คนไทยต่างภาวนาให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าสู่ความสงบโดยไว และเหล่าทหารวีรบุรุษของชาติจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีสวัสดิภาพ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และกระทรวงกลาโหมจึงร่วมกันพัฒนา ชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคล ขึ้น
ดร.สุจินดา โชติพานิช ปลัด
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวในพิธีส่งมอบ
นวัตกรรมชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 9 ก.ค.51 ณ ศาลาว่าการกลาโหม ว่า
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ได้ให้การสนับสนุนทางวิชาการระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 1.5 ล้านบาทแก่
สำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (สวท.กห.) ในการพัฒนาชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคลขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2550 เป็นต้นมา
ล่าสุด ได้มีการพัฒนาผลงานได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว โดยทดสอบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิดระเบิดกำหนดทิศทาง (เคล์โม)
พบว่าสามารถป้องกันสะเก็ดระเบิด กันความร้อน และลดอาการบอบช้ำของร่างกายได้ดี แถมได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยเอ็นไอเจ (NIJ: National Institute of Justice) ของสหรัฐฯ แล้ว ที่สำคัญยังพึ่งพิงวัตถุดิบส่วนใหญ่ในประเทศ
จึงมีต้นทุนเพียง 8 หมื่นบาทต่อชุดโดยไม่รวมอุปกรณ์สื่อสารและระบายอากาศ จึงถูกกว่าเมื่อเทียบกับการนำเข้าชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดลักษณะเดียวกันนับสิบเท่า
สำหรับนวัตกรรมดังกล่าว สวท.กห.ได้ร่วมมือบริษัท ยูไนเต็ด อาร์เมอร์ จำกัด พัฒนาเส้นใยสังเคราะห์การผลิตชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคลขึ้นโดยนำเส้นใยสังเคราะห์ 2 ชนิดคือ เคฟลาร์ (Kevlar) และสเปคตรา (Spectra) มาเรียงซ้อนผสมผสานกันในรูปแบบที่แน่นอน จนได้เส้นใยสังเคราะห์ชนิด
ยูเอชเอ็มดับเบิลยูพีอี (UHMWPE: Ultra High Molecular Weight Poly Ethylene) ช่วยให้ชุดเกราะลดอันตรายได้มากขึ้น และได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท คอบร้า อินเตอร์เนชันแนล จำกัด พัฒนาหมวกป้องกันสะเก็ดระเบิด โดยชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคลมีน้ำหนักรวม 12 กก.
การส่งมอบครั้งนี้จะมอบชุดลดอันตรายดังกล่าวจำนวน 15 ชุดให้แก่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และอีก 2 ชุดจะเก็บรักษาไว้เพื่อการวิจัยพัฒนาต่อยอดในอนาคต ปลัดวิทยาศาสตร์ฯ กล่าว โดยนวัตกรรมนี้จะทำให้กระทรวงกลาโหมสามารถนำนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นไปขยายผลแก่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดเพื่อลดการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ พ.ต.บุญยืน แก้วแววน้อย หัวหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า
ชุดลดอันตรายจากสะเก็ดระเบิดสังหารบุคคลถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับภารกิจการเก็บกู้วัตถุระเบิด โดยในการปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดจะทำงานเป็นทีมๆ ละ 6 คน ในจำนวนนั้นเจ้าหน้าที่หนึ่งนายจะเป็นผู้สวมชุดดังกล่าวเพื่อเข้าเก็บกู้ระเบิด
ทหารหาญรายนี้ เผยด้วยว่า
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจของไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่มาก โดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนที่เชื่อว่าแทบไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าวใช้เลย ที่ผ่านมาต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก และไม่อาจซ่อมบำรุงได้เองในประเทศ การพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวขึ้นจึงช่วยให้เจ้าหน้าที่ไทยมีอุปกรณ์ดังกล่าวใช้งานอย่างทั่วถึง.
เพิ่มเติมจากข่าวในเวปพันทิพย์
จากสำนักข่าวเนชั่นครับ ซึ่งกองทัพอากาศบรรยายอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในเรื่องความพร้อมปฏิบัติการใดตามภารกิจกองทัพทั่วไปให้ทราบ ซึ่งท่าน(นายกสมัคร)ซักถามเรื่องเครื่องบินเช่นการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ เพราะเครื่องบินเอฟ 16 และกริพเพนเติมเชื้อเพลิงในอากาศแตกต่างกัน ซึ่งท่านก็สนใจ
เผื่ออนาคตหวยออก กองทัพอากาศได้
เครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศครับ
มาให้ชมหอมปากหอมคอ ผมตัดมาส่วนหนึ่งเพราะเนื้อข่าวยาวมาก