ขอตอบแบบTANARMY(อีกแล้ว)

ผมคิดว่าปรส.นั้นเค้าถูกสร้างมาเพื่อยิงเป้าหมายในแนวราบ หรือภาคพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นฐานที่ตั้งของข้าศึก หรือรถถัง ปรส.เป็นเสมือนปืนต่อสู้รถถังที่ถูกย่อขนาดลงให้สามารถขนย้ายได้ง่าย ด้วยการถอดลำกล้องกับขาตั้งออก อาวุธแบบนี้ใช้กันตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองแล้วละครับ น่าจะเป็นเยอรมันที่คิดก่อน(จำชื่อไม่ได้) ตอนปลายๆสงครามแยงกี้ค่อยนำมาใช้เป็นปรส.เอ็ม18 ช่วงสงครามเกาหลีนี่ก็ใช้กันมาก ในสงครามเวียดนามนี่ยิ่งใช้กันสะบ้านหั่นแหลก รถเกราะมะกันโดนปรส.วีซียิงออกบ่อย

ดังนั้นเมื่อมันสร้างมาเพื่อยิงเป้าภาคพื้น การปรับมุมให้เงยยิงเครื่องบินนั้นคงทำได้ยาก สังเกตง่ายๆลองเอาปรส.มาเงยยิงมุมสูงสิ ลำบากไหม? ช้าไหม? พูดง่ายๆก็คือยังไงก็ไม่ทันกินเครื่องบินข้าศึกแล้วละครับ ขนาดปืนต่อสู้อากาศยานแท้ๆเค้ายังลำบากเลยครับ

อีกอย่างถึงจะปรับเงยยิงเครื่องบินได้ ก็คงยิงไม่โดนอยู่ดีนั้นแล ถ้ากะได้คงจะเทพมากๆ

ส่วนอันนี้ลิงค์เว็บปรส.เอ็ม18 ครับ

http://www.inert-ord.net/atrkts/57mm/index.html

ปรส.ใช้ยิงตรงวิถีราบครับ เท่าทีทราบ ไทยมีขนาดใหญ่สุด คือ ขนาด 106 มม. ครับ ติดตั้งบนบนรถจิ๊บ M151

ขนาด 106 มม.  นี่ ใหญ่กว่าปืนใหญ่รถถังอีกนะครับ (1 มม. แหะ แหะ)

รถเกราะ,บังเกอร์ ทหารราบ โดนไปนี่.ก็ไม่เหลือครับ

วิสัชนา

หลักการของการต่อสู้อากาศยานในอดีต คือ การสร้างม่านกระสุนให้เครื่องบินบินมาชนครับ หรือ ตามหลักภาษาอังกฤษว่า saturated the air with shell คือ การทำให้ท้องฟ้าอากาศชุ่มไปด้วยกระสุน

หลักการในปัจจุบันเปลี๊ยนไป๋ โดยเฉพาะอเมริกา ในการต่อสู้อากาศยานของหน่วยดำเนินกลยุทธเดินเท้า นิยมใช้จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานประทับบ่า ในการต่อสู้อากาศยานร่อนต่ำ หลักนิยมเปลี่ยนไปเพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนครับ

ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังเป็นลูกครึ่งระหว่างปืนกับจรวดครับ ใช้หลักการก้ำกึ่งกัน

หลักการของปืนทั้งหลาย ปืนใหญ่ ปืนเล็ก จะเป็นการจุดระเบิดภายในครับ หัวกระสุนจะเคลื่อนตัวไปจากแหล่งด้วยแรงขับดันจากการระเบิดในรังเพลิง ผลคือเครื่องยิงจะเกิดแรงสะท้อนกลับสูงมาก แต่ใช้พลังงานจลน์ที่แปลงมาจากพลังงานเคมีน้อยกว่าระบบ ปรส.และจรวด และก้อไปไม่ไกลเท่ากับ ปรส.กะจรวด

หลักการของจรวด ลูกจรวดจะขับดันตัวเองไปจากแหล่งครับ เครื่องยิงไม่ได้เป็นท่อยิง แต่เป็นแค่รางส่ง หรือตัวส่งเท่านั้น ผลคือแรงสะท้อนถอยหลังน้อยมากกว่าการยิงแบบอื่นทั้งสิ้น แต่สิ้นเปลืองพลังงานจลน์มากที่สุดครับ แต่ก้อไปได้ไกลเท่าที่พลังงานในตัวมันจะหมดครับ

ปรส จะมีส่วนผสมของการยิงของทั้งสองแบบครับ ยุคปลายๆและหลังสงครามโลก ระบบ ปรส.แทบจะมาแทนระบบจรวดเลยครับ มีทั้งคาลิเบอเล็กใหญ่ของทั้งค่ายคอมและโลกเสรี

จากหลักการ ปภอ.เดิมการส่งกระสุนปริมาณมากๆไปในอากาศด้วยการส่งแบบการยิงด้วยปืน จึงคุ้มกว่าการยิงแบบ ปรส.ครับ

เพราะความเร็วของตัวกระสุนไม่สำคัญแล้วเพราะใช้การยิงดัก

อำนาจการทำลายก้อไม่จำเป็นมากเพราะอากาศยานผิวบางอยู่แล้ว

ส่วนระยะยิงของ ปตอ.มักจะชดเชยด้วยคาลิเบอร์ครับให้พอดีกับระยะสูงบิน

ดังนั้น ปตอ.ขนาดเล็กสุดจึงมีขนาด 12.7 มม ใหญ่ไปตามลำดับ 20 25 30 35 40 มม หรือ แบบค่ายคอมก้อจะเป็น 12.7 23 35 37 57 100 มม เพื่อยิงไปในอากาศได้ไกลพอ และมีอำนาจทำลายที่เหมาะสมครับ