หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กระทู้ชวนคิด [3]: Su-35 จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในตลาดโลก?

โดยคุณ : Skyman เมื่อวันที่ : 29/11/2010 15:48:01


รัสเซียเสร็จสิ้นการทดสอบเฟสแรกของ Su-35 แล้วครับ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมาต่อหน้าสักขีพยานทั้งกองทัพรัสเซียและฑูตประเทศต่าง ๆ ....... อย่างที่เราทราบกันดี Su-35BM เป็น Su-35 รุ่นล่าสุดที่มีคุณสมบัติใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย

แต่ประเด็นสำหรับกระทู้นี้คงไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพ แต่เป็นคำถามที่ว่า Su-35 จะมีอนาคตในตลาดโลกมากน้อยเพียงใด?

ปัจจุบันนี้ตลาดเครื่องบินรบทั้วโลกมีผู้เล่นมากมาย สำหรับตลาดระดับเครื่องบินขนาดกลาง-ใหญ่แล้วมีผู้เล่นสำคัญอย่าง F-15 ซึ่งกำลังจะปิดสายการผลิตลงถ้าไม่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่ม และ F/A-18E/F ซึ่งได้เปรียบด้านการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทางค่ายยุโรปก็มี Refale ที่กำลังเข้าใกล้ความจริงในการหาลูกค้ารายแรก และ Typhoon ที่เป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดรองจาก F-22 ส่วนทางด้านจีนเองนั้นในอนาคตจีนก็อาจจะส่ง J-11 เข้าแข่งขันในตลาดโลกถ้าเคลียร์ปัญหาด้านลิขสิทธิ์กับรัสเซียได้ ส่วนฝั่งรัสเซียเองก็มี MiG-35 และ Su-30 ที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงความอ่อนตัวในการผลิตตามความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า

ทำให้มองดูแล้ว Su-35 ไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับเก่าในยุโรปและสหรัฐ แต่ยังต้องแข่งขันกันเป็นตัวแทนของรัสเซียที่จะเสนอเข้าไปในการแข่งขันของชาติต่าง ๆ ทั่วโลก อีกทั้งปัจจุบันความนิยมในตัว Su-30 นั้นมีสูงมาก เนื่องจากความได้เปรียบหลายประการเช่น การมีนักบิน 2 คนเพื่อลดภาระของนักบิน, ความสามารถที่ทำได้ดีทั้งการขับไล่ครองอากาศและการโจมตีภาคพื้นดิน, รวมไปจนถึงการปรับเปลี่ยนระบบ Avionic จากทั่วโลกได้ตามความต้องการของลูกค้า

ทั้งนี้สนามทดสอบแรกของ Su-35 คือโครงการ F-X2 ที่บราซิลซึ่งต้องการเครื่องบินขับไล่ 36 ลำ และมีอ็อปชั้นที่จะจัดหาเพิ่มเติมจนถึง 120 ลำ แต่ก็ต้องแข่งขันกับ F/A-18E/F, Rafale, Typhoon, และ Gripen NG

ฉะนั้นคำถามคือ....

1. นอกจากกองทัพอากาศรัสเซียแล้ว Su-35 มีโอกาสมากน้อยขนาดไหนในตลาดโลก?

2. และสนามแข่งขันแรกในโครงการ F-X2 ของบราซิลนั้น ท่านคิดว่า Su-35 จะมีโอกาสมากน้อยเพียงใด?

3. ตอนนี้สมมุติง่าย ๆ ว่าถ้าท่านเป็น Rosoboronexport ท่านจะส่งใครเข้าแข่งขันดีระหว่าง Su-30, Su-35, และ MiG-35 ถ้าประเทศลูกค้าไม่ได้กำหนดความต้องการว่าต้องมีนักบิน 1 คนต่อเครื่องเท่านั้น?

4. ท่านจะใช้จุดเด่นอะไรของ Su-35 ในการแข่งขัน และมันได้เปรียบกว่าคู่แข่งอย่างไร?

5. สุดท้ายท่านจะว่าง position (ขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษ) ของ Su-35 อย่างไรไม่ให้มันต้องแข่งขันกันเองหรือกระทบกับบทบาทของ Su-30 และ MiG-35 ในในตลาดโลก

เชิญแสดงความคิดเห็นครับ





ความคิดเห็นที่ 1


1.แม้แต่ทอ.รัสเซีย อาจจะไม่เอาเลยครับ ตอนนี้รัสเซียยังทำSU-27SM ยังไม่เสร็จเลย บ่จี๊ว่างั้น สำหรับตลาดโลกไม่ต้องพูดถึงเลยครับ น้อยประเทศมากที่จะสามารถรับบ.ขับไล่เอนกประสงค์(ที่เน้นทางการครองอากาศ) ขนาดใหญ่ได้ ................สำหรับผมซู-30 ดูดีกว่าครับ การมีWSO เพิ่มมา ทำให้เครื่องบินดูอเนกประสงค์มากกว่า (ฝึกนบ.ก็ได้ด้วย)

2.จำได้ว่าบราซิลยังใช้คฟีร์อยู่ใช่ไหมฮะ ...............สำหรับผม บราซิลต้องการซู-35มาตั้งนานแล้ว อาจจะมีอนาคตครับ .............แต่ก็อาจจะคู่คี่กับกรีเป้น เอ็นจี ครับ

3.ซู-30 ที่นั่งเดี่ยวไม่มีด้วยสิ -- งั้นขอซู-35 ดีที่สุดครับ มิก-35 ยังไงๆมันก็คือมิก-29  ที่ตุ๊ต๊ะขึ้น ผมว่ามันคนละคลาสกันนะครับ แต่ต้องดูด้วยว่า ประเทศที่จะส่งไป มีเงินขนาดไหน ถ้าไม่มากนัก อาจจะส่งมิก-35ไปครับ (โดยเฉพาะชาติที่เคยใช้ 29 มาก่อน)

4.AL-41F  มีTVC  แรงขับสูงกว่าSU-30(หรือเปล่าหว่า แต่ที่แน่ๆทนทานกว่าเดิม)  เรดาร์IRBIS (AESA)  Electronic Warfare Suite (ซึ่งอเมริกาไม่น่าขายให้ใครง่ายๆ)  แล้วก็ออปชั่นอวป.นำวิถีต่างๆ+สมาร์ทบอมบ์ แถมสาวๆรัสเซียอีก1โหลสำหรับนายพล 555

5. ผมจะวางตลาดบนสุด(รองจากPAK-FA) ขับไล่ เน้นสกัดกั้น ต้องการบ.ยุค4.5 เรดาร์เจ๋งๆ  ส่วนซู-30 อาจจะวางตลาดล่างกว่าซู-35     

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 09/07/2008 05:31:24


ความคิดเห็นที่ 2


ยังไม่ทรายรายระเอียดความสามรถ ข้อดีข้อด้อยของ SU-35 เลยครับ.. 


โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 09/07/2008 06:04:21


ความคิดเห็นที่ 3


ซู-35บีเอ็ม จะเป็นแฟลงเคอร์ ที่พัฒนาตัวสุดท้าย หลังจากที่สับสนกับแฟลงเคอร์ตัวก่อนหน้านี้มากมาย (เฉพาะที่ขึ้นชื่อว่าซู-27 ผมก็จำไม่หมดแล้ว)  ทั้งเวอร์ชั่นที่ใช้ในทอ.รัสเซีย ที่ชื่อซู-35 รุ่นส่งออกที่ชื่อ ซู-27เอ็ม  แต่ซู-35ก็แป้กในทอ.รัสเซีย โดยมีประจำการเพียง5เครื่อง ในกรมบินที่273  โดยทอ.ัสเซียเลือกที่จะอัพเกรดฝูงบินซู-27ที่ตนมีเป็นมาตรฐาน ซู-27เอสเอ็ม  ซู-35นั้น ก็ยังเป็นเครื่องทดสอบระบบ TVC หรือระบบท่อปรับทิศแรงขับ แบบ2มิติ (น่าจะบน-ล่าง ไม่มีเต็ง-โต๊ด)  ซึ่งจะนำไปติดตั้งในซู-37

ซู-35บีเอ็ม ได้รับการวางให้อยู่ระหว่างซู-27เอสเอ็ม เจเนอเรชั่นที่4+ กับ แพ๊ค-เอฟเอ(PAK-FA) เจเนอเรชั่นที่5โดยเจ้านี่จะถูกเรียกว่า บ.เจเนอเรชั่นที่ 4 ++ (2บวก) ซึ่งอยู่ในเจเนอเรชั่นเดียวกับมิก-35 (ถ้าเทียบกับบ.ฝั่งยุโรปน่าจะเป็น กรีเป้น-ดีเค/เอ็น ) โดยจะบินไมเดนไฟลท์(บินครั้งแรก)ในปลายปีนี้  ไม่มีการยืนยันว่าจะได้รับเข้าประจำการในทอ.รัสเซียหรือไม่ หรืออาจจะเป็นแค่การเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการอัพเกรดซู-27 รอบสองของทอ.รัสเซีย

รูปร่างภายนอก

ซู-35บีเอ็ม ยังคงใช้แอร์เฟรมเดียวกับซู-27 คือไม่มีคานาร์ด ดูเหมือนซู-27 มากกว่าซู-35ว่างั้น และยังลดน้ำหนักลง 20%ด้วยวัสดุผสม และสีที่ทายังดูดกลืนคลื่นเรดาร์ ทำให้ มีRCS เล็กลง (แต่ผมว่ามันคงไม่เล็กลงเท่าไหร่)

เครื่องยนต์

AL-41F1 มีซูเปอร์ครุยส์(ซูเปอร์ครุยส์:การบินเหนือเสียง โดยไม่ต้องใช้สันดาปท้าย) ให้กำลังเครื่องละ 15,000Kg. กรุณาคำนวณเป็นปอนด์เอาเอง  เครื่องซีรี่ส์AL-41 นั้น จะได้รับการติดตั้งในเครื่องบินยุคที่4++ และยุคที่5ของรัสเซีย

ได้แก่ PAK-FA/ MIG-1.44MFI /SU-47  แต่คาดการณ์กันว่า เครื่องยนต์AL-41F1 ยังไม่พร้อมที่จะติดตั้งกับซู-35บีเอ็ม เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในการพัฒนา ดังนั้นการบินครั้งแรกของซู-35บีเอ็มจะได้รับการติดตั้งย.AL-41 รุ่นพื้นฐาน ซึ่งมีกำลังขับเท่ากัน แต่ไม่มีความสามารถในการซูเปอร์ครุยส์  โดยเครื่องยนต์ที่จะติดตั้งในPAK-FA มีชื่อรุ่นว่า AL-41F1A  เริ่มงงแล้ววุ้ย เอาเป็นว่า AL-41F1 กับAL-41F1A คล้ายกัน แต่น่าจะต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ แต่โดยรวมแล้ว เหมือนกันครับ

เครื่องยนต์ AL-41F1 มีระบบ TVC แบบ 3มิติ (บน-ล่าง ซ้าย-ขวา)  แน่นอนครับ ซู-25บีเอ็มมี2เครื่องยนต์ กำลังขับรวมจะเท่ากับ 30ตัน ซึ่งเมื่อลองคำนวณกับน้ำหนักตัวที่เบาลง20% เจ้าซู-35บีเอ็ม น่ากลัวที่เดียวทั้งอัตราไต่ ความคล่องตัว

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 09/07/2008 06:57:40


ความคิดเห็นที่ 4


ขอตอบ Positioning ของ Su-30 นะฮะ
    ตัว Su-30 คงเป็นนางฟ้าแจ่มจรัส ดวงรุ่งพุ่งแรงเพราะพึ่งคลอดมาซิงๆ

   อีกทั้ง ตัว Su 30 ถ้าเทียบกับเครื่องในตัวเดียวกัน
  ก็มี Typhoon , F-15 , สองตัวนี้ผมเอาระยะการทำการบินเป็นเกณฑ์

 เพราะหลักเทียบอันอื่น เช่น ระบบอาวุธ และอื่นๆ ทุกอย่างตามทันกันหมดแล้ว
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 09/07/2008 07:03:42


ความคิดเห็นที่ 5


ระบบอวิโอนิคส์และเซนเซอร์

เรดาร์ที่ได้รับการเก็งจากผู้สันทัดกรณี คาดว่าน่าจะเป็นTikhomirov NIIP Irbis-E เรดาร์AESA เลื่องชื่อ แต่ก็อาจจะเป็นPhazotron NIIR radar Sokol III (N031 Zhuk-MSFE) ซึ่งก็เป็นเรดาร์ที่สำนักออกแบบฟาโซตรอนงัดไม้เด็ดมาใส่เต็มที่เช่นกัน

เรดาร์ไอร์บิส-อี เป็นเรดาร์AESA ที่มีความสามารถสูง สามารถติดตามเป้าพร้อมกันได้ 30เป้า (ในโหมด Track while Scan หรือแสกนไปติดตามไป) สามารถ นำวิถีอวป.อากาศ-อากาศแบบเซมิแอคทีฟได้ 2เป้าหมายพร้อมกัน (อันนี้น่าทึ่ง เพราะโดยทั่วไปได้แค่ 1เป้าหมาย) หรือถ้าอยากซัลโวหนักกว่านั้นเชิญใช้บริการ แบบแอคทีฟเรดาร์ ซึ่งทำได้ 8 เป้าหมายพร้อมกัน  สามารถตรวจจับเป้าหมายที่มีRCS 3ตารางเมตร (นึกถึงอาลาดินพรมยาว3เมตรกว้าง1เมตร บินทำลูปแนวตั้งฉาก) ได้ 400กม. หรือเป้าหมายแบบสเตลท์ ที่มีRCS 0.01ตารางเมตร(นึกถึงอาลาดินทำแคร็กเกอร์ปลิว)ได้ที่ระยะ 90กม.  เอาละวา เอฟ-22 เสร็จแน่ๆ   

เอกลักษณืของบ.ตระกูลนี้ ต้องมีเรดาร์ที่หาง ซู-35บีเอ็มติดตั้งเรดาร์แบบOsa เป็นแบบAESA เช่นเดียวกัน แต่ไม่บอกว่ามีความสามารถเท่าไหร่

ส่วนระบบตรวจจับแบบIRST คาดว่าน่าจะใช้ระบบที่ปรับปรุงมาจาก OELS-27 ของซู-27ซีรี่ส์ หรืออาจจะใช้ระบบOLS-35 ของมิก-35 หรือระบบที่เทียบเคียงกันได้ (ระบบOLS-35 ตรวจจับอินฟราเรดจากเป้าหมายภาคพื้นได้ไกลถึง 100กม. เป้าหมายทางอากาศไกลถึง45กม.)

ค็อคพิทมาตรฐานทั่วไป จอLCD 2จอยักษ์(พร้อมดีวีดีและระบบเสียง5.1แชนเนล  หรือเปล่า)และจอภาพติดหมวกนักบิน 

สุดท้ายกับอาวุธ

อาวุธ อวป.อากาศ-อากาศ ใช้มาตรฐานรัสเซีย ยิงได้หมดทั้งซีรี่ส์ Archer ,Alamo,Adderซึ่งมีรุ่นแยกย่อยจำไม่หวาดไม่ไหว รวมถึงอวป.อากาศ-อากาศ ยิงไกลสุดกู่ 300กม. อย่างKS-172S1 และ R-37M(R-37 ของมิก-31 ดัดแปลง)

หรือจะโจมตีภาคพื้นด้วย Yakhont, Brahmos รวมถึงระเบิดต่างๆนาๆของค่ายหมีขาวได้เกือบทุกแบบ

 


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 09/07/2008 07:07:39


ความคิดเห็นที่ 6


ผมชอบไอ้ลูกที่อยู่ใต้ท้องนี่แหละครับ ใหญ่สะใจ .....................

 


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 09/07/2008 07:09:39


ความคิดเห็นที่ 7


ใต้ท้อง น่าจะเป็นยาคอนท์ครับ  เวอร์ชั่นยิงจากเครื่องบิน
ใต้อินเทค KH-31 ครับ ไม่แน่ใจว่าA หรือP 

แต่ไอ้ใต้ท้องน่ะใหญ่จริงๆฮะ


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 09/07/2008 08:05:08


ความคิดเห็นที่ 8


พี่ไอซี่ครับ ลูกที่อยู่ไต้ท้องมันคืออะไรหรือครับแล้วที่อยู่ใต้ช่องอากาศเข้าคืออะไรครับ หรือจะเป็น brahmos ครับ
โดยคุณ sherlork เมื่อวันที่ 09/07/2008 07:51:28


ความคิดเห็นที่ 9


ปัจจุบันมีการทดสอบให้ บ.Su-30 และ Su-35 ติด อวป.Yakhont/Brahmos ได้1ลูกที่ตำแหน่งกลางลำตัวครับแต่ในอนาคตจะพัฒนาให้ติดที่ปลายปีกให้ได้อีก1ตำแหน่งซึ่งถ้าพัฒนาเสร็จ บ.Flanker 1ลำจะติด Brahmos ได้3ลูกซึ่งมีอำนาจการยิงคุกคามกองเรือสูงมากครับ

ตอบคำถามจากหัวข้อครับ

1.ปัจจุบันในตลาด บ.ขับไล่ขนาดใหญ่นั้น บ.ตระกูล Flanker ได้รับการตอบรับที่ดีในการจัดหาจากหลายๆประเทศครับ แต่ในส่วนของ บ.Su-35 นั้นก็เชื่อว่ามีหลายประเทศสนใจอยู่เช่นกันแต่ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตของ บ.เช่นกันว่าจะมีการตอบรับจริงๆแค่ไหน คงต้องมาดูว่า บ.Su-35 จะมีประเทศใดจัดหาไปใช้งานต่อหรือไม่ครับ รวมถึงการจัดหาไปใช้โดยรัสเองด้วย ตัวอย่างเช่น ฮ.Mi-28 รุ่นส่งออกนั้นก็มีข่าวว่าเวเนซุเอล่าสนใจจะจัดหาไปใช้ครับเนื่องจากกองทัพบกรัสเซียได้มีการทะยอยจัดซื้อ ฮ.Havoc จำนวนมากเพื่อใช้เป็น ฮ.โจมตีหลักของกองทัพ

2.บ.ขับไล่หลักของบราซิลที่ผ่านมานั้นเป็นระบบตะวันตกมาตลอดครับเช่น F-5 และ Mirage 2000 สำหรับโครงการ F-X2 ของบราซิลส่วนตัวคิดว่า Rafale มีโอกาสมากกว่าครับในขณะที่ Gripen นั้นดูเล็กเกินไป และระบบ Flanker นั้นเวเนซุเอล่าก็มีการจัดหาไปใช้ครับ แต่ก็ไม่แน่ครับสำหรับ Su-35

3.น่าจะมีการสนับสนุน บ.ทั้ง3แบบพร้อมๆกัยครับเพราะ บ.ในตระกูลนั้นทั้ง Falcrum และ Flanker รุ่นใหม่ก็มีหลายประเทศจัดหาไปในช่วง 5ปีนี้ครับ แต่ บ.ตระกูล Flanker นั้นจะได้รับความสนใจในการจัดหามากว่า ซึ่งทาง Rosoboronexport คงจะส่ง Su-35 เข้าแข่งขันครับถ้าเป็นโครงการจัดหาระยะยาว แต่ถ้าเป็นระยะสั้นน่าจะส่ง Su-30 ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยในความต้องการของลูกค้าเป็นหลักครับ เช่น ราคา ขนาดเครื่อง ภารกิจ ฯลฯ

4. และ 5. คล้ายกับคุณ icy_CMU ครับคือ ระบบ Radar และอาวุธที่ทันสมัย ย.กำลังสูง บรรทุกอาวุธได้มาก ซึ่ง Su-35 จะเป็น บ.ขับไล่ขนาดหนักชั้นแนวหน้า Top class ที่มีราคาถูกกว่าเล็กน้อย และมี Option อาวุธ-อุปกรณ์ที่อ่อนตัว(ใช้ได้หลายค่าย)น่าสนใจกว่าครับถ้าเทียบกับ บ.อื่นในชั้นเดียวกันเช่น Typhoon หรือ Rafale

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 09/07/2008 08:25:17


ความคิดเห็นที่ 10


ที่บ้านผมมีประจำการอยู่หนึ่งตัว

http://www.thaimsot.com/phpbb/viewtopic.php?t=2330

โดยคุณ oldbot เมื่อวันที่ 09/07/2008 09:40:29


ความคิดเห็นที่ 11


เข้ามาอ่านและตอบมั่งตามประสาคนรัก ซู แต่ขอตอบแบบรวมๆ คาดว่าหากรัชเซียจะเสนอขายเครื่องบิน คากว่าคงจะเสนอทั้ง ซู-30 ซู-35 และ มิก-35 ทีนี้อยู่ที่ผู้ที่ต้องการใช้งาน ว่าต้องการเครื่องบินในลักษณะใด ถ้าต้องการเครื่องบินของรัชเซียไปใช้จริงและต้องการขนาดกลางก็คงสนใจ มิก-35 อยู่ แต่ถ้าต้องการแบบบิ๊กๆ ก็ต้องดู ซู-30 และ ซู-35 แต่ว่าภารกิจจะเน้นภารกิจแบบไหน ถ้าเน้นแบบขับไล่โจมตีหลายภารกิจก็น่าจะมองที่ ซู-30(มันเลยมีที่นั่งหลังสำหรับนายทหารสรรพาวุธด้วย) แต่ถ้าจะเอาครองอากาศ ซู-35 ก็น่าสนอยู่ แต่ว่า.. ซู-30 มันสามารถติดระบบได้ตามความต้องการของลูกค้าได้แบบมีประสปการณ์แถมสามารถใช้ในภารกิจครองอากาศได้เช่นกัน ส่วน ซู-35 มีระบบใหม่ๆเข้ามาและอาจจะมีความคล่องตัวสูงกว่า ซู-30 ก็เป็นได้ อีกทั้งระบบต่อสู้แบบ แอร์-ทู-แอร์ น่าจะมีอะไรที่น่าจะเจ๋งกว่า ซู-30 บ้างแหละ(ก็ต้องงั้นแหละ ไม่งั้นจะพัฒนามาทำซากอะไร สู้ไปต่อยอด ซู-30 ไม่ดีกว่าเรอะ ปาดโธ่) และ ซู-35 ก็น่าจะใช้ทำภารกิจโจมตีได้ แต่น่าจะเหนื่อยหน่อยสำหรับนักบินที่ต่างจาก ซู-30 ที่มีคนใช้อาวุธแทน นักบินทำหน้าที่ขับเครื่องบินอย่างเดียว ทีนี้ผู้ซื้อต้องมองตัวเองแล้วว่า จะมีไว้เน้นถล่มฝ่ายตรงข้ามหรือจะเอามาไล่ฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าถามว่า ซู-35 กับ ซู-30 ถ้าสำหรับ บราซิล ผมว่า ซู-35 มาวิน เหตุผล..เพราะบราซิลต้องการเครื่องบินขับไล่มากกว่าเครื่องบินโจมตี แต่เนื่องจากอาณาเขตุประเทศที่กว้างใหญ่จึงจำเป็นต้องหาเครื่องบินที่บินได้ไกล บราซิลจึงสนใจ ซู-35 มากกว่า

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ ไม่ฟันธง เพราะผมไม่ใช่หมอลักษณ์

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 09/07/2008 10:44:14


ความคิดเห็นที่ 12


อ่านเเล้ว กะอักเลือดเเบบจิวยี่ รุ้นใหญ่ยักได้ใจเลยครับ น่าสนใจมากเลยบ.เเบบนี้ งั้นก็ต้องมาตั้งตารอกันละครับว่า อนาคตจะเป็นยังไงกัน หรือ จะเเห้วเเบบสาวฝรั่งเศสครับ อยากทราบจริง ขอถามอะไนหน่อยนะครับ SU-35 ซัดกับ F-22 เเบบบรรทุกเต็มอัตรา อากาศ-อากาศทั้งลำ ใครจะชนะครับ ไม่มีเอเวค ไม่มีภาคพื้นครับ ใครจะร่วงก่อนครับ

โดยคุณ poom1.1 เมื่อวันที่ 09/07/2008 10:48:32


ความคิดเห็นที่ 13


 

   ผมเป็นแฟนตัวยงของ SU-30   พอเห็นสเปก SU-35 แล้วหัวใจพองโต   แบบว่าอยากได้ให้ทอ.มีใช้จนตัวสั่นครับ      เรด้าร์เดิมว่าเจ๋งสุดๆแล้ว     เรด้าร์รุ่นนี้เจ๋งกว่าเยอะ     โดยเฉพาะที่มันสามารถตรวจจับบ.แบบ F-22 ได้ที่ระยะ 90 กม.    ซึ่งไกลพอที่จะยิงด้วย R-77 ในโหมดเซมิแอคทิฟได้ 2 ลูกพร้อมกัน    ส่วนระบบ IRST นั้นสามารถตรวจจับเป็หมายอากาศยานได้ไกล 45 กม.   ก็ไกลพอที่จะส่ง R-74 รุ่นใหม่ไปสอยได้   

    เรียกได้ว่าแม้มันจะซ่อนตัวทางด้านเรด้าร์ไม่ได้มาก    แต่เครื่องเสตลธ์เองก็ยากที่จะซ่อนตัวหลบจาก SU-35 ได้ยากขึ้นมากเช่นกัน     เรียกหูตาดีพอที่จะสอย F-22 ได้     และที่สำคัญสามารถจัดหาซื้อได้ในขณะนี้ด้วยราคาที่ยุติธรรม     ประเทศทีมีไว้ใช้สามารถอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าสามารถต่อกรกับเครื่องเสตลธ์แบบใหม่ได้ในระดับที่น่าพอลุ้นทีเดียว  

   อัตรากำลังเครื่องยนต์ต่อนน.ตัว   ผมว่าเครื่องรุ่นนี้น่าจะสุดยอดแล้วในบรรดาเครื่องขับไล่ทั้งหมดที่มีในท้องตลาด   

   และสุดท้ายถ้าการพัฒนาที่จะให้ติดตั้ง Brahmos ได้ 3 ลูกต่อลำ    จะเป็นภัยคุกคามต่อกองเรือบรรทุกบ.ขนาดหนักที่น่าหวั่นไหวไม่น้อยครับ     เพราะโป้งเดียวรับประกันได้ว่าเรือขนาด 911 จมได้

 

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 09/07/2008 12:43:29


ความคิดเห็นที่ 14


แล้วสามารถนำ ระบบ Radar และอาวุธที่ทันสมัย ย.กำลังสูง ยัดใส่ Su30
ได้ไหมครับหมายถึงถ้าลูกค้าต้องการนะครับ
โดยคุณ sherlork เมื่อวันที่ 09/07/2008 21:20:33


ความคิดเห็นที่ 15


^
^
^
เดี๋ยวมาเลเซียจะติดให้ดูก่อนครับ เอิ๊ก ๆๆๆ  = =!
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 09/07/2008 23:32:47


ความคิดเห็นที่ 16


 

 

คิดเห็นเมือนท่าน neosiamese เป๊ะ เลยครับ...เมื่อไร่พี่ไทยจะมีไว้ควบมั่งน้อออ... ถ้ามีเจ้า SU35 นี่ละก็ เหอะ เหอะ ....แค่คิดก็เสียวแล้วล่ะครับ....

ปล.. ถ้าติด Brahmos ได้เนี้ย เยี่ยมเลยครับ

 

 

โดยคุณ sam7 เมื่อวันที่ 09/07/2008 23:02:17


ความคิดเห็นที่ 17


1.น้อย ถ้าราคาไม่ดีจริง เศรษฐกิจโลกย่ำแย่อย่างนี้ เครื่องที่ค่าใช้จ่ายต่ำน่าจะดูดีกว่า หรือถ้าขายได้ น่าจะเป็นประเทศที่มี ซู ใช้อยู่แล้ว...

2.น้อย เพราะค่อนข้างต้องไปรื้อระบบจากตะวันตกใหม่ นอกเสียจากว่าทางรัสเซียจะใจป้ำสุดๆ ผมว่า eurofighter น่าจะได้ไปครับ รองมาเป็นกรีปเป้นNG แล้วก็ราฟาล(จริงๆน่าจะได้ขึ้นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าราฟาลยังเล่นค่าตัวแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดละครับ)

3.เสนอหมดละครับ.....แต่ถ้าจะเชียร์แบบออกนอกหน้า คง 30เพราะการมีสองนักบินดูอเนกประสงค์กว่า โดยเฉพาะเรื่องการโจมตี แต่ถ้านักบินมีจำกัดก็เลือกเอา รวยก็ซู งบจำกัดก็มิก โดยปรับมิกให้เป็นไซส์เล็กราคาต่ำค่าดูแลรักษาน้อย พิกัดเดียวกับกริปเป้น(คงเป็นมิกตัวต่อไปมากกว่า ไม่เข้าใจว่าตัว35ถึงทำให้มันใหญ่ขึ้นจนจะมาตีตลาดกับซูซะเอง จริงๆน่าแยกตลาดไปเลย)

4.ราคา ต่อประสิทธิภาพ ครับรวมถึงการเซอร์วิส และการขายอาวุธแบบไม่กั๊ก ยิ่งขายประเทศไกลๆตัวอย่างบราซิล ขายสเปคดีสุดไปเลยก็ได้..เพราะจุดอ่อนมันเยอะครับ เกี่ยวกับความเข้ากันของระบบ เมื่อเทียบค่ายตะวันตก

5.ซู35คือขับไล่สกัดกั้นเป็นหลัก โจมตีเป็นรอง พิกัดใหญ่ 30โจมตีเป็นหลัก ขับไล่สกัดกั้นเป็นรอง(จากการมีนักบินที่สองเพื่อระบบอาวุธ) มิก35 เป็นเครื่อง multi roleสำหรับประเทศที่ประหยัดงปประมาณครับ...

 

โดยคุณ marut เมื่อวันที่ 09/07/2008 23:45:41


ความคิดเห็นที่ 18


อืม น่าสน (ประทับใจ Su-35 เพราะเคยเล่นเกม Fighter Pilot ของ EA เมื่อนานมาแล้ว)

1. อันนี้ผมว่าคงต้องเป็นพวกที่มี Su ใช้อยู่แล้วและกระเป๋าหนักพอจะซื้อของไฮเทคขนาดนี้มาใช้ได้โดยขนหน้าแข้งไม่ร่วง หรืออาจเป็นประเทศที่มีศัตรูรอบด้านเช่นเกาหลีเหนือ

2. น่าจะมีโอกาสพอสมควรเพราะบราซิลเป็นประเทศใหญ่กว่าสวีเดนและไทยมาก เว้นแต่ว่าบราซิลจะอยากผูกกับอาวุธตะวันตกต่อไป ผมคิดว่า Su-30 อาจจะมีภาษีดีกว่านิดหนึ่งเพราะเอาระบบใครมาใส่ก็ได้

3. Su-30 และ 35 คู่กันไปครับ รับรองว่ามีคนซื้อทั้งสองตัวตามลักษณะความต้องการ

4. เพราะมีเทคโนโลยีหลายอย่างที่ทันสมัยเกือบเทียบเท่า F-22 Raptor ของอเมริกันครับ (ซึ่งไม่ขายแน่) ที่สำคัญคือติด Brahmos และยาคอนท์ได้เยอะต่อตีกับเรือได้ดีมาก

5. อันนี้โนคอมเมนท์ครับ (ไม่สันทัดการตลาด)


โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 10/07/2008 01:39:27


ความคิดเห็นที่ 19


แต่ก่อนเล่นเกมพวกเครื่องบิน ขับ F-35 มันมาก เลยชอบ F-35 ตั้งแต่นั้นมา

โดยคุณ ทอแสง เมื่อวันที่ 10/07/2008 01:42:36


ความคิดเห็นที่ 20


แก้จากข้อความข้างบน มันต้องเป็น SU สิ ไม่ใช่ F

โดยคุณ ทอแสง เมื่อวันที่ 10/07/2008 06:20:56


ความคิดเห็นที่ 21


ขอนอกเรื่องนิดนึงแล้วไอระบบพลาสมา เสตลธ์พัฒณาไปถึงไหนแล้วคับ

หรอยุบโครงการไปแล้ว

โดยคุณ BuRKuTXT เมื่อวันที่ 10/07/2008 11:09:25


ความคิดเห็นที่ 22


 

หุ หุ หุ... ถ้ามาเล ติด Brahmos ได้ตะหานเรือบ้านเราคงจะได้รับบริจาร ผ้าห่มสีเขียว ๆ จากเบียร์ช้าง อีกคนละหลายผืน ... แล้วก็คงมีโครงการบริจารให้สิงคโปร์ อีกคนละผืน ก็เป็นได้ ... เอิ๊ก เอิ๊ก..

 

โดยคุณ sam7 เมื่อวันที่ 10/07/2008 21:43:40


ความคิดเห็นที่ 23


  ถ้าหลังจากโครงการ FX-2 ของ เกาหลีใต้ ที่สั่ง F-15K เพิ่มเติม 20 เครื่อง แถมอีก 1 เครื่อง เป็น 21 ( สงสัยจะยื้อชีวิตตัวเองออกไปอีก เฮือก เผื่อมีลูกค้าใหม่สั่งเพิ่ม ) ก็จะเป็นการปิดสายการผลิต เครื่องบินขับไล่ ตระกูล F-15 ทุกเวอร์ชั่น

    เพราะฉะนั้นเครื่องบินขับไล่ ขนาดกลาง ถึง ขนาดหนัก ก็จะเหลือเพียง เครื่องบินขับไล่ ตระกูล FULCRUM คือ MIG-29 และ MIG-35 เครื่องบินขับไล่ ตระกูล FLANKER คือ SU-27 / 30 / 32/ 33 /35 /37 โอ้ยเยอะจริง SU-32 น่าจะเป็นตัว โจมตี ทิ้งระเบิดมากกว่าขับไล่ แต่ก็สามารถใช้ สู้กับ บินข้าศึกได้ เมื่อมีการขัดขวางทางอากาศจากข้าศึกได้

F/A-18 E/F SUPER HORNET จาก อเมริโกย เอ๊ย อเมริกา

RAFALE จาก ฝรั่งเศส ( เมื่อไหร่จะเกิด นอกบ้านสักที )

EUROFIGHTER 2000 TYPHOON จาก อังกฤษ , อิตาลี่ , เยอรมนี , สเปน

 

 ว่ากันที่ เรื่อง RCS ( RADAR CROSS SECTION )

1.MIG-29 & 35 มี RCS ขนาดเท่ากับ 1 ตารางเมตร (เท่ากับ F-16 C/D )

2.SU-35 อันนี้ไม่ทราบข้อมูล ที่แน่ชัด น่าจะ 1 -3 ตารางเมตร ดีไม่ดี อาจจะถึง 5 ด้วยซำเท่ากับ SU-30

3.F/A-18 E/F ดูข้อมูลจาก Wiki มาว่า รุ่น BLOCK 3 อาจจะต่ำกว่า 1 ตารางเมตร คือประมาณ 0.5 - 1 ตารางเมตร F/A-18 E/F BLOCK I และ II ก็ 1 ตารางเมตร

4.RAFALE  มีประมาณ 0.5 - 1 ตารางเมตร

5.TYPHOON ก็มีประมาณ 0.5 -1 ตารางเมตร เช่นกัน

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 12/07/2008 06:29:50


ความคิดเห็นที่ 24


ต่อมาว่าด้วยเรื่อง รัศมี ตรวจจับของเรดาร์

1.F-22 จะตรวจจับเป้าหมาย ที่มีขนาด RCS 1 ตารางเมตร ได้ที่ 200 กิโลเมตร และ จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 375 - 440 กิโลเมตร

2.SU-35 จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 350 - 400 กิโลเมตร และ บินขับไล่ที่มี คุณลักษณะ STEALTH ได้ที่ 90 กิโลเมตร

3.TYPHOON จะตรวจจับเป้าหมาย ที่มีขนาด 5 ตารางเมตร ได้ที่ 200 - 272 กิโลเมตร และ จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 160 - 185 กิโลเมตร

4.RAFALE ก็จะขอบอกว่า SAME SAME กับ ไต้ฝุ่น นั่นแหล่ะ

5.F/A-18 E/F ไม่ต้องพูดถึง โดดเด่น ในเรื่อง แจมเมอร์ การทำ สงคราม อิเล็คโทรนิกส์ และ ELECTRONICS ATTACK

 สำหรับ อุปกรณ์ อิเล็คโทรนิกส์ ของ F-18 E/F ขอให้ท่าน ลองย้อนกลับไปอ่าน ใน แทงโก้ ฉบับ ย้อนหลัง จากนี้ 3-4 ฉบับน่ะครับ

 

ปล.ผมว่า F-18 , RAFALE , TYPHOON และ SU-35 สูสีกันน่ะครับ ประมาณว่า ( ขออนุญาติ ใช้คำหยาบ ครับ )

 ประมาณว่า มึงล๊อคเป้ากูได้......กูก็ล๊อคเป้ามึงได้

             มึงยิงกูได้.........กูก็ยิงมึงได้

  แต่ใครจะอยู่หรือใครจะไป.......อันนี้ผมก็ไม่ทราบ

RAFALE และ TYPHOON ใช้ METEOR ทีมีระยะยิง 120 กิโลเมตร

ส่วน F-22 และ SU-35 อันนี้ผมว่า ยังไงๆ SU-35 ก็โดน F-22 ล๊อคเป้าก่อน และ ก็ยิงก่อน แน่นอน

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 12/07/2008 06:50:02


ความคิดเห็นที่ 25


ต่อมาว่าด้วยเรื่อง รัศมี ตรวจจับของเรดาร์

1.F-22 จะตรวจจับเป้าหมาย ที่มีขนาด RCS 1 ตารางเมตร ได้ที่ 200 กิโลเมตร และ จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 375 - 440 กิโลเมตร

2.SU-35 จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 350 - 400 กิโลเมตร และ บินขับไล่ที่มี คุณลักษณะ STEALTH ได้ที่ 90 กิโลเมตร

3.TYPHOON จะตรวจจับเป้าหมาย ที่มีขนาด 5 ตารางเมตร ได้ที่ 200 - 272 กิโลเมตร และ จะตรวจจับเป้าหมาย ขนาด 3 ตารางเมตร ได้ที่ 160 - 185 กิโลเมตร

4.RAFALE ก็จะขอบอกว่า SAME SAME กับ ไต้ฝุ่น นั่นแหล่ะ

5.F/A-18 E/F ไม่ต้องพูดถึง โดดเด่น ในเรื่อง แจมเมอร์ การทำ สงคราม อิเล็คโทรนิกส์ และ ELECTRONICS ATTACK

 สำหรับ อุปกรณ์ อิเล็คโทรนิกส์ ของ F-18 E/F ขอให้ท่าน ลองย้อนกลับไปอ่าน ใน แทงโก้ ฉบับ ย้อนหลัง จากนี้ 3-4 ฉบับน่ะครับ

 

ปล.ผมว่า F-18 , RAFALE , TYPHOON และ SU-35 สูสีกันน่ะครับ ประมาณว่า ( ขออนุญาติ ใช้คำหยาบ ครับ )

 ประมาณว่า มึงล๊อคเป้ากูได้......กูก็ล๊อคเป้ามึงได้

             มึงยิงกูได้.........กูก็ยิงมึงได้

  แต่ใครจะอยู่หรือใครจะไป.......อันนี้ผมก็ไม่ทราบ

RAFALE และ TYPHOON ใช้ METEOR ทีมีระยะยิง 120 กิโลเมตร

ส่วน F-22 และ SU-35 อันนี้ผมว่า ยังไงๆ SU-35 ก็โดน F-22 ล๊อคเป้าก่อน และ ก็ยิงก่อน แน่นอน

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 12/07/2008 06:50:06