เหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์หมวดตี้ครับ
จาก http://www.bpp44.org/ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่๔๔ ค่ายพญาลิไท
จนท.สนธิกำลังเข้า ปิดล้อม กองกำลังติดอาวุธ (RKK) บ้านบาเจาะ อ.บันนังสตา และ เป็นชุดเดียวกันที่ซุ่มยิง ร้อย รพศ.๑
เมื่อ ๒๓ มิ.ย.51 เวลา 05.30 น. ฉก.ยะลา 15 พร้อม ชปพ. ร่วมกับ ฉก.ตชด.44,ฉก.ทพ.41,ฉก.ทพ.42,สภ.บันนังสตา,ฝ่ายปกครอง อ.บันนังสตา,ร้อย ฉก.ตชด.442,ร้อย ทพ.4104,ร้อย ทพ.4111,ร้อย ทพ.4205,มว.ม.(ลว.)1271 ที่ 1,แล้ว ชปพ.เดลต้า กก.ตชด.44 ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ในพื้นที่ ม.3 บ.บางลาง ต.บาเจาะ อ.บนนังสตา จว.ยะลา
ขณะเข้าปิดล้อมตรวจค้น กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ได้ใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส จนท.จึงเกิดการปะทะกันนาน ประมาณ 10 นาที จึงได้ตรึงกำลังและควบคุมพื้นที่ไว้ หลังจากนั้นได้มีการกดดันทางอากาศโดยใช้ ฮ.ของ ทบ.และตร.ให้การสนับสนุนชี้เป้าและการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ จึงเกิดการปะทะเป็นระยะๆ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจึงจัดกำลังทั้งหมดที่มีอยู่เข้าพิสูจน์ทราบทั้งพื้นที่จึงได้เกิดการปะทะกันอีกครั้ง
จนท.เข้าปิดล้อมตรวจค้น ม.3 บ.บางลาง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จว.ยะลา เดินทางเข้าปิดล้อมพื้นที่ หลังได้สืบทราบจากแหล่งข่าวว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน RKK. ได้เคลื่อนไหวอยู่ ใน หมู่บ้านบาเจาะ .ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จว.ยะลา จึงเปิดยุทธการร่วมสนธิ จนท.นำกำลังเข้าปิดล้อมหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อทำการตรวจค้น
ควบคุมผู้ต้องสงสัย ร่วมก่อเหตุ ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นญาติพี่น้อง ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่เสียชีวิต คอยช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่กลุ่ม ขบวนการ เพราะ บ้านบาเจาะ เป็นพื้นที่สีแดงมีการเคลื่อนไหวของ ขบวนการ และ หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านจัดตั้ง 1 ในจำนวนหลายหมู่บ้าน ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับ รัฐ ก่อเหตุเผาโรงเรียน ขับไล่ ตชด.ชุดคุ้มครองครู และซุ่มยิง จนท.ทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธจะหนีมา หลังจากก่อเหตุ อาศัยปะปนกับ ชาวบ้านและ พี่น้อง
เข้าพิสูจน์ทราบเส้นทางการหลบหนี
พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางเข้าพื้นที่ หลังจากปะทะกันเมื่อช่วงเช้าทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 2 ศพ
จากการปิดล้อมตรวจค้นได้เกิดการปะทะ กับกลุ่ม กกล.ติดอาวุธทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต จากคมกระสุน จำนวน 2 ศพ
หลังจาก จนท.ปิดล้อมจนถึงช่วงบ่าย คนร้ายประมาณ 4 คนที่หลบซ่อนตัวอยู่ ได้ซุ่มยิง จนท.ด้วยปืนติดกล้องเป็นเหตุให้ จนท.สภต.บาตูตาโมง บาดเจ็บจำนวน 4 นาย จึงเกิดการปะทะกันขึ้นอีกระรอก
ผลจากการปะทะเป็นเหตุให้กลุ่ม RKK เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 4 ศพ
เจ้าคนนี้ นายกอเซ็ง อภิบาลแบ เป็นน้องชายของ นาย มะแอ อภิบาลแบ หัวหน้ากลุ่ม คอมมานโด ที่เคลื่อนไหวลอบก่อเหตุร้าย และ ซุ่มโจมตี จนท.อยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา และ อ.กรงปินัง ซึ่งหลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้
ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพ มีประวัติโชกโชนได้ก่อคดีมาหลายคดี รวมทั้ง ฆ่าตัดคอ จนท.และชาวบ้าน จากคลิปวีดีโอ ที่ พบในที่เกิดเหตุ กรณี ลอบซุ่มยิงตำรวจพลร่ม (ผู้กองแคน)
คนร้ายพยายามยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางหนี แต่ฝ่าย จนท.ได้ล้อมกรอบเอาไว้ ทำให้เกิดยิงปะทะกับคนร้าย
ศพนี้แหละครับที่ใช้ปืนไรเฟิลขนาด 5.56 ติดลำกล้อง(ติดกล้องเล็ง/ผู้โพสต์)กระบอกนี้ ใช้ยิง จนท.มาหลายครั้งแล้ว รวมทั้ง ตำรวจพลร่ม รพศ.1 ด้วย จากผลการตรวจสอบ กระสุนปืน
ผลการปฏิบัติในครั้งนี้
ตรวจยึดวัตถุพยานและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ไว้ดำเนินการ ดังนี้
๑.วัตถุพยาน
- อาวุธปืน AK ๔๗ จำนวน ๑ กระบอก
- อาวุธปืน HK ๓๓ จำนวน ๑ กระบอก
- อาวุธปืนพกสั้นขนาด ๙ มม. จำนวน ๑ กระบอก
- อาวุธปืนไรเฟิล ขนาด ๕.๕๖ มม.จำนวน ๑ กระบอก
๒.ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 8 คน
- นาย อาซือมัน อาแว
- นาย มะกอเซ็ง สะอะ
- นาย ดูลกีฟลี นือเร็ง
- นาย มูฮำหมัด เจ๊ะแวกูนิง
- นาย ดอรอสะ อภิบาลแบ
- นาย อุสมาน สาและ
- นาย อับดุลเลาะ เจ๊ะแวกูนิง
- นาย อิสมาแอ เจ๊ะแวกูนิง
๓.กกล.ติดอาวุธ(RKK) เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ๖ คน
- นาย มูฮำมัดสะกรี กาโบะ
- นาย อิสมาแอ อาลีมามะ
- นาย มะรอมลี อัคราช
- นาย กอเซ็ง อภิบาลแบ
- นาย แวอาลี สะมะแอ
- นาย ดารี ดาลอ
๔.ขตร.ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ ๔ นาย
รายละเอียดเพิ่มเติมรวมทั้งรูปกรุณาติดตามใน http://www.bpp44.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=5377817&Ntype=3 ครับ
(เนื่องจากมีภาพบางส่วนที่รุนแรงอาจไม่นำมาโพสต์ในนี้ได้)
รวมถึงภาพชุด ร้อย รพศ.1 ถูกคนร้ายซุ่มยิง ขณะออก ลว.และฮ.ทหาร ชุดนิติวิทยาศาสตร์ตก ซึ่งในเวปมีภาพและเรื่องให้รายละเอียดมากพอสมควรครับ
ข่าวโทรทัศน์เองส่วนใหญ่ก็ไม่เซนเซอร์ใบหน้าเจ้าหน้าที่เหมือนกันครับ น่าจะมีคนเตือนบ้าง
สังเกตปืนส่วนใหญ่ใช่ colt commando รึเปล่าครับ
ครับ ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับคุณโยและคุณTasurahings เรื่องการปกปิดใบหน้าผู้ปฎิบัติงานครับ ก็ได้เข้าไปฝากความคิดเห็นทิ้งไว้ให้แอตมินเวปนั้นท่านพิจารณาตามสมควรครับ
เห็นด้วยกับที่จะขอให้บังหน้า ในรูป
แต่ยังมีอีกส่วนที่เป็นห่วง คือข้อมูลคนในหน่วย (ที่อาจไม่ได้ร่วมงานในวันนั้น ด้วย)
เคยเข้าสัมมนา ผู้แทนบริษัท ยกกรณีคดีตัวอย่าง ในต่างประเทศ
ผู้ก่อการร้าย โดยใช้ข้อมูลในเว็บของหน่วยงาน กำหนดตัวเป้าหมาย แล้วหาข้อมูลของเป้าหมายต่อ ในแหล่งข้อมูลเปิดในเว็บ
เช่นได้ชื่อแล้ว หาหมายเลขโทรศัพท์ต่อ ซึ่งก็จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยด้วย การรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้ทำจากต่างประเทศ
ในคดีนั้น มีการ ส่งคำสั่งยิง ทางอีเมล์ พร้อมรายละเอียด รูปของเป้าหมาย, address, แผนที่เส้นทางที่คาดว่าเหยื่อใช้เดินทางจากที่ทำงานกลับบ้านบ้าน
ให้ทีมมือปืนที่อยู่ในประเทศดักรอ และลงมือได้ ตามคำสั่ง
ผมว่าข้อมูลการปฎิบัติงานบางอย่างกับ ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ในหน่วย
บางครั้งไม่ควรอยู่ด้วยกันหรือ นำออกเผยแพร่แก่สาธารณะด้วยกัน
CIO หน่วย น่าจะจัดทีมสำหรับพิจารณาว่าข้อมูลใดควรอยู่ในอินเตอร์เน็ตหรือ อยู่ในอินทราเน็ตหน่วย