มาดูความยิ่งใหญ่ของกองทัพอากาศในอดีตครับมีศักยภาพสร้างเครื่องบินเองได้เชิญชม
1 เบร์เกตปีก 2 ชั้น กิจการบินของไทยเคยรุ่งเรืองมาแต่ครั้งอดีต เมื่อเกิดการบินขึ้นในโลก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๖ ต่อมาเพียง ๘ ปี ประเทศไทยก็ส่งนายทหารไปเรียนวิชาการบิน ตามหลังประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง ๙ ปี เท่านั้น (อเมริกาจัดตั้งหน่วบบินในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ กองบินหลวงอังกฤษ พ.ศ. ๒๔๕๕ ส่วนกองบินของอิตาลี เกิดขึ้นก่อนอังกฤษ คือในปี พ.ศ. ๒๔๕๔) หลังจากเกิดการบินขึ้นในโลกเพียง ๑๒ ปี ประเทศไทยก็สามารถสร้างเครื่องบินขึ้นตามแบบต่างประเทศ และนำมาใช้ในงานราชการได้
ไม่ขึ้น
2 เครื่องบินขับไล่แบบ ๘๑ (Nieuport) เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔ พันโท พระพิเศษสุรฤทธิ ผู้อำนวยการโรงงานกรมอากาศยาน ได้รายงานให้ พันเอกพระยาเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยาน ทราบว่ากองโรงงานอากาศยานได้สร้างเครื่องบิน นิเออปอรต์ แบบ ๘๑ ขึ้น จำนวน ๓ เครื่อง คือ หมายเลข ด.ม. ๑๔๗, ๑๔๘ และ ๑๕๐ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนการบินได้ทำการทดลองเรียบร้อยแล้ว เจ้ากรมอากาศยานสั่งให้บรรจุเครื่องบิน ๓ เครื่องนี้ ในกองโรงเรียนการบิน
เครื่องบินแบบ จันทรา ( บ.ฝ. ๑๗ ) เป็นเครื่องบินฝึกที่ประเทศไทย โดยกรมช่างอากาศออกแบบและสร้างขึ้นเองทั้งหมด มีจำนวน ๑๒ เครื่อง |
เครื่องบินฝึกแบบ 18 แฟรนเทนเนอร์ ปี2525 กองทัพอากาศร่วมกับสาธารณรัฐเยอรมันได้เริ่มโครงการผลิตเครื่องบินแฟรนเทนเนอร์ โดยเยอรมันผลิตชุดลำตัว ทอ.ออกแบบและสร้างโลหะและประกอบเองที่ดอนเมือง
เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ 2 บริพัตร บ.ท.2 (บริพัตร) ในปี พ.ศ.2470 น.ท.หลวงเวชยันต์รังสฤษฎ์ (อดีต ผบ.ทอ.) ได้ออกแบบและสร้างเครื่องบินขึ้นในราชการ เป็นเครื่องบิน ประเภททิ้งระเบิด ทอ.กำหนดแบบว่า บ.ทอ.2 ผลการทดลองประสบ ผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า บริพัตร
เครดิตรทั้งหมดและแหล่งข้อมูลจากอกาศยานานุสรณ์ เพื่อนสมาชิกสนใจตามลิงค์ครับ