนเพราะอะไร
3. แล้วคิดว่าได้อะไรจากการไปเรียน
4. เหตุการณ์ประทับใจระหว่างเรียน
ผมจบชั้นปี 5 ครับเรียกได้ว่าผ่าน Reserve Officer Training Course อย่างเกือบจะสมบูรณ์แบบ ขาดแต่การขอแต่งตั้งยศเป็น ว่าที่ร้อยตรี เท่านั้นเอง
ทำไมเหรอครับ ?
ความตั้งใจเดินในการเข้าเป็น นศท. คือ ไม่ต้องการเป็นทหารเกณฑ์ และนี่คือประเด็น
กับคำถามที่ว่า แล้วเอ็งจะบ้าเรียนทำไมจนจบ ปี5
ก็ตอนกลับจาก เขาชนไก่ ชุดมันยังไม่ขาดนี่หว่า...ไอ้จะให้เค้าก็เสียดายชุดตั้งหลายตัง เอาว่ะทู่ซี้เรียนมันไปก็แล้วกัน
ฝึกภาคสนามปี 4 ไปลุยกันที่ ค่ายฝึกอินวะษา กรมนักเรียนนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (ก็ย้ายไปเขาชะโงก จปร.เคยมาฝึกกันที่นี่ครับ) ชุดก็ยังไม่ขาดอีกวุ้ย...ทำไงดีหว่า....
สุดท้าย...ต่อมันอีกปีแล้วกัน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว (อ้อ..ลืมบอกไป ตอนปี 4 ผมเรียนวิชา ทหารปืนใหญ่ ที่สะพานแดง ป.พัน 1 รอ. ปี 5 ก็เรียนที่เดียวกัน) ตอนฝึกภาคไปฝึกที่กองพลทหารราบที่ 9
เหตุการณ์ประทับใจเหรอครับ
ตอนไปฝึกภาคสนามปี 5
พวกผมถูกแบ่งเป็น 2 กองร้อย
- ฝึก M-114 155 mm
- ฝึก M-101 105 mm
มันขำไอ้ตรงที่
ตัวเล็กๆหุ่นแห้งๆ ฝึกเจ้าฉลามขาว 155
ตัวถึกๆใหญ่ๆ ฝึกเจ้าตัวเล็ก 105
นึกๆไปก็ขำดี.....ยังสงสัยตัวเอง จบ ปี 5 มาได้ไง
คำถามที่ว่า ได้อะไร ได้เพื่อน ได้ฮา ได้ความรู้ (โดยเฉพาะวิชา แผนที่ เข็มทิศ)
ครับผม
อันดับเเรกผมคงต้องถามว่าทำไมถึงได้เอารูป รด. รร. วชิรวิทย์มาลงล่ะครับ
ผมเรียนอยู่ ปี3 ครับ ศฝ.นศท.มทบ33 ครับ พึ่งบริจาคเลือดมานิ
การเรียนมันดีครับ โดยเฉพาะการเรียนกับ ครูตุ๊ ครับ 555
เรียนเพราะ ผมอยากไปสอบ ลอจิสติก ครับ
1. ผมจบปี 5 เหล่าปืนใหญ่ครับผม เอิ๊ก ๆ ๆ
2. เรียนเพราะไม่อยากเป็นทหารครับ เนื่องจากผมไม่อยากเสียเวลา 2 ปีไปเกณฑ์ อยากทำงานมากกว่าครับเลยเรียน ส่วนที่ว่าทำไมถึงบ้าเรียนถึงปี 5 ...... อันดับแรกผมไม่อยากมใครดูถูกมากนักว่าแกมันป็อดนี่หว่าไม่ยอมไปเกณฑ์ 555+ ส่วนเหตผลหลักจริง ๆ คือผมเรียนเพราะมันก็ไม่ได้เสียอะไรเลย เรียนวันอาทิตย์ แถมได้ด้วยซ้ำ ได้ไปมันส์ ๆ กันที่เขาชนไก่ ยิงโน้นยิงนี่ไปตามเรื่อง สุดท้ายคืออยากได้ยศว่าที่ร้อยตรีครับ เพราะอยากแปลก ^ ^ .... เหตุผลแค่นี่จริง ๆ นะครับคืออยากแปลก คนอื่นใช้นาย เราใช้ว่าที่ร้อยตรี สุดท้ายอยากใส่ชุดขาวถือกระบี่รับปริญญาฮะ จะได้แปลก ๆ กว่าชาวบ้านอีกนั้นแหละ หุหุ (เอาเช้าจริงตอนเราไปรับปริญญาก็เหมือนเป็นหุ่นผู้พันแซนเลอร์ให้เพื่อน ๆ ถ่ายรูปด้วย 555+)
3. ได้ความสนุกและความมันส์ครับ ...... หลายคนทำตาโตเมื่อรู้ว่าผมเรียนรด.ถึงปี 5 เนื่องจากดูบุคลิคแล้วไม่น่าเดินไปไกลกว่า 200 เมตร 555+ รู้สึกสะใจดีเวลาทำให้ใครตาโต หุหุหุ ....... นอกนั้นก็ได้รู้โน้นรู้นี่เยอะครับ
4. ผมไปเขาชนไก่ทั้งสามปีเพราะเป็นเด็กกทม. ....... ปี 4 มันส์สุดครับ กระโดดกบชูเป้เข้ากองพัน (รับน้องสไตล์รบพิเศษ 555+ ... ไอ้พวกรุ่นพี่จอมโหดน่ะขอบอกว่าเด็ก ๆ ครับ) สนุกตรงได้ยิงปืนหลาย ๆ แบบนี่แหละครับ MK33 กับ MK16 นี่พอลองจับลองยิงจริง ๆ จะรู้เลยว่ามันต่างกันจริง ๆ นอกนั้นสนุกตรงได้ยิงเพนส์บอลกับ M60 นี่แหละ ยิงมันส์มาก ...... เคยถูกลงโทษให้ถอดเสื้อแล้วไปคลุกทรายหลังกองพันทั้ง ๆ ที่ 7 วันก็จะไม่ได้อาบน้ำอยู่แล้ว เหอ ๆ ส่วนตอนกินข้าวสั่งว่าห้ามมีเสียงช้อนกระทบถาดเด็ดขาด แต่พอสั่งปุ๊บเสียงก็ดังปั๊บ ครูเลยสั่งหยุดกินแล้วเอาช้อนใส่กระเป๋า เอามือไขว้หลังแล้วใช้ปากงับ ๆ เอา ส่วนอีกวันนึงหมู่ที่เป็นอิสลามมันคุยกันนัก (เอาจะเอานศท. มุสลิมมารวม ๆ กันครับจะได้ง่ายต่อการจัดอาหาร) ครูเลยให้เอาข้าวเทรวมกันใส่ถัง และเข้าแถวไปกิน ตักกินคำนึงแล้วไปต่อท้ายแถว มันก็กินได้ช้าเลยโดนเล่นงานอีก กินก็ไม่อิ่ม 5555+ .... ตอนฝึกปัญหา 48 ชม. ผมได้เป็นโจร โครตสบายเลยครับ 555+ โพกผ้าพันคอแล้วทาหน้า ถ้า KNU เดินมาเจอคงนึกว่าพวกเดียวกัน เอิ๊ก ๆ ๆ ปีที่ผมไปฝึกนี่ร้อนมากครับ เดือนกุมภาก็จริง แต่เขาชนไก่มันเป็นเขตเงาฝน อากาศคล้าายทะเลทราย กลางคืนหนาวมากแต่กลางวันก็ร้อนมาก ตอนเดินเข้าที่ตั้ง 9 กม. น่ะมีคนเป็น Heat Stroke ไป 4 คน ฮัมวี่ MADIVAC วิ่งกันฝุ่นตลบเลย เห็นหน้าเพื่อนที่เป็นแล้วน่ากลัวจริง ๆ ครับ หน้าซีดยิ่งกว่าผีเกาหลีอีก พอพวกหมอทหารกับนายการการฝึกมาดูเลยบอกว่าแดดร้อนมากอย่าไปเสี่ยงเลย (อุณหภูมิ 40 กว่า) ครูฝึกเลยให้ฝึกแค่ตอนกลางคืน ตอนเย็น กับตอนเช้า นอกนั้นได้รับคำสั่งว่าห้ามโผล่หัวออกมานอกร่มไม้ไม่งั้นจะโดนมิใช่น้อย ^ ^ ตอนฝึกรับส่งของทางอากาศหมู่เพื่อนผมที่เป็นโจรมันเล่นใช้สงครามอิเล็กทรอนิคครับ คือไอ้หมวดฝ่ายรัฐบาลมันต้องคุยกับ ฮ. เพื่อนำมาเข้า Drop zone แล้วรับสัมพาระ แต่อยู่ดี ๆ ไอ้นี่จูนวิทยุเข้าไปคุยแทรกเฉย พวก FAC หมวดรัฐบาลก็มึนซะ ไป ๆ มา ๆ ฮ.เลยมาทิ้งสัมภาระใส่รังโจรแล้วโจรมันก็เชิดหนีไป สรุปคือไอ้หมวดฝ่ายรัฐบาลนั่นถูกซ่อมแทบตาย 555+ เสียดายว่าปีที่ผมฝึกงบหมดเลยตัดการฝึกเหลือ 7 วัน ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยครับ ..... ส่วนปี 5 ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากครับยกเว้นไอ้หมวกลดไอคิวนี่แหละ โครตหนักเลย แถมต้องใส่ตลอด มึนจริง ๆ นอกนั้นชอบตอนพิธีปิดการฝึกครับ ครุฝึกให้ร้องเพลง คำสัญญา แล้วครูทุกคนเดินมาจับมือ จบแล้วเรา ^ ^ ...... แต่สิ่งที่ผมค้นพบคือ ยาทหารสุดยอดมากครับ คือปืนมันหนักใช่ไหมครับ แขนขวาผมเลยเจ็บมาก ๆ ๆ ๆ แบบแทบยกไม่ขึ้น ตอนนอนก็เจ็บมากจนนอนไม่หลับ เลยไปปลุกครูให้หายานวดให้หน่อย ปรากฏว่าตื่นเช้าขึ้มาดีขึ้นเยอะเลย ควงปืนได้สบาย แต่ครูมาพูดออกไมค์น่ากองพันตอนรวมตอนเช้าว่า เวลาจะป่วยก็ให้ดูเวลาหน่วยนะนักศึกษา ตอนกลางคืนครูจะนอน เหอ ๆ ๆ ๆ
ฮาครับ มันส์ดี ผีไม่มาหลอก บอกใครเขาก็ทำตาโต ....... ใครอยากสนุก ๆ เรียนปี 5 เลยครับแนะนำ
ปล. ที่ทำงานผม มีปี 5 ทร. สองคนน่ะ เป็นนย.คนนึงกับกร. คนนึง คนที่สังกัดกร.นี่ตอนฝึกภาคทะเลได้ฝึกในเรือสิมิลันด้วย โครตไฮโซ มันบอกว่ากินไก่ทอดนอนห้องแอร์ทุกวัน ส่วนเรากินข้าวคั่วกรวด เหอ ๆ ........ เรือยาวมากวิ่งจากหัวไปท้ายก็หอบได้แล้ว แต่เรือตอนกลางคืนนี่โครตเหมือน Resident Evil เลยครับ 555+
1. จบปีไหนกันบ้าง
- จบปี 5 มาครับ
2. เรียนเพราะอะไร
- อยากเป็นทหาร ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ไปสอบพวกนักเรียนนายร้อย ผมเป็นคนเรียนไม่เก่ง เส้นไม่มี เงินไม่ถึง ก็ได้แต่ ร.ด. นี่แหละครับ
3. แล้วคิดว่าได้อะไรจากการไปเรียน
- ได้เยอะเลยบอกไม่หมด
4. เหตุการณ์ประทับใจระหว่างเรียน
- ได้เห็นสาว ๆ ครับ ในชุดทหารครับ คิคิ
๑.อ่านดูก็สนุกดีนะครับ นับว่าเป็นประสบการณ์อันดี สำหรับผม ไม่รู้สิ ได้สัมผัสชีวิต นศท.ปีเดียว
๒.ขอคะแนนเพิ่มเพื่อสอบเข้า นตท. แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
๓.ก็เป็นการปรับตัวก่อนเข้าสู่ชีวิต นตท.นะ เราก็จะได้รู้ระบบของทหารเสียก่อน
๔.เหมือนคุณทอแสงครับ อิอิ
ตอนนั้นที่อยากจะเรียนรด.เพราะว่า ต้องการคะแนนตรงนี้ไปช่วยในการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร (หัวไม่ค่อยดี) ถึงจะช่วยได้นิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย (สุดท้ายแม้จะผ่านข้อเขียน แต่ก็ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย) หลังจากนั้นเริ่มสนุกกับการเรียนการฝึกวิชาทหารแล้วครับ เพราะได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็เลยตั้งใจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตอนฝึกภาคสนาม ทั้งมัน ทั้งฮา และเสียวสันหลังวาบ (เรื่องลี้ลับ)
แต่ว่าพอจบปีสามแล้วก็ไม่ได้เรียนต่อ มาคิดจะเรียนปีสี่ปีห้าต่ออีกก็ล่วงเลยมาตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยปีสามแล้ว ซึ่งเรียนไปได้ห้าหกสัปดาห์ก็ต้องหยุดไปเลย เพราะงานที่ม.เยอะมาก ต้องออกบริการชุมชนทุกวันอาทิตย์ เลยตัดใจไป
สำหรับคำถาม
1. จบปีไหนกันบ้าง
- จบแค่ปี 3 ครับ
2. เรียนเพราะอะไร
- ต้องการคะแนนช่วยสอบเข้าร.ร.เตรียมทหาร แม้จะแค่นิดเดียว
3. แล้วคิดว่าได้อะไรจากการไปเรียน
- เยอะแยะมาก ระเบียบวินัย ประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน ได้คลุกคลีกับอาวุธที่ตัวเองชอบ
4. เหตุการณ์ประทับใจระหว่างเรียน
- เรื่องประทับใจ ประทับใจครูฝึก ทุกท่านตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ให้เราอย่างเต็มที่ เพื่อนๆก็สามัคคีกันดี ถึงจะมาจากหลายๆโรงเรียน แต่เรื่องคาดไม่ถึงก็มี ตอนฝึกภาคสนามปีสาม คืนที่สาม ฝึกตั้งรับร่นถอยในเวลากลางคืน เจออะไรที่ต้องบอกว่าเสียวสันหลังวาบ
1. จบปีไหนกันบ้าง
ปีห้าครับ เหล่าทหารม้า
2. เรียนเพราะอะไร
ตอนแรกจะเรียนเอาคะแนนช่วยเตรียมทหาร แต่ไม่ติด เลยเรียนยาวเลย
3. แล้วคิดว่าได้อะไรจากการไปเรียน
สารพัดครับ โดยเฉพาะปีสี่ปีห้า
4. เหตุการณ์ประทับใจระหว่างเรียน
เขาชนไก่ตอนปีสี่ครับ สองวันท้ายที่ออกไปตั้งค่ายในป่า ครูเล่นหลอกสร้างสถานการณ์ จนทุกคนอยู่ในสภาวะบ้าสงครามที่สุด สรุปคืนนั้น เกือบทั้งกองร้ิอยเข้าเวรกันทั้งคืนครับ มีไม่กี่คนที่ไปนอน กลัวโดนเข้าตี
และที่ประทับใจมากที่สุด คงเป็นเพื่่อนๆต่างสถาบันที่โดนสุ่มๆมาอยู่หมู่ อยู่หมวดเดียวกันครับ เวลาแค่7วัน แปลงคนแปลกหน้ากลายมาเป็นเพื่อนสนิทได้ ซึ่งสภาวะกดดันในการฝึกของปีสี่ปีห้า น่าจะทำให้คนแสดงสันดานดิบในเรื่องความเห็นแก่ตัวออกมา แต่ผิดคาดครับ ทุกคนในหมู่ผมไม่มีใครเห็นแก่ตัวเลย ช่วยกันตลอด ช่วยกันทุกงานครับ
แต่ส่วนเสียก็มีนะ ทำให้ผมเปลี่ยนจากคนสูบบุหรี่ธรรมดา เป็นสูบบุหรี่จัด เข้าเวรกลางคืน มันไม่มีอะไรทำครับ หนาวก็หนาว มีแต่ยาเส้นปันส่วนมาจากเพื่อนๆ(ที่เพิ่งรู้จักไม่นาน) ก็เลยอัดเอาๆ ถอนกำลังตอนกลางคืนก็เหมือนกัน ไฟแดงวาบๆตลอดทั้งขบวนเลยครับ ถ้ามีสไนเปอร์ดักอยู่ เขาคงเล็งสบายเลยล่ะ
1..จบปี 3 ครับ
2. เรียนเพราะไม่อยากเกณฑ์ทหารครับ รุ่นผมยังไม่มีการใช้สิทธิตามวุฒิขอลดเวลาได้ครับ
3. ได้ระเบียบวินัย และก็ความรู้นิดหน่อยครับ
4. ประทับใจเหรอครับ โอ้เยอะแยะ
เช่น ตอนเรียนในที่ตั้ง ปี 1 ไปเรียนศูนย์ฝึกสบาย ๆ ไม่มีอะไร
ปี 2 ไปเรียนศูนย์ฝึกอีกที่ ยิ่งสบายกว่า
ปี 3 กลับมาเรียนศูนย์หลักก็สบายเหมือนปี 1 สรุปเรียนในที่ตั้ง ไม่รู้สึกหนักใจอะไร
พอเข้าไปฝึกภาคสนามทั้ง 3 ปี ฝึกที่ เขาชนไก่หมด
ประทับใจ ปี 3 ที่สุดครับ เพราะได้ครบทุกรสชาติตั้งแต่
- ข้าวผัด กับ แฮมเบอร์เกอร์ ของ รบพิเศษ อร่อยที่สุดในโลกครับ ขอบอกครับ กินแล้วจะติดใจ
-ตอนฝึกยิง HK33 นี่ไม่รู้เรื่องจริงหรือโม้ เพราะ ครูฝึกบอกว่า เบิกกระสุนมาเกิน เลยยิงกันลืมไปเลย คนละ 70 นัด หูแทบหนวก (ผมอยู่ชุดสุดท้ายนั่งฟังเพื่อนยิงเพลินเลย)
อ้ออีกนิด
-ตอนฝึกเข้าตีกลางวัน ผมดันวิ่งไปหมอบตรง TNT พอดี ดีนะว่าเขาจุดระเบิดชุดก่อนหน้าไปแล้วไม่งั้นเละ
-ตอนฝึกขว้างระเบิด คุณเพื่อนมันทำแสบ เพราะมันดันโยน มาลงตรงที่พวกผมนั่งมองอยู่พอดี (มันแรงเยอะ)
-ตอนฝึกฐานตั้งรับ ครูฝึกดันมานั่งอยู่ตรงผมพอดี เพื่อนผมที่เหลือมันนอนกันสบาย ผมสิลำบากต้องนั่งตะโกนเป็นเสียงปืน ปัง ปัง ปัง คอแทบแห้ง ครูฝึกบอกดัง ๆ หน่อย แถมยังมาจุด TNT ตรงหน้าผมอีก โอ้โห มึนไปเลย
อ้อสุดท้าย (จริง ๆ)
-ตอนปีหนึ่ง วัดสุดท้ายจะกลับแล้วหละ มีคณะอะไรก็ไม่รู้มาตรวจเยี่ยม ครูฝึกก็เตี้ยมแผนประมาณว่า ทำให้ดูเข้มแข็งนะ นักศึกษา พวกผมก็ครับ ๆ พอถึงเวลาจริง ๆ ต้องออกเสียง เอี้ย ๆ ๆ ให้ดัง ๆ
พวกผมก็เลยพร้อมใจ ออกเสียง HERE HERE กันใหญ่ เป็นที่สนุกสนาน พวกคณะพวกนั้นไม่รู้ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดว่าพวกผมเข้มแข็ง (อย่าเลียนแบบนะครับ ครูฝึกจับได้ อานแน่ ๆ .. 5 55 55 )
โห..ไม่เคยรู้ว่าเขาเรียนทำไมนอกจากไม่อยากเกณฑ์ทหาร
เพราะคนข้างบ้านเขาบอกมาแบบนี้ ตอนนี้รู้มากขึ้นกว่า 1 ข้อแล้ว
1. จบปีไหนกันบ้าง
-จบ ปี.3 ครับ ติดอาร์ม ช่างฝีมือทหาร ( แต่ครูฝึกแกบอกว่า ทหารช่าง พวกเอ็งภูมิใจมากๆล่ะ )
2. เรียนเพราะอะไร
-ของผมมันสายอาชีพน่ะขรับ ปวช. ปวส. จบไปจะทำงานเขาไม่รับถ้าไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร อ่ะ
3. แล้วคิดว่าได้อะไรจากการไปเรียน
- ของผม ปี.1 เรียนที่ ม.พัน4 .ร.อ. ครับ รอบเช้า เลยมีเวลาส่วนใหญ่ในการ ดู จับ ถู นอน(ใต้ท้องรถถังตอนเช้ามืดก่อนเรียน มานอนรอ )ทุกซอกทุกมุม ของ เอ็ม-41 สกอร์เปียน เอ็ม-113 เป็นต้น ดูเวลา เอารถถังมาติดเครื่อง วิ่งรันอิน พูดคุยกับครูฝึก(พลขับ) แกก็เล่าตั้งแต่วิธีขับ จนถึงซ่อมเลยล่ะ ตรงนี้เลยได้ดูภายในห้องเครื่อง ห้องพลขับด้วยแน่ะ....ดีใจมากมาย
-ปี.2 เรียนที่ ปตอ.พัน1 ร.อ. นี่ก็คือๆกับ ม.พัน4 คือ วันๆคลุก อยู่กับ ปตอ. 40 เอ็ม-16 เอ็ม-42 แถมเจอครูฝึก แกคอเหล้า แต่งรถเลยคุยซะมากกว่าฝึก
-หลักๆความรู้ที่ได้ก็มีแต่เรื่องยานเกราะ กับ ปตอ.นี่แล
4. เหตุการณ์ประทับใจระหว่างเรียน
-ตอนปี.1 สอบยิงปืนที่ ม.พัน4 ตอนเขาสั่งยิง มีเืพื่อนในกองร้อย มันวิ่งฝ่ากระสุนไปติดเป้าเนื่องจากเป้าหลุด ยังดีที่พึ่งเริ่มยิงได้ไม่กี่คน เลยหยุดยิงไปก่อน เลยโดนครูฝึกเล่นซะยับไปเล้ย (วิ่งรอบโรงจอดรถถัง )
-ปี.2 ที่ ปตอ.พัน 1 มีเด็กบ้านรวย มันขับเบนซ์มาเรียน ร.ด. รอบเช้า ครูเขามีที่จอดรถไว้ แต่มันก็ทะลึ่งจอดตรงที่ห้ามจอด(น่าจะเอาไว้สำหรับ ผ.บ.ที่นั้น) ครูฝึกเลยบอกให้พวกผม ช่วยกันเข็น ปตอ.40 ม.ม.2แท่น มาปิดหน้าหลัง กางแท่นพร้อมยิงเลย แล้วให้พวกผมกลับบ้าน ในตอนเที่ยงซึ่งเวลาเดียวกับเจ้าของเบนซ์คันนั้นเลิกพอดี เมื่อมันไปถามครู ครูฝึกจึงบอกว่า รถที่ลากปตอ.(จีเอ็มซี) ไปข้างนอก กว่าจะกลับมาลากปืนได้ก็ราวๆ5โมงน่ะล่ะ เล่นซะหน้าจืดไปเลย
....อื่นๆก็ประทับใจครูฝึกที่ แกไฟแรงมากท้าแข่งรถทั้งวัน แล้วก็ใจดีคุยง่ายมากมายครับ
1 จบปี 3 พ.ศ.2528...ง่อมมะ...
2. เรียนเพราะ...อยากได้คะแนเพิ่ม..ไปสอบรวมเหล่า....แต่ดันไป..จบ..นักเรียนนายสิบ..ซะเนี่ย...
3. ได้อะไรหรอ....วินัย กล้าหาญ อดทน ทนอด..ไง..
4.เหตุการณ์ประทับใจ....ตอนปีหนึ่ง...อ้อ..สมัยผมเรียน ปี หนึ่ง ตอน ม.4 ผมเรียนอยู่ ยุพราชเชียงใหม่.... ตอนปีหนึ่ง...กระผมถูก..รับประทาน..(แดก ภาษา..แบบหยาบๆ..ง่ะ) ทุกครั้งก่อนเรียน...ข้อหา..คอมแบตมันกว่า..ครูฝึก..แถมใส่ จั๊มพ์..แบบพวกทหารร่มเค้าใส่กัน..อ่ะดิ..ทำนองครู หมั่นใส้....ก็ผมขัดแบบวนน้ำ..ครับ...มันเลย..ปิ๊ง!......
1. จบ รด.ปี5 คำสั่งบรรจุตำแหน่งผบ.หมวดสายพานลำเลียงพล
2. เรียนเพราะประชดตัวเองที่ไม่ไปสอบเข้าเตรียมทหาร ตอนเรียนเป็นคนขวางโลก เพื่อนในโรงเรียนรวมทั้งครูๆ ทุกคนก็ทักว่าไปสอบเข้าเตรียมทหารรึเปล่า ก็เลยไม่ไปสอบซะงั้น
3. ได้ระเบียบวินัย(อันนี้แน่นอน) ได้เพื่อน ได้ออกภาคสนาม ขอเพิ่มเติมเรื่องระเบียบวินัยนิดหนึ่ง คือเคยโดนโทรเรียกไปฝึกทบทวนฯ ช่วงจบมาทำงานใหม่ๆ ได้สัก 1-2 ปี สัสดีโทรมาหาที่บ้าน(ดันไปให้เบอร์โทรศัพท์ไว้) ประมาณว่ามีลูกท่านหลานเธอคนหนึ่งจะเบี้ยวฝึกทบทวน สัสดีเลยต้องหาคนไปแทน ผมถึงใช้คำว่าโดนโทรเรียก ไม่ใช่คำว่าโดนหมายเรียก
ต้องไปฝึกที่ปราณบุรี กองพลที่15 เป็นการฝึกเข้าตีระดับกองพัน ฝึก 7 วัน ต้องไปฝึกร่วมกับพวกทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการแล้ว และพวกที่จบรด.ปี3 เรื่องระเบียบวินัยของคนที่เรียนรด.กับพวกพลทหารเกณฑ์ ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พวกที่จบรด.จะรักษาวินัยตลอด นั้นก็แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะและสำนึกรับผิดชอบ (ขอให้ทุกท่านที่เรียนรักษาดินแดนมาจงภาคภูมิใจเถอะ)
4. เรื่องประทับใจเรื่องแรกคือ ผมเป็น รด.ปี4 รุ่นแรกที่ได้ฝึกภาคสนาม (สงครามนอกรูปแบบ) บอกได้คำเดียวว่าภาคสนามปี 4 เป็นภาคสนามที่ดีที่สุด สนุกที่สุด
ในวันก่อนสุดท้ายของการฝึกเป็นลาดตระเวณระยะไกล เช้าแจกเสบียง กินข้าวเที่ยงเสร็จก็นั่ง GMC ออกไปหลังค่ายเขาชนไก่ สักพักครูฝึกก็ให้ลงแล้วเริ่มเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เดินตั้งแต่บ่ายจนถึงเที่ยงคืน ที่ประทับใจคือเพิ่งเคยเดินหลับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต คือคืนนั้นเป็นคืนเดือนหงายแต่ครูฝึกสมมุติว่าเป็นเดือนมืดจึงให้เดินเกาะบ่ากันไป ผมก็เกาะบ่าเพื่อนข้างหน้าแล้วก็เอาหัวหนุนแขนท่อนบนหลับแต่ขาก็เดินไป สุด สุดจริงๆ
ส่วนปี5 ก็มีเรื่องประทับใจคือวันแรกที่ไปถึงเขาชนไก่มีผู้ใหญ่มาเยี่ยมค่าย ครูฝึกก็แจ้งว่าห้ามแต่งครึ่งท่อนออกนอกค่าย ผมกับเพื่อนอีก 5-6 คน(ไม่รู้จักกันมาก่อน ได้รู้จักกันที่นั้น) มัวแต่คุยกันไม่ได้ฟัง เลยออกไปนอกค่าย เพื่อนคนหนึ่งโดนครูฝึกจับลากกลับเข้าค่าย ทั้งกลุ่มเลยโดนดองเวร 7 วันเลย พวกเราก็ไปเตี้ยมกับหน.กองร้อยว่าให้จัดเวรผลัดแรกทั้งหมด ผบ.ร้อยก็ดี เห็นใจจัดเวรผลัดแรกให้หมด
มีอยู่วันผมเข้าเวรเฝ้าคลังอาวุธกับเพื่อนอีกคน(ในกลุ่มโดนดองเวร) มีรด.ปี3 ครูฝึกพามาแวะนั่งพักข้างคลังฯ น้องปี3 ก็พูดเย้ยว่า พี่แบกปืนไปทำไมหนักเปล่าๆ ปืนไม่มีลูก เพื่อนผมเลยปลดแม๊กให้ดู เท่านั้นแหละไอ้คนที่พูดรีบบอกว่า พี่ๆ อย่ายิงมานะ ผมล้อเล่น ผมกับเพื่อนมองหน้ากันแล้วยิ้มๆ เพราะเราเข้าใจ เราก็ผ่านวัยนั้นมาก่อน
เสียดายที่ช่วงผมเรียนยังไม่มี รด.หญิง ไม่งั้นการฝึกอาจสนุกกว่านี้อีก
มันมีเรื่องที่เล่ายังไงก็ขำหลายเรื่องครับเมื่อเรากลับมาจากการฝึกแล้วเราก็มานั่งเล่ากับเพื่อนเราในกลุ่มนะครับ โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนลูกเมียน้อยครับ คือว่ามีร.ด.ทั้งหมด8 คน ตายในหน้าที่เรียนไม่จบไป2 ครับพวกเราเลยมีเหลือกันแค่6คนเท่านั้น เวลามีกิจกรรมอ่ะไร เขาก็จะเอาโรงเรียนที่มีจำนวนมากกว่าไปร่วมพิธี ให้เหตุผลที่ว่ามันแตกต่างกันครับไม่เป็นโรงเรียนเดียวกัน ต่างกันที่อาร์มครับดังนั้นโรงเรียนผมก็เลยไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอ่ะไรกับเขาเลบย(ผมเรียนโรงเรียนพาณิชย์ครับ)
1.เหตุผลหรอครับ ทั้งหมดแปดคน 2คนคือผมกับเพื่อนบ้าทหารครับอยากเป็นทหารเลยเข้ามาเรียนกันเพื่อเอาคะแนนเสริมไปสอบนายสิบกันแต่ไม่มีใครไปถึงฝันซักคนผม จบปวช.ก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะไม่มีเงินเรียนและก็ไม่รู้ว่าไม่มีโรงเรียนต้นสังกัดแล้วเรียนไม่ได้เลยไม่ได้เรียนต่อ ส่วนปีต่อมาก็ไม่ได้ติดตามวันส่งมอบตัวรับสมัครก็ไปไม่ทันเลยไม่ได้เรียนครับเป็นอันปิดฉาก ส่วนเพื่อนอีกคนมันเรียนปี5แล้วคับ อีก4เรียนเพราะเท่และไม่อยากเป็นทหารด้วย
2.ผมจบปี3ด้วยเหตุผลข้างต้น เพื่อนอีกคนเรียนปี5อยู่ อีก4จบหมดแล้ว
3.ได้อ่ะไรหรอ ได้ความมีวินัย ได้เหนื่อย ได้เพื่อนได้สนุกและได้เรียนรู้วิชาทหารเพื่อเอาตัวรอดได้ยามคับขัน และได้ยิงปืนครับยิงครั้งแรกตื่นเต้นมากเลยนะจะบอกให้
4.ได้ความรู้ครับได้จริงๆนะไม่ใช้แค่บอก เราเอาไปใช้ได้ ประทับใจครูครับ มีเรื่องตลกๆ แบบลูกผู้ชายมาเล่าให้ฟังเสมอ มีอยู่ตอนหนึ่งครับเคยได้ยินเรื่องมือปืนเป้าสะอาดเปล่าครับแถวผมนะมีเยอะมากเป้าตัวเองไม่ยิงยิงเป้าเพื่อน เขาให้ยิงทีละนัดพี่แกกดยิงชุด(ไม่รู้)พอกดเข้าปรืดเดียวหมดแม็ก ไม่โดนซักลูก และแม่นไม่แม่นเป้าใบเบ้อเร้อ ไม่ยิงไปยิงลวดแขวนและไม่หนีบ ครูบอกว่าถ้ายิงโดนไม่หนีบให้ซื้อมาเปลี่ยนแพคนึงแต่ก็ไม่พอ 55555+
ผมจบปีสามครับ เหล่าทหารช่างบรรจุลงกองพันทหารช่างกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ
2 เรียนเพราะอยากมันครับตอนนั้นเห็นชุดนศท. รู้สึกเท่ห์อยากใส่และขี้เกียจไปเกณฑ์ทหารอีก เพราะตั้ง 2 ปีกว่าจะหมดระยะเวลาการเกณฑ์ทหารไม่ใช่ผมไม่รักชาตินะผมคิดว่าเรายังทำอะไรให้ประเทศชาติได้อีกเยอะ ทำอย่างอื่นก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารแต่ถ้ามีศกสงครามมาผมก็พร้องจะไปรวมพลตามการเรียกระดมพลอย่างไม่อิดออดเลย
3 สิ่งที่ได้มากมายครับทั้ง คุณลักษณะผู้นำ ได้เป็นรอง command อยู่ สามปี ต้องดูแลเพื่อนนศท.ทั้งศูนย์ฝึกเป็นพันคน สนุกมาก ใครหาย ป่วย ลา command รับเละ ซ่อมๆๆๆๆๆ อีกทั้งเราได้ฝึกความอดทนอยู่ง่ายกินง่าย ยิ่งตอนฝึกภาคสนามผมฝึกที่ค่ายตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายรามคำแหงมหาราช โอ้โหโคตรมันทั้งตชด. ทั้งทหาร ยำนศท.สนุกกันใหญ่ มั่วไปหมด แล้วดันตอนฝึกภาคสนามทั้งสามปีเค้าจะจับฉลากให้เลือกกองร้อยครับ มี ร.ราบ ร.ม้า ร.สื่อสาร ร.ช่าง และร.รบพิเศษ ดันทะลึ่งไปจับอยู่ร.รบพิเศษ ทำแฮททริก สามปีติดต่อกันโคตรเหนื่อยเลย กลางคืนร.อื่นเค้าหลับกรนสนั่นป่า ได้เรายังปล่อยม้าแบก LOC กลางฝนอยู่เลย แต่ก็ทำให้ถึกดีนะ
4 ประสบการณ์ที่ประทับใจ มากมายครับ เช่น
4.1ตอนฝึกภาคสนามครูฝึกให้ไปฝึกซุ่มพอดีมีรถชาวบ้านผ่านมาครูฝึกเลยสั่งเข้า killing zone ซุ่มชาวบ้านซะงั้น ชาวบ้านตกใจร้องลั่นป่าเลยอยู่ดีๆ ทหารกะเหรี่ยงหน้าดำๆ โผล่มากจากความมืดชายป่าเป็นร้อย ถือปืนจี้มาทางตน พอเสร็จขอโทษขอโพยกันใหญ่
4.2 ตอนเรียนวิชาสงครามทุ่นระเบิดตอนปีสาม ครูฝึกทหารช่างถือ เคย์โมว์มาโชว์ครับ พร้อมกับให้ดูวีดีโอตอนฝึกโคย์โมว์ พอดีได้คนข้างๆดันหลับ ครูฝึกก็เลยโยนเคย์โมว์ที่ถือไว้มาใส่ตักไอ้คนหลับเท่านั้นแหละ วิ่งกันน้ำบานกระจัดกระจายตัวใครตัวมัน มีเข่าอ่อนวิ่งไม่ออกก็มีโคตรฮา มารู้ทีหลังครูฝึกแกะเอาดินระเบิดออกหมดแล้ว เป็นเคย์โมว์มีแต่โครง ไอ้เรารึพอเสียงดังตุ้ป หลวงพ่อโกยวัดหน้าตั้งก่อนละ
4.3 ตอนภาคสนามครับนอนอยู่ในเต็นท์ดีๆ ปั้งๆๆๆๆๆ สะดุ้งตื่นทั้งกองพัน เสียงนกหวีดประจำแนวปรี้ดๆๆๆ โคตรมั่ว นุกว่าฐานถูกเหรด ที่ไหนได้ครูฝึกแกเมาครับเดินออกจากเต็นท์มาทำธุระนิดหน่อย ระหว่างกำลังปลดปล่อยอยู่นั้นแหงนมองดูดาวบนท้องฟ้าไปด้วย พอดีพี่แกเห็นพระจันทร์ด้วยความเมานึกว่าเป็นผีกระสือครับ ซัดเข้าให้ด้วย 11 มม. ดังลั่นค่าย ตอนเช้าพอรู้เรื่อง โคตรฮา ครูฝึกคนนั้นก็อายหน้าดำหน้าแดงครับเดินไปทางไหนมีแต่นศท.ยิ้มให้ เพื่นทหารก็แซวกันไม่เลิกจนหมดผลัด
1. ...จบชั้นปีที่ 3 หน.หมู่ปืนกล มทบ 42 ครับ
2. เห็นเพื่อนเรียนเลยเรียนตาม(เพื่อนสนิท).....เพราะเพือนมันบอกว่าเวลาเรียนมหาลัยจบไม่ต้องเสียเวลา ตั้ง 2 ปีอิอิ
3. ได้เยอะคับ ความสามัคคี..ความรักชาติ..ระเบียบวินัย...เพื่อนเยอะ.....
4. เหมือนกะ คุณทอแสงคับ ตอนผมเรียนสาวๆเยอะดีจิง สวยทั้งนั้น 555+ .....ครูฝึก และข้าวมื้อพิเศษตอนภาคสนามปี 3...นั่งล้อมวง ....คลุกกับทุกอย่างรวมกะข้าว....กินกะมือ....ไข่ทั้งเปลือก....แล้วมีเสียงดังขึ้นมาว่า......เอาทุกอย่างเข้าในปาก..เคี้ยวผสมกานแล้วห้ามกลืน!!!!!.......เอ๊ชักวังเวง......แล้วมีเสียงดังมาอีกว่า......คายออกมาผสมกะข้าว ถ้าผสมเส็ดให้ลุกขึ้นแล้วเดินรำวงจนกว่าครูจาร้องเพลงจบแล้วนั้งลง .....คิดในใจซวยแล้วงานนี้....แล้วมันก็จิง คงไม่ต้องบอกนะว่าเปงยังไงต่อ .....จนแล้วจนรอดมันก็หมดจาน.......หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็พร้อมใจกันไปจาเจียน เปงที่สนุกสนานของครูฝึก......เพราะเขานั่งหัวเราะกันยกใหญ่.....จบ
จบปี 39 ครับ ที่เรียนก็มันเป็นค่านิยมในตอนนั้นครับตามเพื่อนก็ด้วย
ที่ได้มาก็สนุกแบบเหนื่อยๆครับ ผมฝึกภาคสนาม ตั้งแต่ปี 1-ปี 3 ที่ค่ายทหารเลยครับค่ายโสนบัณฑิต อ. ปาย ที่แม่ฮ่องสอนครับ ปีละ 15 วัน
เพราะไม่มีทหารมาสอนทุกอาทิตย์ เลยเหมาไปปีละรอบครับ โดนครูฝึกยำ+ซ่อมทั้งวัน
เพราะฝึกกับเหล่าราบครับเลยได้แค่ยิง ปลย. เอ็ม 60 เอ็ม 203 เท่านั้นเองครับ แล้วก็นั่งดูครูฝึกขว้างระเบิดให้ดูประมาณ 3 ลัง แต่ที่ประทับใจก็ที่ครูฝึกลากมาซ่อมตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึงตี 3 แล้วก็ตี 5 ไปฝึกต่อ เล่นเรายังกับทหารประจำการเลยทีเดียวครับ ประทับใจมาก.....................มาก อีกเรื่องก็เพื่อนมันเล็งเอ็ม 203 ไม่เป็นครับ ดันเอาศูนย์เล็งของเอ็ม 16 มาเล็งแทน ยิงปุ้ง!!! มันเลยตกห่างเราแค่ 30 เมตรกว่าๆเองครับ หน้า หูตึงไปหมด เกือบตายแล้วหลังจากนั้นเราก็ได้ยินแต่เสียงโหยหวลอันไพเราะดังอยู่ไกลๆ(โดนซ่อมซะจนไม่เป็นผู้เป็นคน) แล้วก็ไอ้คนนี้อีกเหมือนกันที่วิ่งไปเก็บปลอกกระสุนตอนยิงปืน มันบอกว่ากลัวปลอกหายแล้วจะโดนซ่อมไง ที่ไหนได้หนักกว่าเก่า ก็ฮากันไป